แอปเปิลได้เข้าชี้แจงกับ U.S. Securities and Exchange Commission หรือ กลต. ของสหรัฐวันนี้ว่า ทีม คุก ซีอีโอคนปัจจุบันของแอปเปิล ได้ทยอยขายหุ้นของแอปเปิลจำนวน 20,178 หุ้นในช่วงสองวันทำการที่ผ่านมาที่ช่วงราคา 547 ถึง 551 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เช่นเดียวกับสตีฟ จ็อบส์ คุกได้รับเงินเดือนจากแอปเปิลจำนวน 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเท่านั้น แต่เมื่อปีที่แล้วเขาได้รับค่าตอบแทนเป็นสัญญาหุ้นของแอปเปิลเป็นจำนวน 1 ล้านหุ้น ซึ่งจะถูกโอนไปให้คุกในปี 2016 และปี 2021 โดยทั้งหมดนี้คิดเป็นมูลค่าสูงประมาณ 15,000 ล้านบาทแล้วหากคิดจากราคาหุ้นแอปเปิลปัจจุบัน
ที่มา - 9to5Mac
Comments
มันเป็นธรรมเนียมอะไรถึงต้องรับเงิน 1$
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จำได้ว่าเป็นข้อตกลง เพราะตอนแรกแกกลับมาทำงานให้แอปเปิลในฐานะ"ชั่วคราว" แต่ก็ได้ทั้งหุ้นที่ต้องดองไว้หลายกว่าปีถึงจะขายได้ ไหนจะเครื่องบินส่วนตัวที่ได้เป็นของขวัญอีก
ผมอาจจำผิดใครรู้แย้งได้ผมได้เต็มทีเลยครับ
แล้ว Facebook, HP, Yahoo! บลา ๆ ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
FB ก็น่าจะ $1 เหมือนกัน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
เป็นข้อตกลงตอนจ็อบกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งหน่ะฮะ ตอนนี้ Apple กำลังจะแย่เพราะยอดขายตกต่ำมาก เลยมีนโยบายที่แกจะไม่รับเงินเดอนโดยจะรับแค่ 1$ และประกาศให้บริษัทห้ามนำเงินไปทำพวก CSR เพราะว่าแค่นี้ก็จะล้มละลายอยู่แล้ว โดยแกให้ทุ่มเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อ Next(สะกดถูกหรือเปล่าผมไม่แน่ใจนะฮะ) ซึ่งเป็นบริษัทที่แกก่อตั้งขึ้นมาตอนโดนเด๊งออกจาก apple หน่ะฮะ
สรุปก็ือเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทตอนนั้นไม่ให้ล้มละลายนั่นเอง ซึ่งภายหลังแม้บริษัทจะรวยแล้วกฎนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จึงเพิมเป็นการให้หุ้นของบริษัทเหมือนเป็นโบนัสแทนหน่ะฮะ
ปล. หากเนื้อหาคลาดเคลื่อนยังไงขออภัยด้วย เป็นคนไม่มั่นใจความสามารถด้านการบรรยายอยู่แล้วอ่ะครับ ><"
เค้าซื้อ next เพราะจะเอาตัวจ๊อบครับ
ปล ตอนนี้แอบเปิ้ลรวยนะครับไม่ได้จะล้มละลาย
ก็ตอนไปเอา ลุง job นะ เกือบไม่รอดแล้ว (ไม่มาล้มแน่)
นั่นเป็นกรณีของ Steve Jobs ครับ ไม่ใช่ของ Cook
Steve Jobs ขายบริษัท Next ให้กับ Apple ครับ โดยทีมงานของ Next ก็ย้ายมาทำงานกับ Apple ด้วย Steve Jobs นั่งทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาของ Amelio (Apple CEO) ตอนนั้น Amelio บังคับจ่ายให้ Steve ด้วยหุ้นของ Apple จำนวนหนึ่ง แต่พอ Jobs ได้มาก็เอาไปขายทั้งหมดเหลือไว้เพียงแค่ 1 หุ้นเท่านั้นเพื่อให้มีสิทธิ์เข้าไปประชุมผู้ถือหุ้นได้ เขายังทำสัญญารับค่าจ้างเพียงปีละ 1$ เท่านั้น สาเหตุหนึ่งเพราะ Steve Jobs ไม่มั่นใจว่า Apple จะสามารถพันจากการล่มสลายได้ และอีกสาเหตุก็คือต้องการสร้างภาพว่าเป็นผู้กอบกู้โดยชอบธรรม
