เป็นที่ทราบกันดีกว่าพอร์ต Lightning ของแอปเปิลนั้นมีความพิเศษอยู่ตรงที่มันสามารถเสียบใช้งานได้ทั้งสองด้าน ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมานั่งเล็งว่าด้านใดเป็นด้านบนหรือด้านล่างอีกต่อไป
เมื่อดูจากภายนอกทั้งด้านบนและด้านล่างของพอร์ตก็จะมีหน้าสัมผัสของขาสัญญาณสีทอง ๆ อยู่ 8 ขาเหมือนกันทั้งสองด้าน หากเรากำหนดให้ด้านใดด้านหนึ่งของพอร์ตเป็นด้านบน ขาสัญญาณที่เข้ามาเรียงจากซ้ายไปขวาก็จะเป็นขาสัญญาณที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 ซึ่งหากพอร์ตนี้สร้างให้สมมาตรกันทั้งสองด้าน เมื่อสลับด้านล่างเป็นด้านบนแล้วก็จะต้องได้สัญญาณที่เรียงตัวกันเช่นเดิม (ซึ่งเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าน่าจะทำแบบนี้) ดังนั้นขาสัญญาณที่ 8 ของด้านล่างก็น่าเชื่อมและมีสัญญาณเดียวกันกับขาที่ 1 ของด้านบน เพราะเมื่อสลับสับเปลี่ยนการเสียบจากด้านล่างมาเป็นด้านบนแล้ว ก็จะได้กลายมาเป็นขาสัญญาณขาแรกด้านซ้ายสุดของด้านบนเช่นเดิม
แต่จากรายงานจากการงัดแงะล่าสุดพบว่า แอปเปิลได้ซ่อนความไม่ธรรมดาไว้ภายใต้รูปลักษณ์อันธรรมดาของพอร์ต Lightning นี้ โดยได้สร้างให้สัญญาณข้อมูลด้านบนกับด้านล่างไม่สมมาตรกัน ยกตัวอย่างเช่นขาสัญญาณที่ 2 ของด้านบนเชื่อมเข้ากับขาที่ 2 ของด้านล่าง นั่นแปลว่าเมื่อหมุนสลับกลับด้านแล้ว สัญญาณที่เข้าออกจะไม่เรียงตัวเช่นเดิมแน่นอน ซึ่งนั่นก็แปลต่อไปได้อีกว่า iPhone 5 จะต้องมีวิธีในการตรวจสอบว่าด้านใดของพอร์ตกำลังเสียบอยู่กันแน่่ เพื่อที่จะได้รับส่งสัญญาณได้ตรงกับการเรียงตัวของขาสัญญาณด้านนั้น ๆ ซึ่งก็สันนิษฐานกันว่าเจ้าชิปพิเศษที่ฝังมาในพอร์ต Lightning นั่นแหละเป็นผู้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้
ที่มา - AppleInsider
Comments
นิดเดียวครับ Apple Insider -> AppleInsider
ขอบคุณครับ :-)
อีะ ว่าจะมาเขียน ไม่ทันละ
แต่เขาว่าขาที่ใช้กับ USB2 เนี่ย symmetric กันนะ เข้าใจว่าเป็นการลดต้นทุน (เพราะว่าสายที่ใช้ 90% มันก็วิ่งผ่าน USB2 นี่ล่ะ) ส่วนขาอื่นอาจจะใช้เป็น active cable คือมีชิพสำหรับประมวลผลอยู่ในสาย (ประมาณ Thunderbolt) ล่ะมั้ง?
แล้วอะไรคืิิอประโยชน์จากการสับขาหลอกแบบนั้นอ่ะครับ? สงสัย ;)
my blog
ลงชื่อสงสัยด้วยคนครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
เป็นนวัตกรรม ได้ความบางไงครับ ดูหรู เล็ก ลดต้นทุนแต่ไม่มั่นใจว่าคุ้มใหมเพราะมันมีค่า research อยู่
// 2. สามารถใช้ขาสัญญาณได้ 8 พิน
(3. ขายชิพ)
Edit: ลืมว่าที่ iPhone 5 มีแค่ 4 พิน = ='
:: DigiKin8 ::
เห็นด้วยกับข้อ 1. ครับ อันนี้ผมเป็นความคิดส่วนตัวนะครับ
คิดว่าที่จะจำกัดอุปกรณ์เพื่อให้อุปกรณ์เสริมเดิม เปลี่ยนโมเดลเป็นพอร์ตใหม่ได้ช้าลงเพื่อให้สามารถขายตัวแปลงของ Apple เองได้เรื่อยๆ
เดี๋ยววว ๆๆ
iPhone 5 มี 8 พิน ไม่ใช่หรือ ?????????
