หลังจากที่มีข่าวว่า Martin Marty Cooper ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนจาก iPhone มาใช้ Motorola Droid และวางแผนจะกลับไปใช้ iPhone อีกครั้งในหนึ่งเดือนให้หลัง มาถึงวันนี้ Martin Cooper ก็ยังคงใช้ Motorola Droid อยู่เหมือนเดิมพร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า "ผมคิดว่าในตอนนี้ Android กำลังไล่จี้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ขึ้นมาติดๆ แล้ว และในเวอร์ชันล่าสุดของ Android ถ้าไม่ดีกว่า ก็ถือได้ว่าเทียบเท่ากับ iPhone แล้ว"
จากคำพูดของเขาประกาศอย่างชัดเจนว่า Android ในตอนนี้แข็งแรงและกำลังเติบโตขึ้นทุกๆวัน ก็สอดคล้องกับส่วนแบ่งตลาดของ Android ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในสักวันหนึ่ง เราอาจเห็นเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ เหยียบแอปเปิ้ลก็เป็นได้
ที่มา: Talk Android, Android Central
Comments
lewcpe.com, @wasonliw
อืมมมมม ข่าวนี้ยาวแน่
ผมว่าตอนนี้ก็เหยียบแล้วนะ หรืออย่างน้อยๆ นิ้วก็เหยียบแล้วล่ะ ต่อไปส่วนไหนของเท้าจะเข้ามาเหยียบก็คิดเอาเอง
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ตอนนี้นิ้วของหุ่นกระป๋อง แหย่แอปเปิ้ลเป็นรูอยู่ครับ
โดยส่วนตัวผมว่าถ้าไม่ได้ใช้ Mac หรือ Mobile Me นี่ iPhone สู้ Android ไม่ได้นะเนี่ย
แต่ android นี่ถ้าไม่ใช้ gmail นี่ถึงขั้นแทบใช้งานไม่ได้เลยนะครับ(ฮา)
แต่ gmail มันฟรีนะครับ :D
ฟรีตลอดชีพ กับปีละ 3000 เลือกอันไหนอ่ะ
ยังต้องทำ marketing อีกเยอะอ่ะครับ ผมว่านะ ปัญหาที่ผมเจอเวลาแนะนำให้เพื่อนที่ไมไ่ด้อยู่ในวงการ IT จะเจอคำตอบที่ว่า "Android คืออะไรเหรอ?"
คงต้องรออีกหน่อยครับ ตอนนี้ Android ยังใหม่ในตลาดอยู่มากจริงๆ (1-2 ปีเอง) แต่เริ่มเห็นเจ้าหุ่นเขียวออกสื่อในไทยบ่อยขึ้นๆ แล้วครับ มาแรงแบบนี้ แล้วเครื่องมีให้เลือกเยอะขึ้น อีกหน่อยบูมแน่นอน
แต่คนที่ได้ยินชื่อ Android ส่วนใหญ่คงไม่รู้ว่ามันแตกต่างจาก Nokia/Symbian ยังไง หรือต่างจาก iPhone ยังไง คงต้องเป็นการบ้านตรงนี้ที่ต้องให้คนทั่วไปเห็นจุดเด่นของมัน
ขนาดเรียนมัลติมีเดีย หลายคน ยังไม่รู้จักเลยคับ ถ้าบอก Samsung Galaxy S มือถืออ่ะรู้กันคับ พอบอกใช้ Android โดนคำถามสวนกลับมาว่า "มันคืออะไรเหรอ???" แล้วที่เค้ารู้จัก เพราะว่า Super AMOLED ด้วยล่ะ
อีก เคสหนึ่ง เข้าใจว่าหุ่นเขียว เนี่ย เป็นตัวมากคอส(ถ้าเขียนผิด ขออภัยนะครับ) ของ HTC ด้วยล่ะครับ
ที่เขียนนี่ไม่ใช่จะแอนตี้ Android หรือเข้าข้าง iPhone นะครับ เพราะผมเองก็อยากได้ Droid X เหมือนกัน ติดตรงที่มันไม่ใช่ GSM เนี่ยล่ะ แฮ่ๆ
อีกอย่างหนึ่ง Google ใหญ่กว่า Appleนะ ผมว่า และก็เป็นมิตรกับนักพัฒนามากกว่า ถ้าจะทำให้แซง Apple ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ แต่ปัญหาคือ ทำยังไงให้ "เป็นคนสร้างนวัฒกรรม(หรือเป็นคนนำ)ขึ้นมาและทำให้มันดัง" ต่างหากล่ะครับ
