เราอาจต้องทิ้งภาพลักษณ์เดิมๆ ว่า "ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ไม่ปลอดภัย" เพราะข้อมูลล่าสุดของบริษัท Kaspersky ชี้ว่าซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ที่เคยติด 10 อันดับแรกของซอฟต์แวร์ที่มีโอกาสถูกโจมตีมากที่สุดประจำไตรมาส (top 10 vulnerabilities) กลับตกจากชาร์ทไปเรียบร้อยแล้ว
เหตุผลก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์เข้มแข็งขึ้นมาก การอัพเดตช่องโหว่ต่างๆ ทำได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจาก Windows Update ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในวินโดวส์นับตั้งแต่ Vista เป็นต้นมา
การจัดอันดับของ Kaspersky อิงจากสถิติของผู้ใช้งาน Kaspersky เอง โดยนับสัดส่วนของโปรแกรมที่ติดตั้งในเครื่องของผู้ใช้ ที่ยังมีช่องโหว่ไม่ได้รับการแพตช์
ส่วน 10 อันดับช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ที่มีสัดส่วนสูงที่สุดได้แก่ (นับเป็นช่องโหว่ ไม่ได้นับตามซอฟต์แวร์ รายละเอียดตามลิงก์ต้นทาง)
Kaspersky ยังให้ข้อมูลว่า 56% ของการโจมตีที่เกิดขึ้น (และซอฟต์แวร์ของบริษัทช่วยบล็อคเอาไว้ได้) เกิดจากปัญหาของ Java ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ใช้ทุกรายปิดการใช้งาน Java ถ้าไม่จำเป็นครับ
ที่มา - The Next Web
Comments
M$เจ๋งขึ้นหรือ10อันนั้นห่วยลงกันนี้ 555
Abode กวาดไปครึ่งนึงเลย
Jusci - Google Plus - Twitter
ซอฟแวร์ Apple For windows นี่มันต่างจาก For OSX จริง ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นแบบ Safari หรือป่าวนะ(เลิกทำให้)
QuickTime คงเลิกทำให้แน่นอนอยู่แล้ว ต้องรอดู iTunes เพราะ iOS มีระบบจัดการข้อมูลของตนเองโดยไม่ต้องผ่าน iTunes ได้แล้ว
+1
ผมว่า quicktime เป็นอะไรที่อืดมาก และไช้ประโยชน์ไม่ค่อยใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ครับ
QuickTime ใน OSX คือรุ่นที่ 10.X แต่ใน Windows คือรุ่นที่ 7.X และสิ่งที่อันตรายมากที่สุดคือ ความแตกต่างกันของ รุ่นที่ 7 และรุ่นที่ 10 เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ครับ ^_^
ลง iTunes มันก็ลง Quicktime มาให้
แต่พอลบ Quicktime อย่างเดียว iTunes ก็ใช้ไม่ได้ซะงั้น
เหมือนจะต้องมี Quicktime, iTunes ถึงใช้ได้
ผมลง iTunes แยกกับ Quicktime ไม่มีปัญหานะครับ...
Dream high, work hard.
ผมแยกตลอดนะ ไม่เคยลง Quicktime เลย
อาจจะมีปัญหาเวลาใช้ iTunes เปิดหนังรึเปล่าครับ (ผมใช้ iTunes แค่เพลง)
Restore iOS ล่ะครับ
ต้องคอยดูว่าวันเปิดตัว New iTunes จะมี For Windows มาให้ด้วยหรือไม่ครับ
ถ้าไม่มี สิ่งไหนที่ iOS จำเป็นต้องใช้ iTunes ก็คงจะต้องใช้รุ่นเก่าไป แต่ผมมองว่าถ้าจะเป็นแบบนั้น iOS คงมีการปรับปรุงให้สามารถ Restore iOS ผ่านระบบ internet นะครับ เพราะ OSX ก็ใช้วิธี Restore OSX แบบนี้เช่นเดียวกัน(ตั้งแต่รุ่น Lion 10.7 เป็นต้นไป)ครับ
แต่ถ้ามี New iTunes For Windows ก็คงจะดีสำหรับผู้ใช้ Windows หลายๆท่าน และ Apple คงจะต้องศึกษาระบบรักษาความปลอดภัยของ Windows มากขึ้น และน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นงานยากอยู่เหมือนกัน เพราะโดยทั่วไป ซอฟแวร์ของ Apple จะอิงระบบรักษาความปลอยภัยของ OSX และ Unix เป็นหลัก
ผมคิดว่า apple เองก็มีฐานผู้ใช้งานมากขึ้นจนแทบจะไม่ต้องง้อวินโดวส์แล้วครับ
