ต้นปีที่ผ่านมาในงาน CES 2013 ทาง Lenovo ได้เปิดตัว ThinkPad Edge ไปทุกตัวแล้ว มารอบนี้ก็ถึงคิวของ ThinkPad รุ่น Classic เสียที โดยตัวแรกที่ออกนั้นเป็น ThinkPad T Series รุ่น Ultrabook ตัวที่ 2 ของ Series นี้ต่อจาก ThinkPad T430u ตัวก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ได้แก่

• เปลี่ยนจากสีดำสนิทตามแบบฉบับที่มีมายาวนานกว่า 20 ปีเป็นสีดำกราไฟต์
• ไฟบอกแสดงผลสถานะต่างๆ ถูกซ้อนหรือถูกนำออกไป (indicator panel)
• บานพับแบบปรกติเป็น Drop Down Hinge ตามสมัยนิยม แต่ยังเปิดได้ 180 องศาเช่นเดิม โดยลำโพงถูกซ่อนไว้บริเวณบานพับ
• คีย์บอร์ดเป็นรุ่นเดียวกับ ThinkPad ปี 2012 แต่มีการปรับให้มี Fn lock เพื่อให้สามารถใช้งาน F1-F12 ได้โดยไม่ต้องกด Fn ก่อน (ค่าเริ่มต้นคือต้องกด Fn เพื่อใช้ F1-F12) โดยปุ่ม F1-F12 นั้นค่าเริ่มต้นจะเป็นการใช้ function ของตัว Windows 8 เป็นหลัก และปรับให้มีการแบ่งช่องว่างเล็กๆ ระหว่างกลุ่มของ F1-F12 แบบเดียวกับ ThinkPad X1 (ในรุ่น ThinkPad T430 และ ThinkPad X230 ไม่แบ่งกลุ่ม)
• TrackPad ตัวใหม่ที่ใหญ่มากขึ้นตามแบบ ThinkPad X1 และเป็น buttonless แบบเดียวกับ Macbook Pro
• Trackpoint แบบ buttonless และปุ่มกดถูกซ้อนอยู่ที่บริเวณด้านบนของ TrackPad
• ตะขอที่ขอบจอด้านบนถูกนำออกไปและใช้แม่เหล็กแทนแบบเดียวกับ ThinkPad X1
• ไม่มี ThinkLight แบบรุ่นก่อน (ThinkPad T430)
• ที่สัญลักษณ์ของ ThinkPad ตรงวงกลมที่หัวตัว i เป็นไฟ LED สีแดง และใช้เป็นตัวบอกสถานะของเครื่องที่เรียกว่า "heartbeat"
• ใช้ carbon fiber ร่วมกับ magnesium ในการทำฝาหลัง
• ไม่มี optical drive

• แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้

  สเปกเครื่องคร่าวๆ

• Intel 1.8GHz Core i5 processor (Up to 2.1 GHz Core i7)

• RAM 4GB (up to 12GB)
• HDD 320GB (or SSD)
• LCD 14" 1600 x 900 pixels NT panel (IPS optional)
• Carbon fiber lid + magnesium LCD Cover
• Full-sized Ethernet
• Full-sized VGA ports
• Mini DisplayPort
• 2 x USB 3.0 ports
• SD card slot
• WWAN 3G module (optional)
• ขนาดตัวเครื่องบางประมาณ 2.06 cm และหนักประมาณ 1.6 Kg

ราคาขายเริ่มต้นที่ $949 วางจำหน่ายในสหรัฐฯ ช่วงเดือนเมษายนนี้

สุดท้าย Jason Parrish, manager of Lenovo’s ThinkPad strategy and planning ได้ให้ความเห็นว่า "กลุ่ม ThinkPad loyalists (fanboy หรือกลุ่มผู้ใช้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์สินค้า) นั้นเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่ยังคงต้องการ ThinkPad ดั้งเดิม เราต้องเลือกที่จะทำตลาดที่ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเราเลือกที่จะปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด"

ซึ่งน่าแปลกใจมากที่ทุกแบรนด์ในตลาดตอนนี้พยายามอย่างมากที่จะสร้างกลุ่มผู้ใช้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์สินค้า แต่ Lenovo กลับมองข้าม โดยเลือกที่จะเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าทิศทางนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน

Just north of 100 people were intimately involved in refashioning the ThinkPad line for the modern era, with varying research studies taking place in the United States, China, Germany, France, India, Mexico, Russia, Brazil and Japan. Instead of just plopping a few paid participants down and asking them to fill out a form detailing their ideal laptop, the company "shadowed" individuals to see how they actually used a machine. Only a small segment of each group were genuine ThinkPad loyalists -- the rest were early adopters of consumer technology, as well as those ardently opposed to selecting a ThinkPad as their primary machine. After all, one's biggest opponent often provides the most truthful revelations.

Jason Parrish, manager of Lenovo’s ThinkPad strategy and planning, Engadget

ที่มา Lenovo Blog: Products, Engadget, The Verge