ในหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs ที่เขียนโดย Walter Isaacson นั้นนอกจากประเด็นเกี่ยวกับการทำสงครามนิวเคลียร์กับแอนดรอยด์ของ Jobs แล้ว สำนักข่าว AP ยังเสนอประเด็นที่น่าสนใจอีกหนึ่งประเด็น นั่นก็คือ Jobs ให้อิสรภาพเบ็ดเสร็จในการทำงานกับ Jonathan Ive ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสด้านการออกแบบอุตสาหกรรม (senior vice president of Industrial Design) และให้ Ive สามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาเห็นสมควรโดยไม่มีใครแย้งเขาและทีมของเขาได้
ในรายงานได้กล่าวไว้ว่า Jobs เรียก Ive ผู้ที่ทำงานด้วยกันที่แอปเปิลมาเกือบ 20 ปีว่าเป็น "คู่หูทางจิตวิญญาณ" นอกจากตัว Jobs เองแล้ว Ive มีอำนาจปฏิบัติงานมากกว่าคนอื่น ๆ ในแอปเปิลทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถมาสั่งเขาได้ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร และ Jobs เองก็ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นแต่แรกอยู่แล้ว
กล่าวกันว่า Ive และทีมของเขามีพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานแยกต่างหากจากบริษัททั้งหมด ทำให้เขาและทีมมีอิสรภาพและความยืดหยุ่นในการทำงานสูงมาก อิสรภาพที่เขาได้มานี้ก็จากผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดพร้อมทั้งรางวัลการออกแบบระดับนานาชาติจำนวนมากของเขานั่นเอง* และถึงแม้ว่าท้ายสุดแล้วงานออกแบบของเขาจะต้องผ่านความต้องการทางวิศวกรรมภายใต้ Bob Mansfield** และทีมของเขาก็ตาม แต่จากความเห็นของ Jobs ในหนังสือชีวประวัติของเขาแล้ว เราสามารถตีความได้ว่า Ive สามารถผลักดันงานออกแบบของเขาให้เป็นจริงได้หากนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ และอิสรภาพเบ็ดเสร็จนี้เองที่ทำให้ไอเดียและงานออกแบบของเขาไม่ถูกดัดแปลงหรือปฏิเสธโดยฝ่ายอื่น ๆ
*Jonathan Ive เป็นคนออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลจำนวนมาก ตั้งแต่ iMac รุ่นแรกปี 1998, iMac "ซาลาเปา", iMac โพลีคาร์บอเนตสีขาว มาจนถึง iMac อลูมิเนียมในปัจจุบัน รวมไปถึง G4 Cube, iPod "clickwheel", iBook, PowerBook, MacBook, Mac mini และ Magic Mouse ไปจนผลงานที่ทำร่วมกับ Harman-Kardon อย่างลำโพง Soundsticks และ iSub ที่มาคู่กัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่นี่ครับ
**Bob Mansfield เป็นผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ (senior vice president of Hardware Engineering)
Comments
ความคิดเห็นส่วนตัว: อิสรภาพในการทำงานโดยไม่ถูกพิจารณาโดยฝ่ายอื่นใดเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไว้ใจและเชื่อใจดีไซเนอร์คนนั้นจริง ๆ และดีไซเนอร์คนนั้นต้องเจ๋งจริงและมีดีจริงอย่างสุดล้ำครับ ส่วนตัวแล้ว Ive (งานออกแบบของเขา) เป็น 1 ใน 2 เหตุผลที่ทำให้ผมเปลี่ยนมาใช้ Mac เมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ
twitter.com/exfictz
Ive ผมนึกว่าจะอ่านว่า ไอเว่ ซะอีกครับ
จริง ๆ ถ้าจะถอดตามหลักผมเดาว่าน่าจะต้องเป็น ไอว์ ด้วยซ้ำครับ เหมือน five = ไฟว์ แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกมันไม่ค่อยสื่อวิธีการออกเสียง และไม่มั่นใจว่ามีหลักที่กำหนดไว้ชัดเจนเพียงใดหรือว่าเป็นเพียงธรรมเนียมปฏิบัติ เลยยึดตามเสียงอ่านแล้วถอดมาว่า ไอฟ์ เหมือนถ้าให้ผมถอด five คงเป็น ไฟฟ์ ;____;
twitter.com/exfictz
เคยคุยกับเพื่อนที่เป็น Interior ชาว British ก็อ่านออกเสียง "ไอฟ์" ชัดเจนครับ
V ฝรั่งออกเสียงเป็น "วฟ" ครับ
Ive = อิเวะ XD
twitter.com/exfictz
