ยุคก่อนหน้ามาตรฐาน GSM ระบบโทรศัพท์มือถือนั้นยังไม่มีมาตรฐาน และต้องอิงกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือว่าจะเลือกเทคโนโลยีอะไร ทุกวันนี้ GSM เป็นมาตรฐานกลางใช้งานกันทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นของมันคือการประชุมการกำกับดูแลกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคมของยุโรป ในปี 1982 โดยการประชุมครั้งนั้นมีการลงนามตกลงกันใน 13 ชาติว่าจะใช้เทคโนโลยีร่วมกันเป็นมาตรฐานเดียว
พร้อมๆ กับการร่างมาตรฐาน GSM ก็มีเทคโนโลยีการส่ง SMS ที่ส่งได้ 160 ตัวอักษรในภาษาอังกฤษ ทุกวันนี้มีผู้ใช้จำนวนมากพึ่งพิงเทคโนโลยี SMS จากการที่มันมีราคาถูก ใช้ช่องสัญญาณเพียงน้อยนิด และติดต่อกับโทรศัพท์ GSM ได้แทบทุกเครื่องในโลก มันเปิดโอกาสให้คนจนสามารถติดต่อกันด้วยราคาที่ต่ำได้รวดเร็ว
มาตรฐาน GSM นั้นเสร็จสิ้นในปี 1990 และทดสอบได้ในปี 1991 ส่วน SMS ข้อความแรกส่งได้ในปี 1992 และเริ่มใช้งานจริงในสหราชอาณาจักรครั้งแรกในปี 1993
GSM เป็นตัวอย่างที่ดีของมาตรฐานเปิดที่อาศัยความร่วมมือของหน่วยงานจำนวนมาก ทำงานบนมาตรฐานเดียวกันที่ทำงานร่วมกันได้ และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เปิดให้ผู้ผลิตและผู้ให้บริการสามารถแข่งขันกันได้อย่างมาก เช่น ทุกวันนี้ที่เราสามารถเปลี่ยนผู้ให้บริการหรือผู้ผลิตโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย
ที่มา - The Guardian, Wikipedia
Comments
บ้านเรา sms ยังแพงอยู่นา
บ้านเรา SMS แพงกว่าค่าโทร
ที่พึ่งยามเที่ยวผับ (data ดับ)
หึหึ sms ...
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ทำไม SMS ในไทยถึงแพงละครับ
ผมว่าเพราะ AIS DTAC TRUE รวมหัวกัน ไม่ลดไง ต้นทุนหลักสตางเองความจริงอะ
ต้นทุนหลักสตางค์ที่ตามเว็บว่ากันนั่นจริง ๆ หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในการรับ/ส่ง SMS ครับ
ต้นทุนจริง ๆ ต้องคิดถึงค่าตั้งเสาสัญญาณ ค่าบำรุงรักษา ค่าจ้างพนักงาน กำไรบริษัท ฯลฯ ไปด้วย
แต่เอาจริง ๆ รวมหมดแล้วผมว่ามันก็หลักสตางค์ชนิดไม่ถึงบาทอยู่ดีล่ะ - -" โทรมันสะดวกกว่าพิมพ์ก็จริง แต่ดูจากกระแส Whatapps, Viber, Line แล้วผมว่าถ้า SMS ในไทยถูกกว่าโทรเยอะ ๆ หน่อยก็คงเกิดเหมือนกัน
SmS... หึๆ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