หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาของการจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ สำหรับคนแถวนี้ก็คงอยากรู้บ้างว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือกระทรวงไอซีที ตอนนี้ก็มีหลายกระแสที่ออกมาตามสื่อดังนี้ครับ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร
คุณคณวัฒน์ เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 28 ของพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคดูแลด้านเศรษฐกิจ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านการศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 51 เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงไอซีทีในปี พ.ศ. 2548 ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ [อ้างอิงจากวิกิพีเดีย]
ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
ดร.สุรพงษ์ เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเช่นกัน มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาเครื่องกล มหาวิทยาลัยยังทาวน์สเตท รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยแห่งแอครอน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเชียงใหม่หลายสมัย เคยสังกัดทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชาชน เคยดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ในปีพ.ศ. 2543 [อ้างอิง - 1, 2, 3]
อาจเป็นคนอื่น
นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสมองว่าตำแหน่งรัฐมนตรีไอซีทีนี้อาจถูกจัดสรรให้สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ซึ่งอาจเป็นโควต้าของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการจัดคณะรัฐมนตรีนี้ อดีตนายกฯทักษิณไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย จากนี้เราก็ต้องรอดูรายชื่ออย่างเป็นทางการอีกทีครับ
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ และ ATNN
Comments
เป็นใครไม่สำคัญ ขอแค่ทำให้ได้อย่างที่พูดไว้พอ แล้วจะรอดูนะฮ้าฟฟฟ
หวังว่า IT ไทยจะติดจรวดเหมือนตอนที่เปลี่ยนมาใช้ ADSL นะครับ
ps. ตอนนี้ก็ช่วยยกเลิกสารพัดบล๊อก (รวมไปถึงการแสดงความเห็นทางการเมือง) ของ ศอฉ ก่อนเลยครับ
+10 ถั่มต้วมมม...ครับ
อยากให้สานต่อ โครงการที่ ปชป. เคยสนุบสนุนไว้นะครับ เช่นโครงการนี้
ปชป. ได้อนุมัติงบประมาณให้เดิน Fiber optic ในปี 2553-2555 ประมาณ 2000 โรงเรียน และได้อนุมัติงบประมาณให้เดิน Fiber optic ในปี 2554-2556 เพิ่มอีก 7606 โรงเรียน
รวมๆ แล้วปี 2556 เราจะมี Fiber optic ไปยังโรงเรียน เกือบ 1 หมื่นแห่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนระดับมัธยม
ซึ่งผมหวังว่า พท. ได้เป็นรัฐบาลแล้ว จะสนับสนุนโครงการนี้ต่อไป โดยทุ่มงบประมาณในการขยาย Fiber optic ให้ครอบคลุมโรงเรียนที่เหลือ
รายชื่อโรงเรียน 7606 แห่ง อยู่ในภาคผนวก 1 รายชื่อโรงเรียน 2000 แห่ง อยู่ในภาคผนวก 7
link เอกสารจาก TOR ล่าสุด: http://www.uni.net.th/UniNet/downloads/00_25540704_TOR_NEdNet.pdf