เออใช่ครับ 8 ผมมึนเอง = ='
:: DigiKin8 ::
ซื้อใหม่ กำจัดสายปลอม
ผูกขาดให้สาย Lightning ทั้งหมดต้องเป็นของ Apple เท่านั้น 3rd party หมดสิทธิทำสายขายเอง?
Technology is so fast!
เห็นด้วยเลย
ผมว่าไม่ได้จำกัดหรอกครับ แต่จะขายลิขสิทธิ์....
กำลังคิดเหมือนกันเลย
คือถ้า 3rd party จะทำสายหรือ dock ขาย คงต้องไปขอ Apple licensing & manufacture spec กันเลยทีเดียว (มั้ง)
สงสัยกลัวจะโดนเลียนแบบ เลยต้องทำกันไว้
คือ ตัว iPhone (อาจจะ) สามารถแยกแยะได้ว่าอุปกรณ์ที่กำลังต่ออยู่คืออะไร อย่างเช่น ถ้าเกิดต่อเข้ากับ Dock วิทยุ ก็สามารถใช้ขา A และ B ในการส่งสัญญาณเสียงเข้ารหัสแบบ S/PDIF แต่ถ้าเกิดต่อเข้ากับ Dock แบบที่สามารถรับสัญญาณภาพได้ด้วยก็สลับไปใช้สัญญาณแบบอื่นที่สามารถแปลงเป็นสัญญาณภาพได้โดยใช้ขา A และ B เหมือนเดิม
หรือแม้กระทั่งว่า อนาคต iPhone 60 อาจจะรองรับมาตรฐาน USB 3.0 ก็ใช้สายเดิมนี่ล่ะ เนื่องจากว่าหัวเนี่ยมันจะมีสายชุดหนึ่งที่เอาไว้รองรับ USB 2.0 โดยเฉพาะอยู่แล้ว (ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่ว่าจะพลิกสายไปด้านไหน) iPhone อาจจะเช็คว่า USB 2.0 ด้านไหนกำลังถูกใช้งาน และเลือกว่าอีก 5 พินที่เหลือที่จำเป็นต้องใช้กับ USB 3.0 (ซึ่งมี 9พิน) จากจำนวน 8 พินที่เหลือ (คือผมมองว่า Lightning มี 8พิน * 2ด้าน = 16 พิน กันเอาไว้สำหรับ USB2.0 8 พินน่ะครับ)
อ้างอิง : Ars Technica
ที่อยากรู้จริงๆคือ "ทำเำพื่ออะไร?"
Technology is so fast!
ปลักเสียบเล็กและจำนวนขาน้อยลงครับ
สายปลอมยากขึ้น ?
