แอปเปิลถูกตั้งคำถามถึงอนาคตบริษัทอย่างมากหลังการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ แต่ยอดขาย iPhone 5 ที่เปิดตัววันแรกพร้อมยอดจองถึง 2 ล้านเครื่องซึ่งสูงสุดเป็นสถิติใหม่ ก็ทำให้บรรดานักวิเคราะห์พร้อมใจกันกลับลำและมองว่าแอปเปิลยังมีอนาคตอยู่ เพียงแต่บริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการไปมากภายใต้การนำของซีอีโอทิม คุกนั่นเอง
ใน iPhone 5 นั้น สิ่งที่ขาดหายไปซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของสตีฟ จ็อบส์ก็คือปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกว้าว จึงทำให้รู้สึกว่า iPhone 5 นั้นจืดและไม่น่าสนใจ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปใน iPhone 5 อันมาจากความสามารถของซีอีโอทิม คุก ก็คือการบริหารจัดการสายการผลิตอันแข็งแกร่งมาก เพราะ iPhone 5 สามารถเปิดตัวได้ถึง 9 ประเทศในสัปดาห์แรก และอีก 31 ประเทศในวันศุกร์นี้ และภายในสิ้นปีอีกกว่า 100 ประเทศ ขณะที่เมื่อคราว iPhone 4S นั้นสิ้นปีมีจำหน่าย 70 ประเทศเท่านั้น
อาจารย์จากโรงเรียนธุรกิจ Haas แห่งมหาวิทยาลัย Berkeley ให้ความเห็นว่าทักษะของทิม คุกนั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ของแอปเปิลในตอนนี้ นั่นคือการนำคนที่มีวิสัยทัศน์ด้านการผลิตมาเป็นผู้บริหารหลัก กล่าวคือสินค้าของแอปเปิลในยุคทิม คุกอาจไม่เตะตาต้องใจแบบอดีต แต่สามารถสร้างยอดขายให้แอปเปิลได้มหาศาลยิ่งกว่าเดิม ฉะนั้นเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากมายนี้ ก็ต้องมาพร้อมการจัดการชิ้นส่วนในการผลิตที่มีปัญหาขาดแคลนอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม (ดูข่าวเก่า: แอปเปิลกับกลยุทธ์ใน Supply Chain)
ซีอีโอใหม่และวิธีการทำงานแบบใหม่
ทิม คุกได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานในแอปเปิลไปมาก ทำให้เราได้เห็นหลายสิ่งใหม่ที่ไม่น่าจะได้เห็นหากสตีฟ จ็อบส์ยังเป็นซีอีโออยู่ นับตั้งแต่การประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น, การประกาศเพิ่มค่าแรงให้พนักงานในสายการผลิต เพื่อแลกกับความเร็วในการออกสินค้าที่มากขึ้น, การเดินทางไปโรงงาน Foxconn ที่ประเทศจีนของทิม คุก, การเชิญนักวิเคราะห์หลักทรัพย์มาที่สำนักงานใหญ่ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับซีเอฟโอ Peter Oppenheimer ไปจนถึงการที่ทิม คุกไปร่วมบรรยายในงานสัมมนานักลงทุนของ Goldman Sachs
พนักงานคนหนึ่งในแอปเปิลเผยว่าสิ่งที่ทิม คุกแตกต่างจากจ็อบส์คือความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลตัวเลข และค้นหาความผิดปกติได้รวดเร็ว นอกจากนี้เขายังวางนโยบายองค์กรเพื่อให้แอปเปิลมีรายได้สูงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงควบคุมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เป็นไปตามแผนเดิมที่วางไว้เป็นหลัก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแผนที่ใน iOS 6 และ iPhone 5 จึงต้องเปิดตัวออกมาแม้ถูกบ่นมากว่าไม่ดีเท่าของเดิม ซึ่งเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นได้ยากหากสตีฟ จ็อบส์ยังเป็นซีอีโออยู่
แต่ในประเด็นนี้ David Yoffie อาจารย์จากโรงเรียนธุรกิจ Harvard แย้งว่าเขาเชื่อว่าแม้แต่สตีฟ จ็อบส์เองก็ไม่น่าจะสามารถตรวจความสมบูรณ์แบบของ iPhone 5 ได้เพราะผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อนมากขึ้นไปทุกที แต่ที่จ็อบส์จะทำแน่คือการตอบสนองและแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด เหมือนครั้งการเปิดตัว MobileMe ที่ถูกวิจารณ์หนักแต่จ็อบส์ก็แก้ปัญหาอย่างดุเดือดและเร่งด่วนทันที ฉะนั้นสิ่งที่ต้องจับตาดูคือการตอบสนองของคุกว่าจะเป็นอย่างไรมากกว่า
เหนือสิ่งอื่นใด แอปเปิลในยุคของทิม คุกยังคงต้องเผชิญกับโจทย์ท้าทายใหญ่ที่สุด เพราะนับตั้งแต่ทิม คุกขึ้นเป็นซีอีโอมานี้ แอปเปิลยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าปฏิวัติตลาดเลย มีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาต่อยอดจากของเดิมเท่านั้น รวมไปถึง iPad Mini ที่มีข่าวลือมาตลอด นั่นก็คือการพัฒนาจากของเก่าเช่นกัน
ที่มา: Reuters
Comments
Tim Cook เป็นเจ้าพ่อ Supply Chain ตัวจริงฮะ ปัญหาที่ผ่านมาส่วนใหญ่ของแอปเปิลคือผลิตไม่ทันขาย ทิมก็มาทำส่วนนี้ได้ดี แต่ก็ขาดความสมบูรณ์ในแบบของจ็อบส์ไป
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คนบางกลุ่มกลับมองว่า ขายเยอะของเกลื่อน ไม่exclusive - -"
สงสัยต้องขายเครื่อละ 50,000 Exclusive แน่ๆ 555+
นอนตายแทนละครับราคาเครื่องละเท่านั้นนะ
นั่นมัน expensive!
