บทความจาก Information Week เมื่อวันก่อนคนพูดถึงกันเยอะใช้ได้ ผู้เขียนสังเกตว่าทุกค่ายจะมีสาวกหรือแฟนๆ ของตัวเองที่คอยเผยแพร่ โฆษณาผลิตภัณฑ์ของค่ายนั้นๆ เช่น Apple, Google, Java ยิ่งเป็นสายโอเพนซอร์สแนวคิดนี้ยิ่งชัดเจน แต่ทำไมพอเป็นไมโครซอฟท์ถึงไม่ค่อยมี
ผู้เขียนเสนอทฤษฎีว่าเพราะไมโครซอฟท์ครองตลาดอยู่เยอะแล้ว ลูกค้าเลยไม่ค่อยมีแรงจูงใจมากนัก รวมถึงยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์เองก็ไม่ได้เน้นเรื่องนี้ ทำให้กลุ่มที่เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติตั้งแต่สมัย 95 ล้มหายตายจากไปตามเวลา
ผมรู้จัก Microsoft MVP หลายคน เลยรู้สึกว่ามันก็มีบ้าง แต่ถ้านับตามจำนวนก็น้อยจริงๆ แหละ
อยากได้ความเห็นว่าทำไมคุณจึงเป็น/ไม่เป็นแฟนไมโครซอฟท์
Comments
ผมเป็นแฟน MS
ผมว่าแฟน MS ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่ไม่อยากแสดงตัวเฉยๆ ผมรู้สึกเองว่า MS ค่อนข้างจะโดนค่อนขอดจากแนวรบแต่ละด้านค่อนข้างมาก เวลาผมไปเวบ Mac จะโดนค่อนขอดทันทีถ้ามีใครพูดถึง Windows
เวลาเจอข่าวอะไรของ MS ในเวบต่างๆที่ออกความเห็นได้ ก็จะมีความเห็นค่อนขอดเสียเป็นส่วนใหญ่ ประเภทลอกคนนั้นมา ซื้อคนนี้มา Linux ดีกว่า อะไรราวๆนั้น
จนผมเองรู้สึกมีปมด้อยที่ชอบ MS ฮ่าๆๆ
แต่อีกอย่างก็เห็นด้วยครับว่าข่าว MS มีค่อนข้างเยอะเองอยู่แล้ว คนใช้เยอะอยู่แล้ว พอเจออะไรที่เป็นข่าวก็จะพบว่ามีคนรู้มันอยู่แล้วพอสมควร ประเภท "อ๋อ..เหรอ" "เพิ่งรู้เหรอ..." "linux มีตั้งนานแล้ว" หรือ... "ก็ลอก Mac มา" เป็นต้น เลยอยู่เงียบๆคนเดียวดีกว่า ฮ่าๆๆ
สาเหตุที่ชอบ MS เพราะผมชอบแนวคิดที่เค้าพยายามหาทางให้ Application มันใช้ง่ายๆ
MS มี App ดีๆก็เยอะ App ห่วยๆก็แยะ แต่ถ้าไม่มี Windows ก็ไม่รู้ว่า Computer มันจะเข้าถึงคนทั้งโลกได้เร็วขนาดนี้มั้ย
แฟน MS ด้วยคน
จริงๆ ที่ MS ทำสงครามรอบด้านได้ ไม่ได้แปลว่าชนะทุกด้าน แต่มันก็แปลว่า MS ยังมีพลังในการพัฒนา Software ที่ดีๆ อีกเหลือเฟือ ทั้ง Windows ทั้ง Visual Studio แล้วถ้าสังเกตุดีๆ แล้ว MS ไม่เคยหยุดคิดค้นอะไรใหม่ๆ ตลอด ไม่ว่าจะเป็น .NET Framework หรือ Vista นั่นเป็นเหตุผลอีกอันหนึ่งของผมเหมือนกันครับ
อีกอย่าง ผมว่าถ้าเข้าถึงแก่นของการทำงานแบบ MS แล้วใช้ Software แบบ MS ด้วยจะรู้สึกว่า Productivity สูงกว่าการทำงานบน Linux เยอะมากเลยครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวน่ะนะ) ผมทำงาน freelance เวลาว่างๆ น่ะนะ ไม่รู้ว่าคนที่ทำงานระดับองค์กรณ์นั้นจะรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า
