Vint Cerf คือผู้ออกแบบโพรโตคอล TCP/IP ซึ่งเขาถูกยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งอินเทอร์เน็ต" ปัจจุบันเขาทำงานกับกูเกิลในตำแหน่งรองประธาน และล่าสุดเขาไปพูดที่งานนิทรรศการ Life Online โดยมีเรื่องน่าสนใจสองประเด็น
อย่างแรก เขาบอกว่าถึงแม้กูเกิลจะเป็นเจ้าแห่งการค้นหาในวันนี้ แต่ก็มีโอกาสถูกโค่นได้เสมอ ไม่ต่างอะไรจากที่กูเกิลเคยโค่น Alta Vista และยาฮูมาก่อน ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องดี เพราะจะบีบให้กูเกิลกลัว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยความเร็วสูงสุดตลอดเวลาเพื่อรักษาระดับการนำอยู่เสมอ ทุกคนในกูเกิลรู้ดีว่าอาจมีนักศึกษาแบบ Larry Page และ Sergey Brin มีไอเดียบางอย่างที่กูเกิลไม่มี และอาจโผล่ขึ้นมาแย่งตลาดของกูเกิลไปในทันที
อย่างที่สอง เขาเล่าประวัติการออกแบบ TCP/IP ว่าสิ่งที่คำนวณพลาดไปคือจำนวนของเครือข่าย เพราะตอนนั้นคือปี 1973 ที่คอมพิวเตอร์เครื่องละ 50,000 ดอลลาร์ ทำให้ IPv4 ถูกออกแบบขึ้นบนสมมติฐานว่าจะมีเครือข่ายเพียง 256 แห่งทั่วโลก (คิดเป็นประเทศละสองเครือข่าย) และแต่ละประเทศจะมีคอมพิวเตอร์ไม่เกิน 16 ล้านเครื่อง ดังนั้น IPv4 จึงไม่พอใช้ในปัจจุบัน
ที่มา - Pocket-lint
Comments
จำได้ว่าในหนัง ไพเรทฯวอซเนียก เอา Apple 1 ไปเสนอ HP
คำตอบก็คือ "เอาคอมพิวเตอร์ไปขายคนทั่วไปเนี่ยนะ บ้าน่า
คนทั่วไปที่ไหนจะอยากซื้อคอมพิวเตอร์"
แล้วมีอยู่ตอนนึงที่สตีฟจ็อบถามคนที่ให้ทุนกับ Apple เป็นครั้งแรกในโรงรถว่า "คุณเห็นอะไรในตัวพวกเรา" ผมจำไม่ได้ว่านายทุนคนนั้นตอบจ็อบส์ว่าอะไร
เห็นด้วยครับ เรื่องคลื่นลูกใหม่ต้องซัดคลื่นลูกเก่าอยู่เสมอ อย่างล่าสุดก็คือ facebook ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง มีเครือข่ายสังคมที่ Google ยังตามไม่ทัน
ถ้า facebook ซื้อ Wolfram Alpha เมื่อไรสงครามก็เริ่มเมื่อนั้น
โดนส่วนตัว ผมคิดว่าซื้อ WA ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรนะครับ WA ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้กับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ถึงแม้จะสามารถหาข้อมูลที่เป็นความจริงเสมอได้ แต่จุดประสงค์หลักก็ยังเป็นการคำนวณผ่านระบบ Cloud อยู่ดี ในตอนนี้ FB ก็ใช้ระบบ Search ของ Bing ที่ทั้งฟรีแถมได้เงินด้วย
WA มีอัลกอลิธึมในการประมวลผลข้อมูล
ส่วน Facebook มีข้อมูลมหาศาลที่ผ่านการกลั่นกรองจากผู้ใช้
การที่ Facebook ใช้ระบบ Search ของ Bing เพราะ Facebook ยังไม่มีระบบการค้นหาที่ดีพอ
ลองคิดถึง Search engine แบบ Real time ที่ใหม่สด และตรงเป้าหมายของผู้ใช้ ดูซิครับ
ตอนนี้ google เราอยากหาอะไรซักอย่าง 60% เป็นเว็ปที่ไร้ประโยชน์
การเรียงลำดับก็น่าเวียนหัว
ผมว่าไม่ใช้เพราะ microsoft เขาถือหุ้นใหญ่อยู่เหมือนกันหรอคับ
สงสัยข้าพเจ้าคงจะตกข่าว Ms ถือหุ้นใหญ่ใครครับ Facebook เหรอ
หรือว่า bing ถ้า bing นี่พอจะทราบครับ bing หาอะไรก็ไม่เจอ เอ๋อจริงๆ
เอ่อ ... MS ถือหุ้น Facebook ครับแล้ว อีกอย่างBing ก็เป็นของ MS ทำขึ้นมาเองครับ
Bing ใช้ engine ของ yahoo รึเปล่าครับถ้าจำไม่ผิด
ส่วนเรื่องหุ้น FB กับ Ms นี่ไม่ทราบจริง
yahoo ใช้ bing engine ตะหากล่ะครับ - -"
ไม่ใหญ่ครับ microsoft ถือหุ้น facebook อยู่แค่เศษเสี้ยวมาก
Facebook Mathematica
เพิ่ม package วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้เพื่อทำการตลาด
ฮา.. ชื่อดูไม่น่าเชื่อถือเลย
บูชา wolframalpha มากๆ ช่วยเด็กวิศวะได้ตลอดมา
ถ้า Google รวมกับ Wolfram นะ...
