ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดเครื่องมือพัฒนาเว็บ WebMatrix ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาและดูแลเว็บได้อย่างง่ายดายในที่เดียว โดย WebMatrix ประกอบด้วยเว็บเซิร์ฟเวอร์ IIS Express Edition, ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ SQL Server Compact Edition 4, ASP.NET และ IDE รวมถึงเครื่องมือในการอัพโหลดเว็บไซต์ไปยังโฮสติ้ง ไลบารี และโอเพนซอร์สเว็บแอพพลิเคชันอย่าง DotNetNuke, WordPress, Joomla! ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและรวมเข้ากับโซลูชั่นได้อัตโนมัติ
ในชุดอัพเดทถัดไปของ WebMatrix ไมโครซอฟท์จะผนวก ASP.NET โค้ดเนม "Razor" เข้าเป็นส่วนหนึ่งด้วย (ดูคำอธิบายท้ายข่าว) ใครสนใจสามารถดาวน์โหลดตัวเบต้าได้ฟรีจาก Microsoft WebMatrix หากต้องศึกษาเพิ่มเติมก็ดูได้เว็บดังกล่าวหรือ ASP.NET
ที่มา: Microsoft WebMatrix ผ่าน Ars Technica
หมายเหตุ
- IIS Express Edition คือเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ใช้ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบสามารถพัฒนาและทดสอบเว็บแอพพลิเคชั่น โดยใช้ฟีเจอร์ของ IIS 7.5 ใน Windows 7, Windows Server 2008 R2 ได้อย่างเต็มที่ โดย IIS Express สามารถติดตั้งได้บน Windows XP หรือสูงกว่า
- SQL Server Compact Edition 4 คือดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กที่มีเอนจิ้นอยู่ในภายในเว็บแอพพลิเคชั่นเลย ซึ่งคล้ายกับ IIS Express ตรงที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบหรือผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลก็สามารถพัฒนาและเรียกใช้ฐานข้อมูลได้ โดยในเวอร์ชั่น 4 นี้จะรองรับเซิร์ฟเวอร์แอพพลิเคชั่นแบบมัลติเธรดด้วย
- ASP.NET โค้ดเนม "Razor" คือ view engine ของ ASP.NET แบบใหม่ ที่มุ่งให้สามารถพัฒนาหน้าเว็บได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่า ASP.NET เดิม โดยใช้การ annotation (@) แทนโค้ดบล็อกแบบเดิม
Comments
เอ คุ้นๆว่าเคยเห็นอะไรสักอย่างแนวนี้จาก Microsoft มาทีนึงแล้วนะ ???
สมัย ASP.NET 1.1 ครับ แต่ต่อมาถูกแทนที่โดย Visual Web Developer 2005 Express
อ๋ออออออออออออ
เออใช่ นึกออกแล้ว ชื่อนี้สมัยหัด ASP.NET แรกๆ
ขอคำชี้แนะจากผู้รู้ด้วยครับ ว่าทำไมสามารถใช้ Wordpress กับ IIS ได้
เอ่อ ก็แค่ติดตั้ง PHP กับ MySQL ลงไปนี่เองครับ คอนฟิกนิดหน่อย ใช้ได้แล้ว (เอ๊ะ WordPress ใช้กับ MSSQL ได้ใช่มั๊ย ?)
ในด้านเทคนิค WordPress พัฒนาด้วย PHP ซึ่ง PHP บน Windows สามารถทำงานร่วมกับ IIS ได้ โดยน่าจะใช้เทคโนโลยี plugin เพื่อทำให้กรองไฟล์ที่นามสกุล PHP ให้ตัว PHP ทำงานแทน ซึ่งในกรณีนี้ก็สามารถใช้ IIS ในส่วนที่จัดการเรื่องไฟล์ static เช่น gif, jpep รวมถึงจะให้มันทำ caching ให้อีกก็ได้ ส่วน PHP จะได้ทำงานส่วน dynamic content อย่างเดียว
Wordpress ใช้ PHP กับ MySQL ซึ่งทั้งสองตัวสามารถใช้งานบน Unix หรือ Windows ก็ได้
เท่าที่รู้มา Wordpress ไม่ได้ support MSSQL อย่างเป็นทางการครับ แต่ก็มี 3rd party พยายามทำให้มันใช้กันได้ (ซึ่งไม่ค่อยจะแนะนำให้ใช้นะ ใช้ MySQL น่าจะมีปัญหาน้อยกว่า)
IIS เป็นแค่ซอฟแวร์ให้บริการ HTTP นะ
Apache ก็เป็นแค่ซอฟท์แวร์ให้บริการ HTTP เช่นกัน
PHP คือตัวเสริมให้การบริการ HTTP นั้นสามารถทำงานได้มากขึ้น
PHP สามารถติดตั้งลงไปได้ทั้ง IIS และ Apache
แปลว่า IIS ก็รัน PHP ได้ จริงไหม??
