เพื่อเป็นการต้อนรับมหกรรมกีฬาแห่งมนุษยชาติ โอลิมปิก 2012 ที่จะเริ่มขึ้นวันนี้ เว็บไอทีอย่าง Blognone ก็ขอพูดถึง "ระบบไอที" ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังงานโอลิมปิกครั้งนี้กันสักหน่อยนะครับ
เรื่องโอลิมปิกกับไอทีรอบนี้มีหลายเว็บเขียนถึง ผมขอยึดเวอร์ชันของ Data Center Knowledge เป็นหลัก
การจัดโอลิมปิกในยุคสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไอทีเข้ามามีบทบาทสูงมาก ต้องตอบสนองทั้งในแง่ผู้จัดการแข่งขัน สื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดและรายงานข่าว นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ซึ่งเดี๋ยวนี้พกอุปกรณ์ไร้สายกันหมดแล้ว และผู้ชมทางบ้านจำนวนมหาศาลที่ติดตามการถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อรองรับความต้องการระดับนี้จึงเป็นเรื่องซับซ้อนมาก
คณะผู้จัดงานโอลิมปิกจึงแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ และกระจายผู้ดูแลรับผิดชอบตามส่วนงาน
ผู้รับผิดชอบการวางสายเคเบิลสื่อสารทั้งหมดคือ BT (British Telecom เดิม) โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของอังกฤษ งานนี้ใช้สายไปทั้งหมด 5,500 กิโลเมตร (เอามาต่อกันได้ความยาวจากลอนดอนไปนิวยอร์ก) มีจุดเชื่อมต่อทั้งหมด 30,000 จุดในสถานที่ 94 แห่งที่ใช้สำหรับจัดงาน รายละเอียดอ่านได้จากเว็บของ BT
อุปกรณ์เครือข่ายเป็นหน้าที่ของ Cisco ในฐานะพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการในด้านนี้ Cisco ใช้สวิตช์ทั้งหมด 2,200 ตัว โดยทุกจุดใช้สวิตช์หนึ่งคู่แล้วเชื่อมกันผ่าน virtual switching system (VSS) แบบ mesh เพื่อทำ fault-tolerant ป้องกันสวิตช์ตัวใดตัวหนึ่งเจ๊ง
ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านที่ Cisco Blog (1) และ Cisco Blog (2) และเว็บไซต์ Cisco Olympic
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโอลิมปิกครั้งนี้คือ london2012.com ซึ่งการออกแบบและนำเสนอข้อมูลคงไม่มีประเด็นอะไรมากนัก ที่น่าสนใจคือเว็บจะรองรับทราฟฟิกจำนวนมากพร้อมๆ กันได้หรือไม่
คำตอบในเชิงวิศวกรรมคือ "ไม่รู้ก็ต้องทดสอบ" ทางคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันจึงจ้างบริษัท SOASTA ที่เชี่ยวชาญเรื่อง cloud testing performance มาทำ stress test ทดสอบให้
วิศวกรของ SOASTA ใช้เวลาทดสอบก่อนแข่งขันนาน 6 เดือน โดยใช้บริการกลุ่มเมฆอย่าง EC2/Azure จำลองทราฟฟิกจากคอมพิวเตอร์ 500,000 เครื่องใน 17 เมืองใหญ่ของโลก ทดสอบการถล่มเว็บโอลิมปิกและแอพพลิเคชันที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซีอีโอของ SOASTA บอกว่าในยุคของกลุ่มเมฆสามารถรันการทดสอบขนาดใหญ่ได้ง่ายมาก เพราะสามารถจำลองทราฟฟิกของคอมพิวเตอร์ระดับแสนเครื่องได้ภายในไม่กี่นาที ต่างจากสมัยก่อนที่ต้องใช้เครื่องจริงที่เสียเวลา+เงินมากกว่ากันหลายเท่า ตอนนี้ SOASTA มั่นใจว่าเว็บโอลิมปิกสามารถรองรับทราฟฟิกจากผู้ใช้ 1 พันล้านคนได้ในเวลา 3 สัปดาห์ที่จัดการแข่งขัน - รายละเอียดดูที่ SOASTA และ Wired
การแข่งขันกีฬาเริ่มเข้าสู่ยุคสตรีมมิ่งผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโอลิมปิกรอบนี้ BBC ประเมินว่า peak load จะอยู่ที่ 1Tbps ซึ่งศูนย์ข้อมูลต่างๆ ในลอนดอนก็พร้อมรับมือ บางแห่งถึงขนาดทำเตียงนอนพิเศษไว้ในศูนย์ข้อมูล เพื่อการันตีว่าจะมีวิศวกรประจำการตลอดเวลา ศูนย์ข้อมูลหลักสำหรับการสตรีมมิ่งจะใช้ Telehouse West ในเขต Docklands ของบริษัท Telehouse
เหตุการณ์ที่น่าจับตาที่สุดสำหรับ peak load ของโอลิมปิกอยู่ที่การแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายรอบชิงชนะเลิศในวันสุดท้าย ซึ่งคาดกันว่าคนจะดูผ่านสตรีมมิ่งกันมากที่สุด
