คอมเมนต์ยาวไปหน่อย ก็เลยได้รับคำร้องขอให้เขียนเป็นบทวิเคราะห์ไปเสียให้จบๆ ไป
บทวิเคราะห์นี้จะมุ่งเน้นตอบคำถามว่า เหตุใดโนเกียจึงตัดสินใจเลือก Windows Phone ในปี 2011 และไม่ทำ Android เลยหลังการตัดสินใจนั้นจนกระทั่งปัจจุบัน คำถามว่าทำไมไม่ทำ Android ก่อนหน้า 2011 นั้นไม่ได้รวมอยู่ในบทวิเคราะห์นี้
กำไรของโนเกียนั้นเริ่มลดลงครั้งแรกในปี 2007 หลังจากแอปเปิลเปิดตัว iPhone แล้วก็ทรุดหนักลงอย่างต่อเนื่อง พอย่างเข้าสิ้นปี 2010 กำไรของโนเกียก็ลดลงไปกว่า 30% เมื่อเทียบจากจุดสูงสุด จนในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 Stephen Elop ก็เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของโนเกีย
Elop ออกเอกสารภายในฉบับหนึ่ง หลังรับตำแหน่ง ใจความสำคัญบางส่วนจากเอกสารนั้นคือ
โนเกียต้องเลือกว่าจะสร้างแพลตฟอร์ม หรือจะเข้าร่วมแพลตฟอร์มอื่นๆที่มีอยู่แล้ว (ดูฉบับเต็มที่ Engadget)
อีกเดือนถัดมา โนเกียก็เซ็นสัญญาพันธมิตรกับไมโครซอฟท์
คำถามแรกที่ต้องถาม ณ จุดนี้ คือสถานการณ์เงินโนเกียเป็นอย่างไร?
Bloomberg รายงานว่าในไตรมาสแรก ส่วนแบ่งการตลาดของโนเกียลดจาก 41% เหลือ 26% เงินสดรับจากการดำเนินงานลดจาก 1,181 ล้านยูโรเหลือเพียง 182 ล้านยูโร และผลประกอบการดำเนินงาน (operation profit) อยู่ที่ -173 ล้านยูโร
เห็นได้ชัดว่า แม้ภายนอกยักษ์ใหญ่จากฟินแลนด์ยังไม่ออกอาการ แท้จริงเมาหมัดและออกอาการเป๋แล้ว
Elop เขียนในแถลงการณ์ฉบับเดียวกันว่า "เราอยู่บนฐานที่ไฟกำลังไหม้" เงินสดโนเกียไหลออกไม่หยุด โนเกียไม่เหลือเงินสำหรับลงทุนอะไรอีกแล้วนอกจากเก็บไว้ เพื่อให้ธุรกิจเดินไปได้ "วันต่อวัน"
ดูตรงนี้อีกที เราน่าจะเห็นได้ตรงกันว่า ไม่ว่าโนเกียจะเลือกทางไหน (Android vs Windows Phone) ฐานะการเงินของโนเกียน่าจะไม่เปลี่ยนไป เพราะโนเกียก็คงไม่มีทางออกมือถือใหม่ได้ในระหว่างหกเดือนนั้น ผลที่ออกมาจริงๆ คือเข้าไตรมาส 2 ปี 2011 โนเกียรายงานผลขาดทุน 384 ล้านยูโร, เดือน 6 โนเกียปลดพนักงาน Symbian, เดือน 9 ปิดโรงงานในโรมาเนีย, พอตกสิ้นปี โนเกียประกาศขายสำนักงานใหญ่เอาเงินมาหมุน
สิ่งหนึ่งที่ยืนยันความย่ำแย่นี้ได้ คือแผนผังภายในเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการลงทุนของโนเกียเองที่แสดงให้เห็นชัดถึงการลดการลงทุนและโฟกัสมากขึ้น
ทางเลือกของ โนเกียจึงชัดเจนว่าเอาเงินมาก่อนเพื่อให้บริษัทยังรอดได้ต่อไป โฟกัสทรัพยากรทั้งหมดที่เหลือ สร้างมือถือรุ่นเดียวให้ดี เลิกกั๊กสเปก และเลิกกั๊กทีมพัฒนาไปทำอย่างอื่น
คำถามถัดมาคือเลือกอะไร?
โนเกียมีทางเลือกหลักๆ คือ
1) ปั้นแพลตฟอร์มตัวเอง
ในทางเลือกนี้ โนเกียต้องเร่งพัฒนาทั้ง MeeGo และ Symbian รวมไปถึงสร้าง ecosystem ที่ตัวเองไม่เคยมี และก็ยังมีปัญหาว่าโนเกียมีทรัพยากรไม่พอ
เราเห็นข่าวไมโครซอฟท์จ้างบริษัทอื่นทำแอพขึ้น Windows Store เป็นระยะๆ หรือแม้แต่โครงการรับประกันรายได้นักพัฒนา ของพวกนี้เป็นความฟุ่มเฟือยที่โนเกียในสภาพตกอับไม่มีทางทำได้ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แทบจะเรียกว่าปิดประตูใส่หน้า MeeGo และ Symbian ไปเลยโดยปริยาย
2) Android หรือ Windows Phone
ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญ เราคงยอมรับได้ตรงกันว่า OS มือถือมีสองรายแรกยึดหัวหาดไว้แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ขั้วที่สามรอดยาก ขั้วที่สี่แทบไม่เหลือโอกาสรอด ถ้าโนเกียหนุน WP, WP จะมีโอกาสเป็นขั้วที่สาม ถ้าโนเกียหนุน MeeGo หรือ Symbian แปลว่าในทั้งสามตัว MeeGo, Symbian และ WP จะเหลือรอดแค่ตัวเดียว หรือไม่ก็ตายทั้งหมด
ถ้าโนเกียไปกูเกิล กูเกิลก็คงไม่ดูดำดูดีมากนัก เพราะ Android ยืนเองได้แล้ว กูเกิลไม่ได้อยู่ในสถานะที่ต้องง้อโนเกีย
ส่วน MeeGo กับ Symbian โนเกียต้องดันเองหมด และต้องสู้กับ Android/iOS ด้วย
ในทางกลับกัน ไมโครซอฟท์เหมือนอยู่กลางทะเลทราย ไมโครซอฟท์ง้อโนเกียมาก โนเกียไม่ช่วย WP ตายแน่ ไมโครซอฟท์มีเงิน มีวิศวกร มีทุกอย่างยกเว้นคนทำมือถือ
ข้อดีในการทำ Windows Phone เหนือกว่า Android ก็คือถ้าเราสมมุติว่าโนเกียไม่รู้เรื่อง OS อะไรเลย นับแต่เซ็นว่าจะใช้ WP ในเดือนมีนาคม 2011 จากนั้นโนเกียปล่อย Lumia ตัวแรก ใน 6 เดือนถัดมา สมมติต่อไปอีกว่าโนเกียจะใช้เวลาเท่าๆ กันในการทำ Lumia on Android
จุดแตกต่างคือ ในขณะที่ Lumia WP ไม่มีคู่แข่งเลย ทุกรายมีความรู้เท่ากัน เริ่มจากศูนย์เหมือนกัน แต่ Lumia on Android จะลำบากกว่ามาก เมื่อ Samsung/HTC และคู่แข่งทุกรายทำขายมาตั้งแต่ 2009 โนเกียจะมีเวลาแค่ 6 เดือน ทำโทรศัพท์ Android ให้แข่งขันได้ ในโอเอสที่คนอื่นมีประสบการณ์ทำมาก่อนแล้ว 3 ปี! และพลาดไม่ได้เลย ถ้ายังขายไม่ออกอีกก็คงต้องปิดบริษัท
Elop แถลงออกมาเร็วๆ นี้เองว่า โนเกียไม่มีที่ยืนในตลาด Android เพราะเขาไม่สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง (differentiate) ในระยะเวลาสั้นๆ ได้ ในขณะที่ WP มันแตกต่างด้วยตัวของมันเอง
3) ทำไมต้องเป็น WP เพียงอย่างเดียว?