หลังจากบริหารงานไปได้หลายปี Steve Jobs เลื่อนตำแหน่งจากที่ปรึกษา กลายเป็น CEO ชั่วคราว (iCEO) และ CEO ในที่สุด เมื่อ Apple สามารถขึ้นจากปากเหวได้สำเร็จ กรรมการบริษัทได้เสนอ Stock Option จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นหุ้นที่บริษัทมอบให้กับพนักงานที่ทำคุณประโยชน์ให้บริษัท ทีแรก Steve Jobs บอกปัดโดยขอเปลี่ยนเป็นเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งบริษัทก็ซื้อเครื่องบินรุ่น Gulf Stream V ให้ เมื่อได้เครื่องบินแล้ว Jobs กลับไปเรียกร้องเอา Stock Option และในจำนวนที่มากกว่า ที่กรรมการบริษัท Apple เคยเสนอให้เสียอีก หุ้นดังกล่าวมีการลงวันที่ย้อนหลังในใบหุ้นและ Steve Jobs ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วยเรื่องนี้ครับ
เรื่องจริงๆ Steve ไม่ใช่พ่อพระ และไม่ใช่ผู้เสียสละ เขาเป็นแค่ปุถุชนคนธรรมดา แต่ดันเป็นอัจฉริยะในเรื่องธุรกิจและการผสานศิลปะกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
รายละเอียดหาอ่านเอาจากหนังสือ Steve Jobs ได้นะครับ :-)
เหมือนเคยอ่านเจอที่ใหนว่า มันเป็นการเลี่ยงภาษีวิธีการหนึ่งด้วยครับ เพราะงี้มั้ง CEO ของที่ต่างๆเลยทำแบบนี้
ผมเข้าใจว่าไม่ว่าจะได้รับรางวัลในรูปแบบไหนก็น่าจะต้องเสียภาษีอยู่ดีนะ ไม่งั้นทุกบริษัทคงปรับระดับบริหารรับเงิน 1$ หมดแล้วหล่ะ ไม่ใช่แค่ CEO หรอก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่น่าจะใช่นะครับ เพราะอย่างไรก็มีหุ้นที่ต้องเสียภาษีอีกหนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รับ 2 $ ได้ไหม?
ก็ได้...!!
สมัยไม่ได้เป็น CEO ได้ปีละ $800,000 แหนะ
@mamuang
เมื่อใดที่ ceo ขายหุ้นของบริษัทตัวเอง ไม่ว่าจะบริษัทใดก็ตาม หุ้นษริษัทนั้นมักจะตกเสมอ รอติดตามตอนต่อไป
หรือนี้จะเป็นแผนทำให้หุ้นตกของ Apple เพราะข่าวก่อนหน้านี้ทิมคุกเคยออกมายอมรับว่ายังไม่มีแผนที่จะจัดการกับเงินที่ตัวเค้าบอกเองว่าApple มีมากเกินไป
จำนวนหุ้นที่ขายนิดเดียวเองหนิครับเทียบกับที่เขามี
ขายแค่ 300กว่าล้านจาก 15,000 ล้าน(อย่างน้อย) อาจจะแค่ต้องการเงินไปสร้างบ้านใหม่อะไรแค่นี้มั้งครับ
15000 ล้านนั่นเป็นสัญญาหุ้นอาจจะเรียกว่าเป็นหุ้นของทิมคุกก็ได้แต่มันก็ไม่เชิง เพราะจะเป็นของทิมคุกก็ต่อเมื่อเข้าทำงานจนครบตามระยะเวลาในสัญญา(จำได้ว่า 10 ปี) ซึ่งหุ้นที่ขายคือหุ้นที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้เป็นคนละส่วนกัน
มันไม่ต้องเสียภาษีไงครับ
รูสึกสหรัฐเสียนะครับ
twitter.com/djnoly
1 $ นี้มากมายมหาศาจเลยนะครับ
ขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี ถูกแล้วครับ
เพราะรัฐจะไม่จ่ายคืนอยู่ดี ถ้าหุ้นนั้นตก จนขาดทุน
ต้องกินต้องใช้เนอะ เงืนเดือนก็น้อย
ขายหุ้น รอหุ้นตก แล้วซื้อในราคาที่ถูกกว่า ???
