อีกหนึ่งความสามารถของ Retina MacBook Pro ที่ยังไม่มีใครพูดถึงมากนักก็คือการแสดงผลในโหมด scaling หรือว่าง่าย ๆ คือการแสดงผลที่ให้พื้นที่ในการทำงาน (desktop space) เทียบเท่ากับ 1680x1050 หรือ 1920x1200 ซึ่งหากเทียบกับโหมด Retina ปกติแล้ว ถึงแม้ว่าภาพและตัวหนังสือจะมีความละเอียดสูงมากกว่าจอภาพเดิม 4 เท่าด้วยหน้าจอความละเอียด 2880x1800 ก็ตาม แต่พื้นที่ในการใช้งานของผู้ใช้จริง ๆ แล้วก็เทียบเท่ากับหน้าจอ 1440x900 เท่านั้น
ที่น่าสนใจคือวิธีการเรนเดอร์ภาพในโหมด scaling ต่าง ๆ ของ OS X ซึ่งแทนที่แอปเปิลจะเลือกใช้วิธีการขยายภาพต้นฉบับที่ 1920x1200 มาให้เต็มจอขนาด 2880x1800 ตามปกติแล้ว แอปเปิลกลับเลือกใช้วิธี oversampling ด้วยการให้การ์ดจอทำงานหนักกว่าที่มันได้ถูกออกแบบมา โดยการ์ดจอจะต้องเรนเดอร์ภาพขนาด 3840x2400 (หรือ 4 เท่าของขนาด 1920x1200 หรือว่าง่าย ๆ ที่ 9.2 เมกะพิกเซล) หลังจากนั้นค่อย downscale ภาพกลับลงมาอยู่ที่ 2880x1800 อีกที โดยวิธีนี้จะทำให้คุณภาพของภาพออกมาดีกว่าการ upscale ภาพตามปกติ
ผลที่ตามมาก็คือประสิทธิภาพในการทำงานที่อาจจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรนเดอร์ animation ต่าง ๆ ของ OS X อย่างเช่นการ scroll หน้าเว็บต่าง ๆ โดยจากการทดสอบด้วยหน้าเว็บที่ใช้ทรัพยากรในการเรนเดอร์สูงอย่างเฟสบุ๊ค frame rate จาก MacBook Pro รุ่นปี 2011 เฉลี่ยจะอยู่สูงกว่า 50 เฟรมต่อวินาที Retina MacBook Pro ในโหมด scaling สามารถประมวลผลเฉลี่ยออกมาได้แค่ 20 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งหมดนี้ก็มาจากการที่ GPU จะต้องประมวลผลจำนวนพิกเซลที่มากกว่าเดิมหลายเท่า
ทั้งหมดนี้พอสรุปได้ว่ามันไม่มีวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้มากนัก เนื่องจากแอปเปิลได้พยายามผลักดันให้ชิปกราฟฟิคทำงานหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว และมากกว่าที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่นเคยทำ แต่จากในรายงานเดียวกันนี้ของ AnandTech การทดสอบเดียวกันนี้บน OS X Mountain Lion การทดสอบ scroll หน้าเว็บต่าง ๆ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และน่าจะมาจากการที่แอปเปิลเลือกใช้ Core Animation ในการเรนเดอร์การ scroll
ส่วนวิธีการที่จะให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่านี้ได้อีกนั้น คงไม่มีวิธีอื่นนอกจากรอให้มีเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคที่จะสามารถตอบสนองความต้องการทางทรัพยากรที่มากกว่าเดิมมาก ของหน้าจอความละเอียดสูงเหล่านี้ได้
Comments
โอ้ววว...
นี่คือเหตุผลที่กลับมาหา Nvidia อะป่าว
ต้องการเรนเดอร์หนักๆ เฟรมเรทสูงๆ
ว่าแต่ถ้าใช้แบบปกติ แล้วได้พื้นที่ใช้งานนิดเดียว จะมีประโยชน์อะไร นอกจากสวย และการตลาด?
