จากข่าวการจดทะเบียนเว็บ Buddhaporn.com ซึ่งเป็นเว็บลามกส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศพยายามประท้วงไปยังรัฐบาลสหรัฐเมื่อวานนี้ ตามขั้นตอนที่ทางกระทรวงไอซีทีทำมาโดยตลอดก็ได้บล็อกเว็บดังกล่าวไปแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือการให้สัมภาษย์ของนายเอกพล สามัตถิยดีกุล ที่ได้กล่าวว่า "ขณะนี้สมาคมและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีได้บล็อคเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว พบการจดทะเบียนเว็บไซต์แม่ข่ายอยู่ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้การบล็อคเว็บไซต์ภายในประเทศไทยไม่เป็นผลสำหรับนักท่องอินเทอร์เน็ต จึงคิดว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยของกระทรวงไอซีทีและกระทรวงวัฒนธรรมยังมีจุดบอด จึงอยากให้รัฐบาลเปิดเมนเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยให้เหมือนกับที่ประเทศจีน ที่ขณะนี้สามารถตรวจสอบ และบล็อกเว็บไซต์ที่ส่อไปในทางไม่ดีได้ทั้งหมดแล้ว" (ถอดความตามข่าวของกรมประชาสัมพันธ์โดยไม่มีการตัดตอน ตัวเน้นเน้นโดยผู้เขียนข่าว)
กรรมการสมาคมคนเดียวกันนี้ ยังได้ให้ความเห็นว่าการะทรวงวัฒนธรรมควรเป็นเจ้าภาพในการบล็อคเว็บไซต์ ดังที่ได้กล่าวกับทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า "การป้องกันเว็บเหล่านี้สามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความจริงใจและการทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างกรณีเว็บแสดงร่วมเพศในโปรแกรมแคมฟรอก น่าแปลกว่า ในช่วงแรกๆ ห้องต่างประเทศมีการบล็อกได้หมด แต่เดี๋ยวนี้ห้องต่างประเทศ คนไทยสามารถเข้าไปดูได้แล้ว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่กระทรวงไอซีทีต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการป้องกันเว็บไซต์ลามกนั้นภาครัฐทำได้และทำได้ดี หากคิดจะทำจริงจัง โดยอยากเสนอให้ วธ.เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งโดเมนเซิร์ฟเวอร์ป้องกัน เว็บโป๊ ทุกเว็บมีบ้านเลขที่ของตัวเอง เว็บไหนเป็นเว็บโป๊ให้บล็อกไว้ได้ อาจร่วมมือต่างประเทศที่มีฐานข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมดแล้วเราก็นำมาบล็อก และน่าแปลกว่าเว็บโป๊เหล่านี้ผิดกฎหมายสิ้นเชิง แต่กฎหมายกลับทำอะไรไม่ได้"
เผื่อใครไม่รู้ สมาคมนักธุรกิจผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทยนั้นเป็นกลุ่มของผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตครับ
ที่มา - ไทยรัฐ, ข่าวกรมประชาสัมพันธ์ (Real Player)
Comments
ตอนแรกอ่านชื่อภาษาไทยนึกว่าเป็น ISP ซะอีก (แล้วของ ISP ใช้ชื่อว่าอะไร?) แล้วก็นะ.. ขอหน่อยเถอะ ขนาดตั้งชื่อยังเล่นซะกำกวมเลย แถมชื่อไทยกะอังกฤษคนละเรื่องกันเลย (Internet Cafe Commercials of Thai)
แล้วก็งงๆ กับที่ว่า การบลอคในประเทศไม่เป็นผลกับนักท่องอินเทอร์เน็ต จะให้ตั้งเซิร์ฟเวอร์บลอค.. งงๆ ว่า "นักท่องอินเทอร์เน็ต" นี่หมายถึงในไทยหรือทั่วโลก แต่โดยบริบท ผมเข้าใจว่าหมายถึงทั่วโลก แล้วมันทำได้ด้วยเหรอ - -a
แต่ถ้าหมายถึงแค่ในประเทศ มันก็ไม่น่าได้อยู่ดี แน่นอนว่าผมมุดท่อไปลองเข้าเว็บนั้นแล้ว และในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนคนนึง ก็รู้สึกเฉยๆ นะ ถ้ามาห่มจีวรบอกว่าเป็นพระแล้วไปถ่ายนี่ก็ว่าไปอย่าง (หรือว่ามี แต่ผมไม่เห็น -- แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระอยู่ดี)
อีกเรื่อง.. ที่พี่ลิ่วทำตัวหนาไว้.. อันนี้ไม่รู้จะพูดว่าไงเลย
---------- iPAtS
iPAtS
ตลกดีแท้ เว็บBuddhaporn.com ตกลงจะให้ทำยังไงกับมันดีหละ ระหว่าง บล๊อกไม่ให้คนไทยดู(อย่างที่สมาคมนี้คิด) กับ ไปแจ้งผู้จัดทำให้เอาอะไรที่เกี่ยวกับศาสนาออก
ตกลงจุดมุ่งหมายเค้าคือต้องการไม่ให้คนไทยดู แต่คนต่างประเทศดูเว็บนี้ได้ !?
