ท่ามกลางเสียงฮือฮาจากการเปิดตัว iPad Mini ในสัปดาห์นี้แอปเปิลเองก็ได้เปิดตัว Mac ใหม่เช่นกัน ทำให้รายได้ของทางแอปเปิลเพิ่มขึ้นถึง 14 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่อิจฉาของ PC โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้นแอปเปิลได้เปิดตัว MacBook Pro ที่บางลง ด้วยขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ที่พัฒนาในระบบจอแสดงผลขึ้นอย่างมาก เพื่อฟื้นฟูศักยภาพการขาย ในขณะที่ทาง HP และ Dell เพียงแค่คงระดับไว้เท่านั้น ในต้นปีที่ผ่านมาแอปเปิลได้ส่งผลิตภัณฑ์ MacBook Air ที่ถูกปรับปรุงใหม่ออกมา ซึ่งนักวิจัยผลิตภัณฑ์ได้ออกมาเผยว่ามันทำให้เกิดผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งคือ "Ultrabook" ที่บรรจุ Windows 8 มาด้วย
ยอดจำหน่ายของแอปเปิลยังคงเป็นที่ 3 ตาม HP และ Dell อยู่ แต่ราคาพิเศษของ Mac คือ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมากกว่านั้น ซึ่งเพิ่มอัตรากำไรเฉลี่ย เป็นอัตราการเพิ่มของรายได้ที่สำคัญ นักวิจัย Ben Reitzes ยังเผยอีกว่า "ราคากับองค์ประกอบของ iMac ใหม่ก็เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจ ไม่แปลกใจเลยที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงธันวาคมและต่อๆ ไป"
เมื่อสิบปีที่แล้ว คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบแมกอินทอช แต่ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง จนทุกวันนี้มาบดบังรัศมีทั้งในด้านของรายได้ และ ในด้านของสื่อต่างๆ ด้วย iPad และ iPhone ที่โด่งดัง แต่เมื่อต้นปี 2012 ความก้าวหน้าของทางแอปเปิลก็ได้ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 นอกจากนี้ แม้ในว่าในตลาด PC จะเป็นที่นิยมมากกว่า แต่ในเวลามากกว่า 12 เดือนที่ ทิม คุก ดำรงตำแหน่ง CEO ทางแอปเปิลสามารถพัฒนาได้ก้าวหน้ากว่าการพัฒนาของ PC เป็นเวลา 6 ปีเสียอีกแอปเปิลยังเผยอีกว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 นั้น คาดว่าสินค้าของบริษัทจะขายได้ราวๆ 5.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งจะทำให้อัตรารายได้เพิ่มขึ้นราว 5 เปอร์เซ็นต์ โดยมี Piper Jaffray และผู้ช่วย Gene Munster เป็นผู้ประมาณการ
นอกจากนี้แอปเปิลใช้กระบวนการคิดแบบเทิดทูน (Halo effect) โดยที่เมื่อวันอังคาร Phil Schiller ได้แถลงว่า Mac คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง และยังรับรองว่า Mac คือ laptop และ desktop อันดับหนึ่งของอเมริกา แม้ว่า Gartner และ IDC ซึ่งเป็นผู้วิจัยได้จัดอันดับแอปเปิลไว้เป็นที่ 3 ก็ตาม โดยราคาของ MacBook Air คือตั้งแต่ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 4000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออาจมากกว่านั้น และยังคงต่อสู้กับตลาด ตั้งแต่ที่บริษัทกำลังร่ำรวยในช่วงปี 2010 โดย Mac ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสิ่งที่ทำเงินให้แก่บริษัทได้อย่างมั่นคง และทำเงินได้ยิ่งกว่านั้นในเวลาที่ PC กำลังมีปัญหา
ทาง Intel เองก็พยายามประคับประคองตัวเองจากการโจมตีของ Tablet เช่นกัน เมื่อ Mac ยังไม่สามารถสู้ความต้องการ PC ในตลาดได้ แต่มันก็เป็นฝ่ายค่อนข้างที่ดีกว่า เนื่องจากได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่นิยมจ่ายเงินมากๆ เพื่อให้ได้ของดีๆ
Loren Loverde นักวิจัยจาก IDC กล่าวว่า "กระบวนการคิดแบบเทิดทูน (Halo effect) นั้นเอง ทำให้ผลิตภัณฑ์จากแอปเปิลเป็นที่นิยมจากลูกค้าที่ใช้ iPad และ iPhone" และยังกล่าวอีกว่า
"ในตอนนี้กระบวนการคิดแบบเทิดทูนก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านการค้าและในด้านของตราสินค้า" แอปเปิล ยังไม่ตระหนักถึงโอกาสในการเติบโตในระดับโลกของ Mac และคาดหวังว่าจะมีกระแสตอบรับดีในช่วงวันหยุดนี้