ข้อนี้น่าจะเป็นคำถามคาใจ และน่าจะเป็นหนึ่งในคำถามที่เราต้องเดาเพราะคงไม่มีใครแถลงตรงๆ ผมประเมินคำตอบของคำถามข้อนี้ว่า
ดังนั้นดีล WP ไม่ใช่ดีลหอมหวานสำหรับโนเกีย มันเป็นดีลที่ "เสี่ยงน้อยที่สุด" ของบริษัทที่ไม่เหลือเงินจะเสี่ยงต่างหากดีลนี้ ฟื้นโนเกียมายิ่งใหญ่ไม่ได้ แต่ไม่ตาย ยังอยู่ได้
ความผิดพลาดของโนเกียคือไม่ทำ Android ในปี 2009-2010 แต่ดีล WP ใน 2011 ผมคิดว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง เพราะมันช้าเกินกว่าจะไปวิ่งไล่รถที่ออกไปแล้ว โนเกียต้องเลือกรถคันใหม่ ที่อาจไม่เร็วเท่าของเก่า ไม่ใช่เพ้อฝันว่าจะวิ่งตามรถคันเก่าทัน
โนเกียอาจกลับมาทำ Andriod หลังจากสัญญา 5 ปีกับไมโครซอฟท์หมดลง หรืออาจหันไปหาแพลตฟอร์มอื่นๆ หลังกระแสเงินสดเข้าที่ ซึ่งก็น่าจะเป็น Asha Platform
อ้างอิง
Comments
ข่าวมันจะยาวไปไหน ใส่เบรคในเนื้อหาด้วย
break มันหายตอน edit ครับ = =
แปลกใจ
ทำ Asha ขึ้นมาใหม่ได้ ไหงไม่ทำ Symbian ต่อฟะ?
Asha ซับซ้อนน้อยกว่า Symbian มากมายครับ...แถมยังเป็นเพลตฟอร์มที่ยังรัน app java เดิมๆได้ โดยไม่ต้องอาศัย spec แรงๆ มากนัก
เดาว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ต่างกัน ตอนนี้หน้าตาและฟังค์ชั้นของ Asha ซึ่งพัฒนามาจาก S40 ก็ไม่ต่างจาก Symbian สักเท่าไหร่ แถมเดาว่าการความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดูแลคงต่ำกว่า Symbian เลยตัดสินใจเลิก เพราะตอนนั้น Nokia ต้องเอาเงินเก็บก่อน
ปล. ในบทความตรงคำว่า "มีวิศวะ" น่าจะแก้เป็น มีวิศวกรรม หรือ วิศวกร หรือเปล่าครับ
โอ้บทความแรกภายใน 3 ปี นับจากบทความก่อนหน้านี้
วิเคราะห์ดีครับ อ่านเข้าใจง่าย
FREE FOR ALL
ที่จริง Asha นี่น่าสนมาก ถ้าไม่ใช้อะไรเยอะ คุ้มราคา appของNokiaเองก็ดี แต่ข้อด้อยก็ไม่น้อยในยุคนี้
ดีมากครับ
ปล่อยให้เราๆ ท่านๆ งุนงง อยู่ตั้งนานว่าทำไมเปนอย่างนี้ โนเกียพระเอกของเราในอดีตเกิดตกต่ำนี่เอง เลยไปทำสัญญากับไมโครซอฟท์ไว้ แย่เลยอ่ะ
devy jones
สรุปง่ายๆ คือ โนเกียไม่สามารถฝากความหวังไว้กับคนที่บอกว่า "ถ้าโนเกียทำแอนดรอยด์ จะซื้อแน่ๆ" ได้ (จะซื้อจริงมั๊ยก็ไม่รู้) การไปจุ๊บปากกับ WP ทำให้โนเกียมีเงินมาต่อชีวิตได้อย่างแน่นอนนั่นเอง
อิอิกำ
+1
กรี๊ดดด เจมส์ จิ
+1
+1
+1
และก็ไม่ได้ยินคนที่บอกว่า "ถ้าไม่ทำแอนดรอยค์ จะไม่ซื้อใช้แล้ว"
เห็นด้วยย
+1 :)
+Double.MaxValue
อ่านจบ พูดได้คำเดียว "อ๋ออออออออ" (มันเป็นอย่างนี้นี่เอง)
ผมอยากรู้ว่าทำไมเงินสดโนเกียถึงเหลือน้อยมาก ทั้งที่เป็นเบอร์ 1 มาอย่างยาวนาน เริ่มมาตกเมื่อมี 2009 หรือว่ามือถือยุคก่อนมันทำกำไรไม่มาก
สินค้าเริ่มขายไม่ออก ขณะที่พนักงานยังเยอะเหมือนเดิม
กั๊กเหลือเกิน หยิ่งทรนง แม้แต่ฟีเจอร์โฟนโนเกียยังกินตลาดโลคอลแบรนด์ได้ยาก ตอนนั้นมือถือ 2 ซิม ดูทีวี ออกมากันกระหึ่ม แต่พี่แกเฉยจนเสียตลาดไปเยอะ พอออก 2 ซิมออกมาบ้างอยากจะบ้าตายดีไซน์ห่วยแถมใช้ได้ทีละซิม
และมาพลาดตรงที่ไปกว้านซื้อหุ้น symbian มาทั้งหมด ทำให้มือถือค่ายอื่นที่เมื่อก่อนใช้ symbian เหมือนกันเริ่มกังวลต่อการผูกขาดและถือว่าเป็นคู่แข่งจึงเริ่มหันไปหาเจ้าอื่น ประจวบเหมาะด่อยเพิ่งเกิดและเป็นโอเพ่นซอร์สเลยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใน
+1 ตอนนั้นผมรอมือถือ 2 ซิม ของโนเกียนานมากกก กว่าจะยอมออกมา
ส่วนตัวผมชอบ Asha นะ มันดูใช้งานง่าย ถูก ประหยัด สวยและแอพ social หลักๆ เล่นได้เกือบหมด
ตอนนี้ถ้านึกถึง WP ผมก็นึกถึง Nokia Lumia นะ ไม่นึกถึงเจ้าอื่นเลย น่าคิดเหมือนกันว่าถ้า Nokia ไม่เอา MS แล้ว WP จะมีอนาคตเป็นไง
มีปัญหาว่าโนเกียโนเกีย => มีปัญหาว่าโนเกีย
ฟุ่ยเฟือย => ฟุ่มเฟือย
เย้! บอทมาตรวจแล้ว
Dream high, work hard.
