โซนี่เปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล Fit และ Fit E โน้ตบุ๊กสำหรับผู้ใช้ตามบ้านและนักเรียนเป็นหลัก ตามรอบการออกสินค้าช่วงนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่โซนี่จะไล่อัพเดตโน้ตบุ๊กของตัวเองตามรอบปี แต่ Sony มีจุดเปลี่ยนสำคัญคือมันจะไม่มีจอภาพ 1366x768 ให้เลือกอีกต่อไป แต่รุ่นถูกที่สุด (549 ดอลลาร์) จะติดจอ 1600x900 มาให้แต่แรก และให้เลือกไปถึงจอ 1920x1080
Fit และ Fit E แทบจะเหมือนกันส่วนที่ต่างกันคือตัวถังรุ่น E จะเป็นพลาสติกขณะที่รุ่นปกติจะเป็นอลูมิเนียม และรุ่น E จะมีให้เลือกระหว่าง HDD กับดิสก์แบบไฮบริด ส่วนรุ่นธรรมดาจะมี SSD และไฮบริดให้เลือก ที่น่าเสียดายสักหน่อยคือซีพียูทั้งหมดยังเป็น Ivy Bridge
วางขายภายในเดือนนี้ เราอาจจะเดาได้ไม่ยากว่าปีนี้แบรนด์ต่างๆ จะแข่งกันเพิ่มความละเอียดจอกันยกใหญ่
ที่มา - Sony
Comments
ไ่ใช่ => ไม่ใช่ ม หายครับ
เรา่อาจ => เราอาจ (ไม้เอกระหว่าง า กับ อ)
720p ไม่มีวันตายยยยยยยย
ราคานักเรียนด้วยไหม
ตามวิดีโอบอกว่าเริ่มที่ $549 แต่ไม่รู้ว่าในไทยจะแพงกว่านี้ไหม
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ราคาถูกมาครับ ในไทยน่าจะไม่เกิน 2 หมื่น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รอดูราคาไทย น่าสนใจมาก ทั้งความละเอียดจอ ทั้งดีไซน์ :p
ผมใช้มือถือโซนี่อยู่ ถ้าสอยเจ้าตัวนี้มาคงได้เล่น NFC เพิ่มอีกแล้ว lol
ใช้แทนดัมเบลสินะ
ผมได้เห็น VAIO จากเว็บญี่ปุ่นแล้ว ค่อนข้างชัดเจนเลยว่า VAIO Fit นั้นทำมาเพื่อแทนซีรีย์ S กับ E เก่าครับ เพราะสองรุ่นนี้โดนตัดออกไปแล้ว โดยไลน์อัพ VAIO ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นดังนี้ครับ
VAIO Fit E - ผู้ใช้ทั่วไป แทน E Series เดิม
VAIO Fit - โปรซูเมอร์ แทน S Series เดิมที่มีสเปกแรง
VAIO T - Ultrabook ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เพิ่มไลน์อัพตัว 14" และ 15" เพื่อให้คลุม S Series เดิม
VAIO Duo 11 - งานธุรกิจ แทน S Premium เดิม เน้นการใช้งานธุรกิจ และเป็นตัวท็อปสุดของแล็ปท็อป VAIO ตอนนี้
สรุปการปรับเปลี่ยนรอบนี้ ทำให้ Sony ไม่มีแล็ปท็อปสำหรับงานธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงและบางเบาเหลืออยู่อีกแล้ว เว้นเสียแต่ว่า Sony จะเปิดตัวซีรีย์ใหม่มาแทนอีก
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
แทน S เดิมสินะเนี่ย
ชอบ Vaio นะ ถ้าไม่แคร์สเปคไรมาก ผมว่ามันพรีเมี่ยมดี
หลังๆไม่แพงออกทะเลมาก พอจับต้องได้(ออกนิดๆ)
ขอราคาถูกๆจะเป็นไปได้มั้ย
แจ่มเลย 1600x900 อยากได้มวากกก
ผมอาจจะเห็นต่างไปสักหน่อยมั้ง ที่ความละเอียด 1600x900 กับหน้าจอ 13 นิ้วจะมีความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 140 ppi แต่ OS ที่มากับตัวเครื่อง ซึ่งก็คือ Windows นั้นออกแบบมาที่ 72 ppi ดังนั้นผมว่าทุกอย่างมันอาจจะดูเล็กกว่าที่ควร
แม้กระทั่ง Windows 8 เอง ที่หน้าจอขนาดนี้จะเห็นว่าบางหน้าจอมีตัวหนังสือที่เล็กเกินไปอยู่เหมือนกัน (หน้าที่เห็นชัด ๆ คือ Start Screen) พอปรับ Font Scaling ให้ใหญ่ขึ้นก็ทำให้ใหญ่ขึ้นบ้างก็จริง แต่ Desktop App บางตัวก็เพี้ยน ส่วนไอ้ที่ไม่เพี้ยนก็ไม่สวย ส่วน Metro เองก็ยังขาด Killer App หลายตัว (ชัด ๆ เลยคือ MS Office ที่ยังไม่ย้ายไป Metro ซะที) ผมยังไม่ได้ลองว่าถ้าปรับ Scaling แล้วมันจะมีผลกับ Metro หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คือจิ๋วตาม ๆ กันแน่ ๆ (ที่จริงผมจำได้แค่ลาง ๆ ว่าพอปรับ Scaling แล้วม้นเป็นยังไง พอเจอการแสดงผลเพี้ยนบนโปรแกรมที่ใช้ตอนนั้นแล้วผมก็ปิดเลย)
ที่จริง Windows เองก็ควรมีโหมด 200% Scaling แบบ OSX นะ เพราะว่าหน้าจอตอนนี้ก็มีความหนาแน่นเป็นสองเท่าของตัวระบบปฎิบัติการณ์เองพอดี
บน Ubuntu นั้นใช้ UI บนพื้นฐานความหนาแน่น 96 ppi ซึ่งก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาก ผมลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันใช้งานง่ายกว่า Windows เพราะว่า UI element มันจะใหญ่กว่าประมาณนึง แต่ก็ยังรู้สึกว่าเล็กอยู่นะ
ปล. ผมอ้างอิงจากหน้าจอ 1080p ขนาด 15" เพราะว่าใช้อยู่ มีความหนาแน่นพอ ๆ กัน ก็เลยน่าจะเทียบเคียงกันได้
ปลล. เท่าที่รู้ ตอนนี้ยังไม่มี OS ไหนที่เป้น density-independent ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Android ที่รองรับความหนานแน่นหลายระดับ (ldpi, mdpi, hdpi, xhdpi, xxhdpi) แล้วก็คงเป็น OSX/iOS (สองระดับ ธรรมดากับ Retina) ล่ะมั้ง
VAIO Fit พอเข้าไทย กลายเป็น VAIO Jazz ...
ตึ่งโป๊ะ!!
อืมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!
นี่มัน ฮอนด้า! ตึ่งโป๊ะ //โดนตบ
Coder | Designer | Thinker | Blogger