Deezer แพลตฟอร์มสตรีมเพลง พบเพลงที่สร้างด้วย AI มากกว่า 18% จากจำนวนเพลงใหม่ที่อัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มในแต่ละวัน หรือราว ๆ 20,000 แทร็กต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 10% ในเดือนมกราคม 2025
หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมของ Deezer บอกว่า แม้ AI จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการสร้างเพลง แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของศิลปิน และทำให้ทุกอย่างโปร่งใสกับผู้ฟัง
Deezer ยังคงเป็นแพลตฟอร์มเจ้าใหญ่เจ้าเดียว ที่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ระดับโลกเรื่องการฝึก AI อย่างรับผิดชอบ ซึ่งล่าสุด เริ่มถอดเพลงที่สร้างด้วย AI ออกจากระบบแนะนำเพลงของแพลตฟอร์ม ต่างจาก Spotify ที่ยังเปิดกว้างให้กับเพลงที่สร้างด้วย AI
ที่มา: Engadget via Deezer Newsroom
Comments
แอพนี้ยังอยู่หรอเนี่ย ตั้งแต่ไม่ให้ฟังฟรี ก็ไม่ได้ใช้อีกเลย
อันนี้ ถามด้วยความไม่เข้าใจ
ทำไม เพลงที่สร้างด้วย Ai ถึงถูกกีดกัน
เพราะเค้าไม่ได้ไปลอกเนื้อ ลอกทำนองออกมาทั้งดุ้น
มันก็เหมือนกับที่ศิลปินแต่ละคน ก็ไม่ได้แต่งเพลงได้ตั้งแต่คลอด
สิ่งที่คน เอามาแต่งเพลง ก็มาจากแรงบันดาลใจทั้งชีวิต
ผมด้วยควาามรู้ที่จำกัด ก็เข้าใจว่า Ai ที่เทรนด้วยเพลงอื่น ๆ มา ก็ไม่ได้ก็อปต้นฉบับมา
แต่ก็เอาแรงบันดาลใจ เอาแนวทาง มาทำอย่างที่ศิลปินที่เป็นคนมาทำ
ศิลปินที่เป็นคน ก็ฟังเพลงคนอื่นมาทั้งชีวิต ก่อนที่จะมาแต่งเพลงตัวเอง ยังไง ก็ต้องมีแรงบันดาลใจคนอื่นติดหัวมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
หรือผมจะมีความเข้าใจในเรื่อง Ai ผิด ก็ช่วยแก้ให้ด้วยครับ
ต่างกันที่คนนึงต้องทำดนตรี เนื้อร้อง ทำนอง ด้วยความสามารถของมนุษย์ กับอีกคนแค่พิมพ์ Prompt กดเซฟอะครับ
ลิงเซลฟี่เป็นตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุดของกฎหมายที่มีต่อ AI
นึกสภาพว่ามันเป็นแสปมเมล์ก็ได้ครับ ปั้มเมล์เข้ามาเยอะ ๆ ก็ทำให้คนหาเมล์ได้ยาก
ด้วยความที่เอไอมันเจ็นเพลงได้เร็วกว่ามันเลยเข้ามาได้เยอะ อะไรงี้
เพราะมันง่าย
อะไรที่เขาว่าง่าย มันไม่ค่อยมีราคา
คนที่เขาเคยได้เงินจากความยาก เลยไม่พอใจ
ในแง่กฎหมายลิขสิทธิ์ ก็ทำนองเดียวกับรูปภาพนั่นแหละครับ คือมันสร้างมาจากศูนย์ไม่ได้ ต้องเทรนก่อน ซึ่งการเทรนมันต่างจากแรงบันดาลใจตรงที่ว่ามีการทำซ้ำผลงานเกิดขึ้นทำให้เข้าข่ายละเมิดได้ถ้าเพลงที่นำมาเทรนนั้นมีลิขสิทธิ์และไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่หลายคนฟันธงไปก่อนแล้วว่าผิดแน่นอน
ในแง่ความคิดสร้างสรรค์ หลายคนมองว่ามันไม่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่อันนี้นานาจิตตัง ส่วนตัวผมมองว่าจะเขียน prompt ได้มันก็ต้องมีไอเดียตั้งต้นอยู่ดี ซึ่งไอเดียนั่นแหละคือความคิดสร้างสรรค์แล้ว แต่มากพอจนเป็นที่ยอมรับในทางกฎหมายไหมนี่อีกเรื่องนึงนะ
ในแง่การลงแรงทำหรือความพยายาม ที่หลายคนมองว่าลงแรงน้อย ซึ่งการใช้ AI มันใช้แรงน้อยกว่าก็จริง แต่ลงแรงเยอะกว่าก็ไม่ได้แปลว่างานดีกว่าเสมอไป เพราะงั้นผมเลยไม่เห็นด้วยกับคนที่ต่อต้านด้วยประเด็นนี้เท่าไหร่ ส่วนตัวมองว่ามันไม่ต่างอะไรกับตอนที่ต่อต้านการวาดบนกระดาษ vs วาดในคอม หรือ เสียงเครื่องดนตรี vs เสียงสังเคราะห์นั่นแหละ อย่างไรก็ดีการใช้ AI ช่วยมันลงแรงมากพอจนเป็นที่ยอมรับในทางกฎหมายไหมก็อีกเรื่องนึงเช่นกัน
ในแง่ของการเป็นศิลปิน หลายคนไม่เห็นด้วยที่จะเรียกคนใช้ AI ว่านักดนตรีหรือนักวาด ซึ่งอันนี้ผมเห็นด้วยครึ่งนึงนะ คือเห็นด้วยว่าไม่ใช่นักดนตรีหรือนักวาด แต่ผมมองว่าก็ยังเป็นศิลปินอยู่ (เหมือนช่างภาพที่ไม่ได้เรียกตัวเองว่านักวาด) แต่เอาจริงๆผมแทบไม่เคยเห็นคนใช้ AI เรียกตัวเองแบบนั้นเท่าไหร่นะ
ในแง่ของธุรกิจ เพลงที่ใช้ AI มันสามารถสร้างได้เร็วกว่าเพลงธรรมดา โดยเฉพาะเพลงที่มีคุณภาพต่ำ ถ้าไม่จัดการอะไรก็อาจจะทำให้มีเพลงคุณภาพต่ำเต็ม platform ซึ่งจะทำให้คนไม่อยากเข้าไปใช้และส่งผลเสียต่อธุรกิจครับ
ปล. ผมอยู่ฝั่งที่ต่อต้าน AI ที่ผิดลิขสิทธิ์ แต่เรื่องอื่นไม่มีปัญหาอะไร เพราะงั้นความเห็นผมอาจจะ Bias หน่อยๆนะครับ แนะนำให้ฟังความเห็นคนอื่นประกอบด้วยจะดีกว่า
ขอบคุณสำหรับรายละเอียดที่ทุกท่านอธิบายมาครับ
ทำให้เห็นอีกมุมมองหนึ่งครับ