CNet รายงานถึงเนื้อหาการค้นคว้าจาก Citigroup ที่หลังจากได้รับข้อมูลจากทิม คุกและซีเอฟโอของแอปเปิล Peter Oppenhimer พบว่า MacBook Air ไม่น่าจะเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล ARM แม้ว่าแพลตฟอร์ม iOS จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยจากการพูดคุยกับพนักงานระดับสูงของแอปเปิลทั้งสอง เชื่อว่าแทนที่ MacBook Air จะมีการเปลี่ยนมาใช้ ARM แพลตฟอร์มไอแพ็ดต่างหากที่โตขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มกินตลาดของ MacBook Air แทน และสิ่งที่คนอื่นคาดว่า MacBook Air ที่ใช้ชิป ARM ทำได้ก็น่าจะสามารถทำได้ด้วยไอแพ็ดในอนาคตอยู่แล้ว
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าแอปเปิลอาจจะไม่เปลี่ยนชิปของสินค้าตระกูล MacBook มาเป็น ARM เร็ว ๆ นี้ แต่สินค้าตระกูลไอแพ็ดต่างหาก ที่จะมีความสามารถเพิ่มขึ้นจนใกล้เคียงสินค้าตระกูลคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ และเป็นไปได้ว่าอนาคตเราอาจจะได้เห็นไอแพ็ดที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ดและทำงานลักษณะเดียวกับ Transformer Prime ก็ได้
ที่มา - Cnet
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
พร้อมกับคีย์บอร์ดเช่น <<< งง กับคำว่าเช่น
เปลี่ยนคำแล้วลบออกไม่หมดครับ เรียบร้อย
@TonsTweetings
ว่าแล้ว แท็บเล็ต กับ โน้ตบุ๊ค ต้องรวมร่างกันในที่สุด
ถ้า Asus ได้สิทธิับัตรไป ก็นอนกินได้เลย
สมัยก่อนผมเคยพูดว่า Tablet จะสามารถทำงานแทน Notebook ได้ มีคนเถียงตรูจัง
เห็นได้ชัดว่าความพยายามของเหล่าผู้ผลิต OS สุดท้ายก็ทำให้มันมาบรรจบกันอยู่ดี
น่าจะแทน netbook มากกว่านะ
tablet มันอัพภาพขึ้นเวบผ่าน web form ได้ป่าวครับ พยายามอยู่นานแล้ว
windows Tablet ไง
ปล ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ Netbook , Mobile , Tablet หรือ Notebook
ประเด็นมันอยู่ที่ OS อะไรต่างหาก
iPad , iPhone
ต้องเจลนะ ถึงอัพได้
แต่งงสุดๆ เพราะตอนอัพเหห็นแต่ชื่อไฟล์ ต้องจำมาจาก โฟโต้อีกทีว่ารูปไหนจะอัพ แต่ 5.0.1 ยังไม่ได้ลอง
Android ทำได้ตั้งนานแล้วนะคับ - -' สามารถอัพโหลดไฟล์ได้เลย