ผมว่าน่าจะสะกดเป็นภาษาอังกฤษไปให้หมดเลยครับ จะได้ล้อกับ Windows Phone
Andriod => Android
เสริมครับ
ผมก็เชื่อว่าโนเกียตัดสินใจถูกแล้ว เพียงแต่ตัวแพลตฟอร์มเนี่ยเป็นหน้าที่ของไมโครซอฟท์ โนเกียก็คงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากพยายามเพิ่มมูลค่าลงไปในสินค้าอย่างการถ่ายภาพและแผนที่/การนำทาง
ผมไม่อยากให้เอา Nokia ไปเปรียบเทียบกับ HTC หรือ Sony เลย ผมเชื่อว่า "โนเกียทำการตลาดไม่แพ้ซัมซุงหรอก" เพราะที่ไหนที่ผมเห็นมือถือซัมซุงวางขาย ก็จะมีมือถือโนเกียวางอยู่ข้างๆ
เป็นกำลังใจให้โนเกีย ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ และหวังว่าจะได้ใช้ android จากโนเกียสักวันหนึ่ง
มันเป็นจั๋งซี่น้อ.. (มันเป็นอย่างนี้นี่เอง)
ผมว่าถึงไม่แตกต่างก็ยังสามารถขายได้ เพราะที่ซื้อๆกันเนียเพราะแบรนด์ล้วนๆเลย แต่ก็นะเอาชีวิตให้รอดก่อนดีกว่า อิอิ
ผมไม่ค่อยยอมรับประเด็นนี้เท่าไหร่ เพราะแค่กล้องของ Nokia นี่สามารถสร้างความแตกต่างได้แน่นอนและแตกต่างมากด้วย เรียกได้ว่าเติมเต็มแอนดรอย์ให้สมบูรณ์ชนะไอโอเอสได้เลย เพราะที่ผ่านมากล้องแอนดรอย์สู้ไอโฟนไม่ได้มาตลอด ประเด็นที่โนเกียต้องมาจับมือกับ MS น่าจะเป็นเพราะต้องการเงินสนับสนุนมาหมุนธุรกิจมากกว่า ส่วนที่บอกว่าไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ในเวลาอันสั้นนี่ "ข้ออ้าง"
+1 ครับ เห็นกล้อง Nokia เลข 4 หลัก ถ่ายกลางคืนแล้วถึงกับอึ้ง (สาวก iPhone หันมามองกันหลายคนครับ (รอบ ๆ ตัว))
คนต้องการกล้องที่ถ่ายแล้วสวย(หน้าสวย)ครับ ไม่ใช่ถ่ายแล้วชัด งั้น 360 คงไม่ดังเป็นพลุแตก ซึ่งดูจากตรงนี้คนที่ต้องการเอาโทรศัพท์มาแทนกล้อง DSLR เลยเนี่ยเทคโนโลยีก็ยังไม่ถึง ส่วนมาแทนกล้องดิจิตอลเนี่ยค่ายไหนๆเค้าก็ทำได้ โนเกียยังไปไม่ถึงทำให้มันกึ่งๆซึ่งคนก็ต้องการน้อย ไอที่บอกจะซื้อๆ มันก็แค่ปากเกิดทำออกมา บอก ไม่สวย แพงไป เจ๊งลูกเดียว แล้วโทรศัพท์น้องดรอยด์ก็มีทุกราคาแล้วด้วยจะให้สู้ยังไงครับ
กล้องเทพโนเกียไม่ได้พร้อมใช้งานมาตั้งแต่ต้นนะครับ หากไม่ได้เงินก้อนนั้นจากไมโครซอฟท์มาหนุนมันอาจจะไม่ได้เกิดออกมานอกวง Symbian ก็ได้ แม้ว่า 808 จะพร้อมแล้ว แต่ก็ต้องมาพัฒนาให้เข้ากับระบบอื่นให้ได้อีกซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แถมตอนนั้นกล้องของโนเกียเองก็ยังไม่มี OIS และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เรียกได้ว่าเด็ดเลยนอกจากการสเกลภาพความละเอียดสูงให้ได้ภาพคุณภาพดีที่ความละเอียดต่ำ
ถ้าอ่านจากบทความเก่าในนี้ ความสามารถส่วนหนึ่งกล้องของ 1020 นี่ได้การ MS ช่วยปรับ OS ให้เลยไม่ใช่หรือ ซึ่งถ้าเป็นแอนดรอย์ GG คงไม่ยอมให้ปรับอะไรที่ลึกขนาดนั้นมั่งครับ
แต่อีกมุมหนึ่ง Windows Phone มันก็ข้อจำกัดมากเสียจะทำอะไรที่มันไม่ได้อนุญาตให้ทำไว้ยากมั้งครับ ดังนั้นจึงต้องให้ MS ออกแบบให้เป็นพิเศษรึเปล่า
ถ้ามาเป็น Android ก็คงทำเองได้แล้ว (ถ้าเข้าใจ Android มากพอที่จะทำได้เองนะ)
อีกมุมหนึ่งก็คือในขณะที่ MS ปรับให้ Nokia เป็นพิเศษมันจะกลายเป็นเหมือน symbian หลังโดนซื้อจนหมดหรือปล่าวคือไม่มีค่ายอื่นกล้าทำเพราะถึงทำไปก็ไม่อาจใส่อะไรๆพิเศษของตัวเองได้มากนัก
ถ้าเป็นแอนดรอยด์ ผู้ผลิตก็ปรับเองได้เลยครับ เหมือนที่ HTC ทำ Ultra pixel และที่ Samsung ทำให้กล้องหน้า-หลังถ่ายภาพพร้อมกันได้
แต่แน่นอนว่าเหนื่อยเจ้าเดียว และใช้ได้ครั้งเดียว ถ้าวิธีที่ใช้ถูกปรับในอัพเดตถัด ๆ ไปก็เหนื่อยกันใหม่ ขณะที่ Windows Phone ไมโครซอฟท์เหนื่อยกว่า (โนเกียอาจจะลุ้นจนเหนื่อย) ผลออกมาคือเราไม่ได้ผลประโยชน์คนเดียวแต่กลับเป็นผู้ผลิตทุกเจ้า (เสียจุดเด่น) แต่ระบบปฏิบัติการจะอัพเดตยังไงก็มีโอกาสใช้ได้เหมือนเดิมสูงมาก
จนถึงตอนนี้ผมยังคงไม่เชื่อครับว่า Nokia จะได้สิทธิ์ใช้ API อะไรมากกว่าคนอื่นเค้า แต่ Nokia มีสิทธิ์เรียกร้องให้ API ที่ยังไม่มีได้
รู้สึกเห็นด้วยกับโนเกียนะ เพราะจะมาเริ่มทำแอนดรอยด์ก็คงไม่ทันชาวบ้านเขาแล้ว (คือช้าเองนั่นล่ะ) แต่ก็อย่างว่าครับ ถ้าโนเกียเกิดแข็งแกร่งแล้วในอนาคตอาจลงมาเล่นแอนดรอยด์ก็ได้
แก้คำผิดนิดนึง Meego -> MeeGo นะครับ
เอาใจช่วย Nokia ครับ
ชอบคำนี้มาก
"ดังนั้นดีล WP ไม่ใช่ดีลหอมหวานสำหรับโนเกีย มันเป็นดีลที่ "เสี่ยงน้อยที่สุด""
ผู้นำต้องเลือกตัดสินใจในเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกับนักวิเคราะห์หรือผู้ใช้อย่างเราๆได้
เป็นบทความที่สนันสนุนความคิดส่วนตัวของผม เรื่องโนเกียคิดถูกที่เลือกทำวินโดว์โฟนอย่างเดียว(ในตอนนี้), เรื่องไม่มีที่ยื่นในแอนดรอยด์ แต่ผมก็ไม่ได้มองลึกลงละเอียดเท่าบทความนี้หรอกนะ ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ขอผ้าซับน้ำตาแพ๊บ
โอ้ บทความนี้กล่าวซะ WP ไม่มีค่าอะไรในตลาดเลยงั้นแหละ = =""
พูดซะเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่ไม่มีทางเลือก ถึงได้มาลง มันเกินไปหน่อยนะผมว่า ผมว่าประสิทธิภาพมันพอๆ กันหรือดีกว่าสองตัวนั่นอีกนะ ติดปัญหาแค่เรื่อง App แต่ก็ไม่น่าจะนานมาก
ผมว่า บทความเขาก็ไม่ได้บอกว่า WP มันเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะ "ประสิทธิภาพ" นะครับ
แต่ในด้านการตลาด ต้องยอมรับว่า WP อยู่ใน "ลำดับ 3" (ตอนที่ nokia เลือก WP นั้น WP ตามหลัง BB อยู่ด้วยซ้ำ) จึงไม่แปลกที่ใครๆ จะมองว่า มันเป็นทางเลือกที่ดูดีน้อยที่สุด จนหลายๆ คนมองว่า nokia เลือก WP เพราะหวังเงินอุดหนุนจาก Microsoft เท่านั้นด้วยซ้ำ
"ประสิทธิภาพ" ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่จะทำให้ OS ขายได้/ไม่ได้
เพราะ android เองใช่ว่าจะมี "ประสิทธิภาพ" ดีในยุคแรกๆ
แต่ android มากับนโยบายให้ค่ายมือถือใช้ฟรีและแก้ไขได้
ไช่ครับไม่ไช่เหตุผลเดียว แต่ประสิทธิภาพ คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดครับ WP7 มาช้าเกินไปจน Android เริ่มทัดเทียมแล้วต่างหากครับ
ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเล็กน้อยไม่ใช่ตัวตัดสินคุณค่าในตลาดมานานแล้วครับ ถ้าเอาไปพูดในเชิงการตลาดไม่ได้
เอาจริงๆ มันก็ไม่มีจริงๆ นะ
วิเคราะห์ได้ดีครับ อ่านแล้วเห็นภาพ ทำให้คล้อยตามได้
งั้นถ้าครบสัญญาโนเกียน่าจะออก Android แน่ๆเลยละ เพระาทาง Microsoft เองก็พยายามทำอุปกรณ์ของตัวเองอยู่
คนที่ไม่ได้อ่านว่าทำไมโนเกียไม่ทำแอนดรอย ก็ยังไปว่า nokia ว่าโง่ต่อไป ดังนั้นแล้วขอนำลิงค์ไปแปะเพื่อให้ตาสีตาสาเข้าใจ
เขาอาจจะหมายถึง ทำไม nokia ไม่ทำแอนดรอยตั้งแต่ทีแรก
+1
ถ้าโนเกียทำ Android โนเกียคงไม่มีวันเป็นอันดับหนึ่งในตลาด Windows Phone อย่างทุกวันนี้หรอกครับ
เพราะจะได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาด Android แทน ... (Samsung: เหรอ ?? จะโค่นชั้นลงได้จริง ๆ เรอะ??)