+1
+1 55555+
ราคาขนาดนั้น ซื้อ explosive ไปปล้นดีกว่า
//โดนจ่าเฉยกวักมือเรียก
Dream high, work hard.
ทิม คุก ต้องทำ iPhone ชาร์จไฟแบบเขย่า หรือไม่ก็ iPhone พับได้ งอได้ แล้วล่ะ ถึงผู้คนจะพอใจจนเรียกว่าปฏิวัติการตลาด
อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ
ชาร์จไฟแบบเขย่านี่ดูแล้ว "ไม่ innovative โคตรๆ" ครับ .... สำหรับสมาร์ทโฟนอ่ะนะ
เขาหมายถึง ชาร์จ ได้แม้ขณะเดินปะ เดินใส่กระเป๋ากางเกงมันก็เขย่า ๆๆ แล้วก็เก็บประจุไฟในตัว
กว่าจะชาร์ตเต็มรอบนึงคงต้องเดินรอบโลกแล้วละครับ
555+
ลองนึกถึงภาพผู้บริหารเขย่าๆๆๆๆๆๆ ชาร์จแบตฯ ดูครับ
คือภาพลักษณ์มันออกมาดูไม่ดีเท่าไร
มันอาจจะเป็นเทรนใหม่นะครับ ส่งเสริมการออกกำลังด้วย
"วันนี้คุณเดินไปแล้ว 5140 ก้าว ชาร์จไฟไปแล้ว 10% ลดการปล่อย CO2 ได้ 20 ไม่โครกรัม"
อะไรประมาณนี้่
I need healing.
จริงๆ มันอาจจะอยู่ในเซนเซอร์ของ Nike+ อยู่แล้วก็ได้ครับ
Dream high, work hard.
แต่ละองค์ ประเสริญทั้งนั้น 555+
ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ คุณว่ามันดีไหมละถ้าไปตามป่าไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ iphone สามารถใช้ได้เพราะมีระบบเขย่าชาร์ต เราว่าดีนะใช้ได้ทั้งระบบเขย่าและชาล์ผ่านปลั๊กได้ นายลองคิดสิ ถ้าขายได้รวยเลยนะ ไม่ต้องใช้ไฟแค่เขย่าก็ทำให้แบตเตอร์รี่ i phone คุณเต็มได้แม้ไม่มีไฟฟ้าใช้
เอาจริงๆ ใช้ปั่นมือน่าจะแรงกว่านะครับ
ระบบเขย่าก็นึกถึงนาฬิกาข้อมือนะหล่ะครับ ที่ต้องอาศัยลูกตุ้มสำหรับเหวี่ยงตามแรง แล้วมันจะมีกระแสพอเพื่อชาร์ต Mobile Phone เหรอครับ ต่อให้เป็นตุ้มใหญ่มากๆ มันก็จะหนักและไม่มีแรงเหวี่ยงเอาอีก
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้สินะ
แอปเปิ้ลขาย iPhone 5 ได้ดี เพราะทำไว้ดีใน iPhone รุ่นก่อน ๆ หรอก
คุณ ทิม จะทำได้ดีแค่ไหน ต้องดูยุคหลัง iPhone 5 เป็นต้นไป
ประมาณว่ายังกินบุญเก่าใช่ไหมคับ
เห็นด้วย จะบอกว่ากินบุญเก่าทั้งหมดก็ไม่ได้ แต่บุญใหม่สร้างไม่เยอะแถมแอบติดบาปมาด้วย
เอาเป็นว่าคงยากถ้ารุ่นหน้ายังเปิดตัวแบบ iPhone5 แล้วยอดขายหรือกระแสตอบรับยังดีอยู่
บาปนี่ ใช่เรื่องแผนที่หรือป่าว ?
ก็ด้วย ก็เป็นการเปิดตัว iPhone น้อยครั้งที่มีเสียงตอบรับด้านลบออกมาด้วย
แบบนี้ iPhone 300 ก็ยังกินบุญเก่าสินะ
{$user} was not an Imposter
ก็ถูกครับกินบุญเก่า แต่ก็เพราะไอ้บุญเก่านี่แหละเลยทำให้ของขายดีจนทำไม่ทัน
ผมกลับมองว่ามันพอดีกันมากๆ ช่วงนี้บุญเก่ายังเยอะ ยังพีค ยอดขายก็ทำได้โดยไม่ต้องมี Wow factor อะไร แค่ผลิตให้ทันขายก่อนเหอะ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ก็เห็นหลายบริษัทนะครับ พยายามกินบุญเก่า แต่ของใหม่ก็ไม่พัฒนา กินบุญเก่าไปเรื่อยๆ จนเจ๊งไม่เป็นท่า
ต่อให้มันถึง iPhone 8, iPhone 9 แล้วประสบความสำเร็จ ก็ยังมีคนพูดว่ากินบุญเก่าอยู่ดี
รอดูต่อไปครับ
nokia?
