มัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) นักเขียนหนังสือที่ขายดีที่สุด (best selling) หลายเล่ม อาทิ Outliers: The Story of Success (ชื่อภาษาไทย: สัมฤทธิ์พิศวง) ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องระบบทุนนิยมและความเป็นผู้ประกอบการ (capitalism and entrepreneurship) ที่ห้องสมุดของกรุงโตรอนโต ประเทศแคนาดา ว่า ความไม่มีศีลธรรม (อาทิ *การขาดคุณธรรมกำกับชีวิตและการกระทำ (moral compass) ในการตัดสินใจในทางธุรกิจ) เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้นักธุรกิจรายนั้นประสบความสำเร็จ เขาได้ยกตัวอย่าง บิล เกตส์ และ สตีฟ จ็อบส์ ว่าในช่วงที่ทั้งคู่บริหารบริษัทที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมานั้น พวกเขาเป็น "นักลงทุนที่ไร้ความปรานีมากที่สุด" แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือ เกตส์ได้ถอยห่างออกจากพฤติกรรมไม่มีศีลธรรมหลังจากเขาปลดเกษียณจากการทำงานแบบเต็มเวลากับไมโครซอฟท์ และใช้ความร่ำรวยไปกับโครงการที่เกี่ยวกับการทำบุญสร้างกุศลแทน
แกลดเวลล์ได้ชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้เรานิยามนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการทำเงินในธุรกิจ ในขณะที่คนที่จะเป็นที่รู้จักและจดจำในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาได้สร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้ โดยเขาพูดแบบติดตลกว่าอีกห้าสิบปีข้างหน้าผู้คนก็จะยังจำเกตส์ได้จากงานเพื่อการกุศล ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับไมโครซอฟท์ แต่ ณ เวลาเดียวกันผู้คนจะถามว่า "ใครคือสตีฟ จ็อบส์"
ใครสนใจก็ขอเชิญชมคลิปฉบับเต็มได้ที่ท้ายข่าวครับ
คงไม่มีใครทราบได้ว่าหาก สตีฟ จ็อบส์ ยังมีชีวิตอยู่จะทำแบบเดียวกับ บิล เกตส์ หรือไม่ แต่ถ้าดูจากที่เกตส์เกษียณอายุไปทำงานการกุศลในขณะที่จ็อบส์ยังทุ่มเทกับผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ก็อาจกล่าวได้ว่าตัวอย่างนักธุรกิจที่แกลดเวลล์ยกขึ้นมานั้นถูกครับ
ที่มา: ช่อง Toronto Public Library บนยูทูบ ผ่าน Business Insider ผ่าน The Verge
หมายเหตุ: * นิยามคำศัพท์จากเอกสารนำเสนอ หัวข้อ พฤติกรรม/การกระทำที่สะท้อนความมีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ของ ดร.สมโภชน์ นพคุณ ที่ได้รับการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัด กระทรวงยุติธรรม (ไฟล์นำเสนอ PPT)
Comments
แล้วใครหรือครับ? คือสตีฟ จ็อบส์ ..
^^'
my blog
ผมคนนึงที่จะไม่ลืม Jobs
เข้าข่ายล่อเป้าเลยนะเนี่ย :P
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ผมว่าคนจำเค้าได้ว่าเป็นคนสร้าง OS Windows มากกว่านะ แต่ไม่แปลกใจถ้าจะมีคนจำเค้าได้มากกว่าจ็อบส์
ทั้งสองคนสร้างประวัติศาสตร์ไปแล้ว คงไม่มีใครถูกลืมหรอกครับ
อนาคตก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเกิดอายุยืน
พรุ่งนี้ก็คงจะมีคนถามว่าใครหรือคือ มัลคอล์ม แกลดเวลล์?
ใครเหรอคับ มัลคอล์ม แกลดเวลล์???
