iPod nano รุ่นที่ 7 นี้ ถือเป็น iPod nano รุ่นแรกที่ Apple เปิดตัว หลังจากที่ Tim Cook ขึ้นเป็น CEO ของ Apple ด้วยรูปลักษณ์แล้วมันมีลักษณะย้อนกลับไปหารุ่นเก่าๆ ซึ่งแตกต่างไปจากรุ่นที่ 6 อย่างชัดเจน (รุ่นที่ 6 ทำออกมาในขนาดเล็ก รูปแบบเหมือนกับนาฬิกาข้อมือจนถึงขนาดมีบริษัทต่างๆ ทำสายรัดนาฬิกาออกมาวางขาย)
บางคนบอกว่ามันคือ iPod touch ขนาดจิ๋วที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เสียด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน ฟีเจอร์การเล่นไฟล์วิดีโอที่กลับมาอีกครั้ง และหน้าจอ multi-touch
จริงๆ แล้วเนื่องจาก iPod nano นั้นเป็นอุปกรณ์ที่รันซอฟต์แวร์เฉพาะของตัวมัน อาจจะไม่ต้องใส่ใจสเปกมากก็ได้ แต่ขอเขียนถึงเพื่อเป็นรายละเอียดเอาไว้ด้วยครับ
รายละเอียดอื่นๆ ดูได้ที่นี่ครับ
ต้องบอกว่า iPod nano รุ่นที่ 7 เป็นรุ่นที่ Apple เลือกที่จะกลับไปใช้เค้าโครงเดิม (ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า) แทนการใช้สี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบในรุ่นก่อนหน้า และยังเอาคลิปหนีบด้านหลังออกด้วย
ด้านหน้ามีปุ่ม home มีสัญลักษณ์กลางปุ่มเป็นรูปวงกลม แตกต่างจากอุปกรณ์ iOS ที่กลางปุ่มจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขอบมน รวมเข้ากับหน้าจอ multi-touch แบบ wide screen เพื่อใช้ในการควบคุมแทน click wheel ในรุ่นก่อนๆ
ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่ม power/sleep/wake แน่นอนว่าใช้เปิดและปิดหน้าจอ รวมทั้งเปิดและปิดเครื่องครับ... (แหงล่ะ)
ดูกันใกล้ๆ กับขอบของตัวเครื่องที่ถูกลบมุมในลักษณะเดียวกันกับ iPhone 5 ขัดเงาได้สะท้อนแสงดีมาก
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มลดเสียง หน้าตาและลักษณะการทำงานเหมือนกับ EarPods with Remote and Mic เป๊ะๆ
ด้านล่างมีพอร์ตหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม. พอร์ตใหม่ Lightning (ที่เสียบง่ายแต่ถอดยาก) สำหรับชาร์จและซิงค์กับ iTunes ตรงกลางเป็นพลาสติกสีเดียวกับหน้าเครื่อง เป็นช่องส่งสัญญาณของ Bluetooth
ด้านหลังมีโลโก้ Apple และ iPod ขัดเงาอยู่บน anodized aluminum ที่ทำหน้าที่เป็นชิ้นส่วนหลักของตัวเครื่อง
เทียบขนาดกับรุ่นก่อนหน้า จะเห็นว่ามันยาวขึ้นประมาณเท่าตัว ถ้าไม่สนใจคลิปหนีบจะหนาใกล้เคียงกันมาก
หน้าตา home screen มีความคล้ายคลึงกับ iOS เพียงแค่เปลี่ยนไอคอนเป็นวงกลม แทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมครับ ตัว iPod nano นี้ไม่สามารถลงแอพพลิเคชั่นอะไรเพิ่มเติมได้เลย มีเพียงแค่ Voice Memos ที่จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอเมื่อเราเสียบไมค์หรือหูฟังที่มีไมค์เท่านั้น
การฟังเพลงก็ทำเหมือน iPod ทั่วไป คือแตะเข้าไปที่ Music แล้วเลือกเพลงหรือ playlist ที่ต้องการ มันก็จะเล่นให้ทันที เมื่ออยู่ในหน้า now playing สามารถแตะที่รูปปกเพลง 1 ครั้งเพื่อเรียกแถบควบคุมเพิ่มเติมเช่น repeat, shuffle, genius หรือแถบเวลาเพื่อเลื่อนตำแหน่งเพลง มีฟีเจอร์ shake to shuffle ติดมาด้วย