iPad ก็ทำให้เห็นแล้วในตลาด e-book ออกมาทีหลังดังกว่าทุกคน รู้จักหมด แต่พอบอก Moojoo Dell stack, Kindle, Nook, Sony Reader มันคืออะไรเหรอ? หายคนในเมืองไทย ไม่รู้จักหรอก ถ้าบอก e-book ปุ๊บ iPad มาวินเลย แล้วไหนจะการออกแบบอุปกรณ์ ที่ inspiration from iPad กันซะเหลือเกิน ผมเองไม่มีสถิติยืนยันครับ แต่บางอย่างสังเกตได้จากคนรอบๆตัว ที่ไม่ได้คลั่งไคล้เทคโนโลยีแบบผม แบบหลายคน ในเว็บ blognone แบบนี้
วันหนึ่ง Android จะขึ้นมาเหยียบ Apple แน่ๆ ผมเองก็เชื่อแบบนั้น เพราะอะไรก็ได้เปรียบมากกว่า มันเป็นมวยรองที่มีของดีเยอะ แต่พอวันนั้นมาถึงจริง ...ลองคิดเล่นนะครับว่าอย่างApple จะไม่ไปออก อุปกรณ์ชิ้นใหม่แล้วทำให้มันดังเป็นพลุแตกขึ้นมาอีกแล้วเหรอ? เป็นตอนนั้น ถ้าผมเป็น Steve Jobs ผมก็คงนั่วหัวเราะเยาะ ล่ะ เพราะว่าเรามัวหลงดีใจกับสิ่งที่ชัยชนะตรงนี้ ทั้งที่เค้าไปกินอันอื่นแล้ว
ที่เขียนเนี่ยมีจุดประสงค์เดียวครับ คือ ก็ไม่รู้ว่าจะเขียน ข่าว ให้ เปิดประเด็น ล่อตะเข้ ตะโขง เกรียน เหวง มาทำไม คุณไม่หยุด เค้าก็ไม่หยุด ผมเคย Post ก่อนหน้านี้มานานแล้วว่า Blognone เริ่มน่าอ่านน้อยลงทุกวัน เพราะว่าผมรู้สึกว่า Blognone ไม่ได้ทำตัวเป็น BBCที่เสนอข่าวเป็นกลาง แต่หลังๆมาเนี่ยเริ่มออกแนว The Sun จอมฉาวจอมแฉ เข้าไปทุกวัน(ผมเปรียบเทียบเฉยๆนะครับ แล้วก็ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะ)
เขียนข่าว ให้สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับทุกเถอะครับ นะนะ
ขอบคุณครับ
ผมไม่ได้ตั้งใจเขียนข่าวเพื่อเปิดประเด็นอะไรนะครับ
หรือถ้ามันจะเป็นประเด็นอะไรขนาดนั้น มันก็เป็นความเห็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล รึเปล่าครับ
ขออภัยด้วย
คุณไม่หยุด เค้าก็ไม่หยุด +100
lewcpe.com, @wasonliw
ผมอ่านผมก็ยังเฉยๆน่ะไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรนอกจาก ข่าว คนดัง
แล้วคนที่ว่าพวกที่ตะเข้ ตะโขง อะไรนั้นอะ ก็คงมี
แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะเดือดร้อนอะไรกันนัก -*- เค้าไม่ได้ให้ตังเราสะหน่อย
อันนี้ต้องแก้ความเข้าใจผิดสักหน่อยนะครับ Blognone ไม่เคยมีเจตนารมณ์จะเสนอ "ข่าวที่เป็นกลาง" มาตั้งแต่แรกครับ
ส่วนเรื่องน่าอ่านไม่น่าอ่าน ผมก็ตอบแบบเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า "จงเขียนข่าวที่ตัวคุณเองเห็นว่าน่าอ่าน" ส่งเข้ามาครับ ข่าวไหนมีประเด็น สะกดถูก สำนวนดี ผมก็ให้ขึ้นหน้าแรกหมดทุกข่าวครับ
หมู่หนี้คุณ mk post โดนๆ เรื่อยเลยเหะ add function ให้กด like กด ให้ give เถอะ จะได้ไม่ต้องมากด +1
Ton-Or
ผมตอบแบบนี้มาโดยตลอดครับ แทบจะก็อปแปะของเก่าได้เลย ไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนฟีเจอร์นี่รับไว้พิจารณาครับ จริงๆ เคยทำแต่ไม่เวิร์คเลยเลิกไป