ผมตาม Link มาจาก Rss(Google reader) ไม่รู้ทำไม มัน Link ไปที่นี่แทนครับ http://blognone.feedsportal.com/c/34261/f/623329/s/1c677183/l/0L0Sblognone0N0Cnews0C295410C0JE0A0JB80J990JE0A0JB80JB10JE0A0JB80J810JE0A0JB80JA70JE0A0JB80JB40JE0A0JB80J880JE0A0JB80JB10JE0A0JB80JA20Emacbook0Eair0E0JE0A0JB90J840JE0A0JB80JA10JE0A0JB90J880JE0A0JB90J80A0JE0A0JB80J9B0JE0A0JB80JA50JE0A0JB80JB50JE0A0JB90J880JE0A0JB80JA20JE0A0JB80J990JE0A0JB80JA10JE0A0JB80JB20JE0A0JB90J830JE0A0JB80J8A0JE0A0JB90J890Earm0E0JE0A0JB90J840JE0A0JB80JAD0JE0A0JB90J810JE0A0JB80J9E0JE0A0JB90J870JE0A0JB80J940JE0A0JB80J840JE0A0JB80JA70JE0A0JB80JB20JE0A0JB80JA10JE0A0JB80JAA0JE0A0JB80JB20JE0A0JB80JA10JE0A0JB80JB20JE0A0JB80JA30JE0A0JB80J960JE0A0JB80J880JE0A0JB80JB0A0JE0A0JB90J80A0JE0A0JB80J9E0JE0A0JB80JB40JE0A0JB90J880JE0A0JB80JA10JE0A0JB80J820JE0A0JB80JB60JE0A0JB90J890JE0A0JB80J990JE0A0JB90J830JE0A0JB80J810JE0A0JB80JA50JE0A0JB90J890JE0A0JB90J80A0JE0A0JB80J840JE0A0JB80JB50JE0A0JB80JA20JE0A0JB80J870Emacbook/story01.htm
เมื่อวานก็เจอครั้งนึง แต่จำไม่ได้ว่าข่าวไหน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับ iPad ตอนนี้น่าจะเป็น Windows 8
ผมขอเห็นด้วย หลังจาก windows tablet ได้ตลาดสัก 20% ก่อนนะคับ ตอนนี้บอกตรง ๆ ไม่เห็นความน่ากลัวเลย
Windows Tablet จะทำได้ครึ่งหนึ่งของส่วนแบ่งในตลาดของ iPad หรือเปล่าผมยังคิดหนักเลย
ถ้า Windows 8 มันทำได้ทุกอย่างใกล้เคียง Desktop Version
อย่างน้อยก็ความสามารถพื้นฐานแบบ Office และลงโปรแกรมส่วนใหญ่ได้เหมือนกัน
แล้วก็มี Dock ล่ะก็ผมคนนึงล่ะจะยอมใช้ เครื่องเดียวใช้ได้ทั้ง Tablet และ netbook
ถ้า Windows8 Phone มันทำได้ขนาดนั้น ผมว่า Windows8 Desktop คงจะกลัวมากกว่าใครๆ นะครับ ถ้าเป็นแบบนั้น microsoft คงจะเลือกหนทางบอนไซ OS ตัวเองไม่ให้ทับไลน์มากกว่า
ผมว่าไม่ทับหรอกคับ เพราะปัจจุบันคนพก Notebook เพราะต้องการการเคลื่อนที่ได้ ในขณะที่งานบางงานจำเป็นต้องใช้ Desktop เพราะต้องการใช้พลังงานการประมวลผล เช่น การเล่นเกม
สุดท้ายแล้วผมว่ามันจะเหลือ Smart phone + Desktop + Tablet แบบประกอบร่างเป็น Notebook ได้
ที่ผมคิดว่า Windows 8 จะน่ากลัวสำหรับ iPad เพราะถ้าเวอร์ชั่น Tablet มันคงความสามารถเท่าเทียมกับเวอร์ชั่น Notebook ได้ iPad แทบจะกลายเป็นของเล่นไปเลยสำหรับผม เพราะ iPad มันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย นอกจากการดูอะไรได้ถนัดตาเพราะจอมันใหญ่กว่าโทรศัพท์
แต่ถ้าเป็น Windows 8 ที่ความสามารถเท่าเทียมกับเวอร์ชั่น Desktop แบบถอดร่างได้แบบเดียวกับ Transformer ผมจะทำได้ทุกอย่างที่ผมอยากทำ เวลาเดินทางอยู่ก็ใช้งานได้ แม้จะพิมพ์ไม่ถนัดเท่าเสียบ Dock แต่ไฟล์ต่างๆ โปรแกรมที่ใช้งานต่างๆมันยังคงเป็นโปรแกรมเดิม เวลาถึงที่หมาย ก็เอาเสียบ Dock ใช้งานเป็น Laptop ได้เต็มรูปแบบ