Nokia เลือกถูกแล้วครับ แต่แค่เหนื่อยหน่อยในช่วงแรก
ถึงจะบอกว่า Elop เป็นไส้ศึก แต่จากบทความนี้ค่อนข้างเห็นได้ว่า ถ้าตอนนั้น Elop ไม่มาเปลี่ยน Nokia แบบหักมุมกระทันหัน ตอนนี้อาจสิ้นชื่อไปแล้วก็ได้
กลายเป็นเจอ MS หักหลัง ลอยแพ WP7
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ตามบทวิเคาะห์ Nokia เลือกที่จะไม่เสี่ยง
แต่ถ้าช่วงนั้นมาเลือก Android แทน MS ผลที่ออกมา... เป็นไปได้ทุกทาง
.
.
เอาเป็นว่าถ้า Nokia มาทำ Android เมื่อไหร่ วันนั้น Nokia จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผมเหมือนกัน
ขอออกความคิดเห็น ครับไม่แน่ตอนนี้โนเกียอาจทำการบบ้านและพัฒนากับ OS Android อยู่แล้วก็ได้ พอหมดสัญญา กับ MS แล้ว เปิดตัว Nokia of Android เลยเป็นไงบ้างครับแผนนี้อาจเป็นไปได้นะผมว่า
Net Income ยังติดลบอยู่เลยครับ
จะลงทุนทำ Product อื่น อย่างน้อยต้องมีเงินลงทุนครับ
อย่างกับอ่าน นวนิยาย IT ตอนเลือกพันธมิตร อย่างไงอย่างงั้นเลย
วิเคาะห์ออกมาได้ดีทำให้เห็นบางมุมของโนเกียที่เราลืมนึกไปเหมือนกัน เรื่องหน้าขอ BlackBerry ด้วยนะครับ
อันนั้นรอตอนจบอยู่ จะได้เขียนทีเดียว ... >"< 555
Nokia เองก็มีนักพัฒนาจำนวนมากพอสมควรที่พัฒนา QT App บน Symbian นี่ครับ
Nokia เลือกตัด Meego QT ทิ้งทั้งทีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก WP ถ้าไม่ใช่ Elop การตัดสินใจก็คงไม่มาในแนวทางนี้
ระยะยาวแล้ว Nokia จะตายถ้ายังใช้ Windows Phone
ตอนนี้ Windows Phone เองก็ไม่ได้มี Ecosystem ที่ดีไปกว่า Symbian Nokia ในอดีตซักเท่าไร
ถึงแม้ Microsoft จะเคยมีฐานผู้ใช้เยอะ
ตอนนี้เข้าไปดูคุณภาพ App ใน Microsoft Market place ไม่ได้ดีซักเท่าไร
แต่นั่นก็เป็นโอกาสให้นักพัฒนา ในการเติมช่องว่างตรงนี้ เหมือนกัน การเป็นโอเอซิสกลางทะเลทรายผมคิดว่า
เป็นการตลาดแบบบีบไข่ ที่สะใจดี
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
Nokia เองมีนักพัฒนาจำนวนมากพอที่จะพัฒนา App บน Symbian ครับ แต่ Nokia "ไม่มีเงิน" เพียงพอที่จะจ่ายนักพัฒนาเหล่านั้นทั้งหมดได้อีกต่อไป และนักพัฒนาของ Nokia เองไม่ใช่ทุกอย่างครับ ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดเหตุการ Windows Phone ไม่มีแอพนู่นนี่นั่น แต่มันต้องจูงใจ 3rd party developer ให้ได้
เรื่องโนเกียเลือกตัด Meego QT ทิ้งเพราะ Elop นี่คงเป็นอื่นไปไม่ได้แน่นอน
แต่ Windows Phone มี Ecosystem ที่ดีกว่า Symbian ในอดีตมากครับ ทุกอย่างพร้อมรอบด้านแล้ว
แล้วถ้าขนาด Windows Phone Store ที่ทั้งฉุดดึงและอัดฉีดกันขนาดนี้ คิดว่าถ้า Meego ทำการตลาดจริงจังออกมาแล้วจะมีคุณภาพของแอพดีกว่านี้ โดยที่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอัดฉีด เพราะไม่มีเงินทุนพอจะฉุดดึงโน้มน้าวด้วยซ้ำนะครับ
App ใน market place ก็มี App ของ Nokia ครับ
App ดีๆ ของ Symbian ที่ไม่ใช่ของ Nokia ก็มี อย่าง Gravity บน Market place ผมยังหา app ดีๆ แบบนั้นไม่เจอ
ถ้า Nokia พัฒนา meego แทน S60^3 น่าจะทัน
ถ้านักพัฒนา พัฒนา App ด้วย QT แล้วสามารถจะข้าม OS ได้ไม่ยาก จะเพิ่มโอกาสในการพัฒนา App ใน Meego ด้วย
เมื่อก่อน Nokia ไม่ได้มีสถานะทางการเงินแย่แบบนี้
แต่ตอนนี้ Nokia เลือกเดินทางนี้แล้วคงต้องเดินจนสุดทาง
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
สถานะทางการเงินของ Nokia เริ่มแย่ตั้งแต่ก่อนประกาศเลิกทำ Meego แล้วไม่ใช่เหรอครับ? ดังนั้นนักพัฒนาของโนเกียเองก็จำนวนลดลงเรื่อย ๆ ส่วนนักพัฒนาภายนอกก็ต้องมาเสี่ยงกับโทรศัพท์ที่คิดว่าจะออกมาได้แค่รุ่นเดียวในปีนั้น OS ชุดแรกนี่บั๊กก็ต้องมีเป็นเรื่องปกติ ตัวเครื่องเองยังไม่รู้จะมีออกมาอีกรึเปล่าในปีถัดไปอีกต่างหาก ถ้าจะดัน Meego จริง Symbian ก็ต้องประกาศปิดเส้นทางเหมือนกันเพราะเงินทุนไม่พอที่จะเลี้ยงทั้งสองฝั่ง แต่พอเครื่องออกได้แค่รุ่นเดียว นักพัฒนาภายนอกไม่หนุน คนไม่ซื้อ เครื่องขายไม่ออก ปิดตำนานได้เลยครับ