หรือประมาณว่า ถ้าเสียบแบบหงายขึ้น จะชาร์ตไฟได้อย่างเดียว ถ้าคว่ำลง จะใช้ในกรณีโอนถ่ายข้อมูลก บลาๆ (ฝัน)
เพื่อให้หมุนเสียบได้ทั้งสองด้านรึเปล่าครับ
ดีครับนี่แหละตรงจุดจริงๆ ไม่ต้องนั่งเล็งอยู่ -*-
แปลง่ายๆคือ Apple ทำ lightning มาให้ยากต่อการก็อปอีกแล้วครับท่าน
ขอบคุณสำหรับบทความครับ มันแจ๋วที่เสียบด้านไหนก็ได้
เลื่อนมาอ่านเม้นแล้วขำดี
+1 บางคอมเมนต์ก็เป็นห่วงกลัวคนจะก๊อปขายไม่ได้
แปลว่าไม่ได้สีสายสี่คู่ แต่มีสายแปดเส้น ลดขนาด ทำให้สมมาตรได้
May the Force Close be with you. || @nuttyi
สุดยอดอีกแล้วครับพี่น้อง
Nokia บอก สายของชั้นเสียบด้านไหนก็ได้เหมือนกันนะ ทำมานานแล้วด้วย,,,,
กลมๆ หัวเข็มหรือเปล่า ? หมุนได้ด้วย ฮา+
ใช้แทนหนวดกุ้งได้ด้วยน่ะ ไลท์นิ่งทำได้หรือเปล่า :)
สงสัยแค่ว่าทำไมต้องไม่ใช้ micro USB ทั้งๆ ทีเป็น European standard ที่เค้าตกลงกันเพื่อลดขยะ charger
http://ec.europa.eu/enterprise/sectors/rtte/chargers/index_en.htm
http://www.tuaw.com/2012/09/13/apple-accommodates-european-law-with-lightning-micro-usb-adapter/
แต่ผมว่า benefit มันก็ดีเหมือนกันนะครับ เสียบด้านไหนก็ได้ แล้วภายในกลับด้านเอา
ข้อเสียของ usb คือมันต้องมานั่งดูว่าด้านไหนถูก โดยเฉพาะ usb ใหญ่ มันยากมาก พวก micro/mini ยังง่ายหน่อย แต่ถ้าแบบ apple คือ ไม่ต้องเล็งก็เสียบได้ ผมว่ามันก็สะดวกดี
อีกอย่างในกรณีนี้ charger มันไม่ขยะหรอกนะครับ เพราะสิ่งที่เปลี่ยนคือ "สาย" ซึ่งแยกจาก charger อยู่แล้ว
พวกที่น่าด่า คือทำ charger ติดสาย micro usb ที่แยกไม่ได้เลยมากกว่า
Apple เคยใช้พอร์ทแบบชาวบ้านด้วยหรอครัฟ
ผมว่า Apple ยังไม่เท่าไร เพราะคนใช้กันเยอะ แต่ samsung รุ่นล่างๆ ทำให้หัวต่อแต่ละรุ่นเหมือนกันได้ไหม
apple บอก มันเป็นอเมริกันสไตล์
เดี๋ยวซัมซุงออกพอทใหม่ บอกว่าเป็นกังนัมสไตล์
+555
+100
มีข่าวมานานมากแล้วครับ (ลงใน blognone ด้วย จำได้) ว่ามีข้อตกลงกันให้ใช้ microusb เพื่อลดขยะ
สมัยนั้นยังพอร์ตใครพอร์ตมันอยู่เลย ไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนกันได้จริง แต่สุดท้ายทั้งโลกก็ร่วมมือ แม้แต่โนเกีย จนตอนนี้เรามี microusb เป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับมือถือแทบทุกเครื่องบนโลกนี้แล้ว
ประเด็นจริงๆ คือพอเขาผลักดันให้เป็นมาตรฐานเดียวได้แล้ว ทุกๆ คนก็จะมี microusb ใช้กันทุกคน และสิ่งต่อไปที่เขาจะทำในอีกไม่นานนี้คือ หยุดแจก adapter+สายชาร์จมากับเครื่องใหม่ซะที ต่อไปซื้อเครื่องได้เครื่องเฉยๆ คนจะได้นำสายจากเครื่องเดิมกลับมาใช้ซ้ำ ลดการสร้างขยะเพิ่มด้วย ใครไม่มีสายหรือต้องการเปลี่ยนก็ต้องซื้อแยกเป็นรายๆ ไป ซึ่งไม่น่าห่วงเพราะมันเป็นพอร์ตมาตรฐานไปแล้ว หาง่าย ไม่แพง ..ที่ว่ามาคงอีกไม่นานนี้หรอกครับ ซึ่งผมชอบวิธีการและคิดว่ามันดีต่อโลกแน่ๆ
แต่มีบางบริษัททำตัวสวนกระแส นอกจากไม่
สินค้า IT ช่วงอายุมันสั้นครับ ถ้าห่วงโลกก็ควรปรับ cycle ของสินค้า IT ให้นานกว่านี้มากกว่า แต่บริษัททั้งโลกเค้าไม่ทำกันหรอก
microusb ก็มีอายุได้อีกไม่เกิน 5 ปีหรอกครับ (จริง ๆ ผมคิดว่าน่าจะไม่เกิน 2 ปี โทรศัพท์มือถือก็น่าจะไม่มีพอร์ตเหลือแล้ว)
อารมณ์เดียวกับ