Nokia, Blackberry, Kodak, Yahoo, Some part of Sony, IBM, HP, Video games Company etc.
ผมว่าปัญหาความตกต่ำของโนเกียไม่ใช่เรื่องนวัตกรรม แต่เป็นเรื่องของการไม่รักษาคุณภาพของสินค้า มันเสียง่ายขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่เรื่องกั๊กสเปก/ซอยรุ่นถี่(แต่ละรุ่นได้อย่างเสียอย่าง ขนาดรุ่นท๊อปยังขาดบางอย่าง) เหรอครับ ?
ปล.ผมไม่ได้ตามติดโนเกีย แต่เพื่อนรอบตัวหลายๆ คน(ที่เป็นอดีตแฟนโนเกีย)บ่นให้ฟังจนเบื่อ
My 3230 was a disaster.
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เออใช่ครับ นั่นก็เรื่องนึง ผมลืมไปเลยล่ะ 5555+ ส่วนตัวผมเคือง nokia เรื่องการประกอบมากกว่า เลยลืมเรื่องนี้ไป ในลิ้นชักยังมีอนุสรณ์แห่งความทรงจำ 25,000 บาท สองปีจากมือถือไฮโซ กลายเป็นขยะ ขายก็ไม่ได้ ซ่อมก็ไม่คุ้ม
โนเกียตกต่ำ เพราะเสียรายได้เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อ 3310 ไปใช้ไม่พังสักที
ผมไม่ได้ระบุ เพราะว่ามันมีเยอะมากครับ ไม่ใช่แค่ Nokia
อันที่จริงการพัฒนาไม่ได้จำกัดอยู่ที่แค่ตัวสินค้า ว่าต้องเป็นนวัตกรรมใหม่
แม้ Apple จะปรากฏต่อสายตาโลกนี้ในฐานะบริษัทนวัตกรรม ก็ตาม
ในความเป็นบริษัท ยังต้องมีอีกหลายส่วนที่ต้องพัฒนา
และบริษัทจำนวนมาก ก็ไม่เคยมีการพัฒนาในจุดเหล่านั้นเลย
อีกอย่าง ผมเชื่อว่า Apple เป็นบริษัทที่เคยผ่านการใกล้เจ๊งมาแล้ว
และเป็นบริษัทเก่าแก่ในสาย IT บริษัทหนึ่งของโลก
เพราะงั้น การจะใกล้เจ๊งอีกรอบ มันก็ไม่แปลกอะไรครับ ^^
แต่ที่ผมสนใจ และรู้สึกสนุกกว่าคือ สภาวะถีบตัวหนีจากความใกล้เจ๊งได้เรื่อยๆ ต่างหาก
ผมไม่ได้มองว่า Apple จะใกล้เจ๊งเลย ไม่เห็น Vital Sign ว่าแย่ตรงไหน
แต่ก็อย่างว่านะครับ ธุรกิจในสาย IT ก็แสดงให้เห็นหลายบริษัท ว่ามันตายง่ายแค่ไหน
(ขนาดไม่ได้มีจุดแข็งหลายๆ จุดเหมือนที่ Apple มี ผมก็ยังไม่เห็นมีกูรูคนไหนมาทำนาย Apple เลย
ผมกลับคิดซะอีก ว่าถ้ามันมี iPhone สักรุ่นในอนาคต ที่ไม่ประสบความสำเร็จเลย ทั้งในแง่ของกระแส และยอดขาย มันจะกลับเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ Apple ทำได้ดีกว่าเก่าเสียอีกครับ)
ส่วนตัวขี้เกียจมาทำนายครับ ว่าบริษัทจะอยู่ จะไป จะรอดไหม (ซึ่งก็เห็นว่าทำได้ดีขึ้นทั้งเชิงประสิทธิภาพ และเชิงผลของยอดขาย -- แม้ด้านนวัตกรรม และการพัฒนาสินค้าจะไม่ WOW ก็ตาม แต่ถ้ามัน WOW ได้ทุกปี มันก็จะกลายเป็นไม่ WOW ในที่สุดครับ บางครั้งให้มันไม่ต้อง เซอร์ไพรซ์บ้างก็ดีนะ)
เพราะผมเชื่อว่า Tim Cook และผู้บริหารคนอื่นๆ เก่งกว่าคนนอกอย่างผมมหาศาล
เหมือนเวลาดูฟุตบอลน่ะครับ บางครั้งบทสนทนาของผู้ชมภายนอกนั้นดูเก่งนะ ดูรู้ทุกเรื่อง แต่ให้ลองไปเล่นจริงเองสิ