function retweet comment :D
Android จะชนะ iPhone เรื่องปริมาณ ในเร็ว ๆ นี้ครับ ราคาเครื่องอาจจะไม่ถึง 3,000 บาทก็ซื้อหากันได้แล้ว
เครื่องไหนอะ= ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เร็ว ๆ นี้ครับ ตอนนี้ราคายังอยู่ที่ 5990 บาท Android ของ Wellcom ครับ คุณภาพใช้ได้เลยทีเดียว
จากข่าวเก่า Android เขาตั้งใจจะทำมือถือ Android ราคาถูกอยู่แล้วด้วยครับ
มือถือ Android ราคาถูกจะบุกตลาดเอเชียในเร็ววัน
http://www.blognone.com/news/17074
ผมเป็น iPhone user แต่ตอนนี้ใช้ Galaxy S ด้วยอีกเครื่องนึง ผมว่า OS มันดีกว่าไอโฟนอีก
เห็นด้วยว่าตอนนี้ Android เข้าใกล้ iOS มากขึ้นทุกวันจนสามารถมองว่าเทียบเท่ากันแล้วก็ได้ในบางมุม และผมเชื่อว่า Android 3.0 จะต้องออกมามีคุณภาพมากจนทำให้โทรศัพท์บางรุ่นที่ใช้เหนือกว่า iPhone 4 แน่นอน
That is the way things are.
ถ้าตามจากเนื้อข่าวก็คือ ข่าวของแอนดรอย ใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นผู้ใช้ อย่างเราก็คงต้องรอกันต่อไป แต่ถ้าไม่มีผู้สร้างผู้ใช้ก็ได้แต่หวังกันต่อไป มั้งครับงานนี้
(ชักเริ่มเลอะเทอะล่ะ)
เห็นด้วยครับว่า Android ตอนนี้น่าใช้ขึ้นผมเองก็ว่าจะสอยสักเครื่องแต่ขอรอดูรุ่นใหม่ก่อนดีกว่าเพราะยังไม่รีบ ^^
ผมเป็นคนใช้ iphone ที่เปลี่ยนมาใช้ android คนหนึ่งครับ ส่วนตัวพบว่า android ตอบโจทย์ผมมากกว่าครับ
ก็เห็นด้วยว่า ตอนนี้ Android น่าใช้กว่าแต่ก่อน แต่ผมมองว่า อะไรอีกหลายๆอย่างมันยังไม่ลงตัวครับ
อย่างส่วนตัวผมรู้สึกว่า ระบบเล่นเพลงของ iPhone/iPod Touch ลงตัวที่สุดแล้วครับ
ผมชอบวิธีการแสดง Album Art ตอนเล่นเพลงของ iPhone/iPod Touch ที่สุดครับ
แสดงได้เต็มตา สีสันเที่ยงตรงไม่มีผิดเพี้ยน ในขณะที่ Android ของหลายๆค่าย
พยายามเพิ่ม effect ลูกเล่นอะไรต่างๆมากจนเกินพอดีครับ
อย่างเช่น เอา Album Art ที่ผมอุตสาห์ทำมาอย่างดี กลายเป็นรูปแผ่นซีดีกลมๆบ้าง เอามาใส่เหมือนอยู่ในกล่องซีดีบ้าง ดู Album Art ก็เหมือนดูผลงานศิลปะอ่ะครับ ถ้าโดนเอาไปปรุงแต่งมากไปมันก็เกินงามอ่ะครับ
แล้วผมก็ชอบวิธีการ shuffle ของ iPhone/iPod Touch ด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าของ android เป็นยังไงนะครับ แต่ของ iPhone/iPod Touch นั้น ในระหว่าง shuffle 1 ชุด จะไม่มีการวนมาซ้ำเพลงเดิมอีก(ซึ่งเหมือนจะเ้ป็นการ random ซะมากกว่า) และจะ shuffle ใหม่เวลาเราเลือกเพลงใหม่ (บางค่ายถึงจะกดเลือกเพลงใหม่ แต่ถ้ายังเป็นเพลงเดิม เพลงต่อไปก็จะเล่นเพลงเดิมอยู่เหมือนเิดิม เหมือนกับมันไม่ shuffle ใหม่ให้อ่ะครับ) ไม่รู้สิครับ คนฟังเพลงทั้งวัน เวลาเจอแบบนี้มันเซงน่ะครับ shuffle แล้วกลับมาเจอเพลงเดิมบ่อยๆ ลองไปสังเกตุดูนะ ;)
เรื่อง App ก็ด้วย ไม่รู้ประเทศไทยโหลด App เสียเงินใน Android Market ได้รึยัง
ถ้ายัง จะต้องรอไปถึงเมื่อไหรคับ?