ผมเพิ่งสังเกต เห็นตอนแรกคุณใช้ Steve Jobs ดังนั้นผมว่าแก้เป็น Jobs ไปให้หมดเลยนะดีกว่าครับ
ป.ล. สงสัยผมก็คงเคยพลาดลักษณะนี้เช่นกัน ชื่อคนหนึ่งไทยอีกคนอังกฤษ เหอะๆ
แก้แล้วครับ
twitter.com/exfictz
approve เรียบร้อยครับ ไม่มีอะไรแก้เพิ่มเติม (ผมเพิ่มแท็ก Jonathan Ive ให้แล้ว)
ขอบคุณมากครับ
twitter.com/exfictz
ขอให้แก้ไขคำว่า "การออกแบบอุตสาหการ" เป็น "การออกแบบอุตสาหกรรม" (Industrial design) ครับ ขอบคุณครับ
แก้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ
twitter.com/exfictz
ตกตัว e ไปครับ
onedd.net
แก้แล้วครับ
twitter.com/exfictz
อ่าน อีฟ มาตลอด ^^"
+1 โจนาธาน อีฟ
เค้าเป็นคนออกแบบ Eva ในเรื่อง Wall-E ด้วยนะ ^^
ผมออกเสียงเหมือน I ' ve
คนนี้แหละที่เหมาะสมที่จะเป็น CEO ของ Apple คนต่อไป
ผมว่าให้ Tim Cook เป็น CEO
แต่ให้นายคนนี้ไปเป็นคนนำเสนอ น่าจะเวิร์ค (มั้ง) ฮ่าๆ
คนนี้เน้นไปด้านดีไซนฺ์อย่างเดียวหรือเปล่า ไม่น่าจะได้เป็น 100%
ดูการพูดของแกแล้ว ค่อนข้างตะกุตะกัก พูดไม่เก่ง ไม่มีเสน่ห์ในการชักจูงคนเท่าไหร่นะครับ
vice president มันน่าจะหมายถึง รองประธานฝ่าย... แทนที่จะเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หรือเปล่าครับ
+1
คำเแปลตำแหน่งค่อนข้างเยิ่นเย้อเกินไปครับ
เรียกว่า รองประธานอาวุโสฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ ก็พอแล้ว
ยอมรับว่าเรื่องนี้ผมไม่แม่นจริง ๆ แต่ตอนนี้แก้เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส แล้วโดยอิงจากบล็อกนี้ครับ
twitter.com/exfictz
บริษัทผม vp คือผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อันนี้แล้วแต่บริษัทด้วยอะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
นั่นสิครับ ตอนแรกที่ผมแปลอย่างนั้นก็เพราะอิงมาจากบริษัทที่แม่ผมทำงานอีกทีนึง แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดีว่าทุกบริษัทเรียกเหมือนกันมั้ย
twitter.com/exfictz
ต้องดู Organization Chart ครับ
อย่างบริษัทเก่าผมนี่ VP เป็นแค่หัวหน้า Department (ฝ่าย) เอง
หัวหน้าสายงาน IT เป็นถึง EVP แล้วมี SVP เป็นรองฯ
ผมว่าแค่เห็นหน้าพี่แกก็ไม่มีใครกล้าสั่งแล้วครับ
ใช้ Mac เพราะ "จ๊อน่าตัล ไอฟ" ครับ อิอิ
คนนำเสนอผมว่าน่าจะให้ Scott Forstall เท่าที่ดู keynote มา ทั้ง Tim Cook / Bob / Philip นี่ดูแล้วหลับได้ การดึงความสนใจของ Scott นี่รอง ๆ Jobs เลย
เห็นด้วยครับ forstall ดูค่อนข้างพูดเร็วเหมือนมีอะไรจะโชว์ตลอดเวลา น่าจะดึงคนให้อยู่กะการนำเสนอได้
อ่าวตอนแรกหลงว่า Jobs เป็นคนออกแบบอุปกรณ์เหล่านี้ซะอีก งั้นแสดงว่าสิ่งของส่วนใหญ่ต่างๆที่สาวกใช้ก็มาจาก Iveนี่เอง 5555
Jobs เก่งในการค้นหาคนเก่ง และดึงดูดคนเก่ง ครับ และคอยคุมหางเสือว่าแอปเปิ้ลควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร ตอนจ๊อปส์กลับเข้าไปในแอปเปิ้ลตอนแรก ๆ ไอฟ์ เป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆครับ เพราะความคิดเค้าไม่เหมือนชาวบ้าน แต่จ๊อปส์ก็ได้ไปเจอ และคิดว่า นี่แหละเพชรแท้
ไม่เคยได้ยินว่า "Ive เป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆ เลย"
เคยได้ยินแต่ Ive ทำบริษัทของตัวเอง ชื่อ Tangerine ออกแบบสุขภัณฑ์
และปี 1992 ถูกจ้างโดย Robert Brunner ซึ่งเป็น Chief Industrial Design ของ Apple ตอนนั้น
หลังจากนั้นก็มาได้ตำแหน่งใน Apple ปี 1997 เป็น Senior Vice President ฝ่าย Industrial Design ช่วง Jobs กลับมาพอดี แล้วก็ดูแลทีมที่รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยเฉพาะ นับแต่นั้นมา
ผมอาจได้ยินมาผิดก็ได้ สงสัย Ive คงไต่เต้ามาจากพนักงานตัวเล็กๆ จริงๆ มั๊ง!
