Paul Amsellem ผู้อำนวยการของบริษัทที่เน้นทำการตลาดบนมือถือ Mobile Network Group เปิดเผยกับ Computerworld ว่า ถึงแม้ไอเดียการทำสมาร์ทโฟนเองจะเป็นไปได้ยาก เนืองจากมีคู่แข่งหลักในตลาดอย่างแอปเปิลและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ แต่เฟซบุ๊กก็ต้องทำอะไรซักอย่างในตลาดอุปกรณ์พกพาเพื่อหาตลาดเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถเติบโตได้ต่อไป
Amsellem คาดว่า สมาร์ทโฟนจากเฟซบุ๊กน่าจะเข้าสู่ตลาดได้ใน 18 เดือนนับจากนี้ และเนื่องจากเฟซบุ๊กต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเครือข่ายโทรศัพท์ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการเครือข่าย และงานด้านลอจิสติกส์ เพื่อมาทำตลาดสมาร์ทโฟนของตัวเอง บริษัทอาจมีสองทางเลือก ดังนี้
ถึงแม้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็เคยมีข่าวลือว่าเฟซบุ๊กได้มีโครงการ "Buffy" เพื่อผลิตสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ แต่ Amsellem กล่าวว่าหากเฟซบุ๊กจะทำอย่างที่เป็นข่าวลือนั้นก็ต้องใช้เวลาอีกมากในการนำสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดและวางกลยุทธ์ในลักษณะเดียวกับไมโครซอฟท์-โนเกีย
Amsellem เป็นหนึ่งในส่วนน้อยที่มองแนวคิดการทำสมาร์ทโฟนของเฟซบุ๊กเองในแง่ดี เพราะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญ 4 รายได้แสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้
ในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนก่อน IPO เฟซบุ๊กได้ยอมรับว่า การใช้บริการผ่านอุปกรณ์มือถือจะมาแทนที่การใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำให้เป็นผลเสียต่อรายได้และผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากเฟซบุ๊กบนอุปกรณ์มือถือไม่มีการแสดงโฆษณา และการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ที่ใช้บริการผ่านอุปกรณ์มือถือนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือและเครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งเฟซบุ๊กไม่สามารถควบคุมได้ (ข่าวเก่า)
ที่มา: Computerworld
Comments
เป็นประเด็นที่เสี่ยงมากเลยนะครับ .. อาจจะเกี่ยวเนื่องกัน แต่กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่แตกต่างกันมากเลย เดี๋ยวนี้เห็นนิยมตัดธุรกิจที่แบกรับความเสี่ยงกันทั้งนั้น ^^
my blog
ซื้อ Nokia ดูแล้วเสี่ยง แต่คุ้มเหมือนกัน เพราะถ้าจะแข่งในตลาดนี้การทำแอนดรอยควรเป็นตัวเลือกสุดท้าย เพราะยังไงก็ลดต้นทุนสู้แซมซังไม่ได้อยู่แล้ว
กำลังคิดว่า ไม่ตามน้ำทำ android เป็นความคิดที่ถูกจริงหรือ ผมว่าทางที่ดีหาจุดร่วมดีกว่า (เหมือน amazon kindle) อย่างที่เคยให้ความเห็นไว้ ตลาด os สุดท้ายจะเหลือผู้ครองตลาดเพียงเจ้าเดียวครับ (ขวางไปเจ็บตัวเปล่า ๆ ยกเว้น MS นะ นั่นเขาคู่แข่งตรง เพราะทำ os อย่างเดียว)
เฟซบุ๊กก็ต้องทำอะไรซักอย่างในตลาดอุปกรณ์พกพา
... ควรพัฒนาแอพ facebook ให้ทำงานให้รวดเร็วขึ้น
+1 On mobile อืดมาก
ส่วนตัวมองว่า มูลค่าของ Facebook ตอนนี้ มันสะท้อนกระแสของตลาดมากกว่ามูลค่าของบริษัท
ปกติมูลค่าของบริษัทมันอยู่ที่การทำกำไร ซึ่ง Facebook เอง ทำกำไรได้น้อย มีแค่ฐานข้อมูลสมาชิกที่คาดว่าจะแปลงเป็นต้นทุนของข้อมูล ซึ่งจริงๆ มันไม่ได้แปรผันตรงขนาดนั้น
ดูอย่างบ้านเรา คนที่ใช้ facebook บ่อยๆ ..เอาเข้าจริงๆคือกลุ่มที่ไม่มีรายได้ ซึ่งตรงนี้ การที่นักลงทุนจะเข้ามาโฆษณา มันก็คงไม่ใช่ช่องทางที่ต้องทุ่มงบลงมา อย่างมากก็แค่เจียดงบมาเล็กๆน้อยๆ