จุดที่ทำให้บริษัทล้มได้มีหลายประเด็นมากรวมถึงที่ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในจุดนั้น ๆ ได้เลย ความเสี่ยงมันสูงมากครับ แค่ที่ผมคิดออกก็มี
บทวิเคราะห์บอกไว้แล้วว่า "โนเกียเลือกทางที่เสี่ยงน้อยที่สุด" ครับ บางครั้งก้าวอย่างมั่นคงมันก็สำคัญกว่า โดยเฉพาะก้าวที่ถ้าพลาดแล้วไม่รอดแน่นอน อย่างน้อยรับข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ไป กรณีเลวร้ายเกือบที่สุดบริษัทก็ควรอยู่รอดได้ถึงห้าปี
สมัย 2009-2011 : น่าจะพลาด
เพราะไม่ยอมทำ Android ตั้งแต่แรก อย่างน้อยก็ 4-5 รุ่น ให้เป็นงาน ให้รู้จัก เผื่อแผนสำรอง
แต่ก็เข้าใจนะ ตอนนั้น Nokia ยังมีศักยภาพในการแข่งขันอยู่
ถ้าสู้บอสใหญ่ชนะก็จะได้ครองโลก Smart Phone ต่อไป
แน่นอนว่ามีความเสี่ยง แต่ High Risk, High Return. นี่ก็เป็นตัวอย่างนึงที่ "เสี่ยงแล้วแพ้"
เพราะบอสใหญ่มันโหดจัดๆ เป็น iOS ของ Apple ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพของ iOS
แต่เป็นเรื่องภาพลักษณ์ กระแส ช่วงคนอยากลองของใหม่ และอะไรต่างๆนาๆ
ทำให้ Nokia แพ้
สมัยดีล M$ 2011 : "เสี่ยงน้อยที่สุดแล้ว"
ตามที่ท่าน house กล่าวนั่นแหละ ถ้า High Risk อีกคงไม่ไหว
เพราะหลังชนฝาแล้ว "เงินหมดบ๋อแบ๋" ถ้าแพ้อีกก็จบเลย ต่างกับครั้งแรกที่ยังพอยืนไหวถ้าแพ้
เยี่ยมครับสำหรับบทวิเคราะห์ ถึงบางอ้อเลย เข้าใจโนเกียมากขึ้นว่าสถานการณ์อย่างนั้นต้องเอาเงินไว้ก่อน สภาพถังแตกทำไงได้ แต่ผมกะยังชื่นชมโนเกียที่ยังทำตลาดล่างอย่าง Asha เพราะตลาดพวกนี้ยังขายได้ดีในอินเดีย ถูกครบทั้งฟังค์ชั่นกินทรัพยากรน้อย ในความคิดผมถ้ามือถือต้องโนเกียคับ ผมเลยอุดหนุน Lumia 520 มานำร่องก่อนจะเล่นรุ่นใหญ่ต่อไป สู้ๆ ต่อไปผมรู้จักโทรศัพท์มือถือคือ โนเกีย
สรุป
ผมเชื่อว่าหลังหมดสัญญา ถ้า WP รุ่นหน้ามันกระเตื้องขึ้นบ้าง ก็น่าจะเป็น WP กับ Asha ไปเรื่อยๆ น่ะ
คนเคยเป็นเบอร์หนึ่ง ยังไงก็ หยิ่งทะนง และ "ตก"ลงมาเจ็บหนักในที่สุด
แต่ คนที่ "เจ็บ" หนักแบบนี้แหละครับ เป็นคนที่น่ากลัว
เพราะ จุดต่ำสุดของโนเกีย คือ จุดแข็งที่สุด ก็ว่าได้
ประสบการณ์ จะทำให้โนเกีย กลับมา ผมเชื่ออย่างงั้น
แหม พูดหยั่งกับชีวิตคน อันนี้องค์กรนะครับ
...ว่าแล้วก็นั่งคิด ว่ามีบริษัทไหนมั้ยนะที่ลงต่ำสุดแล้วทะยานกลับมาใหม่
ส่วนตัวเชียร์ Nokia ครับ
Apple ครับ
IBM ในยุคนึงก็เข้าข่ายครับ
lewcpe.com, @wasonliw
โอ้ว จริงด้วยแฮะ สู้ๆครับ Nokia!
หวังว่า ThinkPad จะเป็นหนึ่งในนั้นที่มีลุ้นแบบนี้
เอาใจช่วยแล้วซื้อด้วยนะฮะ ไม่งั้นเขาไม่รอดแน่
คิดว่าหลังจากหมดสัญญา 5 ปี Nokia จะยังทำ Windows Phone ต่อไหมครับ
ผมคิดว่าน่าจะยังทำอยู่ครับเพราะมีประสบการณ์อยู่แล้ว แถมถึงตอนนั้น ecosystem ของ WP ก็น่าจะใกล้เคียงกับคู่แข่ง วิเคราะห์จากที่หลังๆฟีเจอร์ค่ายอื่นๆเริ่มนิ่งๆและหันไปเล่นกับอุปกรณ์เสริมกันแทน
ผมว่า Nokia อยากเป็นเบอร์ 1 เค้าไปอยู่ Android ช้าไป เลยขอเป็นเบอร์หนึ่งใน OS ที่3
ที่จริง ถ้า Nokia ยอมรับ และลงมาสู้ฟัด เหมือน Sony
เราจะได้ใช้ Android เจ๋งๆอีกหลายรุ่น
พอหมดสัญญากับ MS จะไปทำแอนดรอยก็บอกว่าเราตามคนอื่นอยู่สิบปี ทำไม่ได้หรอก จบ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
lol
ตอนนั้นถ้าว่ากันตรง ๆ คือ "ไม่มีทุนที่จะไล่ให้ทัน" ด้วยครับ เหมือนกับสมัย Apple ตกต่ำที่ต้องตัดตัวที่ไม่ดีพอที่จะช่วยบริษัทได้ทิ้ง ถ้าเป็นตอนนี้แล้วถือว่ามีเงินทุนให้ใช้พัฒนานอกสายหลักได้บ้างก็เป็นไปได้ที่จะทำ
โนเกียหลงไปทำ MeeGo GTK สักพัก ก่อนที่จะหันมาใช้ Qt โนเกียก็ยังจะเขียน framework ครอบ Qt อีก เสียเวลาไปสักพักหมดลุ้นเลย
I'M... , NOT A CLONE.