ซอฟแวร์ที่สร้างขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ใช้ความทุ่มเทอย่างเต็มที่ จะสามารถสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้มากกว่าครับ โดยเฉพาะเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เลยทีเดียว Apple เห็นความสำคัญของเรื่องนี้มาโดยตลอด ดังนั้นแล้วจึงเลือกที่จะไม่ทำให้อีกต่อไปแล้วในหลายๆตัวด้วยกันครับ
อันไหนที่ยังขายได้ยังต้องง้อครับ เช่น iTune
แต่อะไรที่ไม่จำเป็นต้องทำเพราะไม่ได้สร้างรายได้มาก (ใน OS นั้นๆ) ก็สามารถตัดทิ้งได้ อย่าง Safari ที่มีหรือไม่มี ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับผู้ใช้ iDevice บนวินโดวส์
เป็นสิ่งที่เข้าใจได้เรื่อง iTune เพราะ Apple สนใจแในส่วนของตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว (จะหมายถึง รอหน่อย หรือ ไม่แคร์ ก็แล้วแต่จะคิด)
แต่ตัวอื่นต่างหาก ทำไมยังคงไม่พัฒนาเรื่อง security เท่าไหร่นัก
seeking for New Frontier...
ต่างกันยังไง ทำไมซ้ำกัน งง
+1 งง เหมือนกัน ต้องไปอ่านต้นฉบับ
Oracle Java Multiple Vulnerabilities: DoS-attack (Gain access to a system and execute arbitrary code with local user privileges) and Cross-Site Scripting (Gain access to sensitive data). Highly Critical.
Oracle Java Three Vulnerabilities: Gain access to a system and execute arbitrary code with local user privileges. Extremely Critical.
Adobe Flash Player Multiple Vulnerabilities: Gain access to a system and execute arbitrary code with local user privileges. Gain access to sensitive data. Highly Critical.
Adobe Flash Player Multiple Vulnerabilities: Gain access to a system and execute arbitrary code with local user privileges. Bypass security systems. Highly Critical.
ผมเคยเจอข้อที่ 1 DoS-attack เพราะ Java จริง ๆ ไม่ว่าจะลบไวรัสยังไง มันก็เพิ่มมาเรื่อย ๆ ตัวใหม่เรื่อย ๆ เลยต้องตัดสินใจ Format เครื่องแล้วลง Windows 8 เลย ตอนนี้ไม่ติด Java เลยครับ ไว้ค่อยไปใช้ผ่าน Hyper-V แทน กับ Windows XP หรือ Ubuntu เอา
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
เป็นเรื่องของรายละเอียดในการถูกโจมตีครับ ต้องเข้าไปดูรายละเอียดที่ http://thenextweb.com/microsoft/2012/11/02/microsofts-security-team-is-killing-it-not-one-product-on-kasperskys-top-10-vulnerabilities-list/ ซึ่งเป็นที่มาของข่าวครับ
ผมก็งงเหมือนกัน เลยไปดูต้นฉบับ ที่จริงต้นฉบับมีรายละเอียด แต่ไม่ได้แปลมา
ลองอ่านดูดี ๆ ครับ
จาวา เร็วส์
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จาวา ติดท็อปส์
Dream high, work hard.
จาวา ช็อตส์
จาวาไม่ปลอดภัย แสดงว่า JVM ที่ใครว่าดีกำลังแสดงปาฏิหาริย์ที่เคยหมกเม็ดเอาไว้ หรือ โดน google โจมตีน้า
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ในข่าว ก็ไม่ได้ระบุ Platform นี่ครับ ว่าช่องโหว่บน software พวกนี้เป็นเฉพาะบน Windows
จากการระบุถึงรายละเอียดด้านระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นของ Windows นะครับ ในส่วนของ Apple Apps ถ้ามีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้นะครับ ผมยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ
ไม่น่าจะใช่เฉพาะบน Windows นะครับ เช่นปัญหาแรกของ Java นั้นติดหมดโดยไม่สน Platform
onedd.net
top 10 ตัวไม่ปลอดภัย มีในเครื่องเกือบครบเลย TT ยกเว้น Quicktime
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.