บทความนี้เป็นตอนต่อของซีรีส์ พาสำรวจวงการไอทีพม่า โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวประเทศอินเดียพอดีเลยเก็บบรรยากาศ-ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวงการไอทีของอินเดีย (รอบนี้เน้นไปที่มือถือเสียเยอะ) มาฝากกันครับ
แน่นอนว่าการเดินทางของผมไปในฐานะนักท่องเที่ยวเต็มขั้น รับรู้ข้อมูลเฉพาะเท่าที่ตาเห็นซึ่งก็คงไม่ละเอียดเท่าไรนัก ถ้าสมาชิก Blognone มีใครอยู่ที่อินเดียหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ได้เต็มที่
หมายเหตุ: ภาพเยอะมากครับ ใครใช้เน็ตแบบมีข้อจำกัดก็พึงระวัง
อินเดียจะคล้ายๆ กับบ้านเราคือมีร้านขายมือถือที่เป็นตู้กระจกอยู่เยอะแยะไปหมด (ส่วนที่ผมเห็นคือเมืองหลวง นิวเดลี) ส่วนแชมป์ผู้ครอบครองตลาดมือถือก็หนีไม่พ้นโนเกียและซัมซุง (ข่าวเก่า ตลาดสมาร์ทโฟนอินเดีย ซัมซุงแชมป์สมาร์ทโฟน โนเกียแชมป์ยอดขายรวม) โดยมี BlackBerry ตามมาห่างๆ และพวก LG/Sony/HTC มาแบบนานๆ เห็นที
ส่วนของป้ายร้านมือถือก็บี้กันหนักมากระหว่างโนเกียกับซัมซุง ชนิดว่าเจอป้ายโนเกียที่ไหนต้องมีป้ายซัมซุงอยู่ไม่ห่างจากแถวๆ นั้น
เท่าที่สังเกตคือโนเกียทำตลาดหนักมากทั้งสาย Asha และ Lumia ส่วนซัมซุงก็เน้นตัว flagship อย่าง S3 กับ Note II และพวกสายราคาถูกอย่าง Ace
ร้านที่มีสปอนเซอร์ของ HTC/Sony/LG นานๆ โผล่มาให้เห็นสักทีครับ
โฆษณา Optimus G ในหนังสือพิมพ์
ส่วนของแอปเปิลนั้นมีป้ายให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ iPad มากกว่า iPhone และป้ายที่เห็นบ่อยที่สุดคือป้ายผ่อน 0% ซึ่งน่าจะสะท้อนปัญหาของแอปเปิลในอินเดียว่าสินค้ามีราคาแพงเกินไป
BlackBerry Z10 มีวางขายในอินเดียตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยเห็นการโปรโมทมากนัก และเท่าที่ผ่านไปดูตามร้านต่างๆ ก็ยังไม่มีเครื่องจริงให้ลองเล่น (มีแต่เครื่องม็อคอัพ)
อินเดียแบ่งการปกครองออกเป็นแคว้น และข้อกำหนดด้านโทรคมนาคมก็คือแบ่งพื้นที่การให้บริการของโอเปอเรเตอร์ออกเป็นแคว้นๆ ด้วย (ประมูลคลื่นแยกกันในแต่ละแคว้น) ซึ่งในทางปฏิบัติก็มีโอเปอเรเตอร์รายใหญ่บางรายที่ประมูลคลื่นครบทุกแคว้น และให้บริการได้ทั้งหมดทั่วประเทศ
ด้วยเหตุผลเรื่องพื้นที่ ทำให้โอเปอเรเตอร์อินเดียมีเยอะมากเป็นสิบเจ้า แต่เท่าที่สอบถามข้อมูลจากไกด์ท้องถิ่น รายใหญ่ 3 ยี่ห้อที่นิยมกันคือ Bharti Airtel, Idea, Vodafone (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Wikipedia)
อินเดียเป็นประเทศท้ายๆ ในเอเชียที่จัดประมูล 3G สำเร็จ (ก่อนบ้านเรานิดหน่อย) การใช้งาน 3G ยังไม่เยอะนัก และคนจำนวนมากก็ยังต้องการใช้แค่ 2G เท่านั้น
ตัวอย่างร้านของ Tata Indicom โอเปอเรเตอร์ในเครือ Tata ซึ่งถือเป็นโอเปอเรเตอร์ขนาดกลางๆ ในอินเดีย
Spice โอเปอเรเตอร์รายเล็กอีกเจ้า ปัจจุบันเป็นของ Idea ไปแล้ว
ร้าน Vodafone ในอินเดียครับ
ธรรมเนียมปฏิบัติของโอเปอเรเตอร์อินเดียที่ผมเห็นว่าแปลกและน่าสนใจดีคือ เขาจะแข่งกันชิงพื้นที่โฆษณาตามกำแพง ผนัง สังกะสี และประตูเหล็กหน้าร้านค้าปลีกทั่วไปที่ไม่ใช่ร้านขายมือถือ (พบในแคว้นแคชเมียร์ แต่เจอไม่เยอะนักในเดลี)
กลางภูเขา กลางหิมะ ก็ยังมีโฆษณามือถือ
บริการที่น่าสนใจของ Airtel คือ Diet Plan ให้คำแนะนำด้านการลดน้ำหนัก (เข้าใจว่าผ่าน SMS)
มีไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับร้านขายมือถือ แต่ก็พอมีให้เห็นบ้างประปราย