ไม่ได้เป็นแฟน m$ แต่ยอมรับว่า Productivity สูงกว่าการทำงานบน Linux จริงๆ
ผมคิดว่าต่อให้ซื้อลิขสิทธิ์ มาหมื่นนึงแต่ทำให้ผมหาเงินได้เป็นล้านต่อ windows 1 ตัว ผมถือว่าคุ้มครับ
^_^
รวยจัง ผมไม่มีปัญญาซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แพง ๆ หรอก : P
xxxxxxxx//+ ww +//xxxxxxxxxxxxxx\\+ ww +\\xxxxxxxxxxxxxx//+ ww +//xxxxxx RYUTAZA : Open In The World. xxxxxxxx\\+ ww +\\xxxxxxxxxxxxxx//+ ww +//xxxxxxxxxxxxxx\\+ ww +\\xxxxxx
ตามสถิติแล้ว ข่าว Microsoft ก็เยอะสุดใน Blognone เหมือนกันครับ
รวมถึง duocore
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จริงผมก็ไม่ได้ชอบ m$ นะ ออกจะเชียร์ linux ด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้เป็นไงเวลาที่เข้าบอร์ดนู้นบอร์ดนี้คนของบอร์ดนั้นค่อนข้างจะแขวะ เหน็บ และกัดฝ่ายตรงข้าม ประหนึ่งว่าโลกนี้ฉันดีคนเดียว คนอื่นห่วยมาก อะไรทำนองนี้ เลยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำยังกะฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลกำลังจะตีกัน ผมว่านะใครอยากจะใช้อะไรก็ใช้ไปเหอะ ขอให้มีแนวทางในการพัฒนา มีเป้าหมายที่ชัดเจน ถ้าอยากจะตีกันเอาผลงานมาชกแบบหมัดต่อหมัดน่าจะดีกว่า
เข้าใจได้ยังงั้นก็ดีแล้วนี่ครับ
ผมว่าเป็นเหมือนหลักการตลาดนะครับ MS เป็นเหมือนสินค้าทั่วไปที่ไม่มีอะไรโดดเด่น(อาจจะหมายถึงครองตลาดส่วนใหญ่) ไม่ใช่สินค้าเฉพาะทางที่มีเสน่ห์คลาสสิค จนถึงจะสถานปนาเป็นสาวกอย่าง Apple หรือ Linux และภาพลักษณ์ของ Brand ที่ดูน่าเชื่อถือ แต่...มักมันนี่(เสียงอีสาน) และชอบเอาเปรียบคู่แค่งจึงทำให้แฟนๆ MS จึงไม่อยากจะไปตั้งตนเป็นสาวกอย่างออกนอกหน้า
http://www.ThaiPortfolio.com http://www.ThaiFreelanceBid.com
โดยส่วนตัวมองว่า microsoft เค้าทำเองได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การตลาด เอกสารเผยแพร่ แล้วก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีทีเดียว อีกอย่าง การใช้ผลิตภัทณ์ของ microsoft ไม่ใช่เรื่องเทห์ หรือโก้เก๋แต่อย่างใด แต่ถ้าคุณเปิด notebook มาด้วย ubuntu แล้วหล่ะ ก็ "โห เจ๋งหว่ะ" (ถึงแม้เพื่อนส่ง file visio มาให้จะเปิดอ่านไม่ได้ก็เหอะ :P )