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆๆ ครับ
สรุปได้ดีเลยฮะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ไม่น่าเชื่อจริงๆ เมื่อก่อนมีแค่ Symbian กับ WinMo ตอนนี้ทั้งสองต้องมาร่วมกันสู้กับ iOS กับ Android
อีกปัญหาสำคัญของโนเกียเลยคือ โนเกียไม่ยอมออกของห่วยๆ ให้ลูกค้า ซึ่งโนเกียต้องทำเหมือนกับโซนี่ และ HTC คือออกแบบ UI ใหม่ของตัวเอง และแก้ไขระบบภายใน เพื่อทำให้โทรศัพท์ของตนลื่นและไม่มีปัญหา(ซึ่งแอนดรอยด์เพียวๆค่อนข้างกระตุก) มันเสียเวลาพัฒนามากๆ เงินก็เสียมาก
ผมอ่านผิดหรือเปล่าครับ แอนดรอยส์เพียวๆเนี่ยนะกระตุก แอนดรอยส์เพียวๆไม่กระตุกครับที่กระตุกก็พวก UI ที่โมๆมานั่นแหละ แต่ที่ต้องทำ UI ใหม่เพราะต้องแตกต่างจากคนอื่นและเพิ่มความสะดวกสบายที่แอนดรอยส์เพียวๆไม่มีต่างหากครับ ที่คนอยากได้ Nexus เพราะ เพียว + อัพเดทเร็ว นี่แหละครับ
+1 ผมใช้ มาตั้งแต่ A88 (เอแคลร์) เครื่องที่เกือบจะ Pure ไม่เห็นว่ามันจะกระตุกเลย
Optimus 1 froyo ก็ไม่กระตุก ลื่นเลยแหละ
จริงๆก็ต้องดูสเป็คด้วยนะ แรม 512 Pure ICS ก็ยังมีกระตุกให้เห็นบ่อยๆ
Pure Google กระตุ๊กนี่ ปิดบริษัท Google ไปเลยครับ 555+ ผู้คิดค้น ยังทำห่วยแบบนี้
เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับ
ลองหา nexus มาลองดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่า ที่มันกระตุก ก็เพราะไอ้สิ่งที่แต่ละยี่ห้อ พยายามยัดเยียดใส่ลงไปนั่นละ เสปคแรง ๆ เจอหน้ากากครอบไป วิ่งไม่ออกเลย
เป็นบทความวิเคราะห์ที่ดีเลยครับ สมเหตุสมผล
ผมอ่านแล้วนึกถึงคำพูดที่ว่า เป็นหัวหมา ดีกว่า เป็นหางราชสีห์
ตอนนี้ถ้าคิดถึง WP ก็ต้องเป็น Nokia เท่านั้น
Nokia ยึดติดแต่ความสำเร็จใจอดีต เหมือน RIM เลย สุดท้ายเมื่อคนอื่นตามทัน แล้วนำไปได้ แต่ตัวเองไม่พัฒนาตาม ก็ต้องล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา
Nokia ไม่จำเป็นต้องทำ Android ก็ได้ ถ้าหาก WP ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทัดเทียม iOS และ Android
ลองนึกถึง Palm ที่ยิ่งใหญ่ในอดีตก็ได้ ในเมื่อตัวเองไม่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และคนใช้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นอดีตไป
เขียนได้ดีครับ เห็นภาพเลย ตอนที่ Elop จะชักจูงบอร์ดคงให้ความเห็นประมาณนี้
เอ๊ะ หรือผู้เขียนเข้าประชุมบอร์ดครั้งนั้นด้วย!
ผมคิดว่า Nokia ยังทำตลาด Android ได้ กล้องของโนเกียยังไงก็มีที่ยืนบนตลาดแน่นอน
แต่คงด้วยสัญญาเอย elop เอย ความสัมพันธ์ของบริษัทเอย มันไม่นำพา ไม่รู้ Android จะอยู๋ค้ำฟ้าถึงตอนไหน
ถึงเวลาเปลี่ยนยุค ตอนนั้นหวังว่า Nokia คงไม่หายไปเสียก่อน
ผมอ่านบทความแล้วพอสรุปได้ว่า โนเกียยอมเป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์
ทำไมผมสรุปได้ว่า โนเกียมีทางเลือกเดียวที่ยังช่วยต่อลมหายใจได้อยู่
ผมก็ว่างั้นนะ มันเหมือนว่าอีกทางเลือกเป็นขนหางราชสีที่หลุดแล้ว
ผมสรุปได้ว่าเป็นหางหมายังดีกว่าตายฟรี
ทำไมต้อง android ผมก็ไม่เคยซื้อ android ซักเครื่องนะ ?!?
คุณไม่ซื้อ แต่คนอีกมากรอซื้อ รับรองซื้อมากกว่าตอนใช้ WP แน่นอน
คำว่า "แน่นอน" ของลูกค้า สำหรับคนระดับตัดสินใจทิศทางของบริษัท นี่เค้าไม่นับรวมเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางบริษัทเพียงอย่างเดียวนะครับ
+1
+1 คำว่า ลูกค้ารอซื้อแน่นอน ยังไงก็เสี่ยงกว่า การได้รับเงินจากไมโครซอฟแน่นอน
Elop ดูๆ แล้วนี่ Jobs ฉบับ Nokia เลยนะครับ ขอเงินสนับสนุน Microsoft ตอน บริษัทกำลังจะล่มจม
พลาดที่ไม่ตามตลาดแต่แรกจริงๆ บ้านเรา Samsung galaxy spica ออกต้นปี 2010 ไม่ดังเท่าไหร่ Wellcom A88 ออกทีหลังยังดังกว่า แต่ก็อย่างว่า มาถูกทางแล้วเลยต่อด้วย Galaxy S ติดลมมาถึงทุกวันนี้ ช่วงนั้นเสปคเครื่อง c5 ของโนเกียก็หรูแล้ว ถ้าแบ่งเข้าแอนดรอย์บ้างอาจไม่เหมือนวันนี้ แต่ก็อย่างว่า มันผ่านไปแล้วก็สู้ต่อไปครับ ผมก็ใช้ 520 อยู่ คุ้มสุดๆ กับราคา ยังไงการเป็นโทรศัพท์ใช้งานหนักๆ ผมก็ยังเชื่อใจแต่โนเกียอยู่
สิทธิบัตรที่โนเกียจดไว้ดองเยอะมากไม่รู้จักขาย ถ้าทำแอนดรอยมันน่าสนใจกว่าเยอะ ฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีสู้ซัมซุงได้อยู่บ้าง
Ashaมันก็คือซิมเบี้ยนไปพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ตัวเองถนัดมาสู้ซัมซุงดีกว่ามั้ง
Asha ไม่ใช่ Symbian ครับ
ตกลงข้อดีของแอนดรอยคือความหลากหลาย พอใส่ UI ครอบเพื่อให้เกิดความแตกต่างก็บอกทำให้กระตุกควรใช้เพียว แล้วตกลงความแตกต่างที่ว่ามันจะเหลือแค่บอดี้รึเปล่า หรือต้องซื้อรุ่นท๊อป ๆ เท่านั้น
อยากใช้ ui ครอบที่ทำงานลื่นๆ ต้องรุ่นท็อปๆ ครับ
UI ครอบกินทรัพยากรมากกว่าครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อย่าลืมมองพวกซอฟท์แวร์ด้วยสิครับ พวก S ทั้งหลายของ Samsung หรืออย่าง...walkman ของ Sony
คือเข้าใจว่าค่ายอื่นก็ยอมให้ซอฟท์แวร์ตัวเองลงไปได้ แต่ของ Android นี่ไปไกลกว่าถึงขั้นสามารถแทนที่ซอฟท์แวร์ระบบด้วยซอฟท์ของตัวเองได้ (ตัวอย่างเช่น Sony Tablet S ที่ผมใช้อยู่นี่ตัว Gallery นี่เป็นของ Sony เองนะครบ หน้าตาไม่เหมือนของระบบนะ)