ฟีเจอร์ที่ถูกใส่กลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากหายไปในรุ่นที่แล้วคือวิดีโอนั่นเอง ทดสอบดูแล้วหน้าจอชัดใช้ได้ครับ แต่ด้วยความที่หน้าจอมันค่อนข้างเล็ก ผมก็ไม่ทราบว่าจะสามารถเพ่งดูได้นานขนาดไหน? (ไม่เคยใช้ iPod nano รุ่นเก่าๆ ครับ...) ระหว่างที่เล่นวิดีโอสามารถแตะที่หน้าจอเพื่อเรียกแถบควบคุมที่หน้าตาคล้ายๆ iOS ขึ้นมาได้
ฟีเจอร์การดูภาพนั้นถือว่าใช้งานได้ดี เพราะสามารถทำ pinch to zoom ได้แล้วในรุ่นนี้ และสามารถใช้ accelerometer เพื่อเอียงสลับระหว่างแนวนอนและแนวตั้งระหว่างดูภาพได้ มี slide show ในตัวแต่มี transition แค่ dissolve อย่างเดียวเท่านั้น แถมจอเล็กนิดเดียวคงไม่สะดวกเท่าไหร่
เมื่อแตะเข้าไปที่ Fitness ก็จะเจอกับฟีเจอร์ที่เคยเรียกว่า Nike+iPod และต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อวัดจำนวนก้าวในการเดินหรือวิ่ง แต่ใน iPod nano รุ่นที่ 7 นี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมมาต่อเพิ่มแล้ว เพราะตัวมันเองใช้ accelerometer ในการนับก้าวแทนเรียบร้อย
เบื่อจากฟังเพลงในคลังของตัวเองก็ให้แตะไปที่ Radio เพื่อฟังเพลงจากวิทยุ FM ครับ เลื่อนแถบด้านล่างเพื่อปรับหาคลื่นที่อยากฟังได้เลย แตะปุ่มดาวเพื่อบันทึกสถานีที่ชอบเอาไว้ได้ แถมมีอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ผมชอบมาก นั่นคือ live pause ซึ่งช่วยให้เรากดหยุดแล้วกลับมาฟังต่อจากที่หยุดเอาไว้ได้ แตะที่หน้าจอ 1 ครั้งเพื่อเรียกการควบคุมเพิ่มเติมเกี่ยวกับ live pause ครับ
ที่จริงแล้วนาฬิกานี่เป็นฟีเจอร์ที่ผมคิดว่าเด็ดที่สุดของรุ่นที่แล้วครับ พอข้ามมารุ่นนี้ก็มีติดมาให้เหมือนกับให้รู้ว่ามีเฉยๆ ซะงั้น มีหน้านาฬิกาให้เลือกแค่ 6 หน้า และโทนสีจะเป็นไปตามสีของเครื่องครับ นอกนั้นก็เป็นนาฬิกาจับเวลา ทั้ง stopwatch และ countdown
ฟีเจอร์การอัดเสียงเก็บไว้ก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้ไม่น้อยสำหรับคนที่อยากหาอุปกรณ์บันทึกเสียง (แต่ต้องซื้อไมค์หรือหูฟังที่มีไมค์เพิ่มเอาเอง) แน่นอนว่าระยะเวลาที่จะสามารถอัดเสียงเอาไว้ได้นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเพลง รูปภาพ และวิดีโอในเครื่อง
เข้าสู่หน้า Setting ก็จะเจอกับหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ Bluetooth นั่นเองครับ เชื่อมต่อได้กับหูฟังหรือลำโพง A2DP ทุกตัว ถ้าติด paring code ก็จะมีตัวเลขโผล่ขึ้นมาให้กดรหัสนั้นครับ ส่วนการตั้งค่าอื่นๆ ก็มีตั้งค่าทั่วไป ตั้งค่าเกี่ยวกับเพลง วิดีโอ วิทยุ และภาพครับ (ภาพพื้นหลังมีมาให้น้อยมาก แถมเกือบทั้งหมดเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง และแน่นอนว่าเราไม่สามารถใช้รูปของเราเองตั้งเป็นภาพพื้นหลังได้ครับ...)