เอ่อ..ไม่ใช่แฟนไมโครซอฟท์นะคับ (แต่ตอนนี้หลงรักวิสต้า อิอิอิ)
คือ..แฟนไมโครซอฟท์ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ แต่จะออกมาแสดงความชื่นชอบทำไม ในเมื่อใคร ๆ ก็ใช้ หันไปไหนก็เจอพวกกัน
ผิดกับคนใช้ mac หรือ linux มังครับ (คล้าย ๆ กะป้ายพระ...ตามต้นไม้เพื่อรณรงค์ศาสนาน่ะคับ)
ใจผมเองอยากใช้ mac นะ
แต่ถ้าจะใช้ mac ผมต้องซื้อเครื่องใหม่ กี่หมื่นครับ
ในขณะที่ผมจะใช้วิสต้า ผมเปลี่ยนการ์ดจอไป 1700 บาท เพิ่มแรม 2600 บาท ผมใช้วิสต้าได้ชนิดลื่นหัวแตก
หรือผมจะไปใช้ลินุกซ์ ผมจะทำยังไงให้ลินุกซ์เห็น driver ของไอ้เจ้า wireless usb ของผมได้ง่าย ๆ เหมือนวินโดวส์ล่ะคับ ทำทั้งขั้นเทพ ขั้นมาร ขนาดใช้ mint ยังมองไม่เห็น ไปขอความช่วยเหลือตามเวบบอร์ก็บอกให้ผม apt-get ndiswrapper มา เออเนอะ! ก็ต่อเน็ตไม่ได้เนี่ย จะให้ apt-get มาจากสวรรค์เหรอครับ ไอ้แผ่น alternate ก็ใช่ว่าจะมี lib ของ ndis ทุกตัว แล้วอะไรอีกจิปาถะมากมาย . . . ที่ลินุกซ์ ไม่จำเป็นต้องทำให้ง่าย เหมือนวินโดวส์ แต่ขอให้ทำให้ง่าย สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักลินุกซ์ก็พอครับ
สรุปว่า..ใครจะค่อนขอดวินโดวส์ผมก็ไม่สนใจ ผมจะใช้อะไรนั่นแสดงว่ามันเหมาะสำหรับเรา ครับ
(ถ้าผมจะเขียนบล๊อกวีนลินุกซ์มั่ง ผมจะเขียนที่เวบนี้ได้เป่าคับ จะโดนยึดสมาชิกมะเนี่ย - ติเพื่อก่อนะ อิอิ)
ผมวีนแมคไปหลายรอบยังไม่โดนบล็อคนะครับ :P ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
อารมณ์เดียวกับตอนผมใช้ครังแรกเลย เหอๆ - -'
อยู่ดีๆ จะไปรู้ได้ยังไงว่ามันต้องใช้ package อันนั้น
แล้วคนใน IRC ก็ไม่มีความเป็นมิตรเอาซะเลย ทำเอาผมเซ็งไปหลายวันเหมือนกัน
ผมไม่เคยเข้า irc อ่ะครับ แต่ก็ไม่เคยเจออันไหนที่ไม่มีคำตอบใน forum
แม้หลายๆ ครั้งมันจะมีหลายสำนัก แล้วเวลาเอาไปปนกันมันจะทำให้เครื่องเพี๊ยนๆ บ้างก้เถอะ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับไดร์เวอร์ของ ATI ใช้คู่กับ XGL (และ Compiz) ซึ่งฟอรัมไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย (แรงอึดของผมมีแค่สามวัน) แต่ละสำนักก็ไม่ค่อยบอกเหตุผลกันว่าทำไมต้องใช้คำสั่งๆนี้ๆ ทำให้ผมแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
จนกระทั่งวันหนึ่งผมบังเอิญไปพบปัญหาคล้ายๆกันนี้จากโปรแกรมตัวอื่น ผมเลยแก้มันได้
เขียนก็ดีครับ ผู้เกี่ยวข้องจะได้พัฒนาให้มันดีขึ้นด้วย