+1
ไม่รู้นะครับ ผมทำงานเป็นครูในโรงเรียนมํธยมในกทม. ผมกลับมองอีกอย่างนึงว่า เรื่อง fiber optic โรงเรียนมัธยมเกินครึ่ง+โรงเรียนประถมขนาดใหญ่มีเงินมากพอที่จะติดเองได้ แต่อยู่ที่วิสัยทัศของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ๆดูแลเรื่องนี้ว่าเห็นความสำคัญแค่ไหน แถมถ้าต้องการความเร็วที่มากกว่าที่ได้มาฟรี ต้องเสียเงินแพงกว่าโรงเรียนประมูลเองประมาณ 2เท่า บางคนอาจจะบอกว่าของฟรีก็ใช้ๆไปเถอะ แต่บอกได้เลยครับ ไม่พอโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน+ที่บริการนักเรียนประมาณเกือบ 300เครื่องได้ความเร็ว 2Mb ปัจจุบันใช้แค่เป็น backup line
จะว่าไประบบราชการไทยบางครั้งก็สนับสนุน ทุ่มงบอะไรแปลกๆ อย่างที่บ้านเกิดผม โรงเรียนประจำหมู่บ้านมีนักเรียนทั้งโรงเรียน 90กว่าคน ไปชนะอะไรไม่รู้ระดับประเทศมา เค้าก็ให้ server มาตัวนึงดูจากสเปคก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 2แสน ติดตั้งเรียบร้อย สรุปเอามาแชร์เน็ตจาก adsl router ผมก็นึกอยู่ในใจ server xeon hdd sas 2ลูก raid 1 กับ redundent power supply เอาแค่มาแชร์เน็ตให้ client 20เครื่องเนี้ยนะ
สรุปผมแค่บ่นให้ฟังกับสิ่งที่เห็นอยู่ครับ
ยังมีอีกหนึ่งฃื่อโผล่มาด้วยคือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ พรรคเพื่อไทย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่ที่อ่านจากหลายที่เหมือนจะลงที่กระทรวงการคลัง พลังงานหรืออาจเป็นพาณิชย์ครับ
อาจลงแต่ละที่ อ่านแล้วตีความได้ว่า "ถนัดด้านไหนไม่สำคัญ งานด้านไหนไม่เกี่ยง ขอตำแหน่งระดับนี้พอ" ยังไงชอบกลนะครับ
ผมไม่เห็นคิดแบบนั้นนะ ^^"
ดร.ปึ้งใกล้เคียงมากครับ บ้านอยู่ใกล้ศูนย์คอมพิวเตอร์มากๆ
เกี่ยวด้วยหรือ หรือประชดครับเนี่ย สำหรับท่านนี้แล้วจากประสบการณ์ไม่น่าจะเหมาะกับงาน ICT นะครับ
ใครก็ได้แต่ขอให้หาที่ปรึกษาเก่งๆหน่อยเอาแบบรู้ลึกรู้จริงพึ่งพิงได้บริการดุจญาติมิตร
เป็นใครไม่สำคัญ รอดูนโยบายดีกว่า
สำคัญสิครับ เกิดพรรคเพื่อเกษตรกร ทำการเกษตรมาทั้งชีวิต ดันได้โควตา ICT พอดี
แล้วนโยบายดีๆจะมาจากไหนล่ะครับ เด๋วก็ได้แบบ สังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรม
ไม่ต้องมี 3G ก็ได้ ฮิ้วว
เทียบกับสมัยคุณทักษิณ ... ตอนนั้นการตัดสินใจส่วนใหญ่มาจากนายก ส่วนรัฐมนตรีไม่ค่อยมีบทบาทอะไร ...
อาจจะเป็นสาเหตุที่บอกว่าไม่สำคัญกระมัง ?
ดูประวัติการศึกษาแต่ละคน กับประวัติการทำงานยังไม่ไหวนะครับนี่
เพราะการบริหารจัดการด้าน IT มันใช้วิธีคิดคนละแบบกับการบริหารงานทั่วไป
ไม่งั้นมหาลัยต่างๆ จะเปิดสาขาเหล่านี้ให้เรียนไปทำไม
หรือไม่งั้นองค์กรใหญ่ๆ ทำไมต้องมี CIO
เซ็งกับทุกๆรัฐบาลที่มอง ICT เป็นกระทรวงเกรดบี มีไว้สำหรับ สส. ที่อยากได้ รมต. แต่ไม่มีที่ลง
+1
เห็นด้วยอย่างยิ่ง..และเซ็งอย่างยิ่งเช่นกัน
ทั้งๆ ที่ในยุคนี้สมัยนี้ IT เป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศมากๆ...แต่เหมือนบ้านเราจะคิดว่า ICT มีไว้แค่..บล็อคเว็บ จับคลิป และออก พรบ.