จุดเด่น
จุดด้อย
มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ผมจะไม่พูดถึงเลยคือ “คุณภาพของเสียง” ครับ แนะนำว่าให้ลองคว้าหูฟังอันโปรดไปลองที่ร้านเอาเอง เพราะหูคนเราไม่เหมือนกัน และความชอบก็ไม่เหมือนกันด้วย
เทียบขนาด Lightning กับ 30-pin ตัวเก่าครับ เล็กลงมากๆ
แถมภาพสุดท้าย เทียบ iPod nano รุ่นที่ 7 กับแบตเตอรี่ขนาด AA
iPod nano รุ่นที่ 7 วางขายในประเทศไทยและบน Apple Store Online กันอย่างหลากสีสันในราคา 5,500 บาทครับ ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากได้อุปกรณ์ฟังเพลงและดูวิดีโอที่น้ำหนักเบา พกง่าย เอาไว้อัดเสียงสนทนาต่างๆ หรือจะซื้อไว้ติดรถเพื่อเป็นเครื่องเล่นเพลงในรถก็โอเค แต่ในรถบางรุ่นอาจจะต้องซื้อหัวแปลงเพิ่มหากสายเป็น 30-pin ครับ
Comments
ไม่ชอบขอบกระจกที่นูนขึ้นมาเลย :(
แบบนี้มันขัดด้าน มากกว่าขัดเงา รึเปล่า?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
น่าจะหมายถึงขัดเงาตรงส่วนที่เป็นสันของขอบครับ
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับขัดหรอกครับที่ขึ้นเงาเพราะเค้าทาด้วยสีทับไม่ใช่เหรอครับ ไอ้อลูมิเนียมอะโนไดอะไรนี่ ว่าแต่มันจะเป็นรอยง่ายไหมครับ แต่ดูๆแล้วอุปกรณ์ IOS ปี่นี้ เป็นรอยง่ายงาย
ปกติแล้ว การทำ anodize บนผิวอลูมิเนียม คือการทำให้เกิดออกไซด์ของอลูมิเนียมบนพื้นผิว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของผิวและลดการผุกร่อน
ทีนี้ อลูมิเนียมออกไซด์มีสูตรเคมี Al2O3 หรือสูตรเดียวกับพวก ทับทิม ไพลิน นั่นแหละ ซึ่งไอ้พวกนี้มันมีความแข็งในทาง mineralogy (hardness, = scratch resistance) เท่ากับ 9 แข็งรองลงมาจากเพชร ซึ่งปกติแล้วต้องใช้วัตถุที่ความแข็งเท่ากันหรือสูงกว่ามาขูด ถึงจะเป็นรอยได้
ในทางทฤษฏี Al2O3 แข็ง 9 ก็ต้องใช้เพชร (ความแข็ง 10) หรือ Al2O3 ด้วยกันมาขูด ถึงจะเป็นรอยได้
แต่ผิว anodize มันหนาไม่กี่ไมครอน ถึงจะแข็ง มันก็มีโอกาสเป็นรอยได้จากการโดนกระเทาะออกไป เพราะฉะนั้น เรื่องแบบนี้ตัวใครตัวมันนะครัฟ ของใครก็ดูแลระมัดระวังกันเอง :3
ปล. ข้างบนนั่นกึ่งมั่วนะครัฟ ความรู๊วว์คืนอาจารย์ไปเป็นสิบปีแล้ว ประกาศ E&OE เลยก็แล้วกัน -_- ท่านใดมีอันใดจะเสริม เชิญครัฟ
ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะ ว่าแต่ iPhone 5 ไม่ใช้อลูมิเนียมอโนไดซ้ ดันไปใช้อลูมิเนียมทาสี
(ตอบคุณ deargerous) ไม่ใช่แล้วครับ iPhone 5, iPod Touch, iPad nano, iPad mini สีดำ/สีต่างๆ ก็ทำสีโดยใช้วิธี อโนไดซ์ทั้งนั้น
ตัวสีมันคือ สนิมของอลูมิเนียม (Al2O3) ที่เคลือบอยู่เป็นชั้นบางๆ ที่ผิว ทำให้เวลาโดนขูด โดนกระแทก มันก็หลุดออกได้ ไม่ใช่เอาสีไปทาอย่างนั้นนะครับ
@mamuang
เอาเป็นว่าเราไม่เรียกว่าทาสี แต่เรียกว่าทำสีแทนก็แล้วกัน แล้วถ้าเค้าไม่ทำสีบนอุปกรณ์ ตัวเครื่องจะเป็นสีอะไร ถ้าเป็นสีเงินแบบ i-touch 4 จะเป็นรอยขนแมวไหมครับท่านผู้รู้
น่าใช้มากๆ
Accelerometer นี่ใช้นับก้าวยังไงหรอครับ แล้วมันเป๊ะไหม ?