ผมคิดว่าการมองอะไรตามสภาพความเป็นจริง ดีก็ชม ห่วยก็ว่า น่าจะเป็นการส่งเสริมที่ยั่งยืนที่สุด
(โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Windows Explorer เป็น file manager ที่ดีที่สุด Finder นี่ห่วยสุด รกสุดก็ Konquerer ;P)
ชอบ Windows Explorer ด้วยเหมือนกัน แต่แบบที่โชว์ Folder อยู่ทางด้านซ้ายนะครับ แต่ไหง Microsoft เค้าเอา Open เป็น default แทนที่จะเป็น Explore -- my blog
เป็นแฟน ms windows กับ msword ค่ะ รู้สึกว่าใช้ง่ายที่สุดแล้วล่ะ
เอ่อ..เขิลล์เรยคับ วันนี้ขอกลับไปเล่น ubuntu studio ก่อนนะคับ theme สวยดี อิอิอิ
อ้อ..ubuntu ที่ดีที่สุดสำหรับผม คือ mint คับ อิอิอิ
>>ผมว่าแฟน MS ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่ไม่อยากแสดงตัวเฉยๆ >>ผมรู้สึกเองว่า MS ค่อนข้างจะโดนค่อนขอดจากแนวรบแต่ละด้านค่อนข้างมาก >>เวลาผมไปเวบ Mac จะโดนค่อนขอดทันทีถ้ามีใครพูดถึง Windows
ถูกต้องเลยครับ
รำคาญที่สุดคือเสียงค่อนขอดจากสาวก apple ตัวเองก็ลอกเค้ามายังมีหน้ามาหาว่าคนอื่นลอกอีก สำหรับ linux ผมก็โอเคนะ ส่วน java นี่ผมไม่ค่อยชอบ เท่าไหร่นะแต่ก็ใช้
Microsoft เองก็ใช้ว่าจะดีทั้งหมดตอนนี้รำคาญ Visual Studio มันกระซวกแรมเยอะไปหน่อย
แต่ที่นี่ก็ข่าว Microsoft เยอะนะครับ แต่ก็เห็นใน comment ก็โดนด่าไปเยอะเหมือนกัน ฮ่าๆ
onedd.net
ผมนี่น่าจะเป็นคนที่ Mac User หมายหัวเลยครับ เพราะซื้อ MacBook มาลง Windows แถมพอมี Vista ผม Boot เข้า Vista ซะ 80% เลย เสียสถาบัน Mac มากๆ
ลองไปเข้า Mac Community ทั้งของเมืองไทยและเมืองนอกทำไมเป็นเหมือนกันหมดไม่รู้คือ Windows เป็น OS ห่วยสุดที่มีมาในโลก ส่วน Mac OS X ก็เป็น OS จากสวรรค์เหมือนกัน
เศร้า
ผมก็สาวก Microsoft คนนึงเหมือนกันตั้งแต่ใช้ com มาก็มี window นี่แหล่ะ ที่ใช้งานได้โดยไม่อึดอัดเท่าไรคำสั่งก็ตรงไปตรงมามีงงบ้างเป็นบางครั้งแต่ เยี่ยมสุดสำหรับผมแล้ว ช่วงนี้หันมาเล่น linux บ้างแต่ยังงงๆอยู่หลายเรื่องคงต้องใช้เวลาซักพักใหญ่ๆ กว่าจะใช้งานได้ตามที่ต้องการ
ปล.ผมไม่ชอบ apple ที่สุดแล้วยิ่งเวลาเข้าไปอ่านในบอร์ด apple นี่รู้สึกว่าคนในบอร์ด จะ appleจ๋า ซะส่วนใหญ่
ผมไม่ชอบ microsoft ซะเท่าไหร่ เพราะว่าผมใช้ linux มันไม่ค้าง แล้วมันรันกับคอมผมได้ จริงๆผมไม่ได้หวังว่า ubuntu มันจะแทน windows ได้แต่ผมคิดแค่ว่ามันใช้ได้ก็เป็นพอ ซึ่ง ubuntu ก็มีความคิดแบบนี้(Just Work)
ส่วน apple นั้นกำลังจะลองแมคครับ แต่บิตผมโหลดไม่ไป(เรื่องอะไรจะไปซื้อ แพง)
