ที่งาน IDF 2012 อินเทลโชว์ต้นแบบของระบบส่งสัญญาณวิทยุ (transceiver) สำหรับ Wi-Fi ที่สร้างด้วยระบบดิจิทัลล้วนๆ ไม่มีแอนะล็อกแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าการส่งสัญญาณวิทยุในปัจจุบันมีส่วนที่เป็นดิจิทัลอยู่มากแล้ว แต่ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความถี่ของสัญญาณ (เช่น phase modulation, frequency synthesis, RF power amplification) ยังเป็นแอนะล็อกอยู่ และเป็นปัญหาต่อการผลิตอุปกรณ์ขนาดเล็ก เพราะชิ้นส่วนพวกนี้ไม่สามารถเล็กลงได้กว่านี้อีกแล้ว
อินเทลเลยพยายามคิดใหม่ทำใหม่ หาวิธีดัดแปลงชิ้นส่วนเหล่านี้ให้เป็นระบบดิจิทัลให้หมด โดยพัฒนาต่อจากอุปกรณ์ส่งสัญญาณ 3G ในปัจจุบันที่เป็นดิจิทัลอยู่เยอะแล้ว เอามาดัดแปลงให้ใช้งานกับความถี่ของ Wi-Fi ที่ใช้ช่วงกว้างสัญญาณกว้างกว่ามาก (รายละเอียดทางเทคนิคว่าทำอย่างไร ดูกันเองในวิดีโอของอินเทล)
ความสำเร็จของอินเทลคือสามารถสร้างระบบส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่เป็นดิจิทัลทั้งหมด ผลิตที่เทคโนโลยีระดับ 32 นาโนเมตรได้สำเร็จ ซึ่งอินเทลระบุว่าการพาระบบส่งสัญญาณวิทยุเข้าสู่โลกดิจิทัล ก็จะอยู่ภายใต้กฎของมัวร์ด้วย ดังนั้นในอนาคตขนาดของมันจะเล็กลงเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีการผลิตของอินเทล มีประสิทธิภาพดีขึ้นในขณะเดียวกันก็กินไฟน้อยลง
ตอนนี้อินเทลเริ่มนำระบบส่งสัญญาณตัวนี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์จริงๆ บ้างแล้ว โดยจะอยู่ในชิป SoC รหัส Rosepoint ที่นำซีพียู Atom สองตัวมารวมกับ Wi-Fi transceiver ตัวนี้ อีกไม่นานเราคงได้เห็นมันออกสู่ตลาดครับ
ที่มา - Ars Technica, Intel
Comments
จะรอดูwifi สัญญาณไกลเท่า 4G 0
สัญญาณไกลนี่น่าจะอยู่ที่กำลังส่งกับ ช่วงความถี่มากกว่านะครับ
@mamuang
WoW
ไม่ต้องรีบร้อนแค่ใส่มาใน haswell เลยก็พอ 555
แปลว่าจะผลิตมันให้ชิ้นเล็กลงได้อีกมาก.....แล้วไงต่อ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ใช้พลังงานน้อยลง
เมื่อโมดูล มันเล็กลงได้ ก็ทำให้เอาพื้นที่ไปทำอย่างอื่นได้ หรือ ทำให้มันเบาด้วย
แต่การรับ-ส่งข้อมูล ไม่ได้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมใช่ไหมครับ?
(ในขณะที่ CPU ซึ่งเป็นไปตามกฎของมัวร์ เพิ่มความเป็นไปได้ในการเพิ่มความสามารถในการประมวลผล,
หน่วยความจำ ก็เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูล,...)
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
มันก็คู่ขนานกับเทคโนโลยีไร้สายในปัจจุบันอยู่แล้วนี่ครับ?