Apple มาถูกทางแล้วครับที่แยก OSX กับ iOS อย่างชัดเจน ไม่เอามาปนกัน
ด้านประสิทธิภาพ Windows 8 อย่าประมาท OSX Linux ในวงการ server ก็ทราบกันอยู่ว่าเจ้าไหนมีคนใช้มากกว่า ด้านอื่นๆก็อย่างว่านะครับ ไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ
ความเหมาะสมกับความเป็นTabletต้องยกให้ iOS ครับ
ประเด็นที่สำคัญคือ Windows8 จะเปิดตัวราคาที่เท่าไหร่ และ Tablet ที่ใช้ Windows8 จะมีราคาที่เท่าไหร่ อันนี้สำคัญมากครับ
ยังไง MS ก็ได้กับได้แหละครับ
เพราะโมเดลของ MS คือรายได้มาจากการขาย OS ไม่ได้มาจากการขาย Hardware
ต่อให้เสียรายได้ของ Desktop ไปก็ได้รายได้มาจาก Tablet (ซึ่งค่า OS โดนรวมไปอยู่ในค่าเครื่องที่ผู้ผลิตตั้งแล้ว) แทน เหมือนกับ Notebook แล้ว Branded Desktop แบบ Windows Bundle
ส่วนเหตุผลอื่นๆ คห.บนอธิบายไว้ชัดเจนและเหมือนกับที่ผมมองแล้วครับ
ถ้าราคา windows 8 อยู่ในระดับ windows 7 แล้ว Tablet ที่ใช้ windows 8 จะมีราคาเท่าไหร่กัน อันนี้น่าคิด
เรื่องราคาราคาคงได้ไปขึ้นชกกับ iPad เลยมั้งครับ ปล่อยตลาดกลางให้ Android ครองไปเพราะลงมาสู้ราคาไม่ไหว
ข้อสำคัญอีกอย่างนึงคือ Tablet กับ PC มันมีความแตกต่างกัน
GUI ของ Tablet ก็ควรใช้กับ Tablet เพราะคนใช้ Tablet ไม่ต้องการ GUI ของ PC
GUI ของ PC ก็ไม่ควรใช้ GUI ของ Tablet เพราะ งานมันต่างกันมากครับ บางงานต้องใช้เมาส์ บางงานต้องแทร็กแพต บางงานต้องใช้ระบบทัชสกรีน ซึ่ง GUI มันเหมาะสมกับ อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป
ราคาต้นทุนของ OS มันต่างกันมากครับ
คิดว่า Google กับ Apple จะใช้ทุนในการสร้าง OS มากเท่า Microsoft หรือครับ ทุกคนทราบกันดีว่า OSX ราคาต่ำกว่า Windows มากนัก แล้วราคา Windows 8 มันจะไปเท่ากับ iOS ได้อย่างไรกันล่ะครับ
บริษัทที่เอา Unix BSD มาต่อยอด(Apple) กับบริษัทที่เอา Linux มาต่อยอด (Google) ย่อมได้เปรียบในด้านราคาแน่นอนครับ
windows8 มีอะไรใหม่ที่ผู้ใช้ windows7 ต้องเปลี่ยนมาใช้ นี่ก็อีกเรื่องที่ต้องพิจารณา
โลกในยุคปัจจุบันไม่ง่ายสำหรับ Microsoft เลยครับ
ลองนึกสภาพ Tablet ที่มีการแสดงผลสองโหมดดูคับ โหมด Metro สำหรับใช้โปรแกรมแบบสัมผัส กับโหมดดั่งเดิมของ PC เวลาจะใช้โปรแกรมที่เป็นโหมด Metro ก็สลับไปโหมด Metro เวลาที่ต้องการใช้โปรแกรมแบบ PC ก็สลับไปโหมด PC สุดยอดใช่มั้ยละ? เราสามารถที่จะใช้งานโปรแกรมระดับสุดยอดได้จาก Tablet เช่น Microsoft Office, Microsoft Visual Studio, Notepad++, Google Chrome ระดับ Desktop, ไร้บั๊กภาษาไทย แสดงผลภาษาไทยได้ถูกต้องสวยงาม