ปล. เห็นหลายๆส่วนใน windows vista ลอก linux มา ผมใช้แล้วนี่แบบว่า "เฮ้ย นี่มันลอก linux ชัดๆ" เช่นเมนูข้างบนแหละครับ เหมือน nautilus มากเลย แล้ว nautilus มันมีนานกว่า vista อีก และตัว uac ก็เหมือน gksu ที่ถามรหัสนั่นแหละครับ ตัว sudo นี่มันอายุเยอะกว่าผมอีก สรุปว่าบางทีมันอาจจะลอก linux ก็ได้ครับ
ไม่เป็นแฟน MS เพราะไม่มีเงินซื้อ ปัจจุบัน ตั้งแต่งาน,ระบบ,การบ้าน ถึง project ก็ใช้ opensource ได้หมดไม่เสียเงิน
เพราะใช้แบบพอเพียงจริงๆ อย่างถ้าใช้ MS Word ก็คงใช้ feature ได้ไม่หมด แต่OO.o ก็เขียน thesis ได้แล้วอ่ะ แต่ที่ผมชอ MS คือตัว บัลมอร์ ที่นำ MS มาถึงวันนี้
ไม่ใช่แฟน MS เพราะไม่มีเงินซื้อครับ
แต่พวกของฟรีอย่าง Visual Studio Express นี่ต้องขอชม
อ้อ... ผมเป็นสาวก Microsoft mouse นะ ใช้อยู่ยี่ห้อเดียวเนี่ย ไม่เคยเปลี่ยนใจ
pittaya.com
อยู่แถวนี้เพียบเลย เขาเรียก "รักนะแต่ไม่แสดงออก"
คิดว่าความหมายของ "แฟน" ไม่ตรงกับในบทความต้นฉบับนะครับ ผมอาจแปลไม่ดีเองส่วนหนึ่ง
ในต้นฉบับ "แฟน" ไม่ใช่แค่คนใช้ แต่ต้องเป็น advocate ด้วย
ผมก็เป็นสาวก MS มาตั้งแต่สมัยดอสอ่ะ ยิ่ง วินโดว์ 3.1 เนี่ย ตอนนั้นผมว่ามันเป้นอะไรที่เจ๋งมาก ๆ หุหุแล้วก็ลองใช้มาทุกตัวอ่ะ(แต่ ME นี่ใช้ประมาณอาทิตย์นึงแล้วก็ไม่ได้มาอยู่ในเครื่องผมอีกเลย ทิ้งแผ่น(ผี)ไปด้วย) ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะลอกใครยังไง ขอให้มันทำงานได้ ลงง่าย ใช้ง่าย แล้วก้คนในบ้านใช้ได้ด้วย ผมใช้คอมมาหลายปีนะครับแต่ไม่ได้เป็นโปรก็แค่ใช้ไปวัน ๆ ลินุกซ์เนี่ยตัวไหนดังก็เอามาลองแล้วก็ไปไม่รอดทุกที ติดตั้งอะไรเพิ่มตรงไหนก็ไม่รู้ package อะไรเยอะแยะไปหมด ยิ่งนับวันคนก็ยิ่งต้องการความสะดวกสบาย จะมาโชว์เทพอะไรกันนักกันหนา ถ้ามันทำให้ง่ายแบบวินโดว์ป่านนี้คงมีส่วนแบ่งซัก 50% ได้แล้วมั้งผมว่า แล้วส่วนใหญ่พวกที่ทำลินุกซ์เนี่ยกินอุดมการณ์ไม่ได้กินเงินพอขัดกันก็แยกตัวมาทำตัวใหม่ไปเรื่อย ๆ ไม่ง้อกัน
ผมคิดเหมือนหลายๆคนว่า Microsoft เหมือนเป็นของตายหน่ะครับ ใครๆก็ใช้อยู่แล้วเลยไม่รู้จะพูดจะโปรโมทไปทำไม แต่ถ้าเราพูดถึงสิ่งที่เป็นชนกลุ่มน้อยกว่ามันจะดูแตกต่าง มันก็น่าพูดถึงกว่าใช่มั๊ยฮะ อีกอย่าง Microsoft หลังๆนี้ก็ตกเป็นเป้าในการกัดของทุกฝ่ายด้วย คนเลยเฉยๆอยู่เงียบๆดีกว่าขี้เกียจไปทะเลาะด้วย