อย่าง ac ต้องมีการคำนวนมาก จำนวนทรานซิสเตอร์ก็มาก แทนที่พื้นที่เดิมคุณจะยัด module n ได้ก็ยัด ac ที่มีทรานซิสเตอร์มากกว่าแต่ขนาดต่อตัวเล็กกว่าแทน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โทรศัพท์มือถือใช้งานเป็นวอล์คกี้ทอล์คกี้ได้ด้วย
จะมีคนบอกว่าฟังเพลงผ่านไวไฟดิจิตัลได้เสียงไม่เทพเท่าแอนะล็อกไหม :p
คิดอยู่ค่ะว่าคุณภาพอาจจะไม่เท่าanalog แต่ว่าแค่เค้าทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นจริงได้ก็เทพมากแล้ว คนคิดต้องกล้ามากที่จะคิดอะไรได้นอกกรอบขนาดนี้ งานนี้ขอซูฮกคนคิดค่ะ
ผมว่า ถ้าเราวัดกันตรงคุณภาพเสียงระหว่าง digital กับ analog แน่นอนว่า analog มีคุณภาพสูงกว่า แต่การจัดเก็บทำได้ยากกว่ามากและมักจะเกิดการสูญเสีย/การผิดเพี้ยน
วิธีที่สมัยนี้ใช้ในสตูดิโอคือการใช้อุปกรณ์ digital ร่วมกับ analog โดยพยายามลดการแปลงสัณญาณระหว่างกัน (ซึ่งเป็นจุดหลักของการสูญเสียคุณภาพเสียง) ให้มากที่สุด ก็น่าจะเป็นที่ใช้อุปกรณ์ analog ต่อกับ analog ให้มากที่สุดก่อนที่จะต่อเข้า audio interface เพื่อโปรเซสต่อบนคอมพิวเตอร์ (จะได้มี A/D convert แค่จุดเดียว) จากนั้นก็ต่อลำโพงมอนิเตอร์เข้าที่ audio interface (เป็น D/A converter แค่จุดเดียว)
ผมแปลกใจที่บางคนชอบฟังเสียงจากระบบอนาล๊อกล้วน (ไม่ใช้แม้กระทั่งซีดี) ทั้ง ๆ ที่มีความผิดเพี้ยนของสัญญาณสูงมาก ไม่รู้สิบางทีถ้ามันฟังแล้วดูดีกว่าก็อาจจะดีกว่าก็ได้ แต่ผมขอเป็นระบบดิจิตอลล้วนดี ๆ ดีกว่า 555
พี่ฟังเสียงดิจิตอลล้วนเหรอครับ (เสียงแบบโมเด็ม 56k) 1 กับ 0 อ่ะครับ XD
ล้วน ในความหมายของข่าวนี้ครับ (ไม่รวม input/output)
รอดไป 555
555 ไม่น่าเหลือช่องเลย
อนาล็อกนี่ลงทุนเล่นแอมป์หลอดนะ บอกว่าเสียงหวาน ทำนองนี้
จะเล่นให้นิ้งอยู่ที่ DAC แล้วล่ะ ที่เหลือก็ไปแต่งเอาเอง ส่วนการบันทึกก็อยู่ที่ ADC ว่ามันจะ sampling ได้ละเอียดยิบขนาดไหน นอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่จะจัดเก็บละ
เข้าใจค่ะว่าพูดในความหมายของเพลง แต่ส่วนตัวดิฉันไม่คิดว่าตัวanalogเองจะมีอะไรที่ด้อยไปกว่าdigital เพียงแต่เทคโนโลยีสมัยนี้เอื้อประโยชน์ให้digitalมากกว่า จากการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าตัว all-digital rf นี้ยังมีbandwidth ที่ต่ำอยู่เมื่อเทียบกับanalog circuitที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน และใช้พลังงานสูงกว่าด้วย แต่มันอาจจะเพียงพอแล้วก็ได้สำหรับ พื้นที่จำกัดแค่ในบ้าน อันนี้ดิฉันก็ไม่ทราบเหมืนกันค่ะ อีกอย่างการเปลี่ยนสัญญาณวิทยุจาก analog เป็น digital ไม่ได้ใช้แค่A/D D/A นะคะ มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ดิฉันจึงมองว่าคนที่คิดเทคโนโลยีนี้ได้ต้องคิดนอกกรอบมาก และไม่ใช่คิดแค่ 4-5ปีจะทำได้ ต้องเป็น10ปีแน่นอน ใน10ปีที่ต้องทนสวนกระแสชาวโลก จะมีกี่คนกันที่ทำได้