ผู้ก่อตั้งแอปเปิลอย่าง Steve Jobs เคยนำเสนอ Macintosh ครั้งแรกในปี 1984 ซึ่งประสบความสำเร็จในเรื่องของ เมาส์ และ ความสวยงามของ Interface โดยผู้วิจัยคาดว่า Mac จะช่วยยกระดับของแอปเปิลในช่วงธันวาคมนี้ โดยมีรายได้ 72 เปอร์เซ็นต์มาจากลูกค้าที่ซื้อ iPad และ iPhone
อาจมีข้อสงสัยต่อ ทิมคุกและผู้บริหารคนอื่นๆ ในเรื่องของ iPad Mini ที่จะถูกวางขายในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือสิ่งที่ William Power จาก Baird Equity ได้เอ่ยไว้ว่า
"ประเด็นที่สำคัญคือ ทางบริษัทจะสามารถแก้ปัญหาความต้องการเป็นจำนวนมากได้หรือไม่ ? "
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนหน้าใหม่เองก็เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ของแอปเปิลรวมถึงเรื่องที่ได้ยินว่านวัตกรรม iPhone กำลังพัฒนาไปอย่างช้าๆ ขาดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในแผนการตลาด ทั้ง iPhone และ ข้อจำกัดของอุปทาน
ทางด้านหุ้นของแอปเปิลเองก็ได้รับผลจากความกังวลนี้ ในปีนี้หุ้นของแอปเปิลเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์ สร้างสถิติราคาสูงสุด 705 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 21 กันยายน จากนั้นก็ลดลง 12 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ว่าหุ้นของบริษัทจะตกลง แต่ก็ยังมีการซื้อขายหุ้นถึง 11.6 เท่าจากการประมาณการในปีหน้า เช่นเดียวกับ S&P 500 และตกลงต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Amazon.com Inc ที่มีการซื้อขายถึง 100 เท่าจากการประมาณการปีหน้า โดยผู้ลงทุนคาดการเรื่องของการจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ว่าจะขาย iPhone ได้ประมาณ 24-26 ล้านเครื่องในช่วงเดือนกรกฏาคมถึงเดือนกันยายน แอปเปิล เองก็ออกมาบอกว่า ได้ขาย iPad เครื่องที่ 100 ล้านไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหมายความว่าบริษัทจำหน่ายตำกว่า 16 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสก์สุดท้าย ซึ่งอาจจะน้อยกว่า 17 หรือ 18 ล้านจากการประมาณการ
"ในระยะยาวแอปเปิลจะต้องเผชิญหน้ากับความกดดันในเรื่องของกำไร ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนที่เจาะตลาดได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม และในยุคหน้านี้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนควรจะเพ่งเล็งที่ด้านของราคาให้อยู่ในระดับปานกลางถึงถูกมากกว่านี้ เป็นการยากสำหรับแอปเปิลที่จะได้กำไรเช่นนี้ในช่วงที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะเมื่อตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มเฉื่อยลง" Colin Gillis นักวิจัยของ BGC เอ่ย
ที่มา: Reuters
Comments
ผมสนใจ iMac ตัวใหม่ครับ แต่ตัวเก่าเพิ่งจะ 11 เดือนเอง คงตามไม่ไหวล่ะครับ
link ที่มาผมกดไปดูไม่ได้ แต่สไตล์การเขียนเหมือนลักษณะแปลมามาก อ่านแล้วไม่ลื่นไหล ถ้าสรุปๆ มาเรียบเรียงเขียนใหม่ได้น่าจะดีกว่านี้นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คำแนะนำ: เวลาเขียนข่าวแปล ผมแนะนำว่าให้อ่านให้เข้าใจก่อนสักรอบสองรอบ แล้วเขียนด้วยความเข้าใจของเราเองดีกว่าครับ การแปลมาทั้งหมดนั้นดีที่รายละเอียดก็จริง แต่แปลคำต่อคำแล้วอาจจะทำให้อ่านไม่ลื่นไหลครับ ยังไงผมชอบข่าวนี้ และจะพยายามช่วยดันให้ขึ้หน้าแรกครับ XD
Dream high, work hard.
+1 แปลดีมากครับแต่อ่านแล้วงงๆไม่ต่อเนื่อง
*แล้วก็อย่าลืมใส่เบรคด้วยครับ เห็นว่าข่าวนี้ไม่ได้ใส่เบรคเลย
ป.ล. ตอบกลับกด reply ทางขวามือครับ ไม่งั้นมันจะหล่นไปข้างล่าง
Dream high, work hard.
รับทราบครับผม
สวัสดีครับ
?