สำหรับผมเองก็มีหลายอย่างที่ชอบและหลายอย่างที่ไม่ชอบของไมโครซอฟต์ ก็เลยคงเป็นกรณีๆไปหน่ะครับ บางเรื่องก็เชียร์ บางเรื่องก็เฉยๆ บางเรื่องก็แอนตี้
ดูรวมๆ สรุป(เอง)แล้วแฟน Mac แฟน MS แฟน Linux ก็ไม่ต่างกัน อิๆ
----------------------------- http://www.theryo.com
โดยส่วนตัวแล้ว Bias ไปทางต้าน MS เต็มตัว
เหตุผลง่ายๆ คือตอนนี้ตลาดมัน monopoly ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่เท่าที่ควร
แม้สัดส่วนกำไรจะมหาศาล แต่ทุกวันนี้ ms ก็ยังสามารถขึ้นราคาไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีใครทำอะไรได้ อย่างวิสต้าแม้จะไม่ได้ขึ้นราคามากมาย แต่ก็ตัฟีเจอร์โน่นนี่ไปขายในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม ง่ายคือการขึ้นราคาแบบอ้อมๆ นั่นเอง
ในฐานะผู้ใช้ ผมมองว่าการอิงแอบกับผู้ขายรายเดียวเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่ค่อนขข้างยอมรับไม่ได้ บทเรียนเกาหลีใต้กับ ActiveX น่าจะเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ว่าการใช้ Product ที่บริษัทเดียวทุ่มเทผลักดันกันทั้งประเทศ ทำให้ประเทศต้องอิงกับเทคโนโลยีของบริษัทนั้นๆ และถูกบังคับ upgrade ทุกครั้งที่บริษัทนั้นเลือกจะเปลี่ยนอะไรบางอย่าง
ผมเชียร์ ubuntu ในรูปแบบเดียวกับที่เชียร์ firefox คือไม่ได้เชียร์เพื่อให้ทุกคนมาใช้งานมัน แต่เชียร์เพื่อให้คนรับรู้ว่ามีมันอยู่ ให้คนตระหนักว่ามาตรฐานกลางคืออะไร และพวกเขามีทางเลือกที่จะไม่อิงกับผู้ขายรายใดรายหนึ่งได้ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยคับ
ใครจะใช้ os อะไรก็ใช้ไป แต่ขอให้เอกสาร/แฟ้มข้อมูล เป็นกลางดีมั๊ยครับ ผมต้องลง windows ไว้เปิดเอกสารบางอัน ที่บางที ได้รับ จากบางคน แล้วดันเปิดไม่ได้บน linux เห้อ เซ็งเลยครับ
ไม่เคยไม่ชอบวินโดวส์นะครับ แต่ชอบ linux เท่านั้นเอง :)
ผมเป็นแฟน GNU/Linux ครับ ตอนนี้เฉย ๆ กับ MS แต่เมื่อก่อนนี่ผมเกลียด MS มาก (ขอย้ำอีกทีนะครับว่าตอนนี้ผมเฉย ๆ ก่อนที่จะถูกยิงด้วยความคิดเห็นเสียก่อน) ความรักอาจเป็นเรื่องไม่มีเหตุผล แต่ความเกลี่ยดไม่มีเหตุผลไม่ได้ครับ