อย่ามาห้ามผมดูบุหรี่เลย ควันพิษจากรถบนถนนมีมากกว่าตั้งเยอะทำไมไม่ไปจัดการก่อน
กับ
อย่ามาห้ามผมดูบุหรี่เลย อีกไม่กี่ปีผมก็ตายแล้ว
รึเปล่าครับ 555
Micro USB นี่ค่อนข้างเห็นด้วยว่าเดี๋ยวคงมี USB ขนาดเล็กกว่าออกมาแน่ๆ
แต่ 2 ปีไม่มีพอร์ทเหลือเลยนี่ผมว่ายากครับ
ต่อให้ระบบ Wireless พัฒนาไปจนสวยหรูยังไง แต่สุดท้ายก็ยังต้องมีระบบสายไว้อยู่ดีนะครับ
+100
ผมรอวันที่จะไม่ต้องซื้อเครื่องแถม adapter มานานแล้ว
ใครมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเยอะๆหรือพวกเครื่องเกมเนี่ย adapter เต็มบ้านเลยครับ 555
พอดีมือถือแบตจะหมด เลยกดเซฟข้อความก่อน แก้ไม่ทัน เลยขอลงตรงนี้ใหม่นะครับ
+100
เคยมีข่าวมานานหลายปีแล้ว (ยุโรปได้ข้อยุติ มือถือทุกค่ายใช้สายชาร์จ Micro USB เริ่มปี 2011) ว่ามีข้อตกลงกันให้ใช้ MicroUSB เป็นมาตรฐานร่วมกันเพื่อลดขยะ (แอปเปิลก็ไปตกลงร่วมมือกับเขาด้วยไว้นิ ไหงเป็นแบบนี้ซะงั้น)
ว่าไปสมัยนั้นมันยังพอร์ตใครพอร์ตมันอยู่เลย ผมเองก็ไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนไปเป็นมาตรฐานเดียวกันกันได้จริง แต่สุดท้ายทั้งโลกก็ร่วมมือ แม้แต่โนเกียก็ตาม จนตอนนี้เรามี MicroUSB เป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับมือถือแทบทุกเครื่องบนโลกนี้ไปแล้ว
ประเด็นจริงๆ คือพอเขาผลักดันให้เป็นมาตรฐานเดียวได้แล้ว ทุกๆ คนก็จะมี MicroUSB ใช้กันทุกคน และสิ่งที่เขาจะทำกันต่อไปคือหยุดแจก adapter+สายชาร์จมากับเครื่องใหม่ซะที ต่อไปซื้อเครื่องใหม่ก็ได้แต่เครื่อง คนจะได้นำสายจากเครื่องเดิมกลับมาใช้ซ้ำ ลดการสร้างขยะเพิ่มด้วย (ใครไม่มีสายหรือต้องการเปลี่ยนก็ต้องซื้อแยกเป็นรายๆ ไป ซึ่งไม่น่าห่วงเพราะมันเป็นพอร์ตมาตรฐานไปแล้ว หาง่าย ไม่แพง)
แต่มีบางบริษัททำตัวสวนกระแส นอกจากไม่ร่วมมือลดขยะกับโลกแล้ว ยังหาเรื่องสร้างพอร์ตใหม่ซึ่งเป็นการสร้างขยะเพิ่มขึ้นด้วย (เครื่องรุ่นใหม่ก็ต้องใช้กับอุปกรณ์เสริมใหม่ ซึงใช้ร่วมกับใครไม่ได้อีก ส่วนพวกอุปกรณ์เก่าๆ ที่เคยมีก็ใช้กับเครื่องรุ่นใหม่ไม่ได้ ขยะทั้งนั้น มันน่านักจริงๆ บริษัทนี้)
อุตสาห์ได้ฤกษ์เปลี่ยนพอร์ตแล้วทั้งที คือพอร์ตใหม่มันอาจจะมีดีที่สะดวก อยากแตกต่าง อยากสร้างตัวตนเฉพาะก็เข้าใจ แต่ในเมื่อโลกมันมีมาตรฐานกลาง ที่ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อลดการเพิ่มขยะให้โลก ซึ่งมันดูมีคุณค่ามากกว่าอีก แต่ก็ดันไม่ร่วมมือ จริงๆ ประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ ระหว่างใช้พอร์ตที่เสียบได้สองด้าน กับพอร์ตที่หายืมสายมาตรฐานที่หาได้ง่ายจากคนรอบตัว อะไรมันดีกว่ากันครับ
อืม แต่ลองคิดอีกแง่นึง มันจะกลายเป็นการขวางวิวัฒนาการรึเปล่าครับ ยังไงพวกอุปกรณ์ไฟฟ้ามันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆอยู่แล้ว แล้วถ้าสมมติว่าออกกฎหมายให้อุปกรณ์มาตรฐานมีอายุกี่ปีๆ แต่ละบริษัทก็ไม่ได้ทำรีเสิชเหมือนกันอยู่ดี พอหมดอายุก็ออกแบบใหม่มาไม่เหมือนกันอีก แบบนี้ก็พูดยากเหมือนกันนะ
แต่ประเด็นมันคือ มันก็คือ USB เหมือนชาวบ้านเขาไงครับ แต่ใช้ร่วมกับชาวบ้านเขาไม่ได้
จริงแฮะลืมไปว่ากรณีนี้มันก็คือ USB เหมือนกัน
ใช่ครับ Galaxy TAB เนี่ย ผมด่า Samsung มันทุกวัน..
