ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของไมโครซอฟท์ ได้มีหมายเหตุตัวเล็กๆ ไว้ว่าการหยุดพัฒนา KIN ทำให้รายได้หายไป 240 ล้านดอลลาร์จากที่คาดการณ์เอาไว้
Cost of revenue increased $240 million or 2%, primarily reflecting increased online costs and charges resulting from the discontinuation of the KIN phone, offset in part by decreased Xbox 360 console costs and reductions in other costs due to resource management efforts.
เหตุปัจจัยนี้ทำให้ฝ่าย Entertainment and Devices ขาดทุนทันที 172 ล้านดอลลาร์ แม้ว่า Xbox จะทำกำไรให้ก็ตาม
240 ล้านนี้ยังไม่รวมค่าลงทุนพัฒนา และไม่รวมถึงเงินที่ซื้อบริษัท Danger จำนวน 500 ล้านดอลลาร์อีกด้วย คิดเป็นตัวเงินแล้วมันอาจเป็นโครงการที่ล้มเหลวมากที่สุดของไมโครซอฟท์เท่าที่เคยมี
ที่มา - ไมโครซอฟท์, Electronista
Comments
ล้มแล้วลุก ล้มแล้วได้บทเรียน อาจจะทำให้ Microsoft แกร่งขึ้นไปอีกก็ได้นะครับ :D
อาจจะกลับมาอีก พร้อมกับ สุดยอดอุปกรณ์ ก้ได้นะ
เห็นยอดเงินแล้วขนลุกก เฉพาะ Kin อย่างเดียว 7,700ล้านบาท ค่าซื้อ บริษัท Danger อีก 16,000ล้านบาท
もういい
เอา Kin มาใส่ Android สิ หึหึ
ไอ้ที่ซ้ำชาวบ้านชอบทำ ทีที่ชาวบ้านอยากให้ทำขายดันดองนะเออ
ไอ้ที่ซ้ำชาวบ้านชอบทำ
ถ้าเป็นแต่ก่อน มันมักจะออกมาดีกว่าชาวบ้าน อ่ะครับ
ไม่เข้าใจ คือ OS ตัวเครื่องผมว่าก็โอเคนะ มันไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรที่เสียหายเลย ถ้า port ให้เป็น GSM แล้วส่งขายทั่วโลก ในฐานะมือถือตัวหนึ่ง พัฒนาให้รองรับภาษาหลากหลายหน่อย หรือเปิด open ไป ยังไงก็ขายได้ ในราคาที่ถูกๆ หน่อย อย่างตัวเล็ก ขายซัก 6-7 พัน ผมว่ามีหลายคนจ้องจะซื้อมาเล่นนะ เป็น qwerty ด้วย แต่ MS ไม่ทำเอง เหมือน ZuneHD แหละ ขายแต่ใน US พอขายไม่ดีก็หาว่าเจ๋ง ไม่ประสบความสำเร็จ วัดตลาดแคบฉิบ ฝ่ายการตลาดของ MS มันคิดอะไรกันแน่
เป็นการกะๆ เอาน่ะครับ
ถ้าในสหรัฐมันขายไม่ดี(เทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นในสายเดียวกัน)
ทั่วโลกก็คงออกมาแนวๆ เดียวกัน
มีคน 1% ของสหรัฐที่ใช้ มาขายทั้งโลกแล้วจะให้เป็น 50% ของโลกใช้คงเป็นไปไม่ได้(เลขสมมติ)
คุณอยากได้ คนกลุ่มนึงที่ใกล้ๆ ตัวเราอยากได้
ไม่ได้หมายความว่า user ทั่วไปอยากได้
May the Force Close be with you. || @nuttyi
บริษัทที่ทำได้คือโนเกียครับ
240 ล้าน USD
แปลงเป็นเงินไทย แล้ว ลองแปลงเป็น ถนน โรงเรียน ...
แค่เราเห็น ความริเริ่มที่ดูเป็นข่าวไม่ใหญ่โตมาก
มาแบบเงียบๆ แล้วก็ไปแบบเงียบๆ เช่นกัน
จริงๆ น่าจะทำต่อแล้วออกวางขายทั่วโลก อาจจะขายดีกว่าที่คิดก็ได้
สงสัยเพราะว่าระบบของ KIN ผูกกับไมโครซอฟท์ค่อนข้างเยอะ
ถ้ากระจายทั่วโลก คงจะ support ไม่ไหวมั้งครับ