หนังสือเค้าดีนะครับ ผมเองก็ได้อ่าน Outliers เจ๋งดีครับ แนะนำให้อ่าน
ผมยังไม่เคยอ่านหนังสือของเค้าเลยครับ เดี๋ยวคงต้องไปหาอ่านดูสักหน่อย
ผมก็อ่านแล้วครับ Outlier เยี่ยมมาก
Methuz'es Blog
ถ้า Gates ยังไม่หยุดพัฒนาหรือเลิกเป็น CEO MS จ็อบ กะ แอปเปิ้ลก็อาจจะยังไม่เป็นที่จดจำก็ได้นะ
ผมจำทั้งสองคน แต่ชอบ บิล มากกว่า
+1
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ชอบบิลตรงที่ไม่แรงไป และรู้จักหยุดอยู่บ้านใช้ตังค์ ไม่งก แบ่งปันช่วยเหลือชาวบ้านเนี่ยแหละ
ผมก็จดจำบิลมากกว่านะ
ในความเห็นผม Windows กับ บิล เกต นี่แหละ ที่เป็นผู้เปลี่ยนโลกใบนี้จริงๆ
แอปเปิ้ล ผมก็แค่รู้จักแค่ว่า เป็นหนึ่งใน OS ที่เป็นคู่แข่ง Windows และมีผู้ใช้อยู่กลุ่มนึง
ส่วน iPod, iPhone, iMac ผมก็จดจำในฐานะของแอปเปิ้ล แค่นั้นเอง
+1
+1 เปลี่ยนโลกในความเป็นจริง ต่างจากอุดมคติที่อีกค่ายวาดฝัน
+1
แต่ iPhone ของ Jobs นี่ก็เปลี่ยนโลก smart phone ไปอย่างสิ้นเชิงเลยเหมือนกันนะ
+1
+1 ให้ Multi-Touch
+1
อย่าลืมตัวการ์ตูนที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์ม
+1 ชอบความเห็นตามนี้เลยครับ สุดยอด...!!
คำผิดครับ ^^
ศีลธรรม
ปรานี = เอ็นดูด้วยความสงสาร
ปราณี = ผู้มีชีวิต, สัตว์, คน
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
แก้ไขแล้วครับ
จ็อปส์ -> จ็อบส์ ; ยูทูป -> ยูทูบ
ขออภัย แก้แล้วครับ
คนตายไปแล้วนานไปคนจำได้ก็น้อยลงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ถ้าบิลตายพร้อมจ็อบหล่ะ ?
ผมว่าจะมีคนจดจำมากกว่าครับ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นคนที่มีตังค์และไม่มีตังค์(คนที่ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล) ซึ่งโดยร่วมคนจะรู้จักมากกว่า และมีความเป็นได้ว่าจำลืมยากกว่า
ผมไม่มีทางลืมจ็อบส์แน่
มัลคอล์ม แกลดเวลล์คือใครหรือ ?
+33258
คือคนที่เรียกกระแสความสนใจจากการพาดพิงคนที่มีชื่อเสียง (ขออภัยหากแรง)
จ็อปส์อาจจะอยากให้คนจำสิ่งที่เค้าทำ มากกว่าตัวเค้าก็ได้นะครับ
Gates ยังชนะอยู่ดีเพราะไม่เคยมีใครลืม Windows
+1 ผมก็ไม่ลืมครับ จอฟ้าตอนทำ project จบเล่นเอา code หายเกลี้ยง
น้ำหมากกระฉอกกกกกกก
ไม่เคยมีใครลืม Windows นี้คงไม่จริง ผมคนหนึ่งที่อยู่กับ Windows มายี่สิบกว่าปี เเล้วก็ลืมมันไปเรียบร้อยเเล้วครับ
นี้แสดงว่ายังจำได้น่ะคับ
+1 ฮาจริง
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ชอบครับ ฮ่าฮ่า
5555555555555555555555+
ฮา 55555
♥ ร้ายกาจ
+1 พยายามจะลืม ยิ่งเป็นการจดจำ ฮาความเห็นนี้จริงๆ 555+
คงลืมยาก แต่บางคนอาจไม่รู้จักวินโดว์นะคับ
ผมรู้จักว่าไอที่ผมใช้อยู่คือวินโดว์ สิ่งที่ผมเรียกว่าออฟฟิตที่จริงคือเวิร์ด ตอนจะขึ้นม.4 คับ 555
แล้วระหว่าล แลร์รี่ เพจ กับ แลร์รี่ เอลลิสัน ใครจะฝากชื่อไว้นานกว่ากันละนี่
คนจะจำบิลเกตได้มากกว่า นานกว่าแน่นอนครับ
ลองคิดดูว่าผ่านไป 50 ปี มีมูลนิธิบิลเกตอยู่ คนย่ิอมถามหาประวัติของเค้า
ตอนเจอข่าวนี้ครั้งแรกก็คิดไว้แล้วว่า comment กันยาวแน่ๆ
ผมคิดว่าใครจะจดจำคุณอย่างไร ไม่สำคัญเท่ากับ "คุณลงมือทำ" ให้คนอื่นจดจำคุณแบบไหน ทั้งเกตส์และจ๊อบส์ ก็ได้ "เลือก" และ "ลงมือกระทำ" ในวิถีที่ตนเองต้องการไปแล้ว การ "เลือก" ของเขานั้่นต่างหากละครับที่สำคัญสำหรับเขา แล้วคุณละครับเลือกจะสร้างความแตกต่างอะไรทิ้งไว้กับโลกใบนี้ หรือจะเลือกวิจารณ์ แต่ไม่ยอมลงมือทำซะทีต่อไป
ส่วนตัวแล้วหากเป็นไปได้ ผมเลือกจะทำแบบเกตส์มากกว่านะ มีเงินเกินพอแล้วก็ปล่อยออกมาช่วยคนอื่นบ้าง ทิ้งไว้ซึ่งความแตกต่างที่แท้จริงให้กับคนอื่นๆในโลกนี้ ไม่ใช่แค่สินค้าแฟชั่นที่คงจะได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียว (ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าใครจะเลือกวิธีนั้น)
ส่วนมัลคอมนั้นผมชอบหนังสือเค้านะ เรียกว่ามองต่าง และสวนกระแสดี...ยังอ่านไม่จบเลยขอตัวไปอ่านต่อดีกว่า
ผมจำทั้งสองคน แต่ชอบ จ็อบส์ มากกว่า
+1
+1
I respectfully disagree!!