ก็ต้องรอดูต่อไปครับว่าบริษัทที่คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับต้นๆ อย่าง Apple จะเจอแรงต้านทานเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า แล้วท่าทีจะเป็นอย่างไรก็คงต้องดูต่อไป อาจจะเหมือนครั้งที่ไม่เอาฉลากเขียวครั้งก่อนก็ได้
"แอปเปิ้ลทำให้ทุกอย่างดูง่าย"
ผมว่าเขาน่าทำสโลแกนนี้มาโฆษณา เพราะหลายผลิตภัณฑ์เป็นแบบนั้น และแน่นอน ต้องต่อท้ายว่า "...และแพงโครต"
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
แล้วตกลงใครได้ผลประโยชน์กันแน่หละครับ เรื่องนี้
Apple ไง
คงไม่มีสายเส้นละ 60 บาท ให้ใช้แล้วสินะ
แน่จริงก็ทำหัวกลมสิ จะได้ไม่ต้องดูว่าเป็นแนวนอนหรือแนวตั้งด้วย
คงจะมีสายก๊อปลักษณะเสียบใส่ได้แต่ต้องให้ถูกด้านออกมาขายแหล่ะครับ เทียบกับที่ต้องซื้อสายแท้ราคาหลายพันกับสายก๊อปไม่กี่ร้อย แต่สุดท้ายก็คงมีของเลียนแบบที่เหมือนจริงๆออกมาขายอยู่ดี..
หรือเป็นไปได้มั้ยว่าทางแอปเปิ้ลกับผู้ผลิตจะรู้กันแล้วทำของออกมาอีกเกรดนึงซะเอง ได้สองตลาดเลย
เดียวเจอสายพี่จีน เร็วกว่าสายแอปเปิล หึ หึ
ของที่สร้างโดยมนุษย์ ยังไงมนุษย์คนอื่นก็สร้างขึ้นมาได้อยู่ดีล่ะครับ
วัสดุ ข้าวของ เทคโนโลยี และโรงงานผลิต ก็เป็นของบนโลก
แถมของก้อป ไม่มีค่าแบรนด์และค่าวิจัย ถ้าเจ้าของตัวจริงผลิตได้ คนทำก้อปก็ผลิตได้
ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นสิ่งประดิษฐ์อะไรที่เลียนแบบไม่ได้เลย เพียงแต่มันจะคุ้มทุนไหมก็เท่านั้น
กำพิมพ์ยาวๆบน ipad กลับมาหาย
จะบอกว่าเดิม 30 ใช้อะไรบ้าง
USB 2 , Dc 1, VGA 5 , Firewire 4+2 , VDO out 1 , Sound 3 , other com 6 ที่เหลือว่าง ?
รวมแล้ว 20 กว่าพิน จะเอามาใช้กับ 8 pin ของ iphone 5 ก็เลยต้องมีการสลับ port ผ่าน chipset ครับ
กล่าวคือหากจะ Copy เฉพาะสายชารจ์ ก็ทำได้ครับโดยคาดว่าไม่ต้องมีชิบใดๆแต่ก็ทำออกมาเป็นสายด้านเดียว