หลังจากกว่าห้าเดือนหลังคดีคุณอำพล (หรือที่เรียกกันว่า อากง SMS) ถูกพิพากษาในศาลชั้นต้นว่ามีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์และมาตรา 112 ตามประมวลกฏหมายอาญา คดีได้ดำเนินไปถึงชั้นอุทธรณ์ และคุณอำพลได้ตัดสินใจถอนอุทธรณ์เพื่อขออภัยโทษ แต่หลายเดือนที่ผ่านมาถูกรุมเร้าด้วยโรคมะเร็งตับจนเสียชีวิตเมื่อวานตอนเช้าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
คดีคุณอำพลเป็นคดีที่อาศัยกระบวนการสอบสวนทางคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยไฟล์ log และหมายเลขประจำตัวอุปกรณ์ในการชี้ตัวหาผู้กระทำผิด (ความเห็นของผมต่อคดีนี้) และเป็นกรณีศึกษาสำคัญในการสอบสวนคดีทางคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะประเด็นหลักฐานที่ยังมีคำถามในทางคอมพิวเตอร์อีกมาก
การชันสูตรศพมีขึ้นเมื่อเช้านี้ และแพทย์ผู้ชันสูตรสันนิษฐานเบื้องต้นว่าคุณอำพลเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย โดยนพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่ามะเร็งนี้น่าจะเป็นมาไม่ต่ำกว่าหกเดือน อย่างไรก็ดีทั้งหมดต้องรอผลตรวจชิ้นเนื้อยืนยันอีกครั้ง
ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวไว้ ณ ที่นี้ ด้วยครับ
Comments
+1
ผมว่าจะเอาทฤษฎีการปล่อยตัวชั่วคราวคิดด้วยนะ....
สุดท้ายจะแดงจะเหลืองก็เป็นแค่เครื่องมือของนักการเมืองและอำนาจที่มองไม่เห็นทั้งนั้น ไม่ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับฝ่ายไหนก็น่าเห็นใจอยู่ดี
สมควรจะประนามคนที่เอาเรื่องพวกนี้มาใช้ประโยชน์ให้กับฝ่ายตัวเองมากกว่า (ซึ่งก็คือทั้งสองฝ่ายน่ะแหละ)
เป็นได้แค่หมากให้เค้าแท้ๆเลย
ไว้อาลัยกับคุณอำพลด้วย
ส่วนเรื่องราวนี้ผมว่า มันอาจมีเงื่อนงำน่าคิดนะครับ
และบางที อารมย์ อำนาจ ความเย่อหยิ่งและความต้องการของมนุษย์ผู้ตัดสิน มันก็อาจจะทำให้หลักการของกฎหมายผิดไปได้ โอกาศแก้ตอนนี้มีแล้วหากแก้ได้ก็ควรรีบจะแก้ซะก่อนที่กระแสจะซาไปอีก
เริ่มเยอะไปแล้วผมว่า แต่ก็ดี พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน บางออย่างไม่รู้จะได้รู้
ผมว่า ได้ลงดราม่าแน่ๆเลย
ไม่ได้ลงหรอกครับคู่กรณีที่เถียงกันยาวๆ ยังไม่เกิด
เข้ามาฮา
ข่าวนี้มีแต่คนเก่งทั้งนั้นเลย
ตั้งแต่อ่านผม ผมว่าความเห็นนี้เก่งที่สุด
ใช้เวรใช้กรรมหมดแล้ว ขอให้สู่สุขคติ
มีคนบางพวกมันชอบหากินกับคนตาย ชอบเอาศพไปแห่รอบเมือง
ประเทศนี้เค้าแห่ศพกันทุกชนชั้นน่ะครับ มันเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศเรา ถ้าท่านไม่ชอบการแห่ศพอาจทำให้ท่านอยู่ประเทศนี้ไม่ได้น่ะครับ
ก็... กระบวนการสืบสวน และกระบวนการยุติธรรม ของไทยก็งี้แหละครับ
เมื่อวานดูเจาะประเด็นของคุณสรยุทธ์ เรื่องจับแฝดผิดตัว
แฝดคนพี่ไปทำร้ายคน ตำรวจตามจับแต่ดันไปจับแฝดคนน้องแทน
แม่ก็ไปบอกตำรวจว่าจับผิดตัวนะ เพราะแฝดเขาหน้าตาเหมือนกันมาก
ตำรวจในโรงพักเขาก็เชื่อ เพราะเป็นคนในพื้นที่ รู้จักผู้ต้องหาดี
แต่ นาย(???) ไม่ยอม ไม่เปลี่ยนผู้ต้อง ไม่รับฟังคนใต้บังคับบัญชาใดๆทั้งสิ้น
แถมยังบอกแม่ของฝาแฝดว่า เอาเงินมา 5 แสนแล้วเดียวจะทำให้
ฮ่วยยย!!!!
รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ใช่ ศาลก็ตัดสินให้เสร็จศัพท์ สุดท้ายแฝดคนน้องต้องไปอยู่ในคุก 4 ปี
ต้องให้แฝดพี่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหามาออกทีวี ว่าเป็นคนร้ายตัวจริง
ทำใจครับ ทุกวันนี้ ได้แต่ภาวนาครับว่าอย่าได้เจอกับเหตุการณ์ที่ต้องไปเป็นผู้ต้องหาในคดีใดๆเลยถ้าไม่ได้ผิดจริง
คือถ้าพยายามจะถามว่าเลขาฯ ส่วนตัวคุณอภิสิทธิ์ทำผิดไหม คนที่มีใจยุติธรรมทุกคนก็คงตอบว่าไม่ผิดหรอก เป็นผมส่งข้อความแบบมาครั้งเดียวผมก็แจ้งความแล้ว พูดภาษาชาวบ้านคือ ต้องเอามันเข้าคุกเสียให้เข็ด
แต่ที่คนอึดอัดกันมันอยู่ตรงที่ว่า เมื่อสาวไปถึงต้นตอแล้ว คนที่ถูกกล่าวหาเป็นลุงแก่ๆ ที่พูดภาษาไทยยังไม่ชัด การศึกษาก็ไม่ได้สูงส่งอะไรนัก มีโทรศัพท์มือถือก็เพื่อพูดจาติดต่อกันอย่างเดียว ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเลยว่าจะส่ง SMS เป็น
ถึงที่สุดอัยการก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าตาลุงคนนั้นทำ ไม่มีมูลเหตุจูงใจที่แกจะทำ
แต่ถ้าคำตัดสินมันออกมาว่ายกประโยชน์ให้จำเลย ก็จะเกิดคำถามทำนองทฤษฎีสมคบคิดว่าแล้วใครทำ ทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วใครได้ประโยชน์
เพราะฉะนั้นผิดไม่ผิดก็ต้องผิด คุณว่าไหม
อ่านสองย่อหน้าสุดท้ายแล้วผมรู้สึกเหมือนระบบยุติธรรมบ้านเรานี่ "สั่งได้" เลยนะครับ
แต่ยังไงก็ตามในระยะยาวแล้ว คำตัดสินแบบนี้ วิธีพิจารณาคดีแบบนี้ มาตรฐานการประกันตัวแบบนี้ ผมเชื่อว่าจะส่งผลเสีย (ต่อทั้งสถาบันกษัตริย์และสถาบันศาล) มากกว่าผลดี
pittaya.com
หลังๆนี่เห็นคำว่า ตรรกะเพี้ยน, ป่วย, ผิด บ่อยจัง จริงๆแล้วทุกอย่างที่พิมพ์กันมาก็ความเห็นส่วนตัวทั้งนั้น
แล้วการที่เอาบรรทัดฐานตัวเองไปวัดคนอื่น แล้วสรุปว่าไอนั่นเพี้ยนไอนี่แปลกมันดูด่วนตัดสินจัง
เรามาเปลี่ยนเป็น "ข้อนี้ผมคิดไม่เหมือนกับคุณนะครับ" แบบนี้ดูน่ารักกว่านะผมว่า
RIP คุณอำพลด้วยครับ . . . ประเด็นอื่นๆไม่ขอแสดง
จากการไล่อ่านความคิดเห็น
อากง สมควรตายไม๊ อันนี้บอกไม่ได้ เพราะ ที่อากงตายน่าจะมาจากมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่ง ตายหรือไม่ นี่ก็ไม่มีทางรู้ แล้วแต่บุญกรรม ต่อให้ทำ เคมีบำบัด ผ่าตัด ฉายรังสี อื่นๆ ก็บอกไม่ได้ว่าจะรอดหรือไม่
แต่อากงสมควรติดคุกไม๊ หรือ ตายคาคุกไม๊ อันนี้ผมว่าอากงยังไม่น่าจะต้องติดคุกหรือตานคาคุก ในสภาพนี้
ประเด็น หลักฐาน อ่อนหรือแข็ง การเป็นเสื้อแดงทนายแดงหรืออะไรต่างๆ ก็ตามสถานการณ์ที่เคยมีการวิเคราะห์มาแล้ว
ประเด็นการประกันตัว อันนี้ผมเห็นว่าควรได้ประกันตัว เพราะ ผมก็ยังไม่เคยรู้สึกว่า กับ โรคขนาดนั้นแล้ว การรักษาในเรื่อนจำ จะทำได้ดีพอ ไม่ต้องโรคขนาดนั้นก็ได้ คนไข้ผมหลายๆคน เช่น วัณโรค ทั้งๆที่การรักษาแบบ DOT ในเรือนจำน่าจะทำได้ดีด้วยซ้ำ (การรักษาแบบที่มีคนเช็คว่าคนไข้ได้รับประทานยาทุกวัน) หรือ โรคเรื่อรัง อื่นๆ พบว่า คนไข้ที่เป็นผู้ต้องขังจะขาดยาเยอะมาก
และในหลักการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในระยะสุดท้ายที่ผู้ป่วยที่ค่อนข้างปลงแล้ว จะเป็นการรักษาแบบประคับประคอง เพื่อให้ผู้ป่วยเสียชีวิตแบบสงบและรู้สึกดีที่สุด เช่น อัดยาแก้ปวดพวก morphine ได้เต็มที่ ให้ผู้ป่วยอยู่ที่บ้านกับลูกหลานไม่ควรต้องเสียชีวิตในเรือนจะเช่นนี้
อย่างว่า คนใช้กฏหมายไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรต่างๆทางการแพทย์ แต่มักจะมาตัดสินใจในทางการแพทย์ด้วย ซึ่งผมว่าไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่
+100
สม
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอำพลด้วยครับ
RIP
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยินดีต้อนรับสู่ดราม่าแอดดิค
ครั้งแรกที่เห็นหน้าสอง
เพิ่งรู้ว่ามีหน้า 2 ด้วย O_O
รักนะคะคนดีของฉัน
Pages