เท่าที่ทดสอบดู ลองใส่กระเป๋าแล้วเดินนับก้าวไปด้วยก็ถูกต้องดีนะครับ เดิน 500 ก้าวก็ผิดไม่เกิน 1 ก้าวอ่ะครับ
Dream high, work hard.
อ่อครับ แล้วฟังก์ชั่นนี้ใน iPhone มีหรือเปล่าครับ
iPhone คงจะต้องหาแอพโหลดเอาครับ
Dream high, work hard.
สนใจตรง Fitness เนี่ยแหล่ะ และมันมีฟังชั่นคำนวนพวกไขมันที่เผาผลาญปะครับ คือ มันทำอะไรได้บ้างไอ้ตัว Fitness เนี่ย
ตัวมันเองมีคำนวณปริมาณแคลอรี่ แล้วก็มีบันทึกย้อนหลังให้ด้วยครับ
Dream high, work hard.
ข้างหน้าเหมือน Lumia 800 แบบใส่ปุ่มโฮมของแอปเปิล
รู้สึกดีใจที่มีคนบอกแอปเปิ้ลเหมือนกัน XXX บางแล้ว :P
คิดเหมือนกันครับ
Iconแบบนี้vitaไม่ว่าไรหรอ
apple ทำไอคอนเป็นรูปวงกลมมาก่อน vita ครับ ดูบน os x สิ
ORANGE666 posted...
Sony invented circle icons?
That's actually a pretty good question. While I've seen tons of Windows and Android apps with circular icons, the Vita is the first device I know of that actually that forces everything in a circle(although personally I hate this design). With apple making a device in which all icons are circles they are kind of ripping of sony. Only confirming what by now everybody knows: thanks to the evidence shown during the samsung trial, it's pretty clear apple copies a lot from sony. Now if sony only knew how to market their devices like apple, none of those flop topics would exist...
http://www.gamefaqs.com/boards/620272-playstation-vita/64026103
http://kotaku.com/5942901/why-apples-new-ipod-nana-interface-isnt-so-new
กิเลสพุ่ง (แต่ Suffle ในครอบครองยังหาทางไปไม่ได้)
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
น่าจะมีกล้องเหมือนรุ่นก่อน (Gen 5 รึป่าวไม่แน่ใจ)
นาฬิการ => นาฬิกา
วีดิโอ => วิดีโอ
Lighting => Lightning
ขอบคุณครับ
Dream high, work hard.
ผมว่า iPod nano รุ่นก่อนดูดีกว่านะ (คหสต.)
ปล. ท่านฟังคลื่น 105.5 ด้วยหรอเนี่ย เหมือนกันเลย ฮุฮุ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ฟังอยู่ 2 คลื่นครับ อีกคลื่นนี่ฟังพี่อ้อยกับพี่ฉอด :3
Dream high, work hard.
ผมว่าถ้าจะ nano ก็น่าจะทำให้มันเล็กจิ๋ววววว ไปเลยนะ
ถ้าจะใหญ่ขึ้นมาแบบนี้เป็น iPod classic ดีกว่า
รุ่นที่แล้วดูสวยกว่านะ (คหสต.)
ผมคิดถึง Click Wheel ใน nano ครับ T_T
ถ้ามีรุ่น 128GB นี่ไม่แน่นะ อาจจะหวั่นไหว
ซื้อ 8 เครื่องเลยครัฟ
เกินไป
ตัวภาครับวิทยุ FM ปรับความถี่เป็นแบบ ทศนิยม 2 ตำแหน่งได้รึเปล่าครับ ?
เช่น 105.25 MHz ต่างจังหวัดบางสถานีเป็น 2 ตำแหน่ง (จริงๆ ผมเป็นคนกรุงเทพน่ะ...แต่ไปโตต่างจังหวัด)
ไม่ได้ครับ ต้องเปิด 105.2 เอา - -*
Dream high, work hard.
ใครเคยเอาไปลองเทสกับระบบ Advanced Audio ของรถ Honda แล้วบ้างครับ
ยังใช้ได้เหมือนเดิมมั้ย ยังเปลี่ยนเพลงจากพวงมาลัยได้เหมือนเดิมรึเปล่า
ขอบคุณครับ
^_^
เดี๋ยวเล็กเดี๋ยวยาว เอาแน่ไม่ได้