คณะกรรมการฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (European Commission หรือ EC) ที่มีหน้าที่เหมือนเป็นรัฐบาลของสหภาพยุโรป ได้ตัดสินใจลงเงินจำนวน 50 ล้านยูโร หรือประมาณสองพันล้านบาท เพื่อเร่งให้การพัฒนาเทคโนโลยี 5G เร็วขึ้นไปอีก โดย EC มีเป้าหมายว่าเทคโนโลยี 5G จะต้องเกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2020
จำนวนเงิน 50 ล้านยูโรนี้ จะถูกแบ่งไปให้โครงการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ต่าง ๆ ภายในยุโรป โดย 16 ล้านยูโรจะมอบให้แก่ METIS หรือกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารสำหรับปี 2020 ร่วม ที่มีบริษัทสื่อสารยุโรปชั้นนำอย่าง Ericsson, Alcatel-Lucent, Deutsche Telekom และ Nokia Siemens และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปเป็นสมาชิกอยู่
ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงวันนี้ EC ได้ลงทุนในเทคโนโลยีเครือข่ายและการสื่อสารสำหรับอนาคตไปแล้วกว่า 700 ล้านยูโร โดยครึ่งหนึ่งของเงินจำนวนนี้ถูกใช้ไปกับการลงทุนในเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย โดยทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการแข่งขันให้กับสหภาพยุโรป
ที่มา - The Next Web
Comments
สองพันล่้านบาท > ตรง "ล้าน" มีไม้เอกเกินมาครับ
5G ต่าง ๆ > 5G ต่างๆ
ยุโรปต่าง ๆ > ยุโรปต่างๆ
แก้ล้านแล้วครับ แต่ตรงอื่นขอไม่แก้นะครับ
@TonsTweetings
เห็นว่าควรแก้แบบนี้มากกว่านะครัฟ
และมหาวิทยาลัยในสหภาพยุโรปต่าง ๆ เป็นสมาชิกอยู่ >> และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหภาพยุโรป เป็นสมาชิกอยู่
ประมาณนี้นะครัฟ เพราะมียุโรปเดียว
รับทราบครับ
@TonsTweetings
มีเว้นวรรคหน้า-หลังของไม้ยมก ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ ผมเห็นว่าผู้เขียนไม่ได้เขียนผิดหลักภาษาแต่อย่างใด
วิธีพิมพ์ไม้ยมกที่ถูกต้อง คือ ต้องเว้นหน้าเว้นหลังครับ
อ้างอิงจากราชบัณฑิตยสถาน
ย่อหน้าแรก 50ล้าน
ทำไมย่อหน้าสองเหลือ 20 ล้านเองครับ
อยากเห็นว่าเทคโนโยลีแบตเตอรี่จะพัฒนาไปได้ขนาดไหน เพื่อรองรับโทรศัพท์มือถือ 5G
พูดตรงใจผมเลย
วิธีพัฒนาแบตให้รองรับ 5g คือ แบตเท่าเดิม แต่ชาร์จแบบเร็วๆ ได้ เช่น ชาร์จเต็ม 60% ในเวลา 1 นาที เป็นต้นครับ
ลดเวลาลงได้เยอะทีเดียว
แล้วไม่หมดเร็วด้วยเหรอครับ
ความเร็วหมดเท่าเดิมครับ เพราะแบตปัจจุบันคงถึงทางตันแล้วครับ ก็ต้องรอวัสดุใหม่ในการทำแบตเตอรี่ต่อไปครับ
ห๊ะ ไม่ใช่ว่า 4G มันยังไม่ถึงระดับที่กำหนดเลยเหรอ? จะไป 5G เลยเหรอเนี่ย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คือ 3g บ้านเขาไม่ได้เร็วเล้ยยยยยยยยยยยยย
4g ก็งั้นๆ
ทำไมทุยร่างแมรวไม่เปิด 5g lte2 2.1 ghz พร้อมกับ 4g เมื่อคราวที่แล้วละครับ
มุขแป๊ก
นี่ไง เทคโนโลยี่แบท ที่คุณถามหา มันคืออนาคต ที่แท้จริง http://www.kcet.org/news/rewire/science/more-good-news-on-those-carbon-supercapacitors.html
ใช้คาร์บอนช่วย ทำให้แบตจุไฟเยอะและเร็วขึ้นจริงๆ ด้วยครับ
ตัวเก็บประจุมันไม่ต้องใช้ปฏิกิริยาทางเคมี มันต้องเร็วมากอยู่แล้วครับ เพียงแต่เรื่องความจุนี่แหละปัญหาหลักเลยเพราะในเนื้อข่าวบอกว่ามันได้มาก (ซึ่งพอคิดตามว่ามันเป็นกราฟีน ก็สมควรได้มากจริง) แต่ก็ไม่บอกว่ามากขนาดไหน
เรื่องประจุไหลออกเองที่เป็นปัญหาหลักของตัวเก็บประจุนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเร็วขนาดไหนด้วยครับ ถ้าเยอะแต่ยังอยู่ระดับใช้ได้วันต่อวันก็โอเค