เรื่องราคา ก็น่าคิดเหมือนกันคับว่ามันจะระดับไหน ท่างฝั่ง Apple กับ Google อาจจะได้เปรียบเรื่องราคารวมทั้งหมด แต่ถ้าราคาไม่เวอร์จนเกินไป ผมก็ยินดีจ่าย เพราะปัจจุบันผมใช้ ThinkPad X220 ราคา 34,900 บาทอยู่ ถ้าราคาอยู่ในช่วงต่ำกว่า 35,000 ก็ OK สำหรับผม แต่สำหรับคนอื่น ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะยินดีจ่ายรึเปล่า แต่ผมคิดว่า ระดับคนทำงานที่สามารถใช้มันทำงานได้ เขาจะยินดีจ่าย
หน้าจอที่ใหญ่กว่า 10" ไม่ควรเป็น Tablet
ส่วนหน้าจอที่เล็กกว่า 11" ก้ไม่เหมาะกับการเป็น PC ระดับมืออาชีพหรือการทำงานเฉพาะทาง แม้แต่ 11" เองก็ยังไม่เหมาะ
ตอนนี้ Macbook air 11" ก็ทำออกมาเพื่อใช้งานระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่ PC ระดับมืออาชีพหรือการทำงานเฉพาะทาง
ถ้า iPad มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ แน่นอนว่า Macbook Air 11" จะถูกแทนที่ไป แต่ไม่นับรวม 13" และ 15"
แต่เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะมีซอฟแวรฺที่ทำงานได้ระดับหนึ่งใน iPad อาจจะเป็นซอฟแวร์ Office แบบ iWork ที่เปลี่ยน GUI หรือ โปรแกรมที่เน้นคอนเท็นสำเร็จรูปต่างๆเช่น Poser Daz3D
แต่ระดับ Maya Xcode FinalCut Pro Office Ect ที่จะทำแบบจริงจัง ก้จะไม่มีอย่างแน่นอน เพราะ มันมีวัตถุประสงค์ที่แยกกันอย่างชัดเจนครับ
GUI ของ OSX อาจจะเหมือน iPad มากขึ้น เพื่อความสะดวกในการใช้ แต่ก็ยังคงความเป็น OSX ไว้ คือทำงานกับ เมาส์ แทร็คแพต
จะมีกันสักกี่คนที่ชอบโทรศัพท์ขนาด 5" 7"
จะมีสักกี่คนจะชอบใช้ Photoshop autoCADด้วยจอขนาด 10"
จะมีกันสักกี่คนที่ใช้ Tablet กับเครื่องทีมีขนาด 13" 15" ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 27" แค่คิดก็เมื่อยแล้วครับ Tablet มันไม่ใช่แค่หน้าจอ มันมีระบบรับการเคลื่อนที่ของ Tablet คงไม่มีใครที่จะเอา หน้าจอที่ใหญ่กว่า 10" หมุนไปหมุนมา(ถึงแม้จะบอกว่ามีรีโมทแบบ PS3 แต่ก็ยังคงเจอปัญหาเมื่อยมือกับ Tablet ที่ใหญ่จนเกินไปนั่นเอง)
เรื่องแบตเตอรี่ ก็เป้นอีกประเด็นที่ต้องพิจราณาครับ แต่ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่เอ้ออำนวยในด้านแบตเตอรี่ แต่ความเหมาะสมในการใช้งานก็ยังคงเป้นเรื่องสำคัญที่สุดอยู่ดี
"จะมีสักกี่คนจะชอบใช้ Photoshop autoCADด้วยจอขนาด 10" จะมีกันสักกี่คนที่ใช้ Tablet กับเครื่องทีมีขนาด 13" 15" ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 27" แค่คิดก็เมื่อยแล้วครับ"