แล้ว App บางตัวที่ผมใช้ ก็ยังไม่มีใน Android ด้วยคับ เช่น Things, MoneyBooks, หรือ Twitter client ที่หน้าตาดี ใช้ง่ายแบบ Twitter for iPhone อ่ะคับ
ก็ถูกนะคับ ว่าอีกไม่นาน จำนวน App ใน Android ก็คงจะตาม Apple ทันอ่ะคับ แต่นั้นเฉพาะเรื่องจำนวนเท่านั้น โอเคมีหลายค่ายคับที่ port App จาก App Store มาลง Android Market แต่คงจะไม่ทั้งหมดมั๊งคับ แล้วก็ถูกอีกว่า ก็คงมีคนทำเลียนแบบมาลง Android บ้างเหมือนกัน แต่จะต้องรออีกนานเท่าไหรคับ? แล้วคุณภาพจะสู้ต้นฉบับได้ไหม? แล้วจะมี update แก้ bug ให้รึเปล่า? ก็ไม่รู้เช่นกัน?
ส่วนตัวผมมองว่า Andriod ยังเป็นผู้ตาม iOS อยู่คับ แต่อีกไม่นานเชื่อว่าก็น่าจะทันอ่ะคับ ตามมาติดๆ
ส่วนเรื่อง Hardware ก็ยังเป็นผู้ตามอยู่คับ โอเค ด้าน spec ก็คงสู้กันได้แล้วล่ะ และเชื่อว่าอีกไม่นาน Android ก็คงรองรับ Gyroscope แบบ iPhone เหมือนกัน แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มี
สรุปคือ ก็ยังเป็นผู้ตามอยู่ดีล่ะคับ
ผูกบัตรกับ google checkout
ลง Market Enable
ตั้งให้เป็นประเทศอะไรก็แล้วแต่สะดวก
เข้า market ปกติ
จะเจอโปรแกรมที่เสียตังโชว์ด้วยครับ
อ่าว เพิ่งรู้ เด่วลองๆ
จากประสบการณ์การเล่นทั้งสองแพล็ตฟอร์ม ... ผมขอค้านครับ =P
อย่างแรกคือ ผมยังไม่เจอแอพตัวไหนที่ iOS ทำได้ แล้ว Android ทำไม่ได้ (เว้นแต่สวยไม่เท่าน่ะจริง อันนี้ต้องยอมรับ แล้วก็เกมส์ด้วย อันนี้แพ้ขาด) แล้วก็แอพบางตัวบน Android ผมยังอยากให้มีใน iOS เลยเช่น Twicca (ดีกว่า official twitter client เยอะ) Wifi Tethering งี้ หรือโปรแกรมธรรมดาๆ อย่าง AdFree ฮ่าๆ
ต่อมาคือเรื่องจำนวนแอพนี่ ผมไม่รู้ว่าจะเอามาบลัฟกันไปถึงไหนนะ ใช้จริงๆ ไม่ถึงร้อยหรอก ถึงจะบอกว่ามีเยอะแล้วจะมีตัวเลือกให้เลือกมากก็เถอะนะ
เรื่องการอัพเดทแอพ ถ้าเคยใช้แอนดรอยด์อาจจะเซ็ง ... บางแอพอัพเดททุกวัน อาจเป็นเพราะด้วยความง่ายของ Market ด้วย
เรื่องฮาร์ดแวร์ ... Nexus ที่ออกก่อนไอโฟนราวๆ ครึ่งปี ภาพรวมแล้วสเปคดีกว่านะ
สรุปของผมคือ iOS เป็นเครื่องเล่นเกมส์ฆ่าเวลาที่ดีสำหรับผม Android เป็นของเล่นที่ใหม่เสมอ ส่วนโทรศัพท์ส่วนตัวจริงๆ คือ feature phone (หรือไอ้ที่เค้าเรียกว่า dumb phone แหละครับ)
ปล. ผมว่าไอ้การจะเปรียบเทียบอะไรซักอย่างเนี่ย น่าจะเคยสัมผัสในระดับเดียวกันมาก่อนนะฮะ จะได้ไม่ต้องคิดไปเอง
ขอตอบอันบนด้วย ... เวลาฟังเพลงผมไม่ได้ดูจอนะ ปิดจอเลย ประหยัดแบต ... AlbumArt เลยไม่จำเป็นสำหรับผม ฮ่า
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า อันนี้ผม มาแชร์ประสบการณ์จากที่ผมเคยใช้แล้วชอบมันคับ