ปล. แรงไปหรือเปล่าเนี่ย ขอโทษไว้ก่อนนะครับ ^^ (อย่าแบนผมนะ)
ความเห็นก็คือความเห็นนะครับ ผิดถูกได้เสมอ
ก็เข้าใจมุมมองแบบนี้นะครับ แต่บริษัทอื่นที่ขาดนวัตกรรมแล้วยังรวยเอาๆ มันก็มีตัวอย่างนะครับ
อย่าง M$ เนี่ยสิ่งที่ผมถือว่าเป็นนวัตกรรมมีอย่างเดียวคือ Windows95 ที่เปลี่ยนวิธีใช้ PC จาก command line ให้กลายมาเป็น GUI ได้สำเร็จ (กรุณาอย่าโยงไปประเด็นอื่น ทำนองว่า Windows95 ไม่ใช่นวัตกรรม, มันเป็นแค่ของเลียนแบบ OS Mac ฯลฯ) เอาน่ะ.. อย่างน้อยมันก็ WOW สำหรับผมล่ะจากที่เคยต้องพิมพ์ Command Line น่ะนะ หลังจากนั้นไม่ว่าจะ 98, Me, XP, Vista, 7 ผมว่ามันก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ "พัฒนาและต่อยอด" ทั้งนั้น ส่วนของอย่างอื่น เช่น Zune, Xbox พวกนั้นไม่ถือว่าเปลี่ยนโลก ไม่ WOW แต่มันขายได้ และทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
การที่ Jobs เลือกเอา Tim Cook มาแทนตัวเอง อาจจะเห็นว่า Apple สามารถจะอยู่รอดด้วยรูปแบบเดียวกับ M$ ได้ (มั้ง) :-)
ขอบคุณที่แชร์กลับมานะครับ :)
เรื่องเทียบ OS ผมคงไม่เทียบ เพราะไม่มีความสนใจแบบนั้นอยู่แล้ว
เห็นด้วยกับ Windows 95 นะครับ (ส่วนตัวผมเคยใช้ตั้งแต่ MS Dos 5.0 ก็มา WOW ตรง Windows 95 นี่แหละ ผ่าน Win 3.11 ก็ยังไม่ Wow นะ เพราะไม่ค่อยเห็นประโยชน์เท่าไหร่ -- ตอนเด็กๆ เล่นแต่เกม ^^ )
ผมอุปมานไปเองว่า เหมือนคนในโลกจะคาดหวังนวัตกรรมมากเกินไป (แน่นอนว่า Apple แสดงนวัตกรรมต่อโลกหลายครั้ง) จนคิดไปว่า Apple คือบริษัทนวัตกรรมอย่างเดียว (มันใช่บริษัทนวัตกรรมครับ ไม่เถียง แต่ไม่คล้อยทั้งหมดนะ)
หรือผมคิดอีกแง่ว่า สื่อต่างๆ เว็บไซต์ข่าว IT (โดยเฉพาะแนว Gadget) ชักจูงให้เราสนใจแต่ความ WOW หรือเปล่า เราเสพแต่ความ WOW มากเกินไป และคาดหวังเกินกว่าที่มันจะผลิตออกมาได้จริงหรือเปล่า
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ การคิดค้นนวัตกรรมนั้นโคตรยากเลย อย่าว่าแต่จะเป็นนวัตกรรมที่พลิกโลก ที่ WOW ที่ใช้ง่าย ที่แตกต่างและโดดเด่น หรือแม้แต่นวัตกรรมที่ขายดีสุดๆ เลยครับ
บางทีผมอาจไม่เข้าใจมุมมองของคนส่วนใหญ่ไปเอง ว่าไปคาดหวังอะไรมากมาย (แค่มีให้ใช้ก็ดีถมแล้วครับ ที่เอามาเปรียบ มาเทียบกัน ใช้กันหมดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย)
ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่ม นอกจากใช้ของเดิมที่มีปรับนู่น เปลี่ยนนี่เอา
อยากได้แบบ เดิม ในคนใหม่ คงต้องเป็นใหม่ในคนใหม่ละคับ
เก่งคนละด้าน ถ้าแต่ก่อนรวมกันได้นี่คงระเบิดระเบ้อ ;)
my blog
เขียนได้ดีมากเลยครับ
แต่สาวกคงไม่ได้อยากได้เทพ Supply Chain
รู้ได้ไงอ่ะ?