เหมือนจะพยายามเอา Tablet + Dock มาเทียบแทนที่ Desktop ยังไงไม่รู้เลยครับ
ผมบอกแต่แรกแล้วว่ามันแค่แทน Netbook หรือ Notebook ระดับ Ultra Slim ที่การใช้งานอยู่ในระดับทั่วไปคือเปิด Browser และพิมพ์งาน Office + โปรแกรมพื้นฐานอีกนิดหน่อยเท่านั้น
ปีนี้ Macbook Pro 13" 15" จะเปลี่ยนเป็น Macbook air 13" 15" ทั้งหมดครับ
iPad + Dock จะแทนที่ Macbook air 11" ได้เท่านั้นครับ คีบอร์ดไร้สายที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ทำให้ iPad ไม่ต้องมี Dock ก็สามารถใช้งานแบบมีคีบอร์ดได้แล้วครับ
Macbook Air ขนาด 13" 15" ไม่ใช่ Desktop อย่างแน่นอนครับ แต่มันคือ อนาคตของ Macbook
จริงดิ! ขอที่มา
เอาจริงคือผมว่าทำไม่ได้ Pro ก็คือ Pro
เปลี่ยน Macbook เป็น Air ให้หมดยังพอว่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Ultra Book คือสิ่งที่ Intel ต้องการผลักดันในปีนี้ อันนี้แหละครับคือที่มา และ Intel เชื่อว่าจะเป็น 40% ของ NoteBook ในปีนี้ อีกทั้งยังมองว่าจะเป็นรูปแบบ NoteBook ในอนาคตอีกด้วย
และApple ต้องการให้ Air คือ อนาคตของ Macbook ซึ่ง MBP ก็คือ Macbook
ปีนี้ต้องรอดูกันไปว่า MacPro MBP จะไปแบบเดียวกับ Xserve หรือไม่
ตอนนี้ MacMini เข้ามาแทนที่ Xserve เป็นที่เรียบร้อย รายถัดไปคงเป็น MacPro
เช่นเดียวกัน MacBook ถูกแทนที่ด้วย MacBookAir ดังนั้น รายถัดไปคงเป็น MBP
รอดูกันในปีนี้แล้วกันครับ ว่าปีนี้ Mac จะเหลือแต่เพียง iMac , MacbookAir , MacMini ใช่หรือไม่
ลองอ่านข่าว Windows 8 ดูบ้างครับ เค้าพัฒนา Metro UI มาสำหรับการใช้งานบน Tablet โดยเฉพาะอยู่แล้วนะ
ส่วนเรื่องต้นทุนในการสร้าง OS กับการตั้งราคาขาย OS ผมมองว่าไม่ค่อยเกี่ยวกันนะ ถ้าจำเป็นจริงๆเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด Microsoft อาจจะลดราคา Windows ลงมาก็ได้ หรือแม้กระทั่งตั้งราคาบน PC กับ บน Tablet ให้ต่างกันโดยหั่นบาง Feature ออก (อันหลัง Microsoft เค้าถนัด แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องดีหรอกนะ)
ในขณะเดียวกันที่ OSX จำเป็นต้องขายถูก ก็อาจจะเป็นเพราะส่วนแบ่งตลาดเค้าน้อยก็ได้เช่นกัน (แต่จริงๆก็น่าจะเป็นเพราะเค้าไม่ได้คิดจะหากำไรจากการขาย OS อยู่แล้ว เน้นขายฮาร์ดแวร์มากกว่า)
ส่วนเรื่องขนาดหน้าจอกับการใช้งานผมยังงงๆอยู่ว่าใครเป็นคนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตอนไหน แต่ยังไง Tablet ขนาดคงไม่เกิน 10" หรอกครับ และผมว่าไม่ได้มีใครมองว่าจะเอางานระดับ Photoshop AutoCAD ไปทำบน Tablet อย่างเป็นล่ำเป็นสัน (แม้ว่ามันอาจจะทำได้)