ข้อเสีย ก็คือเหมือนเป็นลูกเมียน้อย T_T แอพอะไรอัพเดด ได้หลัง ios เสมอ
ตอนนี้โนเกียจับปลามือเดียวอยู่ ฟื้นเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่าจับปลาสองมือแอนดรอยด์แน่ๆ
แปลกที่ผมกลับซื้อ Lumia 920 เพราะว่าตัว Windows Phone กับ brand loyalty ในตัวโนเกียนะ ไม่อย่างนั้น ผมคงไปสอย HTC 7 Surround และติดแพไปนานแล้ว
มีคนถามว่าทำไมถึงเลือกเช่นนั้น เพราะเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวครับ ;-)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมก็เหมือนกัน ผมใช้ Lumia 920 เพราะมันคือ Windows Phone ที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าตัวอื่นๆ
ผมชอบ Windows Phone ตั้งแต่มันเป็น WP7 เพราะเครื่องเก่าที่ใช้คือ HTC Mozart ราคาคุ้มมากๆเลย ตอนนั้นผมได้มันมาในราคา 6990 บาท ลองไปจับ Android ราคาเท่านี้ กระตุกยิกๆเลย
ถ้า nokia จะหันไปเหลือบแล ubuntu ซักนิดก็ดีนะครับ
ผมเป็นลูกค้า Nokia มาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่ รุ่น WorldPhone 1800 ปี 2537 จนเครื่องสุดท้ายที่ใช้อยู่ตอนนี้คือ E90 สิ่งที่เหมือนเดิมของ Nokia คือ
Upgrade Software รุ่นใหม่ ...ไม่ได้ ต้องซื้อใหม่เท่านั้น
ผมว่า Nokia จับคู่ Microsoft ถือว่าถูกต้องแล้วครับ "วัฒนธรรม" องค์กรจะได้ ...ไม่ เปลี่ยนแปลง
สมัยนั้นมือถือรุ่นที่คุณมาหยุดที่ E90 ผมว่ามันก็แทบไม่ต้องอัพเดตซอฟท์แวร์นะครับ เพราะมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น เน้นประโยชน์เพื่อการโทรเป็นหลัก และซิมเบียนก็ไม่ได้มีปัญหาสาหัสอะไร
ถ้าคุณได้อยู่ในยุคของ 5800 XpressMusic คุณจะรู้ว่า โนเกียอัพเดตซอฟท์แวร์ให้อีกตั้ง 2-3 ปี เพราะมันเป็นยุคเริ่มของสมาร์ทโฟนที่แท้จริง
+1 ผมใช้ 5233 ครับ update มากกว่า android เยอะ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
E90 มันเป็นยิ่งกว่า SmartPhone ต้องถือว่า มันเป็น Notebook ย่อส่วนด้วยซ้ำ
ปัญหา คือ มันไม่เคย Upgrade มาตราฐานของ Browser และ Bug ต่าง ๆ เลย
ขนาด Nokia 6681 ผมออกปี 2005 ยังมี SW Update ถึงปี 2007 เลยครับ
nokia N79/N85 ยังอัพเดทได้ถึงปลายปี 2010 เลยครับ ทั้งที่มือถือออกมาตอนปี 2008-2009
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมสาวก 5800 ด้วยคนนนนนนน
ยังอยู่ในใจผมเสมอ นับว่าเป็นรุ่นนึงที่ผมชอบเลยล่ะ ใช้ตั้ง 3 ปีกว่า
ถ้าเรื่อง OS เนี่ย Nokia อาจจะแพ้พวก Apple, Google
แต่การทำมือถือเนี่ย Nokia เค้าประสบการณ์จริงๆ ฟังก์ชั่น พื้นฐานครบ ทำงานได้ดีมากๆ
อย่างเช่น นาฬิกาปลุกเงี๊ยะ ผมจำได้ ปิดเครื่อง มี Battery
Nokia เปิดเครื่องขึ้นมาปลุกเลย ยังไม่เคยเจอเจ้าไหนทำได้อีก - -
แต่สุดท้ายก็ย้ายมาแอนดรอย -,,-
+1 เรื่องนาฬิกาปลุกครับ เรื่องมันน่าเศร้า
Sony ผมก็เป็นแบบนี้นะ แอนดรอยด์ผมก็เป็น ปิดเครื่องใส่แบตไว้ เปิดมาปลุก พอ dismiss แล้วดับต่อ
Samsung Champ Duos ของผมก็ปลุกตอนเครื่องปิดได้นะ
ปิดเครื่องนอนสบายๆอยู่ เปิดเครื่องขึ้นมาปลุกเองเป็นอะไรที่หลอนมาก
รุ่นก่อนๆ หลายยี่ห้อปิดเครื่องก็เปิดมาปลุกนะครับ แต่พอเป็น smart phone เดี๋ยวนี้ไม่เคยลอง เหมือนจะไม่ได้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ขอบคุณครับเป็นบทความที่ดีมากเลยครับ
วิเคราะห์ได้ดีครับ อ่านเข้าใจง่ายครับ :D
สมัยก่อน โนเกีย ขึ้นชื่อว่าจอมกั้ก ดูถูกผู้บริโภค ขยับตัวเชื่องช้า กรุหยิ่ง
ยังจำได้ ซีอีโอว่า เยี่ยวรดกางเกงหน้าหนาว :p
พอเจอค่ายอื่นจัดเต็มมาก็เจ๊ง
ผมสาวกwpนะ
ผมว่าสถานการตอนนี้มันเหมาะสมแล้วครับกับโนเกีย
หลังจากที่กั๊กสเปก เอาเปรียบพวกเรามานมนาน
สำหรับผมกำลังรู้สึกว่าโนเกียกำลังชดใช้กรรม 555+
เดี๋ยวกรรมหมด รุ่ง อิอิ
เห็นด้วยตั้งแต่ต้นว่าทางเลือกนี้ เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด และที่สำคัญ Android มันไม่ใช่ Holy Grail สักหน่อย ทำ product ออกมาดีแล้วขาดทุน/ขายไม่ออก มีเยอะแยะ
ปล. ผมล่ะชอบคนที่กล้าตัดสินใจในสิ่งที่แตกต่าง เพราะมันทำให้เกิดความแปลกใหม่ในระบบ ซึ่งอาจนำไปสู่ product ที่ตอบคำถามของผู้ใช้ได้ดีกว่า product อื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนตัวผมมองว่า
nokia ไม่ได้เลือกที่จะทำ wp แต่กลับกัน MS ต่างหากที่เลือก nokia เพราะ nokia
ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในสถานะหล่อเลือกได้ แถมมีดีลจ่ายค่าใช้งาน wp ให้ด้วยมันก็เป็นทาง
เลือกที่หอมหวาน
elop ไม่ใช่คนเลือก wp แต่ elop น่าจะเป็นคนของ ms ที่ ms ส่งเข้ามาบริหารงาน ก่อนหน้า
ที่เขาจะเข้ามาเป็นแม่ทัพให้ nokia เขาคือหัวหน้าทีมพัฒนา ms office และเขาคือ ceo
ของ nokia คนแรกที่ไม่ใช้คนฟินแลนด์
ตอนนี้มือถือมีแต่แซมซัง แถมสองซิมแซมซังออนพร้อมกันสองเบอร์ได้
Jo Harlow บอกแล้วครับว่า Lumia 2 ซิมมาแน่ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เป็นบทความที่วิเคราะห์ได้ดีครับ
ผมคิดว่า Nokia คิดถูกแล้วที่ไม่ทำ Android ครับ
ไม่ใช่เพราะอะไรนะครับ แต่ถ้ามันสร้างความแตกต่างได้ยาก สุดท้ายสิ่งที่แข่งกันคือ Spec เครื่องแทน