หลุดประเด็นไปเลยกับหัวข้อ ห้า ห้า ส่วนเรื่องการทำ smartphone ไม่ว่ายังไงก็ต้องซื้อแหละ ทำขึ้นมาใหม่ก็ต้องซื้อบริษัทเล็กๆอยู่ดี สมัยนี้ OEM มันเป็นเรื่องปกติในวงการอุตสาหกรรม
..: เรื่อยไป
มูลค่าลดลงเรื่อยๆ 555+
ส่วนเรื่องคนไม่มีรายได้นี่จริงหรือครับ? ส่วนใหญ่จะอยู่วัยมัธยม ถึง first jobber นะ ซึ่งพวกนี้กำลังซื้อสูงนะ หาเงินเองไมไ่ด้ ไม่ได้แปลว่าไม่มีกำลังซื้อนะครับ คนหาเงินเองไม่ได้นี่แหละ ใช้เงินเยอะเลย อีกส่วนหนึ่งจะมองว่าเป็นการสร้าง Engagement กับ Brand พอโตขึ้น เวลาเขาเลือกซื้อ เขาก็จะซื้อสินค้าที่คุ้นเคยครับ
เอาอะไรกับคนที่กดไลค์อย่างเดียว กับตามล่าแต่ของลดราคาและของฟรี
พูดเล่นนะ ;p
@TonsTweetings
ห้า ห้า ผมคิดแคบๆไปเองมั้ง จริงแหละกลุ่มนี้กำลังซื้อเยอะ
แต่ส่วนตัวก็ยังมองว่า ช่องทางโฆษณามันยังไม่เฉพาะเจาะจงเท่าไหร่ ร้านค่าส่วนใหญ่เค้าก็เปิด page เอง ไม่ต้องเสียเงินให้ Facebook (รึเปล่า?)
..: เรื่อยไป
ก่อนจะเจอเพจจะทำอย่างไรล่ะครับ บางโฆษณาก็ไม่ได้ link หาเพจก็มีครับ จะประกาศเฉยๆ หรือไปที่อื่นก็ได้
high risk high return ...
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ผมว่ามันเหมือนแก้ที่ปลายเหตุเลย -*- ก็ไปทำแอพให้มีโฆษณาสิครับ 555+ แต่ทำยังงั้นเกรงว่าต่อไปจะไม่มีคนใช้ แต่ถ้าทำเองอย่าซื้อ RIM เลย BBM ผมว่าระบบมันดีก็จริง แต่เอามาแล้วทำอะไรละครับ เอามาทำระบบ FB chate หรอ ? 555
โนเกียเป็นของ MS ไปแล้วไม่ใช่หรอ ?
แต่จริงๆนะ ควรซื้อ RIM มากที่สุด BB นี่เป็น Feature Phone ที่เหมาะกับ Chat/Social จริงๆ
ผิดถนัดเลยครับ Nokia แค่จับมือกับ MS เฉย ๆ นะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่แค่จับมือมั้ง น่าจะเรียกจูบปากมากว่า
Happiness only real when shared.
เฟซบุ๊คจะซื้อ RIM หรือ NOKIA หรอ เกรงว่าทั้งสองเจ้านี้จะไม่ขายนะสิ ถ้า Facebook ยังไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาโชว์ Facebook มูลค่าร่วงลงเรื่อยๆ เกรงว่าทั้งสองเจ้านี้เข้าไปซื้อ Facebook แทน 555+
ขายไม่ขายขึ้นกับเสียงโหวตผู้ถือหุ้นต่อราคาหุ้นที่เสนอซื้อครับ
ไม่อยากให้ Nokia เป็นของ FB นะ ยังรัก Lumia (รุ่นท้อปนะ)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมไม่แน่ใจว่าชื่อ facebook ในมือถือจะดึงดูดใจผู้ซื้อหรือเปล่า เพราะถึงจะมีคนใช้เยอะแต่ทุกวันนี้อุปกรณ์ต่างๆ ก็เข้า facebook โพสรูป หรือ comment ได้อยู่แล้ว มองไม่ออกว่ามือถือ facebook จะทำอะไรได้แหวกแนวไปกว่านี้ ถ้าเดิม ๆ คงเกิดยาก
ไป deal กับ MS ขอ integrate ให้ feature ครอบคลุมทุกส่วนในระบบบน windows phone ไปเลยดีกว่า ไหนๆ ก็ฝังไปตั้งหลายส่วนแล้ว
เหมือนกับ Twitter ใน iOS ใช่ปะ O.o
ก็น่าจะทำนองนั้นครับ เพราะตอนนี้ fb ฝังตัวเองลงไปในหลายๆ ส่วนมากเลย ตั้งแต่ calendar, contact, picture, camera ใน wp os อยู่แล้ว ผมว่าถ้าจับมือทางนี้ดีๆ อาจลามไปฝังในตัว os windows 8 ไปเลยก็ได้ เพราะเท่าที่ดูๆ มา fb เองกับ ms ก็จับมือกันดีอยู่ โดยหลักๆ เห็นชัดๆ ก็มี bing ไปเสริมๆ อยู่ในตัวเว็บไซต์ facebook เองอยู่แล้ว
นั่นนะซิ จะซื้อบริษัทมือถือไปทำไม ถ้าดีลกันแบบนี้จริงๆ FB มันก็จะไปอยู่บน Windows Phone ได้ทุกเครื่อง
MS เองก็เอาเรื่องนี้ชูเป็นจุดขายได้ด้วย Win-Win
ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ซื้อ Nokia เลย
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมว่า FB Phone นั้นจะดีหรือไม่นั้นไม่ใช่หลักการที่ว่าคนจะสามารถโพสได้เร็สแค่ไหนหรอกครับ
แต่ควรยกประสบการณ์จาก FB บน Desktop ให้มาใช้บน Mobile ได้มากกว่า
I need healing.