"คง" เป็นการคาดเดาครับ สาวกน่าจะอยากได้เทพ นวัตกรรม มากกว่าไงครับ
นั้นสินะ
อยากได้แบบ SONY ของดี แต่ไม่มีขาย :P
+1
โอย ฮาจริง
เงิบ
55
งั้นระหว่างของดีแต่ไม่มีขาย กับของห่วยแต่มีขายทั่วไป นี้อะไรดีกว่ากันครับ
แล้วสาวกไม่ได้ชื่นชอบ apple ที่ นวัตกรรม ล้ำหน้าหรอกหรอครับ
Apple ไม่ได้ยิ่งใหญ่ได้ทุกวันนี้เพราะ Supply Chain ที่สุดยอดไม่ใช่หรอ
ผมคิดว่า สองอย่างนี้มันต้องไปด้วยกันครับ
ของดีและมีขายทั่วไป
iPhone 5 ผมว่ามันก้ไม้ได้ห่วยนะ แต่อาจจะไม่ล้ำมาก แค่กลาง ๆ แต่ยังไงซะก็ยังเป็น iPhone ที่ดีที่สุดในตอนนี้อยู่ดี และคงจะขายดีเหมือนกัน
Apple ที่ยิ่งใหญ่ทุกวันนี้ Supply Chain มีส่วนด้วยครับ ทุกอย่างมันต้องไปพร้อมกันครับ
ก่อนอื่นผมไม่ได้บอกว่า iPhone 5 ห่วย ที่ตั้งคำถามแบบนี้เพื่อต้องการทราบว่าให้ความสำคัญกันอะไร มากกว่ากันครับ
เห็นด้วยที่ Supply Chain ที่ดีมีส่วนให้ Apple ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
Apple ไม่ได้ยิ่งใหญ่มาได้ด้วย Supply Chain ที่ดีกว่าคนอื่น แต่มาอยู่ตรงนี้ได้เพราะนวัตกรรม ที่ทำให้หลายคนหลงไหล
ผู้ใช้ไม่ได้เลือกซื้อเพราะ Supply Chain ที่ดีกว่า แต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้อก่อน ถึง Supply Chain ที่ดีจะส่งผลเต็มที่
สำหรับผมนะการรอ iPhone สุดล้ำ 3 เดือน เพราะ Supply Chain ห่วย กับซื้อ iPhone กลางๆได้ทันทีที่เปิดตัว ผมรอดีกว่า
ผมเห็นต่างนะ คนแบบคุณก็มีแต่ผมว่าคนอืื่นอีกหลายๆ คนที่เป็นแบบเปิดตัวปั๊บแล้วอยากได้เดี๋ยวนั้นเลยมันก็น่าจะมีเยอะ คือถ้ารอนานเข้าๆ อารมณ์อยากได้สินค้ามันก็จะลดลงทุกที แล้วสติก็อาจจะกลับคืนมาเรื่อยๆ ว่าเออของที่มีอยู่ในมือตอนนี้มันก็ยังใช้ได้นี่หว่า รอไปก่อนก็แล้วกัน
การส่งสินค้าไม่ทันเวลา คือการรอลูกค้าเปลี่ยนแบรนครับ
ลองคิดถึงช่วง iPhone 3GS กว่าจะเข้าไทย บ้างคนก็บอกเลยรอ 4
เลยดีกว่าอีกไม่กี่เดือนเองทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่า 4 มันดีไหม
มาจาก supply chain ล้วนๆครับ
มันสำหรับผมไงครับ ไม่ได้บอกว่าส่งผลกับลูกค้าโดยรวมหรือดีกว่ากับสำหรับ apple เลย
สิ่งที่ผมต้องการสื่อคือ นวัตกรรม ไงครับ นวัตกรรมกับ supply chain
แล้วผมก็บอกแล้วว่า Supply Chain ที่ดีมีผลดีกับ Apple
แขนหรือขามันก็สำคัญทั้งนั้นแหละครับ ขาดอะไรไปมันก็ไม่สมบูรณ์
ผมสาวกโซนี่ครับ แต่ความจริงอันนี้ยอมรับไปโดยปริยาย ไม่รู้โซนี่กำลังคิดและทำอะไรอยู่ เซ็ง
ตกเก้าอี้ 5555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เขาคงคิดว่า iPhone คงไม่ต้องเปลี่ยนอะไรไปมากกว่านี้ เพราะมันดีอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว ที่ต้องเปลี่ยนคือ จะทำยังไงให้ทุกอย่างๆใร iPhone เป้น Apple หมด ตอนนี้ก็คงได้เห็น Map และในอนาคตคงต้องมีอะไรที่ Apple ทำเป้นของตัวเองอีกโดยไม่พึ่งพาคนอื่น
อีก 5 ปี ถ้าแอปเปิลยังอยู่ในจุดนี้ได้ ผมยอมรับเลยว่าทิม คุกเก่งจริง เพราะสิ่งที่สติฟทำทิ้งไว้คือผลิตภัณท์ของเขาเอง ไม่ใช่ของทิม คุก ทิม คุกแค่เอามานำเสนอในแบบตัวเอง ถึงแม้ Supply Chain จะดีเลิศแค่ใหน ถ้าวันที่ทิม คุก เดินลงจากเวที พร้อมผลิตภัณท์ที่ wow จริงๆ วันนั้นแหละคือความสำเร็จของแอปเปิลในแบบฉบับทิม คุก จริงๆ
ต้องสั่งงานด้วยระบบประสาท หรือไม่ก็ multi-touch จากด้านข้างเครื่องเลยก็ดีมั้ง
แต่รุ่นหน้าต้องมีเทคโนโลยีแบบโนเกียเข้ามาแน่ๆผมว่านะ พวก Super Sensitive Touch ก็น่าจะเข้ามา กล้องน่าจะขยับไปใกล้ Nokia แต่คงไม่มีอะไรที่เจ้าอื่นไม่มีแน่ๆ
"multi-touch จากด้านข้างเครื่อง"
มีมานานแล้วนะ ใช้กับฟีเจอร์ "ปรับลดระดับสัญญาน (โทรศัพท์)"
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่นั่นยังไม่ multi นี่ครับ!
ต้องใช้ทั้งมือก็น่าจะ multi อยู่นะครับ = =
Dream high, work hard.