สาเหตุแรกเลยคือ Productivity นี่แหละครับ ผมเองคงไม่สรุปหรอกครับว่า GNU/Linux มี Productivity สูงกว่า Windows เพราะดู ๆ แล้วเรื่องนี้ลางเนื้อชอบลางยาครับ แต่ Windows มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ผมทำงานช้า เช่น บูตเร็วก็จริง แต่ปรากฏว่าพอลอกอินแล้วกว่าจะเริ่มทำงานได้ช้ามาก จากนั้นก็มีป็อบอัพหลายอันโผล่ขึ้นมาแจ้งข้อมูลที่ผมไม่อยากรู้ กว่าจะเปิดโปรแกรมแต่ละตัวได้ก็ช้า ทำงานอยู่ดี ๆ ก็มีโน่นมีนี่โผล่ขึ้นมา ต้องคอยอัพเดดโปรแกรมความปลอดภัย ใช้งานไปมันจะช้าลงเรื่อย ๆ หากต้องการใช้โปรแกรมก็ต้องหาเองในอินเตอร์เนต หรือไม่ก็แผ่นผี (แผ่นจริงคงไม่มีเงินซื้อ) แล้วติดตั้งได้ทีละโปรแกรม ไม่มี Shell-Script ให้ใช้ ทำให้วางแผนทำงานแบบต่อเนื่องไม่ได้ ฯลฯ แต่ผมก็ยอมรับครับว่า กว่าผมจะทำงานบน GNU/Linux ได้คล่องแคล่ว ก็ใช้เวลาเหมือนกัน แต่พอคล่องแล้ว ผมก็ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเรื่องนี้คนใช้ GNU/Linux หลายคนที่ผมรู้จัก ก็พูดคล้าย ๆ กัน
แต่ผลิตภัณฑ์ของ MS ไม่ได้มีแค่ Windows โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัวของ MS มี Productivity ที่ดีมากทีเดียว แต่ว่า Productivity ไม่ใช่ปัจจัยในการเลือก Software เพียงปัจจัยเดียว เรื่องที่ผมหงุดหงิดกับ MS อีกเรื่องคือ เรื่องของการผูกขาด ซึ่งเรื่องนี้หลาย ๆ คนคงรู้ดีกันอยู่แล้ว พอเขียนถึงเรื่องนี้มันก็จะมีภาพไม่ดีของ MS อื่น ๆ ตามมา เช่น ความฉลาดแกมโกง ความโลภที่อยากจะยึดครองตลาดไปเสียทุกส่วน ชอบทำตัวขัดมาตรฐานกลาง แต่เสนอมาตรฐานกู เป็นต้น ซึ่งเรื่องพวกนี้มันก็แล้วแต่คนมองอีก บางคนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของวงการนี้อยู่แล้ว แต่บางคนก็ว่ามันผิดจรรยายาบรรณ และบางคนอาจเพ่งเล็ง MS เรื่องนี้เพราะความอิจฉา
แต่อย่างไรเสีย MS ก็สลัดภาพไม่ดีเหล่านี้ไม่พ้น MS จึงดูเหมือนพรรคอธรรมในวงการ ที่ไม่ค่อยมีใครอยากแสดงตัวเป็นศิษย์ ถึงเป็นพรรคอธรรม ก็เป็นพรรคอธรรมที่ใหญ่ และมีวิชากล้าแกร่ง และในนิยายกำลังภายในบางเรื่อง พรรคอธรรมนี่แหละครับที่เป็นผู้กอบกู้บู๊ลิ้ม แต่ผมไม่แน่ใจว่าเราอยู่ในนิยายกำลังภายในเรื่องไหน
ข้อด้อยอีกอย่างของ MS ที่ผมมองเห็นคือ ผลิตภัณฑ์ของ MS ส่วนมากมันพื้นไปเสียหมด พื้นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงใคร ๆ ก็ใช้กันนะครับ แต่หมายถึงไม่มีอะไรเด่นจนสะดุดตา Performance ก็กลาง ๆ ไม่ถึงกับเลวร้าย แต่ก็ไม่จี๊ดจนอยากใช้ในทันที Interface ก็พื้น ๆ ใช้งานง่ายแต่ไม่ถึงกับสวยมาก อะไรทำนองนี้ ซึ่งผมมองว่าผลิตภัณฑ์อะไรที่จะมีสาวกได้ มันต้องมีเรื่องพวกนี้อยู่ แต่ผมเดาว่า ก็เพราะว่ามันพื้นนี่แหละครับเลยมีคนใช้เยอะ เพราะมันพร้อมในหลาย ๆ ด้าน มากกว่าจะทุ่มลงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
