Gene Munster นักวิเคราะห์จาก Piper Jaffray ได้เขียนบทวิเคราะห์ที่เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร ว่าแอปเปิลจะมีราคาหุ้นขึ้นไปถึง 910 ดอลลาร์ต่อหุ้นภายใน 12 เดือน และบริษัทจะมีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2014 หรืออีก 2-3 ปีข้างหน้า
ปัจจุบันแอปเปิลมีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ 577 พันล้านเหรียญ คำถามคือแล้วอีกกว่า 400 พันล้านเหรียญนั้นจะมาจากไหน ?
Munster ให้เหตุผลสำคัญไว้ 2 ข้อคือ
โดยปกติเงินลงทุนในธุรกิจไอทีสหรัฐจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ทุกปี จากการประมาณการณ์ช่วงปี 2012-2014 น่าจะมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 390 พันล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าครึ่งหนึ่งของเงินจำนวนนี้คือประมาณ 200 พันล้านเหรียญน่าจะเป็นของแอปเปิล (4 ปีที่ผ่านมาแอปเปิลได้เงินจากตรงนี้มากถึง 85%)
ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา แอปเปิลมีมูลค่าเพิ่ม 390 พันล้านเหรียญ ในขณะที่คู่แข่งอีก 6 ราย RIMM, Nokia, Sony, Dell, HP, MS มีมูลค่าลดลงกว่า 400 พันล้านเหรียญ ถ้าคู่แข่งของแอปเปิลยังเป็นขาลงอยู่อย่างนี้ คาดว่าแอปเปิลจะแย่ง Market Cap ของบริษัทคู่แข่งมาได้ไม่้ต่ำกว่า 20% หรือประมาณ 200 พันล้านเหรียญในเวลา 3 ปี
สรุปแล้วมูลค่าของแอปเปิลน่าจะเพิ่มประมาณ 400 พันล้านเหรียญ ในระยะเวลา 3 ปี มาจากปัจจัยที่เป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจไอทีในสหรัฐ รวมถึงส่วนแบ่งที่ได้เพิ่มขึ้นจากความตกต่ำของคู่แข่ง
ที่มา - Fortune
Comments
577 พัน กับ 400 พัน เข้าใจว่าภาษาอังกฤษไม่มีคำเฉพาะสำหรับเรียกหน่วยแสน แต่เมื่อแปลมาเป็นภาษาไทยแล้วมีคำเรียกเฉพาะสำหรับหน่วยนี้ คือ 5 แสนกับ 4 แสน ทำไมถึงไม่ใช้คำว่าแสนครับ ?
ถ้ามันถูกทั้งคู่ ผมว่ามันเป็นสิทธิของผู้เขียนที่จะเลือกครับ เพียงแต่รูปแบบต้องเหมือนกันทั้งข่าว
ปล ผมชอบ 100 พันล้าน มากกว่า 1 แสนล้าน นะ ;D
เราคุยเรื่องนี้กันมาหลายรอบในเว็บนี้แล้วครับ และสรุปว่าเป็นสิทธิของผู้เขียน
ถ้าถามว่าทำไม คำตอบคือ คนเขียนเลือกแบบนั้นครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องเขียนตัวเลขในภาษา อันนี้ภาษาไทยไม่ได้กำหนดตายตัวใช่เปล่าอะครับ
จากคำตอบของคุณ lew คือกำหนดตายตัวแล้วครับว่าคนเขียนเป็นผู้เลือก
แบบนี้ก็ ก็ใช้ผิดหลักภาษาไทยกันอยู่ซิครับ
แต่ก็ขึ้นกับผู้เขียนข่าว คงไม่เป็นไร ^_^
เท่าที่ตามบทวิเคราะห์ AAPL มา ผมอาจจะตอบแบบอคติก็ได้ แต่เหมือนนักวิเคราะห์พยายามเกทับกันไปเรื่อยๆ คนนึงออกเปเปอร์ว่า target $700 สิ้นปี อีกรายก็มา $800 จากนั้นก็ทับที่ $900-$1000 ส่วนรายนี้ก็แค่เกทับขึ้นไปอีกเลเวล ซึ่งถ้า AAPL ยังแสดงผลประกอบการที่ร้อนแรงต่อไปเรื่อยๆ สักพักก็จะมีคนให้ 1.2 Trillions, 1.5 Trillions ไปเรื่อยๆ
รอดูสิ ;)
บริษัทล้านล้านเหร๊ยญ
โอ้ ว้าว! จะรวยไปไหน?