Dream high, work hard.
เมื่อก่อนอาจจะใช้ แต่เดียวนี้ บ.เล็กๆเกิดยากมา โตขึ้นมาซักนิดเดียวก็โดน บ.ใหญ่กิน ไม่ยอมให้กินก็โดนสงครามสิทธิบัตร จนเหลือทางเลือกไม่หายไป ก็จงมารวมกันซะ
นั่นอาจจะถูกต้อง แค่ในมุมมองหนึ่งๆ นะครับ
ถ้า Facebook มีแถบ search นะ น่าคิดเหมือนกันว่า Google จะยอดลดลงมั้ย
Bing???
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Google ไม่กลัว Bing ครับเพราะมองเห็นว่าทำอะไรได้หรือไม่ได้ แต่ที่กลัวคือพวกนักศึกษาในโรงรถที่จู่ๆ เปิดตัวอะไรพิสดารมาจนรับมือไม่ทัน
เป็นยุคสมัยที่ Geek & Nerd ครองโลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าโลกไม่แตกไปซะก่อน
คนอื่นอยู่ไม่ได้มั้งครับ
แต่มันก็คงไม่จริงหรอก เพราะพวก Consumer นิยมของแพง รสนิยมสูงอย่าง iOS, BB ยังคงมีเยอะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปฟัง Vint Cerf ในงาน APRICOT ที่ Hong Kong แกพูดเรื่อง Internet Growth ค่อนข้างดีเลยนะคนนี้
เฮ้อ เซงทำไมต้องคำนวน IPV4 ผิดพลาดด้วย -*- เป็นไงตอนนี้มีไม่พอต้องเปลี่ยนไปใช้ 6 กันอีก วุ่นวายได้อีก 55+
ก็ดีกว่าเค้าไม่ทำมาอ่ะนะ ไม่งั้นคงไม่มีเนตมาโพสหรอกวันนี้
ก็ตั้งแต่ปี 1973 ใครจะรู้ว่า 2012 อีกตั้ง 39 ปีอะไรมันจะคนใช้เยอะขนาดนั้น
คุณคิดว่าอีก 39 ปีข้างหน้า IPV6 จะพอมั้ยล่ะครับ มันอาจจะไม่พอก็ได้นะใครจะรู้
IPV6 มีมากเกินพอที่จะให้ IP แก่เม็ดทรายทุกเม็ดบนโลกใบนี้ ;D
ถึงตอนนั้น แม้แต่เม็ดทรายก็ยังต้องใช้ IP address ก้ได้นะ
อีก 39 ปีเราอาจจะไปสร้างนิคมบนต่างดาวได้
อุปกรณ์ทุกชิ้นในจักรวาลนี้ต้องมี IP
นี่เป็นแค่การเปรียบเปรย หรือว่ามันมหาศาลขนาดนั้นจิงๆคับ
ขนาด HP ยังเคยบอกว่า "เอาคอมพิวเตอร์ไปขายคนทั่วไปเนี่ยนะ บ้าน่า คนทั่วไปที่ไหนจะอยากซื้อคอมพิวเตอร์"
ยังดีที่คนคิด mac address ไม่คิดน้อย ๆ เหมือนกัน ไม่งั้นเจอปัญหา mac address ไม่พออีก
ซึ่งปัญหาน่าจะหนักกว่า ipv4 อีก
ใช่ๆ ถ้า mac address ไม่พอเนี่ย หนักกว่า IP อีก ... แต่ว่าก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ แหะๆ
..: เรื่อยไป
ใน google มีบิดากี่องค์ครับ ^^
555 แทบสำลัก >.<
จากหัวข้อข่าวนี่ 1 บิดาอินเตอร์เน็ต
อีกคนก็รู้สึกว่าจะเป็น เจมส์ กูสลิ่ง (บิดา Java)
รอ ipv6 อย่างจริงจังครับ