ก็งบ กระทรวงนี้มัน น้อยนิดตลิดติ้วเมื่อเทียบกับกระทรวงเกษตร นี้ครับ ผมว่ากระทรวงไหน งบน้อยๆ ไม่มีใครอยากจะได้หลอก เซ็ง
ถึงบางอ้อเลยทีเดียวว่าทำไมพรรคร่วมถึงชอบขอกระทรวงเกษตร.. -*-
ทำถูกใจสมัยหน้าได้คะแนนเพิ่มด้วยนะ
พูดอีกก็ถูกอีกครับ T_T คันในหัวใจยิบๆ พูดจาเรื่องแบ่งเค้กโดยไม่อายปากเหมือนที่ข้างล่างบอก
มีแหล่งข้อทูลสรุปผลงานกระทรวง ICT ของรัฐบาลที่แล้วบ้างไหมครับ
ใครเป็น it ไทยก็เป็นกระต่ายเหมือนเดิม วิ่งแพ้เต่า....
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
รบกวนช่วยเอาเงิน 10 ล้านค่าแปลwikiนรกคืนมาด้วยนะครับ
+1
+1
เห็นด้วยอย่างยยิ่ง
ขอข่าวเก่าหน่อยครับ อยากรู้เรื่อง ^^'
รายการที่ 2 เลยครับ
ความจริงเป็นโครงการที่ดีนะครับ
แต่วิธีการใช้ไม่ได้เลย ผลออกมาเลยห่วย
หาพวกหัวสมัยใหม่ทันเทคโนโลยีหน่อย อย่าเอาเต่าล้านปีมาคุมแค่นั้นพอ
สุดท้ายก็อาจจะหนีไม่พ้น.. เอาลิงมานั่งกดแป้นยานอวกาศนาซ่าอ่ะ รอดูกันต่อไป
+1000000....
+10000000....
ถูกใจจริงๆ
รมต ทุกกระทรวง ถ้าเข้ามาทำงานจริงๆ ไม่ได้เข้ามาเพื่อหากำไร มันก็น่าจะดีละ แต่มันทำไม่ได้นี่ละ
เลยต้องมีพวกที่ "หากำไรได้ แต่ประเทศชาติต้องเจริญ"
กับ "ผมไม่เอากำไร แต่งานไม่เดิน"
หรือไม่ก็ "เอาแต่กำไร ชาติไม่สน"
ไม่ใช่ไม่รักชาติตัวเอง แต่ทำไมไม่ดูตัวอย่างดีๆแบบประเทศอื่นที่เค้าทำแล้วเอามาปรับใช้บ้าง
+1000000
จะรอดูวิสัยทัศน์ท่านหลังจากแบ่งเค้กเสร็จ ถึงจะรู้ว่าคนทำงานแท้จริงไม่ใช่ตัว รมต. แต่อย่าให้ถึงกับเป็นตรายางเลย ช่วยแสดงวิสัยทัศน์เจ๋ง ( แล้วทำให้ได้ด้วย ) จะเป็นพระคุณ
ตอนนี้ผมภาวนาให้แค่ใช้อินเตอร์เน็ต กับเซ็ตอีเมล์ของตัวเองเป็น
ขอเท่านี้จริงๆ ครับ ขอน้อยไปมั้ย
เดี๋ยวเค้าจะบอกว่า.. ถ้าเค้าเล่น internet คนก็โทรเข้าไม่ได้สิ
+1
ขอแค่ทันสมัย เข้าใจเทคโนโลยี และให้เสรีภาพในการสื่อสาร บริหารงานคล่องตัว
เท่านี้ก็พอครับ และเผื่อวิสัยทัศน์ไว้ด้วย เพราะเราคงไม่อยากพัฒนาเพียงเพื่อให้เท่าทัน แต่ที่ต้องการคือเท่าทันและต้องล้ำหน้านานาประเทศด้วยครับ
ดูจากประวัติแต่ละท่านแล้ว ผิดหวัง
เรื่องบริหารเป็นเรื่องหนึ่งที่แยกออกจากเรื่องเทคนิคได้ แต่ผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจด้านเทคนิค การกำหนดทิศทางก็สะเปะสะปะได้ง่าย
คาดหวังไใว้ว่าตัวเต็งนายิการัฐมนตรี ที่มาจากบรษัทด้านโทรคมนาคมจะหาคนที่มีความเชี่ยวชาญได้ดีกว่านี้
ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า "จะเป็นใครก็ได้ที่มาเป็น รมต."