แต่ผมมองว่า Ecosystem ของ Microsoft จะช่วยให้การทำงานบน Windows 8 Tablet เป็นไปอย่างราบรื่นมากกว่า ด้วยความที่มันจะเป็น OS Windows 8 ด้วยกันทั้ง Tablet และ PC ทำให้มันน่าจะมีความเข้ากันได้สูง เอาเป็นว่าแค่ตอนนี้ถ้ามันใช้งานสามารถเปิดและแก้ไขไฟล์ Office ไฟล์เดียวกันได้ทั้งบน PC และ Tablet โดยไม่มีผิดเพี้ยน หรือแม้กระมั่งการเสียบ Handy Drive บน Tablet ได้ง่ายๆ หรืออัพไฟล์ขึ้นเว็บได้โดยไม่ติดข้อจำจัดของ OS ผู้ใช้ทั่วไปก็น่าจะยินดีมากแล้วล่ะ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ตอนนี้ iWork for iOS กับ OSX ก็ทำงานร่วมกันไม่มีปัญหาครับ เช่นเดียวกับSketchBooks จาก Autodesk ก็เช่นเดียวกัน
บาง apps บางการใช้งาน iPad ก็ทำได้ดีกว่า OSX อาทิ งานวาดทั่วไป งานด้านการบันเทิงบางอย่าง การใช้งานด้านหนังสือ การเล่นเกมส์บางเกมส์ Ect. แต่ต้องไม่ใช่งานระดับมืออาชีพหรือเฉพาะด้าน อาทิ งานวาดที่ต้องใช้ Pen Tool เป็นต้น แต่ก็ต้องทำ GUI ให้เหมาะกับบริบทที่แตกต่างกันออกไปครับ
บริบท iOS กับ OSX แตกต่างกัน ดังนั้น GUI ของ Apps ก็แตกต่างกันครับ
โดย iOS ไม่เหมาะกับ จอที่สูงกว่า 10"
OSX ก็เช่นกันไม่เหมาะกับจอที่ต่ำกว่า 10"
Input และ ขนาดหน้าจอ ทำให้ GUI ต้องมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นแล้ว GUI ของ Apps for iOS และ OSX ต้องแตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งแม้แต่ iPad และ iPhone ยังต้องมี GUI ที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น เป็นทิศทางที่ถูกต้องที่ OSX และ iOS ไม่ทำ GUI ของApps แบบเดียวกัน แบบที่ Windows8 ทำอยู่
ผมถึงได้บอกไงว่าลองติดตามข่าว Windows 8 ดูบ้างครับ ทาง Microsoft ได้ออกแบบ GUI ไว้รองรับทั้ง Tablet และ PC ครับ และยิ่งไปกว่านั้นคือผู้ใช้งานเลือกใช้งานได้ทั้งสองแบบครับ
ไมโครซอฟท์ยืนยัน Windows 8 จะมี UI สองโหมด คือ แบบดั้งเดิมกับ Metro
ยังไงก็ตามผมเชื่อว่าไม่มีใครบอกว่าแนวทางไหนถูกต้องได้ดีกว่าผู้ใช้งานครับ และตอนนี้ Windows 8 ก็ยังไม่ออกจะด่วนสรุปก็ใช้ที แต่ตอนนี้ผมขอลุ้นกับแนวทางที่ให้ผู้ใช้เลือกได้ด้วยตัวเองครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมโหลดมาใช้แล้วครับ
และเช่นเดียวกัน OSX Lion ก็ทำออกมาให้มี GUI แบบเดียวกับ iOS ในหลายๆด้าน อาทิ ปุ่ม Home เป็นต้น
แต่ OSX และ iOS ไม่ทำ GUI ของApps ให้มันเหมือนกันนั่นเอง เพราะมันมีบริบทของ Input ที่แตกต่างกันนั่นเอง ส่วนเรื่องขนาดหน้าจอก็ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้มาพอสมควรแล้ว