ข้อแรก เทคโนโลยีที่ว่านี้หมายถึงตัวไหนครับ? ในข่าว? ถ้าเช่นนั้นมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องเสียงเลยครับ
ข้อสอง ถ้าตามที่ผู้นำปิระมิดเรากล่าวว่า
ตีความได้ว่าระบบ Wi-Fi digital ล้วนที่อินเทลสร้างขึ้นในรอบนี้ มาเทียบกับ Wi-Fi ที่มีส่วนของ Analog และ Digital ผสมกันในแบบที่เราใช้กันอยู่ ซึ่งเสียงที่ออกมา "เหมือนกัน" แน่นอนครับ เพราะข้อมูลต้นทางก่อนมาผ่านระบบ Wi-Fi เป็นดิจิตอล ที่รับมาก็เป็นดิจิตอล ทั้งสองด้านต้องเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเสียง ภาพ หรือหน้าเว็บ เป็นไปไม่ได้ที่เสียงของระบบทั้งสองจะต่างกันครับ
ประเด็นนี้เป็นเรื่องคล้าย ๆ กับการพยายามเทียบว่าเสียงและภาพทีถ่ายทอดผ่านสาย HDMI ราคา 300 บาทจะห่วยกว่าการถ่ายทอดผ่านสาย HDMI ราคา 3,000 บาทหรือไม่นั่นล่ะครับ
ถ้าผมตีความผิดก็ขออภัย เพราะถ้าเทียบ analog ล้วนกับ digital อันนั้นผมก็ไม่บังอาจไปเทียบ
ยังไม่มีใครพูดถึงเทคโนโยลีการผลิตเลยนะครับ เพราะงั้นถ้าจะเปลี่ยนหัวข้อแบบนี้ต้องกล่าวถึงด้วยไม่งั้นเค้าจะคิดไปถึงเรื่องเดียวกับต้นเรื่องหมด
ส่งข้อมูลโดยรวมจะ digital หรือ analog ถ้าโดนมือบังก็ร่วงเหมือนกันนะครับ แต่ร่วงกันคนละแบบ ถ้าเป็นโทรทัศน์ analog ก็แค่ภาพไม่ชัด noise แทรก แต่ถ้า digital ก็กระตุก ภาพฉีก ไม่ก็ร่วงไปเลย
ข้อนี้ต้องระบุให้ชัดเจนอีกนิดว่า analog กับ digital ที่พูดในกรณีนี้คือ วงจรของชุดส่งข้อมูล เช่น วงจร Wi-Fi เป็น digital ล้วนแบบในข่าว กับเป็นแบบเดิม คือรับเป็นดิจิตอล ออกเป็นดิจิตอล มีอะนาล็อกอยู่ภายใน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ข้อมูลดิจิตอลที่ขาเข้าจะไม่เหมือนกับขาออกครับ ถ้ามันไม่ตรง ระบบจะต้องส่งใหม่จนตรง ไม่ใช่ว่ามีอะนาล็อกมาแทรกกลางแล้วอะไร ๆ จะดีขึ้น ยังไงขาเข้าขาออกก็ต้องเหมือนกันทั้งสองระบบอยู่ดี และผมไม่ได้เทียบการส่งข้อมูลเป็นดิจิตอลกับอะนาล็อกครับ เนื้อข้อมูลมันทำให้เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว อยู่คนละระดับ
มันซับซ้อนกว่าเยอะ แล้วคุณรู้มั้ยครับไอ้ที่ว่าซับซ้อนกว่าเยอะมันเป็นยังไง หรือแค่ฟังๆกันมา?
ต่อไปเราจะมีสถานีวิทยุส่วนตัว ออกอากาศผ่านมือถือ ในรัศมีที่ Wifi ไปถึง 0o0 แล้วก็สามารถกระจายสัญญาณ เหมือน Private Station ขอบเขตสัญญาณน้อยกว่าวิทยุชุมชน คงดีพิลึก