By: Pup 
on 7 September 2012 - 19:52
Tags:
Topics:
พวกเราส่วนใหญ่น่าจะรู้ว่าช่วงปีที่ผ่านมา แอปเปิลนั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่ของซัมซุงมาโดยตลอด เมื่อปีที่แล้วซัมซุงมียอดสั่งซื้อชิ้นส่วนจากแอปเปิลเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านวอน (ประมาณ 276,000 ล้านบาท) แต่ดูเหมือนว่าปีนี้แอปเปิลจะเริ่มปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของบริษัทแล้ว โดยจะไม่สั่งชิ้นส่วนหน้าจอและชิปหน่วยความจำจากซัมซุงเป็นหลักเหมือนเมื่อก่อนแต่จะหันไปหา โตชิบา, SK Hynix และ Elpida Memory สำหรับการผลิตชิปหน่วยความจำและจะให้แอลจีผลิตหน้าจอเป็นหลักแทน อย่างไรก็ตาม ซัมซุงจะยังเป็นผู้จัดส่งชิปให้กับแอปเปิลก่อนในช่วงแรกแต่ก็มีแนวโน้มว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ
การที่แอปเปิลให้มีบริษัทหลายบริษัทเป็นผู้จัดส่งชิ้นส่วนให้นั้นก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แอปเปิลเคยบอกไว้แล้ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่กระบวนการผลิตสินค้าจะหยุดชะงักไปหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น (เช่นการเกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว) แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นคดีความระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงที่ยังคงต่อสู้กันภายในศาลทั่วโลกและมีท่าทีว่าจะไม่จบง่ายๆ ในเร็วๆ นี้ครับ
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
"ซัมซุงมียอดสั่งซื้อชิ้นส่วนจากแอปเปิลเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านวอน"
สลับกันหรือเปล่าครับ
ถูกแล้วครับ purchase order
ซัมซุง มียอดสั่งซื้อจากแอปเปิล = แอปเปิลสั่งซื้อจากซัมซุง
อ่านตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน
もういい
อัฐยาย จ่ายค่าละเมิดยาย ;D
my blog
หอกมันแทงมัน, เนื้อเต่าย้ำเต่า
ห่วงโซ่อุปทาน คือ supply chain หรือครับ
น่าใช้คำว่า "โซ่อุปทาน" มากกว่าเนาะ
ครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
นึกถึงห่วงโซ่อาหาร -.-"
ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับกรณีพิพาทสิทธิบัตรหรอก
คงยังเจ็บแค้นเคืองโกรธกันอยู่ล่ะนะ แต่ถ้าเก่งจริง แอปเปิ้ลคุณเจียดเศษเงิน มาสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนเองทุกชิ้นดีกว่ามัียครับ จะได้กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าคุณเจ๋งจริงที่สุดในโลก
มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ แค่สร้างโรงงานอ่ะพอได้ แต่แรงงาน วิศวกร เทคโนโลยี พวกนี้มันหาซื้อไม่ได้ง่าย ๆ นะครับ เผลอ ๆ ทำเองเสียงโดนฟ้องเรื่องสิทธิบัตร บลา ๆ
ใช้ครับ คิดจะทำเองไม่ใช้เรื่องง่ายๆๆ แต่ทุกวันนี้apple อาศัยวิธีไปรวมลงทุน กับบริษัทอื่นอื่นที่มีเทคโนโลยี่ด้านที่ apple ต้องการอยู่แล้ว ขยายกำลังการผลิตให้มากพอกับความต้องการของ apple
บริษัทนึงไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเองหนิครับ มันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน outsource บางส่วนที่อาจจะไม่ใช่ core ไป ทำให้ยืดหยุ่นในการออกสินค้ากว่ากันเวลาเปลี่ยนไลน์หรือออกสินค้าใหม่ ในขณะที่ตัวเองยังคุม core หลัก คือพัฒนาและออกแบบเอง เพราะโรงงานผลิตต้องพยายาม utilize capacity ให้สูงที่สุด ในส่วนของ Samsung สร้างโรงงานเอง จึงต้องรับงานนอกด้วยให้ใช้กำลังผลิตให้มากที่สุด แต่ Apple ไม่ใช่บริษัทที่จะไปรับผลิตชิ้นส่วนให้ใครอยู่แล้ว สร้างโรงงานเองยังไงก็ไม่คุ้มและไม่เข้ากับกลยุทธ์ตัวเอง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1 ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะต้องทำเองทุกอย่าง ตรงกันข้ามถ้าบริหาร supply chain เก่งๆ ไม่จำเป็นต้องผลิตอะไรเองเลย แต่มีข้อแม้ว่า supplier ต้องมีศักยภาพพอด้วยนะ
2 ค่ายไม่ถูกกันเลยแฮะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ปีก่อนก็มีข่าวว่าจะสั่งจากเจ้าอื่นนี่นา แต่ปัญหาคือไม่ได้คุณภาพและผลิดได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของแอปเปิล
เห็นแววแซมซังโดนคว่ำบาตรรำไรจริงๆ
ล่าสุดเห็นว่า galaxy ทุกรุ่นรวมกัน ขายใด้มากกว่า ios ทุกรุ่นรวมกันนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แน่นอนล่ะครับ ซอยยิกซะขนาดนั้น
น่าจะเรียกว่า ยิกๆๆๆๆๆๆ มากกว่า - -
ผมยอมขายน้อยกว่าแต่ได้กำไรเยอะกว่าครับ
ผมยอมซอยยิกๆๆๆ เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดและกำลัยน้อยกว่าเจ้าตลาดแต่ก็ยังกำลัยอยู่ดีครับ
กำลัย ?
ขายน้อยรุ่นกำไรมาก ดีกับบริษัทครับ
ขายมากรุ่นกำไรน้อย เพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภค ดีกับพวกเราครับ
ที่โหดกว่านั้นคือ พอซอยยิกได้ที่แล้ว ยังมีเรือธง ออกมาบลัฟเจ้าตลาด อย่าง s3 อีก ทำให้เจ้าตลาดสะอึก ยังหวั่นใจนิด ๆ ว่า ถ้า iphone5 ออกมาแล้วมีอะไรที่เหนือกว่า s3 เนี่ย พี่แกอาจจะออก s4 ออกมาอีกภายในเวลาไม่ถึงเดือน (แต่ที่ออก s3 กับ note2 เนี่ย ก็แทบไม่เหลืออะไรให้เจ้าตลาดเล่นแล้วครับ) เนี่ยคงเป็นสาเหตุ ให้ สั่งของจากมันไม่ได้อีกต่อไป (ถ้าขืนสั่ง รู้หมดว่าจะใช้ cpu อะไร จอขนาดเท่าไร ก็จบกันครับ ถ้า samsung รู้ สงสัย ออก product มาก่อนเจ้าตลาดเปิดตัว)
ออกข่าวมาเพื่อกดราคาต้นทุนชิ้นส่วนที่ซื้อจาก samsung ให้ต่ำลง
samsung อาวุธเค้ายังทำเลย http://www.samsungthales.com/ http://www.samsungtechwin.com/
เรือรบ ก็ไม่เว้นเชียวหรือ พี่ซุง
ไม้จิ้มฟัน ยันเรือรบ :D
เหมือน Mitsubishi เจ้านี้ก็สากกะเบือ(ไม่ได้ทำ)ยันเรือรบเหมือนกัน
อยากเห็นบริษัทอื่นๆโตบ้าง
พี่ซัมต้องเร่งสร้างมูลค่าแบรนด์ทดแทนยอดชิ้นส่วนที่ตกไปแล้วมั้ง
ก็ดีนะ แอปเปิล จะได้มีคู่แข่งบ้าง ไม่ใช่ครองตลาด smart phone แต่รายเดียว
Hynix กับ Samsung จ้าง Spansion ผลิตชิปความจำ(บางส่วน)ให้อีกที ไปปั๊มตราตัวเอง
ถ้าผมเป็นซัมซุง จะถีบบันไดลงของแอปเปิ้ลให้คว่ำไปเลย
ยอมเจ็บตัวหน่อย แต่คู่แข่งก็น่าจะเจ็บบ้างเหมือนกัน