บวกกับความรู้สึกของผมที่มีต่อ Platform Android ว่าเหมือนมันยังไม่มั่นคงยังไงชอบกล
จะใช้นี่ต้องทำนั้น จะใช้นั้นต้องทำโน้น ส่วนตัวไม่เคยใช้ Android เหมือนกันคับ อ่านจาก Reviews มาอีกทีคับ (ไม่มีปัญญาเล่นทั้ง 2 Platform จริงๆคับ T^T) จะซื้ออะไรทีศึกษาแล้วศึกษาอีก
เรื่อง App มากกว่านี่ดีกว่าแน่นอน(อย่างน้อยก็ในเชิง Marketing) เพราะนั้นย่อมหมายถึงมีตัวเลือกมากกว่าคับ(เห็น Android ก็พยายามปั๊ม App อยู่เหมือนกันนิคับ ;))
เรื่อง Hardware ผมเห็นด้วยครับว่าถ้าเทียบตัวเลข Spec กันจริงๆ n1 ก็คงเยอะกว่าจริงอ่ะคับ
แต่ถ้าเป็น Hardware Spec ด้านอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวเลขที่เอามาเคลมกันเนี้ย iPhone ก้าวนำไปก่อนแล้วคับ
อย่างเช่นที่ iPhone 4 มี Gyroscope แล้วครับ ซึ่งจะมี App ที่ได้ใช้ประโยชน์จาก Hardware ชิ้นนี้คลอดออกมาอีกมากมายแน่นอน (และเชื่อว่า Android คงไม่พลาดที่เอามาลง Platform ตัวเองเหมือนกันแน่นอน)
ส่วนเรื่อง AlbumArt นี่แล้วแต่ความชอบเลยคับ ของผมชอบเปิดจอโชว์ AlbumArt เอาไว้อ่ะคับ เพราะตั้งไว้บน dock เวลาขับรถ + เสียบชาร์ตเอาไว้ เลยไม่กลัวแบตหมดคับ ฮ่า
ปล. ยังไงก็ขอบคุณสำหรับ comment คับ ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นหลายอย่างเลย;)
gyroscope มันไว้วัดค่าอะไรเหรอครับ แล้วมันต่างกับ g-sensor ยังไงบ้างอ่ะ
วัดความเร็วเชิงมุมครับ g sensor วัดได้แค่แรงโน้นถ่วงหรือความเร่ง ถ้าเราเคลื่อนที่หรือหมุนโทรศัพท์ขนานกับพื้นโลก (เช่นวางบนโต๊ะแล้วค่อยๆ หมุน) g sensor วัดค่าไม่ได้ แต่ gyro วัดค่าได้ครับ ตัวอย่างเกมที่ใช้ gyroscope http://www.youtube.com/watch?v=8MwCoIe9bsc
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ขอบคุณมากครับ
จริงๆ Android ก็ทำได้แต่ต้องใช้ sensor หลายๆตัวมารวมกัน ดูแล้วถ้าติดตั้ง gyro ตัวเดียวน่าจะง่ายกว่ากันเยอะครับ
ผมว่าทั้ง Android & iOS นี่ค่อนข้างมั่นคงดีนะครับ (ถึงแม้จะต้องผูกชีวิตไว้กับ Gmail หรือ iTunes ก็เหอะ)
เอ่อ รบกวนช่วยแนะนำแอพที่น่าจะออกมาหลังจาก Gyroscope บูมหน่อยได้มั้ยครับ ผมเห็นใน WWDC แล้วไม่รู้ว่าจะเอาไปต่อยอดอะไรได้อีกน่ะครับ
สุดท้ายแอบแซว spec ด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเลข ... removable battery lolz
ปล. ยินดีครับ ได้เห็นมุมมองผู้ใช้ไอโฟนเหมือนกันครับ =)
เรื่อง App ที่น่าจะออกมาหลังจาก Gyroscope ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เท่าที่ผมจะจินตนาการได้
เราอาจจะเอา Gyroscope ไปประยุกต์ใช้กับเกมพวก Cooking Mama ได้นี่คับ