กด vol + และ - ค้างไว้ตามด้วย power แช่เพื่อเข้าสู่ boot loader #คนละเจ้าล่ะ
เอ๋อฮาจริงๆ ฮ่าๆ
อันนี้ฮาจริงๆ ครับ ^ ^
' ' กำลังกินลูกชิ้นอยู่ กระเด็นออกจากปากเลย - -"
แปลได้ดีครับ
Tim Cook เก่งไม่เก่งดูที่ผลกำไร :)
ผลกำไรไม่ได้ดีกับผู้บริโภคนะครับ แต่ดีกับผู้เป็นเจ้าของธุรกิจและผู้ถือหุ้น
อย่างร้านบุฟเฟต์บางร้านอยากได้กำไรโดยลดคุณภาพวัตถุดิบลง
ผลคือกำไรมากขึ้นแต่ผู้บริโภคเสียผลประโยชน์ครับและในระยะยาว ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะลูกค้าหนีไปที่อื่นครับ
ในกรณีของแอปเปิ้ล คือเขาลดนวัฒกรรมลง เน้นปริมาณมากขึ้น(ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์เน้นธุรกิจ)อาจจะไม่มีผลในตอนนี้
แต่ในระยะยาวไม่แน่ครับยิ่งตามหลังคู่แข่งมากๆ อาจจะกลับไปเป็นช่วงก่อนซื้อ ตาจ๊อบส์ กลับมาก็เป็นได้ครับ
"อย่างร้านบุฟเฟต์บางร้านอยากได้กำไรโดยลดคุณภาพวัตถุดิบลง ผลคือกำไรมากขึ้นแต่ผู้บริโภคเสียผลประโยชน์ครับและในระยะยาว ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะลูกค้าหนีไปที่อื่นครับ"
ถ้าตามนี้ก็ไม่ได้ดีต่อเจ้าของเหมือนกันนะครับ เจ้าของปกติเค้ามองระยะยาว ยาวกว่าผู้บริหารอีกครับ เพราะเป็นเจ้าของเงินสุดท้าย ส่วนผู้บริหารมองสั้นกว่าเพราะโบนัสอยู่วันนี้ ไม่ได้อยู่อีกสิบปี เพราะลดต้นทุนแล้วทำให้ลูกค้าลดมากกว่าที่ประหยัดได้ ไม่เรียกว่ากำไรนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
งั้นต้องให้ตันมาอ่านเม้นนี้ด้วยนะครับ ล่าสุดไปทานฮิซึกายะมา โอยยย ท่านตันคงไม่ได้เข้ามาดูแลแน่ๆ เลย วัตถุดิบเกรดต่ำ รสชาติสอบตก บริการ...
ตันเค้าก็บริหารร้านอาหารแบบนี้มาตั้งแต่โออิชิบุฟเฟ่แล้ว แรกๆคุณภาพดีเชียว พอเริ่มปากต่อปากคนกินกันเยอะ ลดคุณภาพลงเรื่อยๆ
+1 แสดงว่าประสบการณ์ตรงเหมือนกัน
ตามนั้นครับใจความที่อยากจะสื่อคือ อยากให้ดูกันยาวๆอย่าพึ่งดูระยะสั้นๆว่าผลกำไรเฉพาะตอนนี้เนื่องจากตอนนี้ยังกินบุญเก่าได้อยู่(ของเดิมปูทางมาดีแล้ว) แต่อนาคตต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร?
ส่วนเรื่องร้านบุฟเฟต์นั้น ให้ผลดีถึงดีมากในระยะสั้นๆครับแต่่มีผลกระทบในระยะยาว เรื่องแบบนี้เกิดบ่อยในกรณีที่ผู้บริหารกับเจ้าของธุรกิจเป็นคนละคนกัน/ผู้บริหารยังมีประสพการณ์น้อยอยู่/ผู้บริหารที่มองแต่ผลประโยชน์
ซึ่งไม่ใช่ในกรณีทิมคุกแน่ รายนั้นประสพการณ์น่าจะเยอะอยู่แล้วแต่นำมาแสดงประกอบให้เห็นเฉยๆว่าดูที่ผลกำไรอย่างเดียวไม่ได้มีความหมายว่าจะดีเสมอไปเราต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันครับ
ใช่ครับเห็นด้วยกับทุกท่าน ทุกความเห็นเลย
ต้องดูยาวๆ ว่ายังรักษาระดับเดิมหรือทำให้ดีขึ้นได้หรือไม่ แค่ทุกๆปีต่อไปเท่าเดิมก็ถือว่าแย่แล้ว เหมือนไม่เติบโต
ส่วนตัวผมไม่ชอบ Apple (เหตุผลส่วนตัว) แต่ผมใช้ทั้ง iPhone และ iPad เพราะมันเสถียรดี
ชอบ Android แต่ยังไม่ค่อยนิ่งเลยไว้ก่อนฮาๆๆ
ความสำเร็จของทิมคุก คือความทุกข์ของพ่อค้ามาบุญครอง :p
คนขวามือกีต้าร์และร้องนำ วง Foo fighter นี่ หรือแกจะเอาไอโฟนไปดีดแทนกีต้าร์
ก็ Foo Fighter มาแสดงมินิคอนเสริตในงานเปิดตัว Iphone 5 ด้วย ก็น่าจะมีความชอบพอกันในระดับนึงนะครับ
ก่อนจะเป็น Leader ให้ Foo Fighter แกเป็นมือกลอง Nirvana ด้วยนะเออ
ดูท่าทางแกจะรอ iPhone 20 อยู่
อันนั้นโอบีวันครับ ผิดคนแล้ว
ตอนนี้อยากให้มีคนผลิตแท่นชาร์ตแบบไม่ต้องเสียบปลั๊ก ใช้ดึงแสงจากไฟนีออนมาผลิตไฟฟ้าเก็บไว้จนเต็ม พอมือถือแบตหมดก็เอามาวางให้ชาร์ตแบบไร้สายได้คงจะดี
ผมว่าด้านธุรกิจ tim cook ทำได้ดีกว่า Jobs นะครับ แต่ด้าน นวัตกรรม และความ wow นี้กินบุญเก่าจากยุค Jobs แท้แท้เลย แต่อย่างว่าอะไรครับของอย่างนี้ต้องให้เวลา กับเขาอีกซักหน่อย
เค้าทำบุญมาเยอะ ต้องดูยาวๆ ว่าเมื่อไหร่บุญจะหมด
ทิม คุกสไตล์คือให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจ มองผลกำไร และเพิ่มความมั่งคั่งแก่แอปเปิ้ล ส่วนจ็อบส์สไตล์ จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ให้โลกได้ว้าว!!กัน
พูดอย่างงี้แสดงว่า Apple จะเอาทิมมาชนกับบอลเมอร์สินะ 555
ไม่ต้องว๊าวมากขนาดจ๊อบส์ ที่มีอยู่ขายให้ทันตามที่ตลาดต้องการก็ win แล้วครับ
หันกลับไปมองโซหนี้ประเทศไทย....