สำหรับ Nokia ที่ไม่ได้มี Vertical Integration ที่ดีขนาด Samsung หรือ LG แข่งในระยะยาวยังไงก็แพ้
เพราะ CPU/RAM/FLASH Memory/Display/Battery Nokia ไม่สามารถผลิตของเหล่านี้ได้เองทั้งหมด
สุดท้ายถ้าเจอเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วน หรือ การโก่งราคาชิ้นส่วนจากผู้ผลิตรายใหญ่ Nokia ก็ไม่รอด
(สมมุติต้นทุน Flash 100$ ขายให้บริษัทในกลุ่ม 110$ ขาย Nokia 200$ แล้วตอนตั้งราคา Product ก็กดมันลงมาเยอะให้ Nokia ไม่ได้เกิดเพราะงานประกอบดี แบรนดีแค่ไหน ถ้าใช้ระบบแบบเดียวกัน Spec เดียวกัน แต่ราคาต่างกันแบบ 17,000 กับ 23,000 ยังไงก็ขายสู้ไม่ได้อยู่ดี
+1 เป๊ะ
ต้องออกแบบให้ได้อย่าง sony
ออกแบบมีเอกลักษณ์ + สวยมากแบบ HTC, SONY สุดท้ายแพ้การตลาด = ="
(เมื่อก่อนแพ้เรื่องราคา แต่ตอนนี้เจ้าตลาดอัพราคาขึ้นมาเท่ากันแล้ว เลยตัดปัจจัยเรื่องราคาออกไป)
อันนี้ผมกลุ้มในฐานะแฟน SONY (70% อีก 30% ให้ Nokia)
เดี๋ยวถ้าเจ้าตลาดแพ้การตลาด เค้าก็กดราคามือถือที่เป็น Final Product ลงแล้วไปกิน Margin ตรงพวก ชิ้นส่วนต่างๆได้แทนครับ ยังไงก็ตีเจ้าตลาดไม่ลงหากไม่มี Vertical Integration ที่ดีพอจะไปสู้
แค่อ่านคอมเม้นก็หมดไปละ 1 วัน
Nokia "ไม่มีทางเลือกหรือเลือกที่เสี่ยงน้อยที่สุด" ตามเหตุผลที่ว่ามา แต่ผมก็แปลกใจในกรณีของเจ้าอื่นๆ ที่ลงมาทำตลาด Android ทีหลังคนอื่นอยู่หลายเจ้า แต่ก็ยังสามารถสร้างชื่อและได้ส่วนแบ่งไปไม่น้อย มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่เชื่อว่า Nokia ก็น่าจะมีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เช่นเมื่อกล่าวถึงมือถืออย่างของ Lenovo, Oppo, ZTE หรือเจ้าที่ทำ Tablet ดีๆอย่าง Amazon Kindle และที่จะมาหลังสุดอย่าง Motolora ด้วยชื่อชั้นของ Nokia ที่สั่งสมมานาน ประเด็นการมาก่อนหรือหลังไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าเอาประเด็นเรื่องทุนมาช่วยพยุงก่อน อันนี้พอเข้าใจได้ครับ ยังคิดเลยว่าถ้า Nokia มารวมกับ Android กระแสความแรงน่าจะพอประมาณกับ MotoX
เจ้าอื่นยังมีเงินทุนไงครับ แต่การเอาหัวข้อว่าไม่มีเงินมาแถลงมันไม่ส่งผลดีต่อบริษัทเลย
คิดแบบนี้เหมือนกัน Huawei เองก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ดังอะไรพึ่งมาแจ้งเกิดตอน Android สมัยหลังๆผลประกอบการตอนแรกๆ Nokia สมัย 2010-2011 ยังดีกว่าอีก อย่าง i-mobile ค่ายเชื้อสายไทยยังทำ Android ขายได้ดีเหมือนกันนะทำเป็นเล่นไป
Huawei นี่บริษัทใหญ่ทุนหนาเลยนะครับ แค่พึ่งมาเข้าตลาดมือถือจริงจัง
เงินทุนว่ากันตามจริงแล้ว มันไม่ใช่ดูที่บ.ใหญ่บ.เล็กเท่านั้นนะครับ
บ.ใหญ่ เงินเยอะ แต่ก็รายจ่ายเยอะ
สุดท้ายก็ต้องมาดูว่า เงินที่มีอยู่เนี่ยพอจะประทังชีวิตไปได้กี่เดือน
บ.เล็ก ๆ อาจจะมีเงินทุนไม่มากแต่อยู่รอดได้ 2 ปี ก็ทำ Android ได้สบาย
แต่บ.ใหญ่ ๆ แบบโนเกีย เงินเยอะจริงแต่คนเยอะด้วย อยู่ได้อย่างดีก็ 3 เดือน อันนี้คงรอไม่ไหว
แล้วถ้าครบกำหนดชำระหนี้เกิดชำระไม่ได้ด้วยนี่ จะกู้ใครก็ยากแล้วคราวนี้เครดิตเสีย กู้ทีดอกเบี้ยแพงอีก
แล้วก็ต้องเจ๊งไปตามระเบียบครับ
บริษัทเนี่ยแม้ ultimate goal จะเป็นพวกชื่อเสียง หรืออารยธรรมของตัวเองต่าง ๆ
แต่โดยพื้นฐานแล้วต้องมีเงินก่อนครับ ไม่มีเงินก็จบ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น
ในแง่ของมือถือถูกครับ Huawei ไม่ใช่บริษัทใหญโตหรือโด่งดังอะไร แต่ในแง่ของเครือข่าย Huawei
ตี brand จากยุโรปเละมาหลายปีแล้วครับ Nokia siemens network (Nokia เดิม) ก็เป็นอีกเจ้า
ที่กำลังย่ำแย่ ปิดตัวไปก็หลายประเทศ ที่ไทยก็เพิ่งปลดพนักงานไป และมีข่าวว่ากำลังจะปลดเพิ่มอีกรอบ
ถ้าใครที่เดินทางไปเรื่อยๆ ทั่วไทย ไม่ว่าจะใช้ ais dtac หรือ True move เกิน 50% ของเครือข่ายทีจับสัญญาณได้เป็น Huawei ครับ
ในส่วนของมือถือถึงแม้จะใหม่ก็จิง แต่ตัวหลัง ๆ ที่ผมได้จับมันก็ไม่กระจอกเหมือนเมื่อก่อนละ หาก
huawei ตั้งใจจะทำจริง ๆ ผมว่ามันจะตีตลาด samsung ได้ไม่ยาก เพราะต้นทุนต่ำกว่า
จิง ๆ แล้ว Huawei เป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ๆ พี่ที่เคยไปอบรบกะ huawei ที่เซินเจิ้นบอกว่า นิคมอมตะนคร
เล็กไปเลย มันเปนเหมือนเมืองๆ นึงเลย
บริษัทไม่มีกำไรยังไม่ตายแต่ไม่โต แต่ถ้าขาดสภาพคล่องก็เจ๊ง กระแสเงินสดก็เหมือนกระแสเลือดของบริษัทครับ
ผมก็ไม่ได้อยากให้ Nokia มาทำ Android เท่าไหร่นัก และก็เข้าใจสถาณการณ์หมดตูดไม่มีทางเลือกจนต้องเกาะ MS ขึ้นรถไฟขบวน WP ดี แต่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ภาพลักษณ์ตอนนี้ WP == Nokia แล้ว Nokia น่าจะมีข้อต่อรองกับ MS มากพอสมควรแล้ว ช่วยไปเข็น MS ให้พัฒนาๆเร็วๆหน่อยครับ เท่าที่ไปลองๆจับแล้วใช้อะไรก็อึดอัดจริงๆ
ผมกับพ่อ เมื่อก่อนโคตรชอบโนเกียเลย สนับสนุนทุกคนทั้งบ้าน
แต่หลังจาก n81 และรุ่นอื่นๆ ตามมา มันข้อด้อยเยอะมาก (โปรเจค n-gage ก็ไปอย่างไว ไหนคำบ่นเรื่องกล้อง เรื่องวัสดุ บลาๆ)
ถึงตอนนี้ต่อให้กลับมาทำแอนดรอย์ ก็คงไม่ซื้ออยู่ดี
ผมว่า MS ยั่งดัน WP ไม่มากเท่าที่ควรไม่งั้น lumia จะน่าใช้กว่านี้เยอะ