ใช้ปกติซื้อรุ่น pro ธรรมดาสิครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ใช้แบบปกติ คือใช้งาน Native Resolution ที่มันกำหนดมา ซึ่งแปลว่าจะได้ใช้พื้นที่นิดเดียวตามเนื้อข่าว แล้วอีกอย่างมันมีหลายปัจจัยที่จะซื้อมากกว่าจอมั้ยครับรุ่นนี้? เหอะๆ
ส่วนตัวผมว่ามันเด่นแค่จอนะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เปล่าครับ มันไม่ใช่แค่การดับเบิ้ล resolution ทั้งหมดทั้งหน้าจอ แต่แอ็ฟที่ออกแบบมาให้รองรับ rMBP สามารถแสดงผลแบบผสมผสานได้ตามความเหมาะสม อย่าง iPhoto ยูไอของแอ็ฟจะชัดขึ้น 4X แต่รูปในแอ็ฟจะแสดงโดยใช้ pixel-pixel
ลองดูครับ http://youtu.be/94OenZ71ADY
+1 informative
@TonsTweetings
ก็ถ้าอยากได้พื้นที่ใช้งานเยอะๆก็มีให้ปรับได้ครับ
ผมหมายถึงทำงานแบบ Native ของมันไงครับ ปรับได้ก็ใช่ แต่ถ้ามันกิน Performance แถมออกมาไม่ดีแบบนั้น จะใช้ได้จริงหรือ
ตอบผิดอันครับ :-(
ต้องลองไปลูบคลำดูแล้วล่ะครับ ถึงจะรู้คำตอบนี้
twitter.com/djnoly
ไม่ถูกซะทีเดียวครับ เพราะว่าพื้นที่การทำงานในส่วน content เพิ่มขึ้นจริง (เช่นการตัดต่อวีดีโอขนาด 1080p ที่จะเห็น native resolution ของวีดีโอได้เลย) หรือขนาดของรูปภาพระหว่างการตกแต่งภาพ
ส่วนที่ถูกนำมา x2 ก็คือส่วนของ UI
@TonsTweetings
เห็นความละเอียดการแสดงผลแล้วหนักยิ่งกว่าเกมอีก
ขนาดวิน7เครื่องการ์ดแยกแมพๆ โหลดลากเพจ facebook ทีตุกเอาเรื่องอย่าได้หวังเฟรมเรทเลย
ว่าแล้วทำไมตอนไปลองถึงรู้สึกว่ามันกระตุกๆ
อยู่กับอดีต ย่ำอยู่กับปัจจุบัน หรือ มองไปในอนาคต ผมว่าข่าวนี้เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของแอปเปิ้ลนะ
โลกมันยังไปไม่ถึงจุดนั้นจริงๆ ซื้อตอนนี้เหมือนคนซื้อไอโฟนออกใหม่จากมาบุญครอง เทคโนโลยีใหม่ เพิ่งมา ยังแพง กำเงินไว้แน่นๆก่อนสหายทั้งหลาย (5555)
ซัก 2 ปีรอให้เจ้าอื่นก็จะผลิตจอความละเอียดระดับนี้ได้สบายๆ ราคาก็จะถูกลง การ์ดจอก็น่าจะมีประสิทธิภาพเรนเดอร์ความละเอียดระดับได้ชิวๆ (ไม่ต้องไปเค้นมัน) พอดี
@mamuang
มันเป็นเรื่องปกติของโลกเทคโนโลยีล่ะครับ บางคนเลือกจะเป็น early adopter ใช้ก่อน ลองก่อน แต่ต้องเสี่ยงกับคุณภาพ และต้องจ่ายราคามากกว่า บางคนก็เลือกเป็น pragmatists ที่จะเริ่มใช้เมื่อความเสี่ยงต่างๆเริ่มหมดลง แล้วที่เหลือก็ต่อด้วย conservatives และ late adopters
@TonsTweetings
+1
+1
ตามที่คาดการเอาไว้ว่า mac retina รุ่นแรกต้องมีอะไรที่ไม่สมบรูณ์ 100 %
แต่ดูแล้ว ถ้าท่า รุ่นที่ 2 ของ มันน่าจะน่าใช่งานมากมาก
แล้วเกม 3D rander พอดีจอใช่เปล่าหว่า
ที่เคยแซวๆ กันเรื่องความร้อน .... ตอนนี้คงแซวกันหนักกว่าเดิม
คงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในที่สุดมันก็มี "รูๆ" อยู่ใต้เครื่องอ่ะครับ 555+
Dream high, work hard.