แผนสูง อิอิ
คำถาม คนซื้อไปจะยอมมาตั้งขายกลับเหรอ?
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ถมเถไปครับ
เพียบเลย
คนเล่น Day-trade กำไรนิดหน่อยเค้าก็ขายกันแล้วครับ
มุมมองในการซื้อขายหุ้นเป็นคนละแบบกับ Long term investment
ประธานบล็อกนันได้เท่าไหร่ :D
ไม่รู้ได้เท่าไร แต่วันก่อนเลี้ยง Writer, Contributor น่าจะหมดไปเยอะ
แค่สองหมื่นกว่าหุ้น ยังตั้ง 11 ล้านแหนะ
เงินเดือนได้ 1us จากยอดขายแต่ละชิ้น
เหมือนจะเสียภาษีนะครับ มีภาษีสองประเภท
1.ถ้าได้กำไรจากราคาเพิ่มเรียก Capital Gain ไม่ว่าจากอสังหา หรือหุ้น
ถ้าถือครบ 1 ปีเสีย 5 - 15 % (อัตราก้าวหน้า)
(เหมือนใน The Little book that beats the market เขียนเอาไว้ ให้ถือ 1 ปีแล้วปรับพอร์ต)
ถ้าถือไม่ครบ 1 ปีเสีย 25% ขึ้นไป
2.ภาษีปันผล 15% (เขาเขียนว่ากฏนี้หมดอายุปี 2011)
ถ้าขาดทุนก็ไม่เสียอยู่แล้ว แต่เสียกับปันผลอยู่ดี แต่ Apple เหมือนไม่มีปันผล
เคยอ่านเจออีกอย่างหนึ่งคือถ้าเอากำไรจาก Capital Gain ไปลงทุนต่อ(Reinvest) ไม่ต้องเสียภาษีครับ น่าจะจากพ่อรวยสอนลูก
ปล.Apple เงินเยอะๆอย่างนี้ อย่างน้อยก็ซื้อหุ้นคืนหรือปันผลบ้างก็ดีนะ
edit ผมขึ้นบรรทัดใหม่แล้วแต่ submit แล้วทำไมเพี้ยนแฮะ งง
Methuz'es Blog
ซื้อหุ้นไม่ได้หรอกครับ เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อะไร ไมโครซอฟหรอ? กูเกิลหรอ? เฟซบุ๊คหรอ? ครั้นว่าจะเอาหุ้นITไปซื้อหุ้นประเภทอื่นๆก็คงไม่เข้าท่าซักเท่าไร ตอนนี้มีทางเลือกคือพันธบัตร ซึ่งโอบาม่าอ่านเกมขาดเคยมาคุยๆไว้ตอนสตีฟยังอยู่แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันความเป็นอย่างไรมั่ง แต่ถ้าเป็นผมแนะนำเอาไปลงทุนในยุโรปเลยดีกว่า ไปหาธุรกิจเจ๋งๆในกรีซสักตัวสองตัวแล้ว
ธุรกิจที่ apple น่าไปลงทุ่นที่สุดคือ พวกพลังงาน สะอาดนะครับ ในสายตาผม เพราะ อย่าไง โลก็ยั่งต้องใช้เพลังงาน
สินค้า apple ก็ยั่งต้องใช่พลังงาน
หมายถึงใช้เงินสดที่เหลือ ซื้อหุ้นตัวเองคืนครับ เป็นการเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นที่เหลือ
Methuz'es Blog
กรีซ เลยเหรอ .. โอ้วมาไทยเลยดีกว่าครับ ^^