twitter.com/djnoly
มองในระยะยาวแล้วผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องห้าสิบปีหรอก อย่าว่าแต่ชื่อคนให้กำเนิดเลย ตัวอุปกรณ์เองอีกยี่สิบปีก็แทบไม่มีใครจำได้แล้วว่าอะไรคือ iPhone, iPad หรือแม้แต่ windows ก็เถอะ ถึงตอนนั้นก็มีอุปกรณ์ใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาให้คนฮีอฮาอีกมากมายแล้ว ดูอย่างตอนนี้มีซักกี่คนที่รู้จัก มินิคอมพิวเตอร์ เมนเฟรม สารพัด "บิดา" ของเทคโนโลยี ถ้ามันไม่ออกสอบรับรองไม่มีใครสนใจจะท่องหรอก
แต่การสร้างองค์กรกุศลและช่วยเหลือคนอื่น อย่างน้อยคนที่ได้รับการช่วยเหลือบางคนก็จะจดจำไปตลอดชีวิต หรืออาจเผื่อไปถึงรุ่นลูกหลานก็ได้
แต่มองในระยะยาวขึ้นไปอีก เช่นสองร้อยปี สองพันปี ชื่อต่างๆ มันก็เลือนหายไปหมดละครับ ผมว่าแม้แต่ เซอร์ไอแซก นิวตัน หรือไอนสไตน์ก็ยังไม่รู้จะมีใครจำได้อีกไหม เมื่อถึงวันที่เทคโนโลยีอาจไปอาศัยกันที่นอกโลกแล้ว
ส่วนตัวผมเชียร์ บิลล์มากกว่าครับ ได้แล้วส่งต่อ"ให้"คนอื่น ช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ลำบาก ได้ใจผมกว่าความมุ่งมั่นในการสร้างงานดี ๆ ไปเรื่อย ๆ
ที่จริงมันก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งสองอย่าง แต่การ "ให้" ยังไงผมก็คิดว่ามันดีกว่า
นิวตัน หรือไอนสไตน์ ผมว่า 1000 ปีก็ยังไงก็อยู่ เพราะจะต้องเป็นเรื่องที่มีในชั้นเรียน
คนที่มีอายุ 1000 ปีและคนยังจำใด้ เป็นเรื่องที่มีอยู่จริงนะครับ เช่นพระพุทธเจ้า พระเยชู ...