The New ศาสดา ?
กำลังอยู่ในช่วงสร้าง Story ครับ
เสืออาจจะยังหลับอยู่ก็ได้ละม้างนะยังครับยังไม่ถึงเวลา 55555
ได้ยินชื่อทิมคุกแล้วนึกถึงคุก กั๊กๆๆๆๆๆ
ทำแบบนี้ก็เหมือน บริษัท ทั่วๆไป ...
ถ้าจะเน้นกำไรตั้งแต่แรก คงไม่มีแอปเปิ้ลในวันนี้...
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คู่แข่ง แซงได้แน่นอนครับ
ผลิดเร็วก็ดี ของมันตกรุ่นไว ดูอย่าง4sดิ
ใครจะรู้ ที่ product ใหม่ๆมานี้ไม่ woww เท่าไร เพราะเข้าอาจเอาทีมงานส่วนใหญ่ไปลงกับอะไรที่ยิ่งใหญ่อยู๋ก็ได้นะครับ
เหมือนตอน apple ช่วงก่อนออก iPhone นะครับ
ผมกำลังคิดเล่นๆ อยู่ว่าก่อน Steve Jobs ตายนี่แกได้จดรายชื่อนวัตกรรมที่แกอยากทำทิ้งไว้ให้ Tim Cook รึเปล่า
ฮ่าๆ (คิดเล่นๆ)
จากบริษัทขายนวัตกรรมกลายเป็นบริษัทขายสินค้าทั่วๆไป
ผมว่าแอปเปิลกำลังลดจัวเองลงมาในตลาดที่สู้ไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแย่แน่ๆ
Technology is so fast!
ต้องดูระยะยาวแล้วหละ
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับที่วิเคราะห์
โจทย์ supply chain ของรอบนี้ไม่ท้าทาย เพราะส่วนประกอบทุกส่วนไม่ได้
เป็นของระดับนวัตกรรมนำตลาด ชิ้นที่เคยผลิตยาก ๆ ตอนนี้ yield ก็ stable แล้ว
ตอนนี้เรียกว่ากินบุญเก่า ที่แต่เดิมทำมาดี คือตีโจทย์ตลาดและตอบปัญหาได้ถูกต้องอยู่
เขียนได้ดีครับ
แม้จะเป็นการกินบุญเก่า แต่จะกินบุญเก่าได้มากแค่ไหนหรือนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการครับ อย่างน้อยครั้งนี้ได้แสดงให้เรา (น่าจะ) เห็นแล้วว่าเค้ากินบุญเก่าได้คุ้มมาก ส่วนเรื่องนานแค่ไหนหรือจะมีบุญใหม่หรือไม่ก็ต้องดูต่อไปอีกนั่นล่ะครับ
เพิ่งเป็น CEO ได้แปปเดียวเอง สินค้าที่จะปฏิวัติตลาดมันต้องใช้เวลาหน่อย
ให้ตายสิ พวกคุณรู้หรือไม่ว่า เหล่าสาวกบอกต่อกันว่า iPhone 5 คือรุ่นสุดท้ายที่ Steve Job คิดค้นขึ้นมา
แล้วจะบอกว่าเป็นความสำเร็จของทิมคุกได้อย่างไร
อานั่นสินะ
4S = For Steve
5 = The Last Legacy
6 = Cook Edition: The Fallen King
7 = The New Hope
8 = ...