สิ้นคิดไปเปล่าเนี้ยสมาคมนี้ ขนาดแค่ ICT ยังบล๊อกมั่ว แล้วมาตั้ง server เหมือนประเทศจีน จะกีดกั้นไปถึงไหน !!!
http://meddlesome.exteen.com
บอกตรง ๆ ว่าเอาอะไรมาคิด ทำไมรัฐถึงทำกับประชาชนได้ขนาดนี้ อะไรที่ตัวเองไม่ชอบหรือฟังไม่ดูดีก็บล็อกไปหมด ชาติไทยมีศาสนาประจำชาติคือศาสนาพุทธแต่ทำไมต้องขนาดนี้ด้วย ทำไม Da Vinci Code ถึงไม่แบน ถึงแม่้ผมจะเป็นคนพุทธแต่ผมไม่เห็นถึงความยุติธรรมเลยครับ
และในฐานะคนไทยที่อยู่อาศัยในประเทศ ผมรู้สึกว่าเริ่มจะเสียใจที่เกิดเป็นคนไทย ที่ไม่มีสิทธิเหมือนกับคนประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก อย่าเอาจีนหรือประเทศอื่นเป็นตัวตัดสิน เพราะเขาก็ miserable กว่าเราอยู่แล้ว
ไม่อยากเปิดเสรีการสื่อสารก็อาจจะเพราะแบบนี้ จะได้คุมสื่อได้ทุกประเภท ล้างสมองคนทั้งประเทศ
พูดไม่ออก แต่ถ้าทำแบบนี้ ก็อยู่ในกะลาต่อไปกันทั้งชาตินั่นล่ะ
เออ พูดอีกก็ลืมไปประเทศเราไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตยนี่ ผมพูดเกินไปลบได้นะครับ ไม่ว่า >.<
@TonsTweetings
"ไอซีทีควรตั้งเซิร์ฟเวอร์บล็อคเว็บเช่นจีน"
งง อย่างแรง หมายถึงตั้ง server เก็บฐานข้อมูล black list หรือเปล่า แล้วให้ ISP หรือหน่วงงานต่างๆ นำ black list ไปใช้?
jane: "ไอซีทีควรตั้งเซิร์ฟเวอร์บล็อคเว็บเช่นจีน"
น่าจะหมายถึงการตั้งเกตเวย์หลักของประเทศ แล้วก็บังคับให้ทุก ISP ในประเทศไทยต้องผ่านเกตเวย์ตัวนี้เหมือนที่ประเทศจีนทำ แต่จีนเค้าทำ เพื่อป้องกันระบอบการปกครองของเค้า เพื่อความมั่นคง แต่ของเรา...
บล๊อคเว็บเหรอ...ไร้สาระสุดๆ
เอาเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นดีกว่ามั้ง (หรือว่ามีงานทำกันทั้งกระทรวงเพียงแค่นี้!!?)
infernohellion: จีนและประเทศอื่นเขามีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและระบบการปกครองไม่เหมือนเราครับ ผมว่าเราไม่ควรมองว่าเขา miserable กว่าเรา ในมุมมองผมเราต่ำกว่าเขาในหลายๆด้านนัก (แต่ผมเห็นด้วยมากว่าประเทศเราไม่ค่อยจะเป็นประชาธิปไตยสักเท่าไหร่)
ผมว่าปัญหาพวกนี้ไม่ควรแก้ด้วยการบล็อคเว็บเลยนะ เรามีวิธีที่สร้างสรรค์และไม่กระทบสิทธิหลายๆอย่างของประชาชนตั้งมากมาย แต่เราก็ไม่ทำกันเพราะเหตุผลที่ว่ามันทำยาก มันทำไม่ได้
แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะไม่มีใครทำซะทีต่างหาก
อ้าว ปิดไปแล้ว
-_-???