ยกตัวอย่างที่ยังไม่ถึง 1000 ปีบางคนเช่น Christopher Columbus, Amerigo Vespucci ... นี่ก็ 500 ปีแล้ว
อีกกลุ่มคือคนที่ฝังชื่องสในผลงาน เช่น หลุยวิกตอง (คนนี้ก็ 100+ ปีแล้ว) ชื่อน่าจะอยู่ไปอีกนาน แต่อาจจะไม่รู้แล้วว่าเป็นชื่อคน ในใจผมคนต่อไปคือ Linus (Linux) อาจจะอยู่อย่างไม่ดังนัก แต่ชื่อมันไปกับผลงาน ชึ่ง linux ก็ออกแบบมาให้งอกง่ายตายยากอยู่แล้ว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
พระพุทธเจ้าและพระเยซูที่จำยาวนานเพราะการให้ยังไงล่ะครับ เรื่องทางจิตวิญญาณมันสืบต่อกันได้ยาวนาน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกศาสนาจะอยู่รอดได้เป็นพันปี
ประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่เราจำ ๆ กันได้มันสั้นมากนะครับ ส่วนใหญ่คนที่เรารู้จักจะอยู่ในช่วง 100-200 ปีนี้เท่านั้น ห่างจากนั้นไปก็น้อยลงมาก
เกิน 2000 ปีไปนี่แทบนับคนได้ ส่วนใหญ่ก็แทบเป็นเทพนิยายไปแล้ว แต่ที่จริงมนุษย์ยุคปัจจุบันมีมาหลายหมื่นปีแล้ว ถึงการบันทึกจะเริ่มเมื่อไม่กี่พันปีนี้ แต่ใครจะไปสนใจคนเมื่อห้าหกพันปีที่แล้วล่ะ
นิวตันหรือไอนสไตน์ที่เรารู้จักดีเพราะเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ตอนนี้เกิดจากพวกเขาซะมาก แต่อนาคตข้างหน้าเมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ล้าสมัย ก็คงไม่มีใครมานั่งจำชื่อเขาหรอกครับ
ยิ่ง สตีฟ ที่คนส่วนใหญ่จดจำเขาได้จาก iPhone, iPad, Mac อีกไม่กี่สิบปีผมเชื่อว่าก็ไม่มีใครรู้จักแล้วละครับ เทคโนโลยีอาจไปถึงขั้น virtual ที่แสดงตรงเข้าประสาทเราหมดแล้วก็ได้ ไม่มีใครมานั่งจำของที่ล้าสมัยสุด ๆ ในสมัยนั้นแล้วหรอก
ต่างกับเรื่องทางจิตวิญญาณและการให้ ที่มันไม่มีวันล้าสมัย ^^
+1 เรื่องนี้มันมีมูลนะ
สุดท้ายก็ถูกลืมทุกคนแหละ คลื่นลูกใหม่ก็มาแทนที่ เรื่องราวใหม่ๆ
My iOS apps
My blog
สิ่งที่ Jobs นำเทคโนโลยีประกอบรวมกับแล้วนำเสนอต่อชาวโลก ถ้าพูดถึงในช่วง 10 ปีนี้ก็น่าจะเป็นที่จดจำและเห็นด้วยว่า Jobs ทำให้โลกเปลี่ยนไปพอสมควร
แต่สิ่งที่ Jobs สร้างไว้ก็คิดว่าคงเป็นสิ่งที่อาจจะเที่ยบไม่ได้เลยก็เทคโนโลยี่ในอีก 50 ข้างหน้า(ในตอนนี้ก็มีเทคโนโลยีล้ำๆใช้งานอยู่แต่ไม่แพร่หลาย) และผู้คนที่อยู่รอดไปในยุคนั้นก็คงเหลือน้อยนัก การที่จะให้คนยุคใหม่ที่เพิ่งจะเกิด(หรือแม้อาจจะอยู่ป. 1 ในตอนนี้) จะให้มาจดจำเรื่องเล็กๆแบบนี้คิดว่าจะมีน้อยมากๆ
ส่วน บิล เกตส์ การกุศลที่เค้าทำน่าจะส่งผลให้ชื่อเสียงอยู่อย่างยาวนาน ยิ่งถ้าองค์กรการกุศลของเค้ายังคงอยู่ใน
ที่ผ่านมาอดีต idol ที่ถูกลืมเยอะแยอะ
ตอนนี้ jobs เป็น idol
ผ่านไปซัก 10 ปี ก็กลายเป็นหนึ่ง idol ที่ไม่มีใครจำได้เหมือนคนอื่นๆนั้นแหละครับ
ส่วนตัวผมจำได้ทั้งคู่แหละครับ แต่ว่าผมประทับใจเกตส์ตรงที่เอาเงินที่ทำงานมาทำการกุศล
แต่พูดแบบนี้... เกินไป
