จากข่าว Facebook ซื้อ Instagram แล้ว ก็คงเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของ Instagram ได้เป็นอย่างดี แต่จุดเริ่มต้นของ Instagram นั้นแตกต่างจาก Facebook ของ Mark Zuckerberg อยู่มากพอสมควร เพราะตอนแรกนั้น Kevin Systrom ซีอีโอของ Instagram เขียนโปรแกรมไม่เป็น
Kevin Systrom หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Instagram สำเร็จการศึกษาด้านวิทยาการและวิศวกรรมการจัดการ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เริ่มฝึกงานที่ Odeo (ของ Evan Williams ผู้ก่อตั้ง Twitter) และหลังจากนั้นก็ไปทำงานกับกูเกิลอยู่ 2 ปี ก่อนจะมาเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ให้กับ Nextstop ซึ่งภายหลังถูก Facebook ซื้อกิจการไปในปี 2010
ในช่วงที่ทำงานอยู่กับ Nextstop เขาเริ่มฝึกเขียนโปรแกรมในตอนกลางคืน โดยเริ่มจากไอเดียง่ายๆ เพื่อช่วยในการเรียนรู้ หนึ่งในสิ่งที่เขาทำคือ Burbn เว็บ mashup ระหว่าง Foursquare กับ Mafia Wars ซึ่งท้ายที่สุดแล้วได้เงินทุนสนับสนุนจำนวน 500,000 ดอลลาร์ Systrom จึงตัดสินใจออกจาก Nextstop มาเปิดบริษัทเอง
ระหว่างที่ Burbn ในแบบ HTML5 กำลังไปได้ดี Systrom และคู่หูของเขา Mike Krieger ได้เล็งเห็นโอกาสทองของการถ่ายภาพผ่านโทรศัพท์ ทั้งคู่ใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการทำต้นแบบของแอพที่เน้นเรื่องรูปภาพเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้คือ "มันแย่มาก" ทั้งคู่จึงกลับไปพัฒนา Burbn แบบ native บนไอโฟน และตัดฟีเจอร์ทุกอย่างออกไปเหลือไว้เพียง รูปภาพ คอมเมนต์และปุ่ม like พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram ซึ่งมาจากคำว่า instant กับ telegram
ที่มา - The Next Web, Quora
Comments
เรียบร้อยครับ
เพิ่งรู้ที่มาของชื่อนะเนี่ย ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
+1 ตอนแรกนึกว่า Instant + Diagram
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไอเดียดีมีชัยไปเกินครึ่ง!
สำหรับผมผมคิดอีกแบบนึงนะครับ คนเราอาจจะมีไอเดียที่มันเจ๋งสุดๆ แต่ถ้าแปลงมันออกมาเป็นเรื่องจริงไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย ในกรณีนี้ผมคิดว่าสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นก็คือ ความพยายามและความมุ่งมั่นที่ทำให้มันสำเร็จ ไอเดียที่ได้นี่อาจจะเกิดจากการลองผิดลองถูกระหว่างทางก็ได้ แต่สำคัญที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆด้วยครับ
My Blog
ผมเข้าใจที่ท่านจะสื่อนะครับ แต่ผมแค่จะเน้นว่า ไอเดียของเค้ามันแปลกใหม่ดีในตอนนั้น คือ เน้นแชร์ภาพถ่ายผสมกับ social (อาจจะมีคนทำก่อนแต่ไม่ดัง) แน่นอนว่า มันต้องมีความพยายามและความอดทนในทุกงานอยู่แล้ว แต่ว่า บางทีมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่ดัง ถ้าไม่มีไอเดียโดนๆ
หมายเหตุ: ไม่ได้จะ discredit ความพยายาม ความอุสาหะอะไรเลยนะครับ แค่บอกว่า ไอเดียเค้าบรรเจิดจริงๆ เหมือนคำพูดที่บอกว่า เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง มันก็ไม่ได้แปลว่า ตอนท้ายทำห่วยๆ ก็จะประสบความสำเร็จนะครับ :)
เข้าใจแล้วครับ เรื่องนี้ผมเห็นด้วยเลย ตอนแรกผมอาจจะตีสิ่งที่คุณพยายามจะสื่อไม่ดีเอง :)
My Blog
ความเป็นผู้นำนี่ วัดกันที่ idea จริงๆ
อ่านปุ๊บรู้สึกได้รับแรงบันไดใจมากจริงๆ
เห็นทีผมคงต้องเร่งสปีดแล้ว ฮึด....สู้!
ได้ความรู้ ;)
Burbn คืออะไรเหรอครับ
สงสัยด้วยคนครับ
แรงบรรดานใจของผมเลยนะเนี่ย เย่ๆ
ใครมีข้ออ้างอะไรอีกครับ?
ผมว่าที่เขามีวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะ idea นะ ดูจากประโยค "ทั้งคู่ใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการทำต้นแบบของแอพที่เน้นเรื่องรูปภาพเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้คือ "มันแย่มาก" ทั้งคู่จึงกลับไปพัฒนา Burbn แบบ native บนไอโฟน และตัดฟีเจอร์ทุกอย่างออกไปเหลือไว้เพียง รูปภาพ คอมเมนต์และปุ่ม like" เขาทำไปก่อนแล้วค่อยปรับปรุง ไม่มีคนสำเร็จคนไหนไม่เคยผิด แต่คนสำเร็จลุกมาแก้ไข สูงสุดคือแรงบันดาลใจ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
อือม์ ก็จริงนะ การยอมรับว่าตัวเองผิดและแก้ไข ไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้ในคนทั่วๆ ไป
นักปราชญ์ว่าไว้
คนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย
แสดงว่าผมมีผลงานเยอะมาก เพราะทำผิดตลอด :D