ในที่สุด Google Glass ก็ถูกชำแหละดูชิ้นส่วนภายในเป็นที่เรียบร้อย ด้วยฝีมือของเว็บไซต์ Catwig (ซึ่งผมก็ไม่รู้จักเว็บนี้มาก่อนเลย) ที่นอกจากจะแกะแล้ว ยังทดลองปรับไปใส่กับแว่นสายตาจริงๆ ให้ดูด้วย
ชิ้นส่วนของ Google Glass จะแบ่งเป็นสองส่วนคือตัวเครื่อง (ที่มาเรียกว่า pod) ที่ติดอยู่กับหน้าจอยาวไปถึงด้านหลังสำหรับเก็บแบตเตอรี่ และก้านไทเทเนียม การแกะดูชิ้นส่วนภายในทำได้ง่ายพอสมควร แต่มีบางส่วนที่ใช้น็อตขนาดเล็กมาก อาจต้องออกแรงและเสี่ยงต่อการเสียหายได้
สเปคที่เห็นจากบอร์ดของ Google Glass ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น (เพราะกูเกิลบอกมาแล้ว) พูดถึงพอเป็นพิธีคือใช้ชิป TI OMAP4430 หน่วยความจำแฟลช 16GB จาก SanDisk ใช้แรมจาก Elpida (ไม่ระบุความจุ) หน้าจอความละเอียด 640x360 พิกเซล ที่เพิ่มมาคือความจุแบตเตอรี่ที่ 2.1 Wh หรือประมาณ 570 mAh ครับ
การโมที่เว็บไซต์นี้เลือกใช้เป็นวิธีง่ายๆ คือเอาก้านไทเทเนียมออก และรัดตัว pod เข้ากับแว่นตา ซึ่งถือว่าพอใช้งานได้ระดับหนึ่ง ติดปัญหาที่ตัวเซนเซอร์วัดระยะ (proximity sensor) จะทำงานได้ไม่ตรงนัก
ใครที่อยากดูวิธีการแกะอย่างละเอียดสามารถดูได้จากที่มา รูปเยอะมากครับ
ที่มา - Catwig
Comments
อยากรู้หลักการแสดงผลว่ามันใกล้ขนาดนั้นตาเรามองเห็นได้ไง
เหมือนเวลาส่องพระ ใช้เลนส์นูนที่มีค่าโฟกัสใกล้ ๆ เราก็มองใกล้ ๆ ชัดได้โดยไม่ต้องเพ่งสายตาไงครับ
แล้วมันไม่บังการมองเห็นเราหรอถ้ามีเลนส์มาอยู่ข้างหน้าตา แม้มันจะอยู่ตรงขอบๆ แต่ถ้ามันใกล้มากๆก็กินพื้นที่การมองเห็นเยอะเหมือนกัน
ตอนนี้ผมยังตอบมากไม่ได้เพราะไม่เคยลองครับ (อยากลองมากกกกกกกกกกกกก) แต่คิดว่าบังแน่นอนครับ ถามว่าเกะกะมั้ย คงไม่ใช่ปัญหาขนาดนั้นครับ กรอบแว่นบางรุ่นเกะกะสายตามากกว่านั้น แรก ๆ ไม่ชินแน่นอน แต่ด้วยพลังศรัทธา และเพื่อความคุ้มกับเงินที่จ่ายไป ก็คงฝืนใช้จนชินไปเองแหละครับ
ตอนไปตัดแว่น ช่างบอกว่าจุดที่ตาเรามองผ่านแว่นมีพื้นที่นิดเดียวเอง นั่นคือเหตุผลว่า แว่นสายตาแบบโปรเกรสซีพมันไล่ระดับความหนาของเลนส์ได้เพียงแค่เหลือบตาขึ้นลง ระยะชัดก็เปลี่ยนไป ด้วยเหตุผลนี้ การมีจอมาบังแบบนี้จึงไม่น่าจะรบกวนการมองปกติ(นัก)ครับ แต่คิดดูแล้วคงต้องฝึกเหลือกตาขึ้นมุมบนขวาให้ชำนาญ คนใช้ google glass จึงอาจเป็นคนตาหวาน(เข)ได้ในกาลข้างหน้า อิอิ
ดูเหมือนถ้าแบบนี้ใช้งานจริงจังไปนานๆ น่าจะเจอปัญหาเรื่องสายตาแน่ๆ
ผมว่าทุกวันนี้ที่เพ่งหน้าจออะไรมากๆ ก็มีผลเหมือนกันล่ะคับ แต่อาจเห็นผลช้าหน่อย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
นึกภาพว่ามันเลียนแบบรูปแบบของแสงที่มาจากวัตถุที่ระยะหนี่งๆ ขึ้นมาครับ เป็นการหลอกตาเราว่าภาพที่สร้างขึ้นนั้นมันอยู่ไกลออกไปเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเพ่งครับ
Dream high, work hard.
สงสัยว่าทำไมเขาไม่เอาแบตไปไว่้ที่ขาแว่นอีกข้าง มันจะได้ดูสมดุลกัน
ถ้าทำยังงั้นก็ต้องลากสายไฟผ่าน กรอบแว่นมาซิครับ
ยิงผ่านหนังหุ้มสมอง ก็ได้ครับ
ผมว่านี่เป็นก้าวแรกของDeviceแบบแว่น มันเป็นเรื่องยากแต่เทคโนโลยีจะทำให้เหมือนในหนังหรือการ์ตูนมากขึ้น แต่คงช้ากว่านาฬิกาแน่มาหลายเจ้าเหลือเกิน
อีกไม่นานคงมีทำแอพสเค้าเตอร์ออกมาแน่ๆ #สาวกDB