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าไม่มี steve ก็ไม่มี Bill และถ้าไม่มี Bill ก็ไม่มี steve โลกสร้างเค้าสองคนเกิดมาคู่กัน
และผมก็จะจดจำทั้งสองคนไม่มีวันลืมแน่นอน
อีกห้าสิบปีจะเหลือคนพูดแบบนี้ได้กี่คนล่ะครับ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าผมจะยังรอดรึเปล่า
ไม่ลืม ดาวินชี่ ไม่ลืม เซอร์ไอแซคนิวตัน ไม่ลืม กาลิเลโอ ไม่ลืมเอดิสัน ไม่ลืมไอส์ไตน์ ไม่ลืมฮิตเลอร์ ฉันท์ใด ก็ไม่ลืม สตีฟจ๊อบ กับบิลเกตต์ฉันท์นั้น
+1024
ถ้ายังมีผลงานเอาไว้อ้างอิงอยู่ก็ไม่น่าจะลืมนะครับ
เข้าใจผิดมั้งครับ เค้าไม่ได้ว่าเราจะลืม แต่คนทั่วไปจะไม่รู้จัก นึกถึงคนรุ่นที่จะเกิดด้วย
ชื่อทั้งหมดในบรรทัดบนนั่น มีในบทเรียนหรือในหน้าประวัติศาสตร์เลยครับ ยังอยู่อีกนาน
แต่สตีฟกะบิลเกต เป็นแค่นักธุรกิจเอง เทียบกันไมได้เลย
พูดถึงไอสไตน์โดยส่วนใหญ่คนก็รู้จัก ยุคนี้ Stephen Hawking คือน้องๆ ของไอสไตน์และที่แน่ๆ เค้าคือประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งของเราเลยนะครับแต่ผมว่าไปถามใครๆ ที่แน่ๆ น่าจะยังมีคนรู้จักน้อยกว่าบิลเกตหรือว่าสตีฟจ๊อบส์อยู่มากทีเดียว
ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกันครับ Stephen Hawking เพราะเค้ายังไม่ได้อยู่ในหนังสือที่ผมได้เรียนหรือผมอาจจะเรียนไม่ถึง
แต่ลองคิดถึงคน gen หน้า เอาแบบว่าเพิ่งเกิด หรือเกิดหลังจากนี้ คือคนยุคถัดไปละกัน
ว่าจะรู้จัก Stephen Hawking หรือ Steve Jobs มากกว่ากัน ผมว่าถ้า Hawking ได้บรรจุในหนังสือเรียน คนย่อมรู้จักเยอะกว่า เพราะตอนนั้นคนคงรู้จัก Jobs น้อยลงๆ
ส่วนที่แตกต่างของหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์กับหนังสือ(เรียน?) IT คือหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์จะระบุผู้คิดกฎ ทฤษฎี แนวคิด มาด้วยครับ แต่กับหนังสือ IT มักไม่เป็นแบบนั้น เนื่องจากโลก IT ไปไวมาก และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการต่อยอดจากของเดิมเกือบหมด
เด็กที่เรียน C/C++/PHP/Java ในปัจจุบันจะรู้ไหมว่าใครมันเป็นคนออกแบบ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แต่คนทั่วไปก็จำเทสลาได้ไม่เท่าเอดิสัน
+1024
อัจฉริยะเทสลาผู้น่าสงสาร
ให้รางวัลด้วยการถูกช็อตโดย Tesla coil 2 ทีครับ
ห้ามต่อรอง
Tesla coil ผมรู้จักเพราะ cnc red alert..
หมาเหมอตายเรียบ
นานๆ จะได้เห็น badge Symbian ...แล้วซักวันคนจะลืมว่าโลกนี้เคยมี Symbian
ผมเองก็เพิ่งรู้จัก nikola tesla เพราะได้อ่านความเป็นมาของไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้กันอยู่ทั้งเมืองนี่แหละ
ถึงจะลืมก็ไม่เป็น แต่ก็ควรดีใจที่ช่วงชีวิตเราได้พบได้เห็นคนเก่งๆอย่างนี้ตอนที่เขายังเป็นๆกันอยู่
+1 ใช่เลย
ใช่ครับ เป็นอีกช่วงชีวิตนึงที่เราจะไม่ลืมเลย