พีซีที่ใช้ในงานทั้งหมดจะเป็นยี่ห้อ Acer ในฐานะสปอนเซอร์ด้านคอมพิวเตอร์ Acer บอกว่าจะใช้พีซีทั้งหมด 13,500 เครื่อง ซึ่งในจำนวนนี้มีโน้ตบุ๊ก 2,000 เครื่อง และแท็บเล็ตอีก 100 เครื่อง
เซิร์ฟเวอร์จะใช้ยี่ห้อ Gateway และ Altos (แบรนด์ย่อยของ Acer ทั้งคู่) จำนวน 900 เครื่อง พื้นที่เก็บข้อมูล 96TB แยกย้ายติดตั้งในศูนย์ไอที 26 แห่ง พนักงานดูแล 350 คน
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ใช้ในการแข่งขัน จะนำไปขายต่อให้กับภาคการศึกษาในราคาถูก บางส่วนจะถูกยกให้โรงเรียนรัฐบาลในเขตลอนดอนด้วย - Acer
งานออกแบบระบบทำโดยบริษัท Atos มีศูนย์กลางอยู่ที่ London 2012 Technology Operations Centre (TOC) ทีมงานจำนวน 330 คน และรันการทดสอบไปแล้ว 34 ครั้ง - Atos
ที่มา - Data Center Knowledge, Trefor
Comments
Web โอลิมปิคโหลดเร็วได้ใจมาก
Texion Business Solutions
ดูใน youtube
อืม .... ไม่เก่งเลขอย่างผมลองคำนวณคร่าวๆ ยังเห็นงบประมาณเพียบ o.O
ที่ผมคิดว่าแปลกคือ ปีนี้มี Official Olympic game ด้วย ... software game อ่ะครับ
สงสัยกำลังฮิตมั้งครับ Tour de France ที่พึ่งจบไปก็มีเหมือนกัน
alalog --> analog ครับ
Atos มีสาขาในไทยด้วยใช่เปล่าครับ ผมคุ้น ๆ เคยได้รับนามบัตรคนรู้จัก เห็นว่าทำงานที่ Atos
ใช่ครับ Atos Thailand
มีครับ มายกมือว่าเป็นหนึ่งในพนักงานของ ATOS ครับ
ATOS Thailand ตอนนี้ทำแต่ SAP ครับ ส่วนอื่นยังไม่มีเปิดแผนกเพิ่มครับ
Technology is so fast!
ถ้าคุณได้รับนามบัตรนั้นมาก่อนปี2009ก็ให้ลืมบ.นั้นไปซะ
เพราะatos thหลังจากตอนนั้น mdคนไทยซื้อหุ้นคืนจากglobalแล้วเปลี่ยนชื่อ แล้วตอนนี้ได้ขายหุ้นต่อไปที่NTT dataแล้ว
และatos thในตอนนี้เดิมเป็นsiemens
+1
ป้าย Atos Origin ยังติดอยู่บนผนังสถานที่นั้นอยู่เลย
Altos เป๊นชื่อรุ่น Server ของ Acer
อธิบายได้ดีครับ อ่านแล้วนึกภาพออกเลยว่าเชื่อมกับอุปกรณ์อะไรบ้าง xD
ยิ่งใหญ่อลังการมากครับ
น่าสนใจมากครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ข่าวต่อมาไฟดับแทน... O_O
"โดยใช้บริการกลุ่มเมฆอย่าง EC2/Azure จำลองทราฟฟิกจากคอมพิวเตอร์ 500,000 เครื่องใน 17 เมืองใหญ่ของโลก ทดสอบการถล่มเว็บโอลิมปิก"
มันทำยังไงหรอ ใครมี ไกล์ไลค์ หรือkeyword หรือ เวปเอกสารวิธีทำบ้างครับ จะได้test งานได้ ผมมี amazon กับ Azure อยากทดลองบ้าง
ผมอยากรู้เหมือนกันครับ ทำยังไงเนี่ย
รองรับทราฟฟิกจากผู้ใช้ 1 พันล้านคนได้ในเวลา 3 สัปดาห์!!
ยกเฉลี่ยยอดคนเข้าต่อวัน 47 ล้านคน โอ้ว!!
ตรง "17 เมืองใหญ่ทั่วโลก" น่าจะหมายถึงปริมาณทราฟฟิกครับ ผมไม่คิดว่ามันจะจำลองต้นกำเนิดทราฟฟิกจากทุกแหล่งทั่วโลกได้นะ
ปล. เปิด Instance รัวๆ
ปล 2. อย่าบอกว่ามีใครคิดจะเอา EC2 ไปทำ SEO หาทราฟฟิกเข้าเว็บนะครับ ...
ปล. ที่ 2 น่าสนใจมากครับ แต่น่าจะโดนจับได้นะว่าใช้วิธีนี้ traffic พุ่งพรวดแบบแปลกๆ
Technology is so fast!
ก็เสก vm ขึ้นมาเยอะๆช่วยกันยิงครับ
ต้องรวยก่อนถึงจะทำได้
ถ้ารู้วิธีทำง่ายๆนี่ จะเอาไปถล่มคู่แข่งกันมั้ยเนี่ย 555+
ผมแปลกใจว่า แบรนด์ย่อยของ Acer มาหมด ยกเว้น Packard Bell
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผู้สนับสนุนอุปกรณ์เป็นทางเอเชียเยอะแฮะ ทั้ง acer samsung
อยากทำงานแบบนี้จัง น่าจะสนุก >,<
ซัพพอร์ตๆๆๆเทคโนโลยี ให้คนทั่วไปได้รับสื่อข่าวสารอย่างมีความสุข อิอิ
คนในอยากออกคนนอกอยากเข้าครับ มันคือกรรมกรในชุดเสื้อเชิ๊ต xD
ข่าวแบบนี้แหละที่ชอบอ่าน :D ขอบคุณครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.