Forbes อ้างว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลสหรัฐจะยอมจ่ายเป็นจำนวนเงินถึง 2.5 แสนดอลลาร์เพื่อซื้อข้อมูลเกี่ยวกับช่องโหว่ของ iOS โดยจะซื้อขายกันผ่านคนกลางซึ่งเชื่อมระหว่างผู้ค้นพบช่องโหว่และผู้ซื้อ ซึ่งการซื้อขายช่องโหว่ในลักษณะนี้จะพบได้ในงานชุมนุมของเหล่าแฮ็กเกอร์หรือการแข่งขันเจาะระบบของแฮ็กเกอร์ เช่น Pwn2Own แน่นอนว่าช่องโหว่เหล่านั้นยังไม่ถูกตรวจพบโดยฝ่ายผู้ผลิตซอฟต์แวร์
โดย Forbes ยังอ้างถึงราคาของช่องโหว่ในซอฟต์แวร์อื่นๆ อีก เช่น Adobe Reader (3 หมื่นดอลลาร์), Google Chrome (2 แสนดอลลาร์) เป็นต้น โดยช่องโหว่ของ iOS เป็นช่องโหว่ที่มีราคาสูงที่สุดในการซื้อขายคือประมาณ 2.5 แสนดอลลาร์
ที่มา - Forbes via Hack in the Box
Comments
ผมว่าจุดที่น่าสนใจมากในบทความต้นฉบับคือ ตัวเอกของบทความนี้อยู่ใน กทม.!
ลองเอาชื่อไปหาในกูเกิล พบว่าน่าจะเป็นคนดังพอสมควรเลยครับ
พลาดแล้วผม
Meet The Hackers Who Sell Spies The Tools To Crack Your PC (And Get Paid Six-Figure Fees) (หน้าสองมีรูปนั่งอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้วย)
อีกทั้งเกี่ยวข้องกับ VUPEN อีก
ลองดูกระเป๋าที่วางอยู่บนพื้นมีแบงค์พันเป็นปึกๆเต็มกระเป๋าเลย
แอบเดาว่าติดสาวไทยไปแล้ว เหอะ ๆ (Thai girl wins)
เจี๊ยกกกกก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ที่สำคัญคือ ไม่ต้องเสียภาษีด้วยเหรอเปล่า?
บ้านเราเป็นแหล่งรวม ... ?
เห็นรัฐบาลสหรัฐซื้อขายช่องโหว่กันแพงๆแบบนี้ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเค้าจะเอาไปทำไรกัน ต้องการสืบหาใคร เลยพาลนึกไปถึงที่พวกก่อการร้ายใช้ช่องทางง่ายๆอย่าง hotmail ส่งข่าวสารโจมตีซะงั้น
ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่มีผลต่อระบบมากกว่าครับ เพราะเข้าใจว่ามีการเริ่มใช้ iOS device มากขึ้นในวงการทั้งหน่วยงานรัฐและทางการทหาร
แต่เห็นอ่านข่าวเก่าๆเมื่อสองเดือนที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐ ใช้งาน Android OS แทนแล้วนิครับ เพราะเป็นระบบเปิด
ใช้ทั้งสองเลยครับ อนาคตอาจจะใช้สามครับ ในแง่การดำเนินการ หลายครั้งระบบแต่ละระบบจะมีจุดแข็งต่างกันออกไปครับ ดังนั้นก็มีการใช้ระบบที่แตกต่างกันออกไป ก็จะเป็นผลดีในการดำเนินการเองครับ
2.5 แสนดอลลาร์ นี่ = 250,000 (สองแสนห้าหมื่น) ใช่เปล่าครับ อ่านแล้ว งงๆ จัง
ใช่ครับ
นานๆ จะเจอใช้แบบนี้ เลยงงๆ ฮ่าๆ ปกติเห็นแต่ใช้กันในหลักล้านกัน