ผมว่ามันแล้วแต่กรณีนะไม่มีอะไรตายตัว และยิ่งตอนนี้องค์ความรู้ที่เก็บไว้ หรือการเข้าถึงข้อมูลมันก็ต่างจากยุคก่อน ตัวผมเองคิดว่าก็เราๆ นี่แหละที่จะเล่าสืบทอดให้รุ่นลูกรุ่นหลานฟัง ซึ่งเรื่องราวของทั้งสองก็คงจะพอๆ กันเมื่อมีการยกเรื่องของคนหนึ่งก็อดเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึงอีกคนเพราะต่างคนต่างมีส่วนผลักดันและสร้างประวัติศาสตร์ในยุคเดียวกัน ที่ผมบอกว่าแล้วแต่กรณีก็ยกตัวอย่างเช่น หลายคนที่ใช้งาน Google อยู่ก็ยังไม่รู้จักชื่อผู้ก่อตั้งด้วยซ้ำ
ผมว่าเพราะบิล เกตต์ แกดังมานาน แต่ลุงจ๊อบส์นี่เพิ่งมาดังแบบฉาบฉวยครับ
(ความเห็นส่วนตัวครับ)
Educational Technician
จ๊อบเขาก็ดังมาก่อนบิลเกตอีก -.-
ถ้าคิดแบบนั้นจริงแสดงว่าที่คุณรู้ยังไม่ลึกพอ แค่ระดับผิวๆ ครับ
ดูเป็นกราฟ เกตต์ -> ใครว่ะ ดัง ดัง ดัง ดัง ดัง ดัง
จ็อบ -> ใครว่ะ ดัง ดับ ดัง ดัง ดัง ดับ(ตาย)
Jobs แกอาจไม่แคร์เรื่องนี้ก็ได้ ดูท่าแกจะมีความสุขกับงานของแกมากจริงๆนะ
ผมว่าคนส่วนมากสัก 5-60 % ยังคงคิดว่า บิล เกตต์ยังทำงานกับ MS อยู่นะ ไม่ได้รู้ว่าแกไปทำงานการกุศลซะแล้ว
ชาวโลกจะจดจำสตีฟ จ๊อบส์ เหมือนที่จดจำโทมัส อัลวา เอดิสัน
และชาวโลกจะจดจำบิล เกตต์ เหมือนที่จดจำจอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์
ผมว่าทั้งสองคนเป็นคนที่น่าจดจำและสร้างสิ่งสำคัญให้กับมนุษยชาติทั้งคู่
ถ้าจะเถียงกันว่าใครน่าจดจำกว่า ก็คงหมือนเถียงกันว่า
ดงบังวงแตก เอ๊ย ดวงบังกับ SNSD ใครดังกว่ากันล่ะมั้ง
แต่แทบไม่มีคนจำเทสลาเหมือนที่จำเอดิสันได้เลยนี่สิ
ก็คนละสไตล์หนิครับ ผมว่าสตีฟ ก็สไตล์เอดิสันนะครับ ไม่ใช่แง่่มุมมองนะ แต่ในแง่การแสดงออก เป็นนักบริหาร(ดีไม่ดีอีกเรื่อง) เป็นโชว์แมน ชอบหาเรื่องแย้ง(จ๊อบส์ด่าว่าทุกอย่างห่วย เอดิสันเถียงเรื่องรถควรใช้ไฟฟ้าไม่ใช่น้ำมัน ไฟฟ้าควรใช้กระแสตรงไม่ใช่สลับ ฯลฯ) ส่วนเทสล่านี่เหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนึงมากกว่า คนลืมก็ไม่แปลกครับ
อยากจะบอกว่าเรื่องโฆษณาไม่มีใครเกินอเมริกันชนครับ
จ่า คือผมไม่รุ้จัก จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์ บอกตามตรง ^^"
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมจดจำบิลเกตคือเขาเป็นเศรษฐีอันดับ1ของโลก (ไม่รู้ตอนนี้อันดับไหนแล้ว)
จริงๆ แล้วคงหายากที่จะมีใครลืม Windows ... สาวก Windows ไม่มีก็จริง แต่มันแทบจะซึมอยู่ทุกองค์กร
แม้กระทั่งพวกที่เกลียด Windows ตั้งแต่ยุคเริ่มแรก ... ก็มักจะพูดถึง Windows อยู่บ่อยๆ
สาวก Mac ก็อดไม่ได้ที่จะเอา OS ตัวเองไปเทียบกับ Windows
คนใช้ Opensource OS อย่าง Linux ก็หาได้น้อยคนที่จะเอา OS ที่ตัวเองรักไปเทียบกับ Mac OS หรือ OS ตัวอื่นๆ นอกจาก Windows
ไม่ใช่แฟน Windows ครับ แต่อย่างน้อยในบ้านเราส่วนมากก็จ้างงานบุคคลที่มีความสามารถเป็น Microsoft based technology เป็นซะส่วนมาก (MS Office, .NET)
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด (เล่นมาทุก OS ถ้ามี OS เกิดมาอีกผมก็ต้องไปลองเล่นกับมัน) ช่วงนี้ติดใจ Opensource OS อย่าง Linux.(LUbuntu)