เหมือนว่า ราคาของแอปเปิ้ลจะเหมือนขี่หลังเสือนะ
ขึ้นได้อย่างเดียวห้ามลง
ผมว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนครับ ไม่แน่ ปี 2014 Apple อาจจะล้มละลายก็ได้นิ ของอะไรมีขึ้นก็ต้องมีลงธรรมดาครับ แต่ผมว่าบริษัทที่มั่นคงมากที่สุดคือ Google นั่นเอง และ ในอนาคตหัวข้อข่าวอาจจะเปลี่ยนเป็น Google แทนก็ได้ ^^
นั่นจิเห็นผลิตภัณฑ์ Fail ตั้งหลายตัว ก็ยังกำไรอยู่ :P
ก็ไม่แน่เหมือนกันครับ ยาฮู้แต่ก่อนเป็นที่หนึ่งยังโดนกูเกิ้ลล้มได้เลย
อนาคตไม่แน่นอนจริงครับ แต่บริษัทระดับ Apple Microsoft ได้เปรียบตรง cash and cash equivalent จำนวนมหาศาล
Apple ไม่มีหนี้เลยแม้แต่บาทเดียวด้วยครับ เอาง่ายๆว่าต่อให้ตั้งแต่วันนี้ไปต้นไป Apple ขายของไม่ได้อีกเลยก็มีเงินเหลือพอที่จะsupportตัวเองไปอีก 10ปี+ ครับ แถมมีเงินเหลือพอที่จะซื้อบริษัทอันดับ 2-3 สบายๆอีกต่างหากในกรณีที่ตามคู่แข่งไม่ทัน
สรุปใน 10 ปีนี้ จะเจ๊งได้ต้องไปทำอะไรพลาดแล้วโดนคนฟ้องเท่านั้นแหละครับ
ผมว่าต้องไปรบกับ กระทรวงกลาโหมมากกว่า ถึงจะล้มได้.....
ไปวางระเบิดเซฟเงินสด ยิงนิวเคลียร์ ทำทุกอย่าง
เทคโนโลยีมันตามกันทันหมดครับ ความยากต่อไปคือจะหานวัตกรรมอะไรมาดูดเงินจากสาวกได้เรื่อยๆมากกว่า
ผมก็มองว่า apple เสี่ยงมากจริง ๆ ขายมือถือแต่ไม่ได้ผลิตอะไรเองสักอย่าง (เมื่อเทียบกับ samsung) ทั้งหมดแทบจะมาจากการขาย design วันหนึ่งเกิดขายไม่ได้ขึ้นมาเนี่ย อันตรายจริง ๆ ครับถ้าใครจะไปถือหุ้น
Apple จะยืนอยู่ตรงนี้ไปได้นานเท่าไหร่กันนะ
..: เรื่อยไป
Apple อยู่ยาว
RIMM = RIM
ผมคิดว่าแอปเปิลยังอยู่ได้อีกยาวครับ อย่างน้อยๆ ก็อีก 5 ปี หากยังไม่มีคู่แข่งสร้างนวัตกรรมใหม่ที่เจ๋งๆ มากลบรัศมี
แต่มันก็จะต้องถึงจุดๆ นึงที่ตกลง ถ้าคู่แข่งมีนวัตกรรมเจ๋งๆ ใหม่ๆ ออกมาขาย แล้วแอปเปิลยังไม่มี ตัวอย่างนี้มีให้เห็นเยอะมากๆ ใกล้ๆ ตัวเลยก็ Nokia, RIM ถึงจุดพีคสุด มันก็ถึงจุดต่ำสุดได้
แต่แอปเปิลได้เปรียบตรงที่ตักตวงผลกำไรช่วงที่เป็นจุดสูงสุดของตนไว้เยอะ เงินสดล้นมือ ก็จงใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ไปกับการลงทุนใหม่ๆ หรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หรืออาจจะเปลี่ยนแนวของตัวเองไปเลยก็ได้ถ้ามองว่าเป็นสิ่งที่สร้างอนาคตให้กับตัวเองได้
อย่างฮอนด้าที่เรารู้จักกันในด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ตอนนี้มุ่งไปลงทุนเรื่องนวัตกรรมหุ่นยนต์เต็มตัว เพราะเขามองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์มันเริ่มฝืด ต้นทุนมหาศาลแต่กำไรน้อยลง และต้องมีสายป่านยาวมากอย่างโตโยต้าถึงจะรุ่งเรืองในอุตสาหกรรมนี้ได้ (ยกเว้นธุรกิจรถจักรยานยนต์ที่ยังมีอนาคตดี) แต่ฮอนด้ามองไปไกลว่าหุ่นยนต์มันคืออนาคตที่สดใสในอีก 20 ปีข้างหน้า แต่ยังไม่ค่อยมีใครมาลงทุนวิจัยพัฒนาในด้านนี้ เขาจึงลงทุนวิจัยตรงนี้อย่างเต็มที่และหวังว่าอีก 20 ปีฮอนด้าจะเป็นจ้าวแห่งอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ แทนที่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เริ่มไปได้ไม่ดีในตอนนี้
หากไม่รู้ว่าจะเอาเงินสดล้นมือไปทำอะไร แอปเปิลลองวิจัยพัฒนาสร้างหุ่นยนต์สตีฟจอปส์ขึ้นมาสิ
Apple อาจมีโครงการลับที่ชื่อว่าเวด้าอยู่ก็ได้ ^_^
ผมคิดว่าแชมป์จะล้มเพราะฝีมือนักศึกษาที่คิดอะไรบ้าๆมาจากโรงรถ..
What's happen in 3 AJ. Era.
AJ = After Jobs.
ป๊าดโถ่ อีก 400 ล้านก็มาจากข่าวพวกนี้ไงครับ กูรูประโคมกันเข้าไป พอขึ้นเยอะๆ กูรูก็ขาย แล้วฟองสบู่ก็แตก โพล๊ะ พวกเราก็ตกลงจากฟากฟ้าอย่างช้าๆและเจ็บปวด
twitter.com/djnoly
Apple สร้างเรือโนอาเสร็จแล้วสินะ