แฟนๆ จาวาอย่าเพิ่งมาโกรธผมนะครับ อันนี้เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ Bob Muglia รองประธานฝ่าย Server and Tools business ของไมโครซอฟท์เอง จะออกมาแนวๆ นี้คงไม่น่าแปลกใจมากนัก
Muglia พูดถึงแผนด้านซอฟต์แวร์สายนักพัฒนาของบริษัทในอนาคต เขาบอกว่า .NET ใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาเอาชนะ Java EE และกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ตลาดองค์กรเลือก โดยช่วงแรกๆ .NET มีส่วนแบ่ง 25% แต่ตอนนี้มีถึง 60% แล้ว
อย่างไรก็ตามถึงคนจะใช้เยอะ แต่ไมโครซอฟท์มีรายได้จากการขายซอฟต์แวร์นักพัฒนา (หมายถึง Visual Studio) ไม่เยอะนัก ซึ่งไมโครซอฟท์หวังจะชดเชยรายได้ส่วนที่หายไปนี้จาก Visual Studio Team System สำหรับการพัฒนาเป็นทีมแทน ปัจจุบันนี้ IBM Rational ครองตลาดนี้อยู่
Ray Ozzie คนที่มาแทนตำแหน่งของเกตส์เสริมว่า ไมโครซอฟท์พยายามจะสร้างเฟรมเวิร์คที่แตกต่างออกไปตามแต่ละตลาด เช่น ASP.NET สำหรับเว็บแอพพลิเคชัน และ Atlas สำหรับ AJAX
ที่มา - eWeek
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
>> โดยช่วงแรกๆ .NET มีส่วนแบ่ง 25% แต่ตอนนี้มีถึง 60% แล้ว พอจะมี Reference หาได้จากที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ เท่าที่ทำงาน ๆ มาก็เห็นใช้น้อยกว่า J2EE อีกนะครับ หรือว่าผมทำแต่แนว ๆ Java ก็ไม่รู้
>> โดยช่วงแรกๆ .NET มีส่วนแบ่ง 25% แต่ตอนนี้มีถึง 60% แล้ว ถ้าเป็นรายงานจากซัน จะบอกว่าอยู่ที่ 25% เท่าเดิม พร้อมเปลี่ยนหัวเรื่องเป็น เราทิ้ง .NET มาไกลแล้ว กร๊ากกกก
เขียนมาทั้ง 2 ภาษา ส่วนตัวแล้วผมชอบ .net มากกว่านะ framework มันเรียนรู้ง่ายกว่า
ผมว่า .net ไม่สเถียรครับ ที่เคยเจอคือ compile บนเครื่องหนึ่ง เอาไปรันอีกเครื่่องไม่ได้
nitiwit: ผมก็แปลมาจากในข่าวน่ะครับ ไม่มี ref อะไรมากกว่านั้นเหมือนกัน
ถ้าเป็นรายงานจากซัน จะบอกว่าอยู่ที่ 25% เท่าเดิม พร้อมเปลี่ยนหัวเรื่องเป็น เราทิ้ง .NET มาไกลแล้ว กร๊ากกกก ------------------------------------------------------------ >>นั่นสิครับ อาจจะต้องฟังความจากอีกด้าน หรือหาข้อมูลจากแหล่งข่าวเป็นกลางน่ะครับ ถึงจะเห็นภาพความเ็ป็นจริงได้ (เหมือนการเมืองไทย ตอนนี้ผมก็ฟังความสองด้านอยู่)
ผมว่า .net ไม่สเถียรครับ ที่เคยเจอคือ compile บนเครื่องหนึ่ง เอาไปรันอีกเครื่่องไม่ได้ ------------------------------------------------------------ >>อ่า..นั่นเป็นข้อได้เปรียบของ java อยู่แล้วนิครับ(?) แล้ว "ไม่เสถียร" ตามความเข้าใจของผม ผมว่าน่าจะเอาไปใช้กับ case ที่รันแล้วแฮ้งค์เป็นบางครั้งมากกว่านะครับ อ่านแล้วอาจจะขัดใจ ต้องขออภัยด้วยครับ
ผมอ่านเรื่องนี้จาก javalobby ไปแล้วครับ ไม่คิดว่าคุณ mk จะเอามาลง : P ส่วนตัวผมว่ามันเป็นคำคุยโต เป็น FUD มากกว่า
เรื่อง .NET ดีไม่ดียังไงเป็นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าเรื่องส่วนแบ่งเทียบกับ JavaEE แล้วละก็ เรื่องนี้โม้มากไปหน่อยแล้วละ
ถ้าเป็นรายงานจาก Ruby on Rails จะบอกว่า Java และ .NET ตกไปเหลืออย่างละ 25% พร้อมเปลี่ยนหัวเรื่องเป็น เราทิ้ง .NET/J2EE มาไกลแล้ว กร๊ากกกก
plynoi - เพิ่งมีรายงานจาก AFP เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2549 ที่ผ่านมาอ่ะ
เป็นเรื่องของ QBasic ว่าเราทิ้ง .NET/J2EE มาไกลมากแล้ว
เด๋วมีหลุด Perl หรือ php มาด้วยทำไงเนี่ย - -''
ถ้าเป็นรายงานจาก CPAN(perl) จะบอกว่า Java และ .NET ตกไปเหลืออย่างละ 25% พร้อมเปลี่ยนหัวเรื่องเป็น เราทิ้ง .NET/J2EE มาไกลแล้ว กร๊ากกกก
edit: ไม่เอา pascal , assembly , cobol , RPG Prolog , ADA , ฯลฯ เรยล่ะ - -'' -------------- vavar-studio
ถ้าส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ที่สำรวจ คือ แคนาดา กับ อเมริกา ก็ไม่แปลกที่ .net จะมีส่วนแบ่ง 60% ก็ตลาดอเมริกาเหนือ .net กินขาด แต่ตลาดแถวยุโรป, ญี่ปุ่น หรือไทยเป็นไงไม่รู้ ก็งานบริษัทรับจากแถวนั้นหมด
.NET ยังห่างไกลถ้าเทียบกับ .HTML กับ .PHP :P
deans4j:
เป้าหมายจริงๆ ของผมคือหัวข้อที่ controversial หน่อย เพื่อให้เกิด discussion เชิงสาระแบบนี้เยอะๆ ครับ ถ้าข่าวประเภทอ่านแล้วรับรู้ จบ มันก็ไม่ค่อยได้ฝึกสมองเท่าไร
การถกประเด็นแบบสร้างสรรค์และอิงวิชาการ เป็นอะไรที่บ้านเรายังขาดไปอีกเยอะ ผมเลยค่อนข้างดีใจที่เจอความเห็นคุณ nitiwit ที่ถามหา ref ก่อนจะเชื่ออะไรง่ายๆ
ไอ้ 60% น่ะ นับเฉพาะบน windows หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็เป็นไปได้
วิธีคิดก็ง่ายๆ ดูส่วนแบ่งตลาด server ว่า windows หรือ unix/linux อะไรมากกว่า