Blognone น่าจะมีแบดจ์ proofreader, spell checker, corrector, rearranger ฯลฯ นะครับ
ผมเคยเห็นคุณ PaPaSek แซวไว้ว่า
"แบดจ์ C ของคุณ panurat2000 ไม่ได้มาจากคำว่า Contributor นะครับ มาจากคำว่า Corrector"
Blog | Twitter
มีทั้ง "แมกอินทอช" และ "Macintosh" ให้เขียนเป็น "แมคอินทอช" แบบเดียวกันให้หมดเลยครับ
แต่ราคาพิเศษของ Mac คือ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมากกว่านั้น << พิเศษยังไงครับ??? หรือจะบอกว่าสิ่งที่พิเศษกว่าของ Mac คือราคาแพงกว่า 1000 ดอลลาร์
คิดแบบเทิดทูน (Halo effect) << เขียนวงเล็บไว้แค่ครั้งเดียวก็พอครับ และอธิบายด้วยว่า คิดแบบเทิดทูนคืออะไร
คู่แข่งอย่าง Amazon.com Inc << Amazon ครับ
เท่าที่ผมดู คำเปลืองยังมีเยอะอยู่หลายคำ อ่านไม่รู้เรื่องบางย่อหน้า เรียบเรียงใหม่ดี ๆ ครับ
ที่สำคัญ เขียนให้จับประเด็นตามหัวข้อข่าวด้วยครับ ผมเข้าใจว่า แอปเปิลกำลังสนใจอุปกรณ์ iOS มากกว่า Mac แต่ผมก็ต้องอ่านหลายรอบกว่าจะเข้าใจ
The best selling in USA. LOL
ขอบคุณมากครับ จะพยายามปรับปรุงครับ
สวัสดีครับ
ผมชอบ iMac ใหม่นะ ติดอย่างเดียวไม่มี Optical drive มาให้ (หรือว่ามีแต่ผมไม่เห็นไม่แน่ใจ) ที่สำคัญเงินหมดแล้วด้วย คงใช้ rMBP15 ต่อไป แต่ผมยอมรับเลย iPhone และ iPad ทำให้หลายคนรู้จัก Apple มากขึ้น และการผักดัน iPad mini จะช่วยให้หลายๆคนเข้ามาอยู่ในระบบนิเวศของ Apple มากขึ้น
ตัดออกไปเพื่อให้มันบางลงครับ ที่จริงผมใช้ MBP มา 11 เดือน ใส่แผ่นไปไม่ถึง 10 ครั้ง
ผมใช้บ่อยมากครับ เอาไว้ rip แผ่นเพลงไว้ฟัง เพราะซื้อเพลงใน itunes แล้วไม่ได้เรื่องเลยแพงก็แพง เนื่องจากผมชอบฟังเพลงทั้งอัลบั้ม บางอัลบั้มแพงกว่าแผ่นปกติอีก bitrate ก็ต่ำ
กดไลค์รัว ๆ (เหมือนผมเลยเรื่อง bitrate ต่ำและแพง) แต่ซื้อ external optical drive มาเพิ่มก็พอไหวครับ มันไม่แพง และใช้ไม่บ่อยครับ
twitter.com/exfictz
เหมือนกันครับ
อ่านแล้วงงมากมาย
ผมยอมรับเลยว่ากดเข้ามาอ่านเพราะหัวข้อข่าว พออ่านจบ ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเลยว่า Mac ไม่ได้รับความสนใจอย่างไร
ขออภัยด้วยครับเพิ่งมือใหม่ครับ พาดหัวข่าวเป็นอย่างเดียว จะพยายามปรับปรุงครับ
สวัสดีครับ
เขียนตามเข้าใจจะดีกว่าครับ มาแปลทั้งหมดแบบนี้ มันยาวไปครับ ที่ไหนควรย่อก็ย่อครับ หรือว่าสรุปเป็นข้อๆ ก็ดีนะครับ
อยากใช้ OS Mac นะครับแต่เขาตอบโจทย์ผมไม่ได้ 2 ข้อ
1. ผมเป็นพวก hard core ซื้อสำเร็จได้ แต่ถ้ามีปัญหาจะชอบซ้อมเองและท่าไมได้ดั่งใจจะต้อง up เครื่องเองได้ ซึ้ง imac ทำไม่ได้ ถ้า macpro ก็แพงเกินไม่อาจจะสูงราคา
2. OSMac ยั่งมีโปรแกรมที่ผมต้องการใช่งานไม่มากนัก สุดท้ายก็ยั่งต้องพึง windows อยู่ดี
+1 คล้ายกันครับ แต่พอโมบายผมชอบ iOS แฮะ ยิ่งมีแอพเยอะแล้วลื่นมากด้วยติดใจ
ถ้า mobile ผมก็ชอบ iPhone มากกว่า android แต่เพิ่งมาสังเกตุตัวเองเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ตั้งแต่เปลี่ยนมือถือจาก android มาเป็น iPhone ผมใช้เวลาเล่นกับโทรศัพท์น้อยลงแฮะ
แต่ถ้าเป็น notebook ผมใช้ Mac เพียวๆ มาปีกว่าแล้ว ก็ยัง happy ดีครับ ไม่เคยต้องปวดหัวกับพวก malware เลย :-)
อ่านแล้วมันไม่เห็นเกี่ยวกับพาดหัวเลย = =
ผมงงคำว่า Mac จาก Apple ครับ จะมีทำไม ในเมื่อ Apple ผลิต Mac ขาย แต่ บ. เดียวในโลกนี้ และ Mac ทุกเครื่องก็มาจาก Apple อยู่แล้ว