ความคิดเจริญลง = ="
----------- http://arthuran.net
"althema: น่าจะหมายถึงการตั้งเกตเวย์หลักของประเทศ แล้วก็บังคับให้ทุก ISP"
สงสัยจะฝันไป ใครจะลงทุนละครับ และแต่ละ ISP หรือหน่วยงานไม่ได้มี link เดียว แถมแต่ละ link ก็มี routing policy ที่แตกต่าง
บาง link ก็เป็นเครือข่ายวิจัยและการศึกษา
ผมว่าคนที่เสนอความเห็นออกมาท่าจะไม่ได้มองความเป็นจริงเท่าไหร่นัก
เรื่องของเรื่องเกิดเพราะการคิดถึงความเป็นพุทธแบบเปลือกๆ แค่มีคำว่า "Buddha" ก็เอาซะแล้ว หากมีความเข้าใจที่มากกว่านี้หน่อยก็คงไม่คิดถึงเรื่องแบบนี้ละมั้ง แทนที่จะมาบล็อคเว็บนี้ น่าจะสร้างความเข้าใจกับยคนต่างประเทศซะมากกว่า จะทำเรื่องถึงสถานทูตอะไรก็ว่ากันไป แล้วก็ห้ามด่าด้วย
We need to learn to forgive but not forget...
มีรัฐบาลทหารเหมือนพม่า มีโจรแบ่งแยกดินแดนเหมือนอินโด ที่ยังคิดจะมี server ไว้บล๊อกเว็บอย่างประเทศจีน อีกต่างหาก ....
น่าจะมีการรวมตัวหรือทำอะไรกันบ้างไม๊ครับ เรื่อง block web มันเริ่มจะมั่วแล้ว .. ถ้าบ่นๆกันไปคงไม่ได้อะไรขึ้นมาแน่เลย
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
สิ้นคิดที่ซู้ด
ผมว่าไอ้นี่มันปลายเหตุมากๆเลยนะ แถมไม่ใช่การแก้ปัญหาอีกด้วย
jane: สงสัยจะฝันไป ใครจะลงทุนละครับ และแต่ละ ISP หรือหน่วยงานไม่ได้มี link เดียว แถมแต่ละ link ก็มี routing policy ที่แตกต่าง
คือถ้าจะทำจริงๆ นั้นทำได้อยู่แล้วครับ ส่วนใครจะลงทุนนั้น อย่าลืมว่ารัฐฯ มีเงินภาษีเราให้ใช้เยอะครับ
แต่ผมไม่เห็นว่าการบล็อคเว็บต่างๆ มันจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ เด็กๆ สมัยนี้ก็ไม่ได้โง่ครับ วิธีการมุดดินออกไปดูเว็บที่บล็อกก็ ไม่ได้ยากอะไร
เว็บไซต์ของกลุ่มการต่อต้านการเซ็นเซอร์ประเทศไทย: http://facthai.wordpress.com/
ลงชื่อสนับสนุน ไม่เห็นด้วยกับการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต
--> http://facthai.wordpress.com/sign/
บอกต่อด้วยครับ :)
ขณะที่กระทรวง ICT บล็อคเวบ ต่างประเทศก็พัฒนาเทคโนโลยีไปเรื่อยๆ -*-
บล๊อกก็เท่านั้นล่ะมั้งครับ เด็กสมัยนี้ฉลาดกันจะตาย
วัวหายล้อมคอกกันเสียเปล่า
ถ้างบเยอะพอที่จะตั้ง Server ผมว่าเอาไปสร้างห้องสมุด+สวนสาธารณะน่าจะดีกว่า
แต่ผมกลับคิดว่า Block ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะครับ มันคงจะไม่มีแต่ข้อแย่ๆอย่างเดียว มันเป็นปลายเหตุก็จริงอยู่ แต่การแก้ปัญหา เราไม่สามารถแก้ที่ต้นเหตุอย่างเดียว เราควรแก้ทั้งต้นเหตุและปลายเหตุไปพร้อมกันนะครับ ผมว่าที่ผู้ใหญ่มีความคิดในการ Block เว็บพวกนี้ น่าจะเป็นเพราะเค้าเติมโตมากับสังคม และวัฒนธรรมสมัยก่อน และ ผมคิดว่าเขาก็คงมีลูกๆกันหมดแล้วพวกเราหลายคนยังไม่มี อาจไม่รู ถึงความเป็นห่วงของพ่อแม่ เพราะอย่าลืมนะครับ ว่าก็มีเด็กจำนวนหนึ่ง หมกมุ่น และเลียนแบบพฤติกรรม ถ้ามันไปเกิดกับใครสักคนอาจจะเป็นน้องสาวเรามันก็คงไม่ดีแน่ๆ ถ้าผมพิมพ์อะไรที่ไม่เข้าความคิดใครเข้าก็ขอโทษด้วยนะครับ สำหรับเรื่อง Serverนั่นก็เป็นความเห็นของผู้ให้บริการร้าน Internet ที่ หนังสือพิมพ์ไปสัมภาษณ์ คงจะไปเหมาเอาว่า ICT โง่ ที่จะไปทำอะไรแบบนั้นคงไม่ได้เพราะเขาสัมภาษณ์ ใครก็ไม่รู้นะครับ...