ต้องบอกก่อนตัว Windows 8 ที่ปล่อยให้โหลดตอนนี้เป็น Developer Preview นะครับยังไม่ได้เป็นตัวจริงที่จะขาย
แล้วคุณคงยังไม่รู้ว่านอกจากตัว Windows 8 จะเลือก GUI ของตัว OS ให้เป็น Tablet (Metro) หรือ PC (Desktop) ได้
เค้ายังแยกแนวทางการพัฒนาแอพอย่างชัดเจนด้วยครับ และแอพที่มี GUI เหมาะกับบน Tablet จะเรียกว่า Metro Style App ครับ
รู้จักกับ Metro Style App และ WinRT คู่หูของการพัฒนาโปรแกรมบน Windows 8
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ครับ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีที่เดียวเลยครับ
ณ ปัจจุบันนี้ iOS For Tablet ก็มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Windows Home แล้วนะครับ แต่มี GUI และ API แบบ Tablet คือ Cocoa Touch ถ้าต้องการใช้งานจอที่ใหญ่ขึ้นก็ใช้วิธีการต่อจอด้านนอก
ส่วน OSX จะไปอยู่ในส่วนเทียบเท่า windows ultimate
และ OS X Server เทียบเท่า Windows Server
ในฝั่ง Apple จะเชื่อว่าในส่วนของความแตกต่างทางฮาร์ดแวร์ อาทิ ขนาดจอ หน่วยประมวลผล InPut ก็มีความเหมาะสมกับ OS ที่แตกต่างกันไป จึงมีการแบ่งกันชัดเจน โดยมีแนวความคิดว่า Tablet ต้องขนาดไม่เกิน 10" ซึ่ง ณ จุดนี้ GUI ของ Tablet ก็เป็นแบบเฉพาะของ Tablet เนื่องด้วยขนาดจอและ Input ส่วน GUI ของ OSX ก็เป็นแบบเฉพาะของ Notebook และ Desktop คือ เมาส์ และ แทร็คแพต พร้อมหน้าจอไม่ต่ำกว่า 10" ส่วน Pocket Computer ก็เป็น GUI For iPhone และ iPod Touch โดยขนาดต้องไม่เกิน 4" สำหรับ iPod Nano ก็มี GUI สำหรับเหมาะกับขนาดหน้าจอที่เป็นเครื่องประดับได้ และ GUI For TV สำหรับ TV ของ Apple
ทุกบริษัทต่างมีแนวความคิดแตกต่างกันไป ดังนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้บริโภคที่จะเลือกสินค้าที่ตนเองพึงพอใจและชื่นชอบมากที่สุด ในฐานะผู้ถือหุ้นก็สามารถเลือกตาม วิจารณญาณส่วนบุคคลครับ
สิ่งที่น่าจะกลัว Windows 8 มากที่สุดน่าจะเป็น Android ซะมากกว่า เป็น OS ที่ให้อิสระในการปรับแต่งมากเหมือกัน กินกันเอง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
อันนั้นมันก็แน่นอนสำหรับผมอยู่แล้วคับ - -' เพราะขนาด iPad เอง Android ก็ยังสู้ไม่ได้
iPad เพิ่ม Keyboard ส่วน MBA ตัด Keyboard ละกัน
แอปเปิลเขามี Apple Wireless Keyboard ด้วยนะครับ เอามาใช้กับไอแพดได้เลย
แต่มันต้องซื้อแยกต่างหาก 555
MBA มันจะมาเร็ว ไปไว ขนาดนั้นเชียว ?
