เว็บไซต์ MIT Technology Review มีบทสัมภาษณ์ Julie Larson-Green หัวหน้าฝ่ายพัฒนาวินโดวส์คนใหม่ ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาแทน Stephen Sinofsky หัวหน้าฝ่ายวินโดวส์คนเดิมที่ลาออกจากบริษัทไป (คนที่ดูวิดีโองานแถลงข่าว Windows 8 คงคุ้นหน้าเธออยู่บ้างเพราะมาทุกงาน) ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
- Windows 8 ออกแบบมาเพื่อระบบสัมผัส เธอคิดว่าในอนาคตพีซีส่วนใหญ่จะมีจอสัมผัสมาด้วย ยกเว้นบางกรณีที่ต้องการประหยัดต้นทุนจริงๆ เท่านั้น
- ไมโครซอฟท์วางแผนพัฒนา Windows 8 มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009 ก่อน Windows 7 ออกรุ่นจริงด้วยซ้ำ และตอนนั้น iPad ยังเป็นแค่ข่าวลือ
- เธอเปรียบเทียบเสียงวิจารณ์ Windows 8 ว่าเหมือนตอนที่ Office 2007 เปลี่ยนมาใช้ Ribbon ซึ่งต้องรอให้ผู้ใช้ได้ใช้งานซอฟต์แวร์ไปนานๆ ก่อน ไม่ใช่จับเพียง 20 นาทีแล้วบ่นว่ามันไม่ดี เธอคาดว่าการปรับตัวใช้เวลา 2 วันถึง 2 สัปดาห์
- จากสถิติของไมโครซอฟท์ 90% ของผู้ใช้ Windows 8 ใช้ charm และ start screen, ส่วนผู้ใช้เดสก์ท็อปเดิมใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มใช้อินเทอร์เฟซใหม่ของ Windows 8
- Surface เป็นวิธีทดสอบ "สมมติฐาน" (hypothesis) ของไมโครซอฟท์ว่าการทำงานแบบใหม่ๆ ที่คิดนั้นใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยเร่งความเร็วของอุตสาหกรรมให้ปรับตัวเร็วขึ้น
- เธอรู้จัก Sinofsky มา 20 ปี และทำงานกับเขามา 7 ปี ทั้งคู่มีความคิดตรงกันหลายอย่าง แต่การทำงานเป็นทีมสำคัญที่สุด
ที่มา - MIT Technology Review
Comments
ทำอะไรชักช้าสมเป็น M$ จริงๆ
Steve Jobs บอกว่า คิดทำ iPad ตั้งแต่ตอนสร้าง Mac แต่ตอนนั้น เทคโนโลยีชิ้นส่วนยังไม่พร้อม จนมาเจอบริษัทที่พัฒนา หน้าจอสัมผัส จึงได้ซื้อบริษัทนั้นมาใช้ใช้เวลาอีกหลายเดือน เพื่อทำให้มันใช้งานได้ จนเกิด iPhone
ถ้าจะมองอีกมุมก็ -_-
อ้ากกก Story รี่รี่ รี่ รี๊ ยูสเซอร์ชอบ Storyy
ผมติดตาม windows จอสัมผัสตั้งแต่ปี 2000 แล้ว
จากนั้นมันก็ .... หายไป
กลัวว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยใช้ความคิดที่ว่า "ซื้อไปใช้ก่อนแล้วค่อยปรับตัวทีหลัง" จะเป็นผลร้ายกับ Microsoft เอง คือมันจะดีได้ก็ต่อเมื่อการปรับตัวนั้นมันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ สมกับเวลาที่เสียไป แต่ในขณะที่รอให้ผู้ใช้ปรับตัวอยู่ Feedback ที่ออกมาก็จะกลายเป็นว่าซอฟต์แวร์นั้นใช้ยาก ... และที่สำคัญ ถ้าเกิดมีคู่แข่งที่ทำซอฟต์แวร์ออกมาแล้วทำงานได้ดีเหมือนกัน แต่ใช้เวลาปรับตัวน้อยกว่า เรียนรู้ได้ง่ายกว่า ก็คงไม่มีใครอยากปรับตัวเพื่อใช้ซอฟต์แวร์ของ Microsoft อีก
OS X และ Chrome OS
อารมณ์ประมาณ Yahoo ทำ Search Engine มาก่อน Google นะ
คิดเเล้วคิดอีก ถ้าใช้พีซีจอสัมผัสทำงานมันต้องเมื่อยเเขนสุดๆ เเน่เลย
Sure!