ถ้าเทียบกันนักวิทยาศาสตร์ น่าจะเทียบได้กับคู่ ไอน์สไตน์ กับ นีลส์ บอร์ ทางด้านวิชาการดังพอกัน แต่คนทั่วไปรู้จัก ไอน์สไตน์ มากกว่าเพราะมีส่วนร่วมกับสังคมมากกว่า
ผมอ่านมาเรื่อยๆหลังๆเริ่มจะ ไม่ใช่บุคคลแค่สองคนในหัวข้อข่าวละ :P
ก็ถูกของเขานิ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1
ไม่แปลกฮะ มีองค์กรการกุศลของตัวเอง ถ้าองค์กรไม่เจ๊งยังไงชื่อก็อยู่ได้เรื่อยๆ ยิ่งถ้าเป็นชื่อพวกโรงเรียนหรือตึกนะ ยิ่งสบาย
ง่ายๆ นะ ผมพนันได้เลยว่าอีกร้อยปียังไงคนสุพรรณฯก็ยังจำ "บรรหาร-แจ่มใส" ได้ ในขณะที่ชุมพลที่เป็นลูกชายแท้ๆ ไม่ถึง 50 ปีคนก็ลืมหมดแล้ว
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
การทำการกุศลเป็นแค่รูปแบบการสร้างภาพลักษณ์องค์กร
ที่มีการหวังผลประโยชน์ทาง morality อยู่แล้วครับ ทุกบริษัทใหญ่ต้องทำเป็นธรรมเนียม
สุดท้ายก็เป็นการซื้อชื่อเสียงให้ยาวนาน ด้วยเงิน
ผมคงจำคนที่ถึงวัยเกษียณก็ยังทำงานต่อจนวาระสุดท้ายมากกว่า
เศรษฐีหมื่นล้าน ที่ไม่สนใจว่ามีลูกค้ากี่คน rendering crash ในตอนเช้า
ผมเข้าใจว่าเป็นอีกรูปแบบของการบริหารทรัพย์สิน อย่าลืมว่าในอเมริกามีภาษีมรดกและอัตราภาษีแบบก้าวหน้า ไม่ปฏิเสธว่าเป็นการทำเพื่อคนอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ใช่การให้อย่างเดียวมันมีได้รับด้วยนอกเหนือจากชื่อเสียงนะ win- win น่ะครับ
ผมไม่คิดว่า Gate Foundation เป็นแค่ "การสร้างภาพลักษณ์" นะครับ ระดับบิล เกตส์ บริจาคเงินอย่างเดียวก็ถือว่าช่วยมากแล้ว แต่พี่แกทุ่มให้กับการวิจัยทั้งด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน การศึกษา สาธารณสุข และการยกระดับมาตรฐานชีวิตมนุษย์พื้นฐาน ถ้าจะแค่ "สร้างภาพลักษณ์" คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอกครับ
ผมไม่ได้เป็นอะไรกับบิล เกตส์ แต่หากคุณมองว่าสิ่งที่เค้าทำตอนนี้เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ผมแนะนำให้คุณหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ตอนนี้เค้าลาออกจากบริษัทไมโครซอฟท์ (นานแล้ว) แล้วก็ไปลงทุนหุ้นในหลายๆ บริษัท
ผมอยากรู้ว่าเค้าทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กรไหนครับ?
การลงทุนด้านการกุศลทำให้ได้รับการลดหย่อนภาษีครับ
เงินที่เค้าลงไปกับการกุศล มันมากกว่าที่เค้าจะต้องจ่ายภาษีเยอะครับ
ถ้าจะทำเพื่อแค่ลดภาษีจริงๆ บริจาคให้การกุศลเท่ากับจำนวนที่เราจะเอาไปใช้ลดหย่อนได้ก็พอครับ...
ตอนแรกบอกว่าสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรนะครับ :D
โรงพยาบาลรามาธิบดีของไทยตั้งขึ้นมาได้ก็ด้วย "การสร้างภาพลักษณ์องค์กร" ที่คุณว่านี่ล่ะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่ต้องห่่วงว่าจะกลัวลืมเดี๋ยว Google จับเอามาทำเป็น Doodle เอง! >>> Google Win!