เป็น senior vice president ตอนปี 2005 ครับ หลังจาก Jobs กลับมานานพอสมควร
twitter.com/exfictz
ถูกต้องแล้วครับ
ในวิดีโอ Presentation สินค้า หรือกระทั่วบน Keynote เอง Ive ก็ปรากฏตัวบนเวทีบ่อยๆ ครับ
ไม่แปลก
งั้นก็แสดงว่าผู้สร้างสรรค์ตัวจริงก็คือ Ive ไม่ใช่ Jobs ดิครับในด้านของอุปกรณ์นะ เห็นมีแต่คนพูดว่า Jobs เป็นผู้สร้างสิ่งใหม่ๆให้กับโลกใบนี่ บลาๆๆๆ แต่จริงๆแล้วคนที่ออกแบบแล้วคิดมันขึ้นมาคือ Ive ส่วน Jobs ก็เป็นแค่ผู้บริหารรที่มีแนวทางของตัวเอง หรือผมเข้าใจผิดหว่า :D
ผมว่า Jobs คงบอกว่าอยากได้ไอ้โน่นนู่นนี่นั่นและมีความสามารถอะไรก็ว่าไป ส่วน Ive ก็ออกแบบสิ่งที่ Jobs ต้องการให้เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าครับ
ตามเข้าใจ Jobs น่าจะคิดด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี ส่วน Ive น่าจะคิดในส่วนของรูปแบบ รูปร่างของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เข้ากับคอนเซปของตัว OS ครับ ซึ่งก็มีผลอย่างมากในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เพราะแต่ล่ะอย่างแกออกแบบมาได้แบบ สวยหรู แต่เรียบง่าย
มันน่าจะเป็นแบบนี้มั้งครับ
Jobs : ผมอยากได้ Mac ที่ built-in จอ และ hardware ทุกอย่างเข้าไว้ในเครื่องเดียวกัน ต้องมี style ประมาณนี้นะคือ โค้งมน มีเอกลักษณ์ ไม่ใช่กล่องสี่เหลี่ยมเทอะทะๆ เล่นสีสันได้เต็มที่เลย บลา บลา บลา...
Ive : จัดให้ครับ
ผ่านไป 3 เดือน
Ive : ประมาณนี้โอเคไหมครับ (เอาร่างหรือ mockup มาให้ดู)
Jobs : โอเคๆ โดยรวมดีแล้ว แต่สีตัดกันให้มากกว่านี้หน่อย ใช้สีโปร่งแสงเสริมบ้างก็ได้มี Contrast บ้าง บลา บลา บลา...
ป.ล. ข้อความทั้งหมดเป็นข้อความที่สมมติขึ้น ไม่มีเค้ามูลความจริงใดๆนะครับ
ควรรู้จักแยกแยะระหว่าง CEO กับ designer ให้เป็นนะครับ
That is the way things are.
+1
+1
เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนผู้กำกับหนังครับ หนังของสปีลเบิร์ก เค้าก็ไม่ได้ทำเอฟเฟค หรือเขียนบทเอง แต่เค้าคือคนที่กำหนดและอนุญาติให้มันออกมาเป็นแบบนี้
อยากให้นาย Ive มาลองออกแบบบ้านให้หน่อยจะออกมาเป็นแบบใหนนะ...
คนนี้เห็นเด่นตั้งแต่รูปโครงสร้างแผนผังละ ไม่ยิ้มอยู่คนเดียว
เท่าที่ทราบเป็นคนอังกฤษ ที่เก่งทีเดียวครับ พอดีเคยทำงานอยู่ที่ British Council ตอนนั้นช่วงที่ Ipod ออกมาใหม่ๆ BC พยายามเอาหมอนี่มาโปรโมทมากๆ ทั้ง Biography ทั้ง Handbill อะไรต่อมิอะไรเพียบ ประมาณว่า ความสำเร็จของ Ipod มาจากคนอังกฤษ....
คุณลุง >___<)/
การออกแบบของคนนี้ ทำให้ผมและหลาย ๆ คนที่ทำงานอยากทดลองใช้สินค้าของ apple มากเลยครับ เขาเป็นองค์ประกอบหลัก แม้ราคาจะแรงกว่ายี่ห้ออื่นๆ ก็ยังอยากซื้อ
เปรียบเหมือนการทำอาหารดีที่น่าลองกิน ร้านไกลก็อยากจะไปกิน
Steve Jobs ดูภาพรวม ดูทำเล ชอบชิมชอบดูอาหารร้านอื่น ๆ ตลอดถึงกำหนดทิศทาง และเสิร์ฟเองด้วย สุดท้ายยังใช้คำเชิญชวนให้คนอยากลองกิน "รสชาติที่อร่อยที่สุดในโลก จานบางมาก ๆ very thin" :)
Jonathan Ive ออกแบบอาหาร ออกแบบรสชาติ ออกแบบหน้าตา
ทีมปรุงอาหาร
Albert Gore, Philip Schiller , Bob Mansfield , Scott Forstall, Tim Cook พวกเรายังต่อแถวรอกิน
อ่านเม้นไปมา เริ่ม งง ถึงไม่ใช่แฟนคลับแต่จริง ๆ ผมว่าน่าจะไปลองอ่านประวัติดูครับ
โคตรเท่ ~o~