คำถามคือคนเราใช้ชีวิตมี Facebook เป็นศูนย์กลางของชีวิตขนาดที่ว่าจะทำยี่ห้อมือถือเองได้?
แล้วมันจะสร้างความแตกต่างกับผู้ใช้มือถืออื่นแล้วมีแอพ Facebook ติดตั้งอยู่แล้วอย่างไร? มันดีเหนือกว่าอย่างไร? ทำไปแล้วมันเพิ่มคุณค่าให้คนได้อย่างไรนอกเสียจากการตกเป็นเป้าในการ probe หาข้อมูล (หรือหากิน) มากกว่าเดิม?
@TonsTweetings
คิดอะไรไม่ออกก็เจาะตลาดองค์กรไป เดี๋ยวนี้หลายๆที่แทบจะใช้ facebook แทน email กันอยู่แล้ว แถมมี microsoft ที่เป็นเจ้าพ่อตลาดองค์กรเป็นพันธมิตรอยู่แล้วด้วย
ผมคนนึงที่จะไม่ใช้ Facebook Phone สำหรับผมมันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยแถมยังรู้สึกว่าโดนคุกคามความเป็นส่วนตัว Facebook น่าจะพัฒนาซอฟต์แวร์แล้วไปร่วมมือกับมือถือค่ายดังๆ ออกตัวรุ่นท็อปที่ไม่ใช่รุ่นกะโหลกกะลา ปรับแต่งมาพิเศษ แบบนี้ดูแล้วยังจะน่าใช้กว่า
ผมมองว่า fb ยังพัฒนาได้อีกเยอะครับ มันไม่ใช่แค่ที่เราเห็น ที่เราใช้กันแค่ถ่ายรูป เม้น แชร์เหมือนทุกวันนี้แน่ๆ มันพัฒนาไปในทางอื่นได้อีก และมันน่ากลัวมากๆนะครับ ถ้าเค้าทำให้มันไปถูกทางได้ มันอาจจะเป็นคู่แข่งตัวสำคัญที่ตัวบิ๊กๆตอนนี้อาจจะต้องเหลียวมองเลยนะ
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
สำหรับผมคิดว่ายากนะ ถ้าจะซื้อโนเกีย
จะทำ ทำไมหว่า ทำก็ไม่ซื้อหรอก คงอีกนาน ช่วยทำแอฟของ Android ให้มันเวิกร์ๆ กว่านี้ก่อนเหอะนะ
ถ้าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่างก็เชิญนะคับ ขนาดยักษ์ใหญ่อย่างโนเกียปรับตัวไม่ทันยังเกือบไม่รอด อย่าดึงเอา Facebook ผมหายไปด้วยแล้วกัน!
ปัญหาคือหารายได้บนแพลตฟอร์มมือถือยาก
เลยจะขายมือถือเอง มันแปลกๆไหม
แพลตฟอร์มโมบายตลาดกำลังโต การขานอุปกรณ์เพิ่มรายได้ก็ดีมั้ง
ผมมองว่า การแตกลายผลิตภัณฑ์ของตนเองไปหลายๆอย่าง มันจะทำให้คุณค่าต่อแบรนด์อ่อนแอลง ถึงแม้จะซื้อบริษัทอื่นแล้วจะยังคงความเป็นยี่ห้อของบริษัทนั้นอยู่ ก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะทำให้มันเด่นเหนือคู่แข่งได้อย่างไร ในเมื่อ fb สามารถเข้าถึงได้ทุกโอเอส เพราะแก่แท้และหัวใจสำคัญของ fb ก้คือการแชร์ข้อมูลส่งถึงกัน แค่นั้นจริงๆ และสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ทุกโอเอส ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว ส่วน fb บนคอมผมว่าคนส่วนใหญ่ยังเล่นอยู่เยอะนะ เพราะด้วยความสามารถจำกัดที่สมาร์ทโฟนไม่สามารถทำได้เหมือนเปิดบน PC มีเยอะ เช่นเล่นเกมส์ เป็นต้น