การเป็นรัฐมนตรีในด้านใดๆ ผู้ที่จะมาเป็นจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ มีความรู้ มีประสบการณ์ตรงในด้านนั้นๆ มาเป็น "ผู้บริหาร" เพื่อที่จะกำกับทิศทางและนำนโยบายของกระทรวงนั้นๆ ไปใช้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งควรจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการนั้น หรืออย่างน้อยที่สุด ควรจบการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องนั้นๆ ..อาศัยแค่บริหารเป็นอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะ รมต. ถือเป็นหัวเรือระดับประเทศของกระทรวงนั้นๆ ที่มีความสำคัญมาก
แต่เห็นการเมืองบ้านเราแล้วถอดใจ แค่ สส. ที่เข้าไปก็มีข้อกังขาในด้านคุณวุฒิแล้ว (ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน บางคนยังกังขาเรื่อง EQ ด้วย) แล้วพอเข้าไปก็ลดแลกแจกแถมตำแหน่งเก้าอี้กันเป็นว่าเล่น แทนที่จะเลือกกันตามความเหมาะสมและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะนำวิสัยทัศน์พากระทรวงนั้นๆ บรรลุเป้าหมายและก้าวหน้า ..แต่ทำกันแบบนี้อย่างกับทำเป็นของเล่นจริงๆ นี่แหละทำไมหลายคนจึงเสื่อมศรัทธากับการเมือง
เห็นด้วยครับ จำได้ว่าผมไม่เคยได้ยินแบบว่า
พรรคร่วมรัฐบาลมาประชุมกันเพื่อหาบุคคลที่มีความสามารถเหมาะสมมาเป็นเจ้ากระทรวง
ทุกวันนี้จะมีแต่ แบ่งตามโควตาพรรค แถมนักการเมืองยังให้สัมภาษณ์เรื่องแบ่งเค้กกันอย่างเป็นเรื่องปกติ บ๊ะ ไม่มีใครท้วงเลยเร๊อะ
อยากให้ก่อนเลือกมีการมา present วิสัยทัศน์และสิ่งที่จะทำ อัด เป็น VDO มาให้คนในวงการสาย IT ลอง vote เลือกกันซะก่อน อย่างน้อยให้เป็นแนวทางให้ท่านนายกตัดสินใจได้ดีขึ้น
ฝาก VDO ของคุณ คณวัฒน์ ให้ลองดูกัน http://www.youtube.com/watch?v=XAUoGo2g2jM ผมชอบ หลายๆ idea ของเค้านะ :)
... ซ้ำครับ ...
นายคณวัฒน์ วศินสังวร
http://www.youtube.com/watch?v=XAUoGo2g2jM
มา +1 ในโพสตอบนี้นะครับ
ฟังดูมีความรู้ความเข้าใจใช้ได้
เป็นคนอยู่ในวงการ พูดภาษาเดียวกับเรา ๆ รู้เรื่อง
ดูแล้วคงเป็นคนใช้ IT เป็นประจำ
แต่คิดว่าด้วยบารมีทางการเมือง เป็นได้อาจจะอยู่ในระดับอย่างมากที่สุด รมช
ผมดูวีดีโอวิสัยทัศน์แล้ว ฟังรู้เรื่องนะครับ ดูแล้วอยู่ในวงการเดียวกัน ผมรับได้นะครับ
ก็คงต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยจะโปรโมทคนนี้หรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่คนนี้ อย่างน้อยก็คงได้อยู่ในทีมงานแน่ ๆ
ดูแล้วอนาคต ICT ประเทศไทยคงไม่อยู่กับที่แน่นอน
จะต้องมี Big Change เกิดขึ้นแน่ ๆ ครับ
ฟังแล้วดูน่าจะไปทางเดียวกันได้นะครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนที่ทำงาน IT ไม่มีใครไปเป็น สส. ซักราย แล้วจะให้หาคนรู้จริงที่ไหนไปเป็น รมต.