ร้าน iStore ตัวแทนจำหน่ายของแอปเปิลโดยกลุ่ม Reliance โทรมเชียว
โฆษณาในหนังสือพิมพ์ของร้าน INvent เข้าใจว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายแอปเปิลอีกเจ้าหนึ่ง
โฆษณาโน้ตบุ๊ก Dell ในหนังสือพิมพ์เช่นกัน
โฆษณาทีวีซัมซุง ใช้แคมเปญชื่อ Joy
โฆษณา Office 365 ขนาดใหญ่ในสนามบิน Indira Gandhi ที่เดลี
โฆษณากล้องดิจิทัลของโซนี่
นอกจากแบรนด์ระดับโลกที่พวกเรารู้จักกันดีแล้ว อินเดียยังมีแบรนด์ท้องถิ่นที่ทำสมาร์ทโฟน Android อีกเพียบ ตัวอย่างที่เคยมีข่าวในสื่อตะวันตกอยู่บ้างก็คือ Lava, Xolo, Micromax แต่ก็ยังมียี่ห้อที่ผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนอีกเยอะ เช่น MyZenTab, Fly, Wynncom, Simmtronics, Intex, Karbon, OptimaSmart, Penta, Rage, BYOND, HCL เป็นต้น
ผมซื้อนิตยสารมือถือของอินเดียมาหนึ่งเล่มชื่อ MyMobile ก็แสกนบางส่วนที่เกี่ยวกับยี่ห้อท้องถิ่นมาให้ดูกันครับ (คลิกดูภาพใหญ่กันเองนะ)
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในนิตยสาร MyMobile คือนอกจากโฆษณาของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มือถือกับโอเปอเรเตอร์แล้ว ยังมีโฆษณาของ "ผู้ผลิตชิป" ด้วย (Spreadtrum กับ MediaTek)
สุดท้ายที่บ้านเราน่าเอาเยี่ยงอย่างคือ คอลัมน์ Consumer Forum ที่ผู้บริโภคเขียนจดหมายมาร้องเรียนบริการของโอเปอเรเตอร์และผู้ผลิตมือถือ ซึ่งทางนิตยสารเองก็ส่งเรื่องให้แบรนด์นั้นๆ มาตอบว่าปัญหานี้แก้ไขอย่างไรแล้วบ้าง
Comments
เรื่องร้องเรียนโอเปอเรเตอร์ บ้านเราใช้พันทิปเป็นสื่อ ซึ่งดันได้ผลเป็นอย่างดีซะด้วย
หลายๆอย่างใน pantip #เป็นการโฆษณา
เป็นการเฝ้าระวัง จากเจ้าของแบรน ครับ
เชื่อผมเถอะ ไม่ว่าจะทำอะไร เสียงไปถึงหูบริษัทเหล่านี้แน่
เพราะ ทุกสินค้า เขาขายคน
และที่ๆคนอยู่เยอะๆ ย่อมมีผล ทั้งบวกและ ลบต่อสินค้าเขา
พิมพ์ธรรมดาก็ได้มั้งครับ
บ้านเราประมูล 3G ท๊าย ท้าย แต่การใช้ 3G สูงพอสมควร แถมใช้กันเกลื่อนก่อนวางแผนประมูลเสียอีก
น่าสนใจที่ว่าคนอินเดียต้องการใช้ 2g ซะส่วนใหญ่ แต่ประเทศอินเดียถือว่าเป็น outsource ด้าน it ที่ใหญ่ที่สุดของโลก เหมือนขัดแย้งกันดีนะครับเนี่ย
ผมว่าไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่นะครับ :/
การสนับสนุนด้านอุตสาหกรรม IT ก็ส่วนนึง การพัฒนา Infrastructure ก็เป็นอีกส่วนครับ (ผมว่าไม่มี 3G ก็ไม่ได้ทำให้ programmer เขียนโปรแกรมได้แย่ลงนะ)
แต่ก็อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจมาลงทุนของบริษัทต่างชาติเล็กน้อย (น้อยมากๆ) เพราะถ้าเค้าสนเรื่อง 3G นี้มากอุตสาหกรรม IT อินเดียคงไม่เจริญมาขนาดนี้
ไม่น่าเกี่ยวนะครับ
Outsource IT เยอะเพราะทรัพยากรมนุษย์เยอะแล้วก็เป็นประเทศโลกที่ 3 ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีครับ
อ่า ผมคงมองแต่โปรแกรมด้านเนตเวิร์ก จนลืมอีกหลายๆตัวครับ ขอบคุณมากๆครับที่ให้การชี้แนะ
^
^
ข้างบนนี่ไรหว่า
ไอทีของอินเดียเค้าเก่งภาษานี่แหละ อย่างอื่นก็เหมือนบ้านเรา มีเก่ง มีไม่เก่ง(อันนี้แอบเยอะ) อีกอย่างก็คนเค้าเยอะ
..: เรื่อยไป
ภาษานี่สำคัญมากจริงๆ ถึงขนาดเปลี่ยนแปลงประเทศทั้งประเทศได้เลย
ไม่ต้องถึงกับประเทศหรอกครับ
แค่เปลี่ยนตัวเองนี่ชัดมากครับ อยู่บ.ไทยๆพอเรียนภาษาแค่ไม่กี่เดือนไปอยู่บ.อินเตอร์เงินเดือนx2-3เท่าเลยก็มี
แสกน > สแกน ครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.