ก็เรื่องปกตินะครับ บริษัทใหญ่ขนาดไมโครซอฟท์จะมีแผนงานล้ำหน้าไปข้างหน้าหลาย ๆ ปี
ipad เองถ้าอ้างอิงตามสตีฟ จ๊อบส์ ก็เริ่มตั้งแต่ 2003
โครงการ iPad มีก่อน iPhone ยังไม่เปิดตัวเลยไม่ใช่เหรอจ๊ะ คงก่อนปี 2006
สมัยนั้นก็ Windows XP
อย่าลืม Windows XP Tablet PC Edition ที่ขายไม่ออกสิ
ถือเป็นคำชม 555+
ถ้าบอกว่าพัฒนาก่อนก็ไม่แปลกหรอก เพราะในเมื่อ steve jobs เองกะพูดถึงเรื่องนี้ตอนก่อนทำ ipad กะ iphone ว่า ไปงานกินเลี้ยงที่มีบิลเกต กะภรรยาแล้วก็คนของ microsoft อีกคน ผมจำชื่อไม่ได้ละ ที่มัวพูดแต่เพ้อ เมา บอกว่า microsoft กำลังทำสิ่งที่สุดยอด มีปากกาสไตลัส พร้อมหน้าจอสัมผัส ที่ทาง apple เหนแล้วจะต้องมาขอทำด้วยกับเราแน่นอน แล้วก็พร่ำบ่น พูดงี้ตลอดทั้งงาน ทำให้ steve jobs ไม่พอใจมาก ๆ จึงตัดสินใจทำอุปกรณ์จอสัมผัสขึ้นมา โดยตอนแรกวางแผนที่ ipad ก่อน แต่เชื่อหรือไม่ว่า iphone กลับออกมาก่อน ipad อันนี้เปนข้อความที่มาจากหนังสือ steve jobs by walter issaacson เองด้วยนะครับ ในนั้นมีเขียนอยู่ ซึ่งถ้าออกมาบอกแบบนี้ ก็ไม่เหนเรื่องน่าแปลกใจ แต่ผมไม่ได้ลอกจากหนังสือนะ อันนี้เขียนตามที่จำได้ ประมาณนี้
คนของ microsoft คนนั้นเป็นเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดครับ
ตอนนั้น บิลเกต ก็เคืองๆเหมือนกัน จะพร่ามให้ jobs ฟังทำไม
jobs เองก็ีรำคาญเหมือนกัน ตอนเลิกงานเลี้ยงและคิดในใจว่า เดี๋ยวจะโชว์ให้เองว่า Tablet ที่แท้จริงเป็นยังไง (Jobs เกลียด stylus เพราะมันแกะกะ ในเมื่อมนุษย์เองก็มีตั้ง10นิ้ว)
ส่วนเท่าที่อ่าน iphone จริงๆ จะดัดแปลงมาจาก ipod ในสมัยนั้นซึ่งใช้ คลิกวีล แต่ทว่าดูท่ามันไม่ work เลยแบ่ง2ทีมจำลอง iphone ทั้งแบบ คลิกวีล และแบบ touch(concept จาก project ipad ที่ยังเป็นวุ้น) สรุป touch ได้ชัยเพราะใช้ง่ายกว่า
ข่าวต่อไป แอปเปิลระบุว่า เริ่มวางแผนทำ iPad ตั้งแต่สมัย Windows 3.11
Educational Technician
ฮา
การเมืองไมโครซอฟเขาแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนใหญ่ก็แข่งๆกันเองเนี่ยแล่ะ (แล้วค่อยแข่งกับแอปเปิ้ลทีหลัง)
ผมทันใช้tablet ที่ใช้OS windows 2000 นะ แต่ปีที่ได้ลองจับคือต้นปี2002 ใช้stylus หรือเอานิ้วจิ้มแรงๆ แบบ palm ยุคแรกๆนั่นแหละ ที่เจอใช้จริงคือทีมตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายมือถือเจ้านึง เขาใช้ไปตรวจวัดสัญญาณบนพื้นที่จริงแล้วบันทึกลงแผนที่GPSกัน(นึกถึงสมัยนี้มี google mapแล้วอิจฉาจริงๆ)
จริงๆอยู่ว่ามันไม่ได้ออกแบบมาเน้นใช้นิ้วสัมผัส แบบipad หรือtablet ยุคหลังๆ แต่ถ้าจะพูดแค่tablet ล่ะก็มีเจ้าอื่นที่่ใช้ OS จาก microsoft ก่อนมานานแล้ว
ผมว่า Microsoft ยังช้าในเรื่อง PC จอสัมผัส อยู่อีกมาก เพราะตอนนี้ จอสัมผัสที่เป็นผู้ผลิตรายที่สาม (Third Party)ก็ยังไม่เป็นที่นิยมจากผู้บริโภคเลย แทบไม่บริษัทใดๆ ผลิตจอสัมผัสแยกลงมาในสายการผลิต คนที่อยากได้ PC จอสัมผัส ก็จะต้องซื้อแบบที่รวมตัวเครื่องกับจอ ซึ่งก็ Customize ยาก คนที่อยาก ถ้าอยากได้จอสัมผัสแยกก็ลำบาก ผมมองว่า PC ที่เป็น Touch Screen จะยังไม่เป็นที่นิยม และ Notebook ที่มี Touch Screen ที่มีราคาสูงกว่า 3 หมื่น ก็จะยังไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ตามที่ Microsoft ต้องการ