ที่จ้าง 1USD น่าจะเพราะว่าเค้าไม่ยอมให้จ้างฟรีๆหรือปล่าวครับ? คือไม่อยากจ่ายเงินเดือนให้แต่ต้องจ่ายไว้เป็นหลักฐานการจ้างงาน
ใช่ครับ เป็นหลักฐานที่ต้องยื่นแก่ผู้ตรวจสอบบัญชีครับ
ตอนจ๊อบส์กลับมาเค้าไม่รับเงิน เพราะไม่อยากให้คนในบริษัทคิดว่าเค้ามากอบโกยครับ เลยยอมรับแค่เหรียญเดียว
ถ้าการขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี ก็คงอาจจะใช้วิธีมอบสิทธิซื้อหุ้นของบริษัทได้ในราคา 1 cents เป็นจำนวน xxx หุ้นมั้งครับ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็อาจจะไม่ต้องเสียภาษีเลยเป็นเวลา 10 ปี เพราะถ้ามอบหุ้นให้ก็น่าจะยังต้องเสียภาษีครับ
สิทธิซื้อหุ้น (option) พอแปลงเป็นหุ้นก็ต้องเสียภาษีครับ ลองค้นดูกรณี Facebook option ของ Mark Zuckerberg ครับ
LinkedIn
แล้วเงินที่ต้องกินต้องใช้ในแต่ละวันแต่ละเดือนเอามาจากไหน?
แสดงว่าก็ต้องมีรายได้ทางอื่นอีกครับ ประมาณว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ทางแอปเปิ้ลออกค่าใช้จ่ายให้หมด อาจจะมีเครดิตการ์ดให้ใบนึง รูดอย่างเดียว ไม่ต้องจ่าย
แอปเปิ้ลรับผิดชอบเอง
ที่บอกว่า $1 เหรียญต่อปี ก็เพื่อทำให้ดูแปลก ดูเท่ห์ เท่านั้นมั้งครับ
ผมว่ามันก็ไม่เชิงทำให้ดูแปลก เท่ อย่างเดียวหรอกครับ เพียงแต่ถ้าบริหารกำไร คุณก็จะได้โบนัสอย่างอื่น ถ้าไม่กำไรก็จะไม่ได้อะไรเลยแถมลดลงอีกเพราะมีหุ้นในแอปเปิล ต่างจากปกติที่ผู้บริหารแม้จะบริหารขาดทุนยังไง ก็ยังได้เงินเดือนเป็นแสนเป็นล้านอยู่ดี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จ็อบส์ทำงานเป็นผู้บริหารมายาวนาน และเป็นผู้ก่อตั้ง Pixar ด้วย ไม่ต้องมีรายได้จากแอปเปิลก็น่าจะมีกินมีใช้อยู่แล้วครับ
LinkedIn
บัตรเครดิตรูดไม่อั้นก็คิดได้ครับ แต่ในทางปฏิบัติน่าจะยาก เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะเอาไปลงบัญชีอย่างไร และไม่ใช่ทุกอย่างที่จะใช้บัตรรูดได้ด้วย อย่าลืมว่า Apple เป็นบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่บริษัทห้องแถวแถบเอเชีย
ส่วนเรื่อง 1$ ต่อปี เป็นเรื่องของอัตตาของ Jobs เอง เพราะต้องการสร้างภาพว่าเป็นผู้กอบกู้โดยชอบธรรมตั้งแต่นั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาของ Gil Amelio ตอนที่ Apple ซื้อ Next แล้วครับ