8 = The Empire Strike Back
4 กับ 4s ก็ฝีมือ Tim Cook นะครับ
ตอนจ๊อบส์รู้ตัวว่าป่วย แกก็ให้ตาลุงทิมฝึกงานตั้งแต่นั่นแล้ว
หลายคนบอกยังอยู่ในโหมดกินบุญเก่า ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้นจริง ๆ คงต้องดูอีกสัก 4 ปี เพราะ Cook นั้น Jobs เขาเคยให้เป็น CEO รักษาการมาหลายเดือนอยู่ ช่วงนั้น Apple ก็ทำอะไรได้ตั้งเยอะ ดังนั้น Cook ก็มีประสบการณ์พอสมควร
แต่เชื่อเถอะ ถึงผ่านไปอีก 5-10 ปี Apple ยังคงอยู่ คนที่แอนตี้ก็ยังคงบอกว่า "กินบุญเก่า"
อ่านยังไงก็เข้าใจว่ากินบุญเก่าอยู่ดีนั่นแหละ เลยมาเน้นสายการผลิตให้แข็งแกร่ง
ปล ก็ทำไมไม่ลองทำมือถือแบบบีบๆชาร์ตไฟไปในตัว แม่สาย มีมานานแล้วนะเออ ขอบอก
ส่วนตัวมองว่าตอนนี้บุญเก่าสูงมาก การผลิตให้ทันเป็นเรื่องดี เกรงว่าวันหนึ่งบุญเก่าหมด (อาจจะเป็นสิบปี) ไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาล่ะยุ่ง จะกลายเป็นแบบตอน LISA ไป ผลิตมาเยอะแต่ขายไม่ออก
Apple ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปครับ เข้าสู่ยุคใหม่ก็ต้องมีอะไรที่เปลี่ยน ตอนจ็อบส์เน้นนวัตกรรม มาถึงยุคทิมคุกเน้นการบริหาร
เพราะ Apple เป็นบริษัทที่มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตำนานของบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้ว ก็มาดูกันต่อว่า Apple ที่ปรับทิศทางไปจะเป็นยังไง อาจจะดีขึ้นในแง่หนึ่ง อีกแง่หนึ่งจะแย่ลงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
จุดเด่นสมัยก่อนของ Apple คือนวัตกรรมที่ทุกคนต้อง Wow
แต่...
หากเป็นดังที่คุณพูด น่าติดตามจริงๆ ว่าอีก 5 ปี Apple จะเป็นยังไง
คุ้นๆว่าก่อนหน้านี้เจอปัญหาที่ ญี่ปุ่น กับ จีน เลยทำให้กำลังผลิตไม่พอไม่ใช่หรอฮะ ตอนนี้สถานะการณ์ปกติดีทุกอย่างฟื้นตัว ถ้าผลิตได้แย่ลงคงจะ..? ^^
ผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติตลาดนี่หมายถึง TV รึเปล่าครับ
แต่ยุคของทิมคุกนี้ผลิตภัณฑ์หลุดมาแบบไม่เหลือให้ผู้ใช้ลุ้นเลยนะ ปรับปรุงตรงนี้หน่อยเหอะ อย่าให้ซ้ำรอย iPhone 5 นะ ที่เล่นหลุดมาก่อนซะนานเลย
ที่หลุดก็น่าจะเป็นคนจีนในโรงงานนั่นแหละ (ถ้าไม่ได้ตั้งใจให้หลุดนะ) ดู Goophone ดิ เหมือน I5 เกือบ 100%
พ่อค้าจีนมั่นใจถึงขนาดจดลิขสิทธิ์ดักไว้เเล้ว เข้ามาขายเมื่อไรกะฟ้องแน่
ที่ผ่านมามีข่าวว่า อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ของสหรัฐ มีการพูดคุยถึงการย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐ
เพื่อป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าเป็นจริงราคาสินค้าคงแพงขึ้นมาก ค่าแรงที่นั่นแพง
ดีแล้วครับ แค่นี้ก็ล้นพื้นที่สื่อจนจำไม่ได้แล้วว่าซีอีโอบ.อื่นชื่ออะไรกันบ้าง
ผมว่าเรื่องนึงที่ steve jobs คงตายตาหลับแล้วก็คงเป็นเรื่อง 1% market share จนถึงวันนี้มันมาได้ไกลอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
ผมคิดว่าแค่มี content อย่าง itunes อยู่ ยังไงก็ยังเอาไปหากินได้อีกแสนนานนะครับ
การดีลกับ media รายยักษ์ทั้งหลายมาได้นี่ เป็นสิ่งที่น่าปลื้มไม่แพ้การค้นคิด iphone หรือ ipad เลย
ถ้า output ในมือแต่ละคนยังไม่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆออกมาได้ ยังไง content ในมือก็ยังชนะเลิศครับ
google เองพัฒนา android หรือ มือถือแบรนตางๆมี hardware โหดๆออกมา
ถ้า content ยังไม่เป็นรูปร่าง ก็คงยังไม่น่าสนใจสำหรับผมอยู่ดี
ต้องรอดูว่า เฮียคุก แกจะเพ้อฝันได้มากเหมือนที่ เฮียจ๊อบ เคยเป็นหรือป่าว
แกพึ่งมีผลงานมาได้มา 2 gen มันยังน้อยเกินไปที่จะบอกว่าแกดีหรือไม่ได้เรื่อง
สินค้าที่อาจทำให้ว้าวได้อาจเป็น iMac ก็ได้นะ
เวลาคนดูจอบส์ขึ้นเวทีมักจะลุ้นว่า มีของใหม่ๆอะไรออกมา ไม่ก็ all new design รึป่าว
iPhone 5 คือหนึ่งในสินค้าที่สาวกต่างรอคอยเจ้าสิ่งนี้ และทำให้สาวกไม่ผิดหวังจริง ๆ นี่แหละคือความสำเร็จของ Apple
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เหมือน Nokia + MS ที่ส่งโทรศัพท์ที่สาวกร้องเพลงรอ แต่มองอีกด้านเหมือนให้ค่อยๆ เก็บเงิน ใช้ตัวเก่าคุ้มนานแล้วเนอะ