เช่นให้คนเล่นหั่นผักกันจริงๆ ซาวข้าวกันจริงๆเลยเปนไง lolz
อีกอันนึงก็ เอาไปประยุกต์ทำเกมคาสิโน หมุน iPhone เปลี่ยนเป็นรูเล็ตซะเลย lolz
ปล. +1 removable battery lolz
ตัวอย่างที่คิดว่า App Android สู้ไม่ได้สำหรับผมคือ iOS มี push notification เช่น push การแจ้งเตือนจาก facebook ได้ (เร็วมากด้วยแม้ต่อผ่าน edge) Android เห็นมีแต่ fetch รึเปล่าครับ (แต่ดีกว่าตรงมี widget ไม่ต้องเปิดโปรแกรม)
อีกตัว Skype บน Android คุยด้วยเสียงไม่ได้ (ล่าสุดได้เฉพาะผ่าน 3G ของ verizon?) ของ iPhone ใช้งานได้ดีทีเดียว
เรื่องอัพเดต iPhone ก็เป็นครับ มีขึ้นมาให้อัพเดตบ่อยมากมาย ขึ้นค้างเป็นตัวเลขที่ icon
App ใช้งานอื่นๆ ก็น่าจะเป็นอย่างที่ว่าแหละครับ Android ไม่ได้ด้อยกว่า iPhone ยกเว้นเกมที่ยังไม่ค่อยมี
wifi tethering ผมก็อยากให้มีใน iPhone เช่นกัน หรือบางอย่างที่เป็นข้อจำกัดของ apple ทำให้ไม่มีใน store แต่ Android มีก็มาก
ปล. ไม่นับเรื่องความเสถียรนะครับ ช่วงที่ลองไม่รู้ app crash เพราะ App เองหรือเป็นที่ app นั้นยังใช้กับบางรุ่นได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่ง iPhone ก็มีบ้าง แต่น้อยรุ่นเลยโอกาสเจอ bug ที่เกิดกับบางรุ่นน้อย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงด้วย ผมลืม Notification ไปเลย ฮ่าๆ
Skype ไม่เคยลองฮะ เห็นว่าหายากมากครับ เซริจ Skype ใน Market ตรงๆ ชาตินี้ก็หาไม่เจอแน่ๆ
ส่วนเรื่องความเสถียรนี่ ผมได้ยินมาจากเพื่อนที่ใช้เครื่องรุ่นแปลกๆ (Moto BackFlip, CLIQ) ก็ยืนยันว่าไม่ค่อยเสถียรครับ
ปล. ผมสงสัยที่สุดคือ iPhone รุ่นแรก ทำไมเล่นเกมส์ได้ลื่นมาก ทั้งๆ ที่สเปคด้อยขนาดนั้น ... แอปเปิลทำตรงนี้มาดีจริง คารวะ
skype เข้าใจว่าทำไม่ได้มั้งครับ ต้องให้ skype ออกมาทำเอง
ก็เป็นเพียงความเห็น Apple เก่งในตลาดเฉพาะกลุ่ม ในเมื่อจะเฉพาะกลุ่มอีกครั้งจะแปลกอะไร
ไม่แปลกครับ (อันนี้ซีเรียส)
แต่ผู้ถือหุ้นคงไม่คิดอย่างนั้นเพราะจังหวะนี้ต้องยอมรับว่าแอปเปิลมีสถานะที่ดีมากที่จะครอบครองหน้าจอส่วนใหญ่ในบ้านได้ในเร็วๆ นี้ (โทรศัพท์, Tablet, PC, TV) ในช่วงนี้ที่ยังฝุ่นตลบอยู่ ถ้าฝ่ามันไปได้แล้วครองตลาดส่วนใหญ่ถึงตอนนั้นผู้ถือหุ้นก็นอนรอปันผล กลายเป็น the next microsoft ไป และหุ้นที่เห็นแพงๆ ในตอนนี้ก็จะไม่แพงอีกต่อไป
แต่ถ้าผู้บริหารเกิดจับเฉพาะตลาดเฉพาะกลุ่มจริง แล้วปล่อยให้ตลาดส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือคนอื่นในระยะยาว คนใช้เฉพาะกลุ่มคงไม่กระทบอะไร แต่ผู้ถือหุ้นคงช้ำใจกันพอดู
lewcpe.com, @wasonliw