แล้วทำไม WP จะรันบน IIS ไม่ได้
เท่าที่อ่านดูคือ ทำให้มัน ง่าย ขึ้นต่อการพัฒนา นับว่าเป้น solution ที่ตอบปัญหาได้ถูกจุด
บ่อยครั้ง ที่ผู้เริ่มต้นเรียนรู้การพัฒนา ต้องเสียเวลามากในการแก้ปัญหา การตั้งค่าของ สภาพแวดล้อมในการพัฒนา
หรือแม้กระทั้งทำให้มือใหม่เหล่านั้น ล้มเลิกความตั้งใจไปเลยเสียก็มี
จุดนี้ก็นับว่าโอเคกับ WebMetrix นะครับ เห็นด้วยๆ ^ ^
หลังๆ ASP.net เงียบๆไป
โดน PHP และ ภาษาอื่นๆ กิน market share ไปหมด
แถม LAMP ก็ยังใช้เป็น server ส่วนใหญ่อีกด้วย
คงกำลังหาวิธีกลับมาทวงส่วนแบ่งคืนบ้าง
ถึง wordpress ,joomla! จะรันบน IIS ได้
แต่ผู้ใช้ก็คงเลือก linux เป็นอันดับแรกอยู่ดี
ผมว่าก็ไม่เงียบนะ ASP.NET มีกลุ่มผู้ใช้ในระดับหนึ่งแหละ แต่ก็ยอมรับว่าส่วนแบ่งตลาดคงสู้ไม่ได้แน่นอน กระแส opensource มาแรงกว่า
จะว่าไปผมว่า .NET พัฒนาไปเร็วกว่า PHP มากนะ Framework ใหม่ๆ ออกมานี่ศึกษากันไม่ค่อยจะทันทีเดียว
ลองใช้ดูแล้วแบบคร่าวๆ ผลคือ เหมาะสำหรับ Developer ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรในการพัฒนา ASP.NET โดยโปรแกรม สามารถทำได้แค่ขั้นพื้นฐานคือ
แต่ด้านการทำ Logic กลับโยนให้ VS2010 เหมือนเดิม ก็เข้าใจว่า BL มันเป็นเรื่องของ Req. ซึ่งไม่มีคงที่ เพราะอยู่ที่เราจะเขียน แต่กลับมามองดูดีๆ กลายเป็นว่า สุดท้ายสู้ยอมลงแรงเรียนรู้ VS2010 ไปตัวเดียวเอาจะดีกว่าไหมหว่า - -?
แบบนั้นน่าจะเป็นการต่อยอดได้ครับ หรือก็คือให้คนที่เริ่มใหม่มาจับตัวเวอร์ชั่นใหม่ (WebMatrix) นี้ก่อนแล้วค่อยไปจับ vs 2010
เพราะคือเท่าที่ลองดูแล้ว ตัวรูปแบบ Razor Syntax (พวกเขียน Code ด้วย @ นำหน้า) เนี่ย สามารถใช้ร่วมกับ C# ได้ และพวกนี้สำหรับมือใหม่คือ จะไม่รู้ว่ามี Class อะไรให้ใช้ เพราะใน WebMatrix จะไม่มี Intellisense (Auto Complete) ให้ ซึ่งสุดท้ายมันจะไปลงที่ VS2010 แต่ถ้าให้เป็นตัว Kick Off ไปสู่ VS2010 ก็ไม่เลวครับ - -"
เพิ่มข้อดีอีกข้อละกัน นั่นคือ ถ้าสำหรับ Starter แล้วการเขียน Code ฝังร่วมในหน้า Page แบบเก่าๆก็ถือว่า Work ดีครับ ถึง WebMatrix จะสั่ง Renderer แบบเป็นส่วนๆได้ก็เถอะ
อืม ลองมาคิดดูอีกทีผมว่าเล่น VS2010 ไปเลยน่าจะประหยัดเวลากว่านะครับ
สมมติว่าผมทำ web app สักตัวบน WebMatrix ขึ้นมา แล้วรู้สึกว่ามัน work ละ จะเอาไปลง production server
สรุปว่าเล่น VS2010 ไปเลยน่าจะดีกว่าครับ เสียเวลาศึกษาช่วงแรกหน่อย แต่ใช้ได้ยาวเลย
เรื่องเปลี่ยน IIS มันต่างกันแค่ปลายทาง ว่า Web เรารันที่ไหน เพราะงั้นเรื่องการ Config ไม่น่ากระทบอะไรมากมั้งครับ เราอาจจะไม่ได้เป็นคน Config เองด้วยซ้ำ - -"
SQLCE นี่ผมว่าเอาไปใช้กับ Web จริงก็ไม่น่า Work เท่ากับ SQL Server นะครับ หาก Traffic มากๆ ผมว่ามันจะเดี้ยงเอา แต่ก็ช่วยประหยัดต้นทุนได้หากจะลบ DB Tier ออกไป แบบกลาย
SQLCE กับ SQLExpress ตัว DataType ไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่ให้ถูกคือ SQLCE รับ DataType ได้ไม่มากชนิด, และจุไม่มากเท่า SQL Server เท่านั้น ส่วน Class Connection ก็เปลี่ยนแค่นิดหน่อยในตัว Source เอง - -"
สรุปคือ เรื่องการ Adap Project จาก WebMatrix ลง VS2010 นั้นในสวนการแก้ Code ไม่กระทบมากครับ แต่ในเรื่องโครงสร้างการวางไฟล์ มันจะไม่คุ้นเท่า VS2010 ครับ
และอีกข้อคือ VS2010 อ่าน Razor Syntax ไม่ออกครับ นั่นแหละปัญหา ไม่รู้ว่ารันออกมามันจะ เจ๊ง หรือจะจั่ว (ยังไม่ได้เทส)
ผมเดาว่าไมโครซอฟท์คงจัดระดับผู้ใช้ไว้ดังนี้
ถ้าเป็นเช่นนั้น สำหรับผู้ใช้มือใหม่ เพึ่งเริ่มเรียนรู้ ไม่ได้เน้นทำไรเป็นชิ้นเป็นอันขนาดใหญ่ อาจลองเล่น WebMatrix ไปได้
ผมว่า .net มันเปลี่ยนเวอร์ชั่นเร็วเกินไปด้วยมั้งครับ (ตามไม่ทัน)
NEO? THE ONE? ฮ่าๆๆๆๆ
บางที Microsoft อาจอยากเอามาใช้กับ Azure ด้วยหรือเปล่า?
Patrickz's blog|
linkedin