"รู" นี้ ทำให้ CD-Drive หาย ^^
มันก็ดีแล้วนี่ครับมีการ์ดจอก็ต้องใช้งานให้เต็มที่ ซื้อมามันต้องได้ใช้งานเต็มที่ จะได้ไม่ขาดทุน
ทำงานเต็มที่ กับ ทำงานหนักกว่าที่ถูกออกแบบมา ไม่เหมือนกันนะครับ :-)
มันก็ถูกออกแบบมาให้ทำแบบนั้นไม่ใช่หรือครับเพราะยังไงเขาคงไม่ออกแบบให้เกินกว่ากำลังของ gpu ใช่ไหมครับ (แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆแบบที่มีรายงานกันเยอะๆผมก็ไม่แย้ง) เราๆท่านๆก็รู้กันอยู่แล้วว่า gpu ของ nvidia มีเอกลักษณ์ยังไง
http://www.anandtech.com/show/6023/the-nextgen-macbook-pro-with-retina-display-review/8
น่ากลัวเรื่องแบตเหมือนกันนะครับถ้ามันต้องทำงานแทบจะตลอดเวลา
จริงๆ ผมมองว่า GPU มันควรถูกใช้กับงานเฉพาะอย่างมากกว่านะครับ เช่นพวกแอพ production แอพพวกเขียนแบบต่างๆ หรือแม้แต่เกมส์ ซึ่งถ้าพลังของ GPU ถูกใช้ไปกับการ scaling ทั้งหน้าจอจนเต็มที่แบบนี้แล้ว งานที่จำเป็นต้องใช้พลัง GPU จริงๆ มันก็กลับใช้ได้ไม่เต็มที่นะครับ
สรุปว่าเป็น beta ก่อนสินะ
เหมือนเป็นการบอกกับผู้ผลิต VGA ว่า.. แม้แต่ mode ทำงานทั่วไป Apple ก็ต้องการ GPU ความเร็วสูงเหมือนกันนะ
ผู้ผลิตรายอื่นถึงอยากลอกก็คงลำบาก เพราะคงกลับมากดราคาเครื่องแข่งกับ Apple ไม่ได้เหมือนอย่างรุ่นอื่น
ส่วน Windows ยิ่งงานเข้าเลย.. Hardware หลากชนิด จะทำให้ compatible กับ windows (ที่อาจจะทำแบบนี้ได้) คงยิ่งลำบากมาก ยกเว้นจะหาวิธีแสดงผลที่ดีกว่าโดยไม่ใช้งาน GPU หนักขนาดนี้ได้ในอนาคตอันใกล้
ที่สำคัญ INTEL คงรู้สึกตัวแล้วว่าถ้าค่อยๆ ปล่อย VGA on board แบบเร็วขึ้นทีละนิดๆ คงอยู่ไม่รอดแน่ๆ ต่อคงเห็นก้าวกระโดดของ INTEL ในด้าน VGA เร็วขึ้นกว่าเดิม
ตัว windows แม้ 4k ก้อยังใช้ได้.. ก้อขึ้นกับคนทำ hardware ละ ว่าใครจะทำมาให้รองรับได้บ้าง (แต่ถ้ามีเจ้าที่ไม่รองรับ อันนี้ก้อมาเทียบกับแอปเปิ้ลไม่ได้อยู่ดี เว้นจะไม่มีซักเจ้าเลยที่รองรับ ถึงจะไปโทษ windows ได้)
http://www.brightsideofnews.com/news/2012/6/18/the-4k-graphics-card-shootout.aspx
จะชัดไปไหน รอสอย iMac ตัวใหม่ แม็คบุ๊คนี่มันจอเล็กมากมาย
นึกถึงผู้สร้างสตาร์วอร์ ที่สร้างภาคแรกหลังสุดเพราะเทคโนสมัยนั้นยังไม่ถึงขั้นที่จะสร้างภาคแรก
สมัยนั้นจริงๆ เขาคิดแค่นั้นจริงๆ ภาค 4 ที่เราเห็นอะครับภาคแรกเลยครับ พอดังก็เลยเปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดๆ หน่อย แล้วก็ค่อยแตกๆ เรื่องออกมาครับ
ก็ใช้ โหมดปกติ ที่เทียบเท่า 1440x900 มันก็ไม่เล็กแล้วนะครับ ใช้ให้มันเล็กกว่านี้ ถึงจะมีพื้นที่เพิ่ม ก็ตาเสียอยู่ดีครับ (เล็กเกิน)
ที่ถ้าเพราะ scaling แบบหารกันไม่ลงตัว ก็ไม่แปลกที่จะต้อง scale ไปที่ ขนาดใหญ่ๆก่อนนะครับ