ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Chetan Sharma Consulting ระบุว่าแท็บเล็ตที่ขายออกไปในสหรัฐอเมริกาตลอดปี 2011 ถูกครองตลาดโดยรุ่น Wi-Fi ถึง 90%
เหตุผลส่วนหนึ่งที่แท็บเล็ตรุ่น Wi-Fi ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่น 3G มาก คงเป็นเพราะโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐไม่ได้มีแพ็กเกจค่าเครื่อง-ค่าโทรที่ดึงดูดใจเหมือนสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องค่าตัวของแท็บเล็ตรุ่น Wi-Fi ที่ถูกกว่ารุ่น 3G อย่างชัดเจน, ประเด็นเรื่องไม่มีข้อผูกพันทางสัญญา, การใช้มือถือเป็น hotspot แทน เป็นต้น
บริบทด้านโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกาจะต่างไปจากประเทศไทย ดังนั้นตัวเลขของประเทศไทย (ถ้ามี) ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเหมือนกันครับ (เดี๋ยวมีโอกาสจะตั้งเป็นโพล)
ที่มา - GigaOm
Comments
โทรคม -> โทรคมนาคม
ผมก็ซื้อ Wi-Fi นะ
เพราะไม่มี 3G ให้เลือก (TF201) ฮาา
ข้อมูลนี้น่าสนใจมากทีเดียวครับ อยากรุ้ตัวเลขนี้ในไทยมาก
ว่าแต่ 90% เลยเหรอ
มิน่า Asus ถึงไม่แคร์นักตอนออก Prime รุ่น Wifi มา
แต่ในไทยคงกลับกัน
ผมว่าในไทยนี่คนละเรื่องเลย และรู้สึกว่าค่านิยมแบบ ซื้อแล้วซื้อให้ดีไปเลยประมาณนั้นมากกว่า ไม่ได้คิดเลยว่าถ้าที่บ้านมี ไวไฟ ที่ทำงานมีไวไฟ ร้านกาแฟบางแห่งก็มีไวไฟฟรี โรงแรมก็มีไวไฟ มือถือหลายๆรุ่นก็เป็น hotspot ได้ ถ้าซื้อไปแบบที่บ้านไม่มีไวไฟ อะไรแบบนี้น่าจะเหมาะกะการใช้งานอันนั้นไม่ว่ากัน แต่นี่ไม่สนเลยคิดแค่ว่าไม่มี แสดงว่าไม่ใช่รุ่น top คนรอบตัวผมคิดแบบนี้จริงๆครับ
ทั้งที่เครือข่าย 3G น้อยกว่าบ้านเขาเยอะเลยเนอะ
ในประเทศไทยกลับกันแหง ๆ
ผมเห็นคนรอบข้างผม ถือ Tablet นั้น 90% เป็นรุ่น 3G ทั้งสิ้น
เพื่อนผมทุกคน เป็นรุ่น Wifi หมดเลยอะ
งั้นถ้าเป็นแบบนี้ PlayBook รุ่นหน้าคง Fail ยากหละมั้ง 555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เป็นผมก็เลือกที่มี 3G อ่ะเพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน 55+
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ตอนนี้ใช้ iPad2 3G เครื่องหน้าคง Win8 3G (ถึง 3G ประเทศนี้จะกากก็เถอะ...)
ในประเทศที่อุดมไปด้วยเครือช่าย Wifi อย่างสหรัฐเป็นผมก็คงตัดสินใจไม่ยาก สำหรับประเทศไทยถ้ามันจำเป็นต้องใช้ internet อย่างต่อเนื่องจริงๆ เป็นผมก็เลือกรุ่นที่มี 3G ไว้ก่อนนะ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้งานที่ต่อเนื่องมากกว่าเช่นหลุด wifi ก็มี 3G หลุด 3G ก็มี Edge
ผมเลือก iPad 3G เพราะมันมี gps ในตัว ไว้ใช้นำทางตอนขับรถ