+1024
ไม่มีลายเซ็น
สตีฟ จ็อบส์ ก็เป็นพ่อค้าด้าน technology คนหนึ่ง มีเพียงแค่นักคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่รู้จักเขา อาชีพอื่นๆในโลกนี้ มีเพียงแค่ส่วนน้อยที่จดจำเขาได้
พ่อผมเป็นทหาร แม่เป็นแม่บ้านอยู่บ้านเฉยๆ ก็ยังรู้จักเลยครับ
ส่วนน้อยไง
ถึงขั้นมีแฟนพันธุ์แท้สตีพ จ๊อบส์ ผมว่าไม่ใช่ส่วนน้อยแล้วนะ
ผมว่าคนสมัยนี้เสพข่าวกันได้ง่ายกว่าเดิมแล้วนะครับ
ข่าวไอทีก็มีแทรกข่าวหลักเกือบตลอดเวลา ... ผมว่าแม่ผมก็รู้จักจากตรงนี้นี่แหละ
อย่างตอนสตีฟ จ็อบส์ตายนี่เป็นข่าวค่อนข้างใหญ่นะ ... หลายๆ คนนาจะรู้จักตอนที่เค้าตายแล้วนี่แหละครับ
แม่ของผมเป็นแม่ค้า อินเตอร์เน็ตเล่นไม่เป็น
แต่รู้จักจ๊อบส์จากข่าวในทีวี ตอนจ๊อบส์ตาย
แม่ของผมชื่นชมว่าเป็นคนเก่ง คนนึงของโลก ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่า iPhone คืออะไร อิอิ
คนคิดค้นนวัตกรรม (และสามารถทำให้แพร่หลาย) ชื่อจะถูกจารึกเอาไว้เพราะมีการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้คน รวมถึงตำรา และหนังสือต่างๆ จะมีการอ้างถึงตลอดเวลา แต่เมื่อใดเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ ชื่อนั้นก็จะค่อยเลือนหายไป ส่วนสินค้ายอดนิยม พอหมวดช่วงอายุสินค้าทุกคนก็จะค่อยๆ ลืม
เค้าแค่ให้ความเห็นว่าคนจะลืม Jobs ไม่ได้บอกว่าให้ทุกคนลืม Jobs ซะหน่อย ผิดถูกก็แค่ความเห็น จะเดือดร้อนกันไปใย...
ผมไม่เห็นด้วยนะ ผมว่าโลกนี้จดจำผู้คนจากความดัง ไม่ใช่ความดี
ฮิตเลอร์ยังมีผู้คนจดจำมากกว่ามารีคูรีซะอีก
นับประสาอะไร บิลเกตส์จะถูกจดจำในฐานะผู้สร้างวินโดวส์ครับ ไม่ใช่ในฐานะผู้บริจาคการกุศลอะไรทั้งหลายแหล่
และสตีฟจ๊อบส์ก็จะถูกจดจำในฐานะศาสดา #สาวกสไตล์ 555555
คนที่บอกผมไม่ลืมจอบส์หรอกครับ นี่ได้อ่านไหมว่าประเด็นที่ข่าวมุ่งคือคนทั่วไปในอีกห้าสิบปีข้างหน้า ไม่ใช่ตัวคุณในปัจจุบัน ♥
ทิม เบอร์เนิร์ส ลี คือใครเหรอ ♥ แมนเชสเตอร์ มาร์ก 1 เป็นชื่อของอะไรเหรอ ♥ ถ้าต้องเปิดกูเกิลเพื่อหา นั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกันล่ะว่าทำไมคนในอีก 50 ปีข้างหน้าจะจำสองหน่อ จอบส์ เกตส์ ไม่ได้
มาร์ก 1 คือรัฐบาล มาร์ก 1 ครับ
:genius:
:facepalm:
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ทุกวันนี้ยังนั่งอยู่หน้า Windows by Microsoft อยู่เลย การที่จะลืมภาพบิลเกตจาก Microsoft ยาก
อยากบอกว่า .. ต่อไปถึงใครๆ ในโลกจะลืมเขา .. แต่ผมไม่มีวันลืมเขาทั้ง Gates และ Jobs ครับ ^^
ทั้งสองเลือกทางด้วยตัวเอง สิ่งที่ทั้งสองทำล้วนมีความหมาย และประโยชน์ต่อผู้คน Gates ถูกจดจำในฐานะ "นักบุญ" Jobs ถูกจดจำในฐานะ "นักพัฒนา" แม้อนาคตโลกจะลืมใครก่อนก็ดี แต่หากมีแต่ "นักบุญ" โลกนี้ก็คงไม่พัฒนา หากมีแต่ "นักพัฒนา" โลกนี้ก็คงไม่ได้สดใสเท่าทุกวันนี้..
ผมชอบเกตมากกว่าจ๊อบ