ผมเข้าใจว่าที่หลายคนอยากเห็นคือ อย่างน้อยจบด้านวิทยาศาสตร์หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ออกไปไกลแบบศิลปศาสตร์อะไรอย่างนี้น่ะครับ
รมต. ไม่ต้องเป็น สส. นี่ครับ
ใครเป็นก็ได้ครับ ขออย่าให้ตีกันหรือเอาแต่ชำระแค้นก็พอแล้ว
รอดูผลงานก่อนดีกว่าครับที่รัฐบาลนี้กลับมามีอำนาจก็เพราะ พรรคเก่าสร้างอำนาจจากนโยบายที่ทำให้ประชาชนได้จริง
เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันครับ เพื่ออนาคตประเทศไทยกระทรวงนี้คนไทยคาดหวังไว้มากเหมือนกันน่ะครับ
จริงๆผมกำลังคิดว่า สาขา IT นี่ ไม่ต้องดูก็ได้นะว่าจบอะไรมา
อาจารย์ภาคไฟฟ้าอิเล็คโทรนิคส์ (บรรพบุรุษภาค IT) ยัง "ผมไม่เล่นเว็บ" เลย
นักบริหารวันนี้อาจเข้าถึงโลก IT มากกว่า แม้ว่าจะไม่รู้เรื่องทางเทคนิค
คือประมาณว่าเป็นมุมมองจาก "ผู้ใช้งาน" น่ะครับ
ผมเห็น พี่เต้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับเสี่ยจาตุรนต์ เสี่ยแม้ว และพี่มาร์คเฮียกรณ์ เข้าถึงโลก IT ดีอยู่นะ
ส่วนตัวคิดว่า ให้เอาผู้ช่วยหรือที่ปรึกษาที่เป็นงาน Technical มาช่วยก็พอ
อาจารย์ภาคไฟฟ้าอิเล็คโทรนิคส์ (บรรพบุรุษภาค IT) ยัง "ผมไม่เล่นเว็บ" เลย --- ข้อความนี้เป็นเท็จ
ขอ 3G แรงๆ
ผมอยากรู้มากกว่าจะเอาไงกับค่าแรง
ขั้นต่ำ 300 บาท จบป.ตรี เงินเดือน 15000
โดยเฉพาะไอ้เจ้า 300 เนี่ย คนแถวบ้านผมเค้าหวังกันเยอะ
ลูกจ้างก็มาแซวเย้วๆ ว่าอีกหน่อยต้องจ้าง 300 แล้วนะ ในใจคิดว่าถ้าต้องจ้าง 300 คงต้องลดจำนวนคนลงไปบ้าง
ถ้าทุกวันนี้ข้าวจานละ 30-40 ค่าแรงขั้นต่ำสองร้อยกว่า ถ้าค่าแรงขึ้นขนาดนั้น ค่าข้าวคง 50-60 อย่างอื่นก็ขึ้นอีก เงินเฟ้อตามกัน เหอๆ
เพราะ ค่าแรงขั้นต่ำสองร้อยกว่า ทำให้ข้าวจานละ 30-40
หรือ
เพราะ ข้าวจานละ 30-40 ทำให้ ค่าแรงขั้นต่ำ ต้องปรับเป็น สองร้อยกว่า
ครับ ?
เขาไม่ได้หลอกเรากิน แต่เรานั้นหลอกตัวเอง อิอ
ก็ลดคนแล้วใช้เครื่องจักรเพิ่มขึ้นสิครับ โรงงานที่ไต้หวันผลิตน้ำดื่มเดือนละสองล้านขวดใช้คน operate แค่ 6 คนเอง ( แต่เค้าลงทุน 100ล้านนะครับ ) :)
ผมก็เข้าใจแบบคุณว่า SME จ่ายไม่ไหวแน่ สำหรับ ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 ต่อให้ลดภาษีก็เถอะ
แต่ฐานเงินเดือนข้าราชการ 15000 นี่น่าจะเป็นไปได้
แต่อย่าลืมว่า ฝ่ายเค้ามีเบื้องหลัง ที่ผมขอเรียกว่า อัจฉริยะ และ ทำโครงการ + นโยบาย ขายฝัน ให้สำเร็จมาแล้ว
ถ้านโยบายหาเสียงมาจากคนๆนั้นคิดให้ ผมก็มีความมั่นใจประมาณ 80% ที่น่าจะทำได้
95% ของคนในประเทศนี้ทำงานกับ SME มีแค่ 5% ที่ทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่
แล้ว SME ที่ไหนจะมีเงินจ่ายวันละ 300 บาท