แต่ก็ไม่แน่แฮะ เพราะท้ายที่สุดตลาดมันน่าจะทับซ้อนกัน
อยู่ที่ความเร็วในการประมวลผลครับว่ามันจะไปถึงขั้นนั้นได้หรือเปล่า ยังมีโปรแกรมบน mba อีกหลายๆ ตัวที่ tablet ยังใช้งานไม่ได้/ไม่ได้ประสิทธิภาพ เช่น พวกโปรแกรมตัดต่อวีดีโอ โปรแกรมรีทัช นอกจากเรื่องของหน่วยประมวลผลแล้วยังอยู่ที่ขนาดความจำในตัวเครื่องด้วย อย่างน้อยก็ต้องเริ่มที่ 64GB ล่ะมั้งครับ
Air first gen นี่ มาปี2008 นะครับ และมันไม่เคย Major change เลย ถ้าเรียกมันว่ามาเร็ว ไปไว นี่ แล้วของยี่ห้อ อื่นๆนี่จะเรียกว่าอะไร?
ผมว่า 2010 นี่เรียกว่า Major Change ได้แล้วนะครับ ส่วนที่เค้าบอกคงหมายความว่า Air อาจถูกตัดออกไปเพราะ iPad มาแทนที่ (ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเป็นจริง)
ถ้าiPad มีคีย์บอร์ดแบบเดียวกับ transformer จะมีใครว่า apple เลียนแบบมั้ยครับ?
มันจะเป็นนวัตกรรมใหม่ครับ อิอิ
iPad + Keyboard ทำไมต้อง = Asus ล่ะ
tablet มีคีย์บอร์ดมียี่ห้อไหนเด่นๆ ดังๆ บ้างอะครับ
คงไม่มีใครคิดครับ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก Transformer และไม่เคยเห็น :P
@TonsTweetings
iPad ต่ออก keyboard ได้อยู่แล้วนะครับ(ถ้ามีอุปกรณ์เสริม)
ถ้า iPad จะไปทับ Macbook ก็จะทับ Macbook Air 11" เท่านั้นแหละครับ
วัตถุประสงค์ของ Macbook Air 13" 15" ยังคงต่างจาก iPad มากนัก
ถ้าจะรวมทั้งตระกูล จะเหลือแค่ iPad 9.7" iPod iPhone 3.5" ขนาดอาจจะเพิ่มกว่านี้เล็กน้อย MacBook Air 13" 15" เพราะ 17" ไม่ได้เป็นตลาดที่คนต้องการอีกต่อไป ถ้าต้องการจอใหญ่ก็ต่อจอนอกเอาแทน คนไม่ต้องการแบกเครื่องใหญ่โตถ้าเครื่องเล็กๆมันมีประสิทธิภาพดีiMacจะเหลือแต่ 27" เพราะจอแยกของ Apple เลิกทำ 21" 24" ไปแล้ว เหลือแต่ 27"
ส่วน Macbook น่าจะเปลี่ยนเป็น Air ทั้งหมด Mac Mini จะแรงจนคนไม่สนใจ MacPro แต่ใช้ MacMini ทำแบบ render farm ระบบserver Etc. แทน Apple TV คงจะใช้ Siri ได้ และคงจะมียอดขายสูงกว่า Smart TV เพราะบริการ iTunes iPod Nano สามารถทำงานร่วมกับ iOS อย่างลื่นไหล และกลายเป็นเครื่องประดับเชิงแฟชั่นในที่สุด
ด้านราคาคงอยู่ในระดับเดิม
อ่านแล้วมองเห็นภาพ บ้านที่มีแต่ Apple
เร็ว ๆ นี้ยังไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องสายการพัฒนา (iPad ก็ยังเป็น iPad MacBook Air ก็ยังเป็น MacBook Air) แต่อาจจะมีการลองเปิดตัวอะไรใหม่ ๆ เพื่อดูขอบเขตของสายผลิตภัณฑ์แต่ละอัน
สรุป Apple ตัด MacBook Air ออก แล้วทำ MacBook Pro ออกมาเป็นบอดี้ MacBook Air 13" 15" 17" ตามลำดับ จบข่าว