BioLawCom.De
ไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ แต่ใช้และชอบเม้าส์ของเค้าอ่ะ ตอนนี้มีสองตัว ตัวเล็กใช้กับแล็ปท็อปตัวนึง และกับพีซีตัวนึง ยอมรับว่าแพงหน่อย (ตัวละพันขึ้น) แต่คุ้มครับ เพราะเคยซื้อเม้าส์ตัวละ 3-4 ร้อย แล้วเจ๊งไวมาก ปีเดียวเปลี่ยนไป 3-4 ตัว ตอนนี้อยากได้คีย์บอร์ดไมโครซอฟท์ด้วยซะแล้ว :-P
อ่อ ซื้อเม้าส์ไม่ต้องต่อไลเซนส์รายปีด้วย :-D --
--
แต่บางอย่างที่ MS พ่ายแพ้ก็มีนะคับ อย่างเรื่อง IE นี่ให้ทำไงก็กู่ไม่กลับ เข้ารกเข้าพงกันใหญ่โตแล้ว และบางอย่างที่ลินุกซ์พ่ายแพ้...ก็ความไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันไงคับ (เอาแค่นับชื่อ distro ก็ปวดหัวแร้ว ไหนคนใช้ ubuntu จะไปข่อนขอด debian อีก (ดีนะว่าแถวนี้ไม่ค่อยมี) ก็พี่ท่านเล่นตีกันเองซะคนใช้ปวดหัว ว่าแล้ว user ก็ปิด ie แล้ว shut down vista ไปพักสายตา...)
ผมว่า IE ยังไม่แพ้นะครับ (และ Opera ที่รักของผมด้วย)
ผมว่ามันไม่ยากหรอนะการเรียนรู้ ผมก็ไม่ได้ชอบสเต็ปเทพอะไรหรอก พึงพาตัวเองได้ก็พอนะ ที่
ผมเป็นแฟน Win 3.1 และ 3.11 นะ รักมันมากตั้งแต่คอมเครื่องแรก (386) แต่ตอนนี้ผันตัวมาใช้ Ubuntu เพราะต้องการความแตกต่าง (และผมไม่คิดว่า Apple นั้นสร้างความ"แตกต่าง")
ปัจจุบันผมว่าลึกๆแล้วยังมีแฟนๆ MS + VS.NET เยอะมากนะครับ โดยเฉพาะเมื่อประชุมกับเพื่อนว่าจะพัฒนาโปรแกรมกันบนไหนดี คำถามที่แทบไม่ต้องถามกันเลยก็คือ ทำบน OS อะไร และบน IDE ตัวไหน
หลายๆครั้งที่มีผู้ถามผมว่าทำไมผมต้องทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน เช่น ไม่ใช่ Win และไม่ใช้ VS.NET ผมต้องหาเหตุผลมาคอยหว่านล้อมหาเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าว ซึ่งมันมักจะไม่สำเร็จ (เหตุผลเรื่องลิขสิทธิ์คงฟังไม่ขึ้นในบ้านเรา) สุดท้ายตัวนักพัฒนาเองก็ยังติดอยู่กับ MS แบบฝังลึก ลึก ลึก ก ก ก . . .
บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราสามารถเขียนโปรแกรมดีๆได้โดยง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้ VS.NET และนั่นอาจจะเป็นหน้าที่ของ MVP ค่ายอื่นๆ
ปล. ผมยังรักน้องหนูของไมโครซอฟท์อยู่
อ่าน Are You Mad? Are We All? แล้วรู้สึกอะไรไหม แล้วคุณกำลังเอาชีวิตไปฝากกับอะไรที่คุณไม่รู้จริงๆ หรือเปล่า
คนที่ใช้ซอร์ฟแวร์ closed source ทั้งหลาย คุณเคยกลัวไหม...
ผมตอบว่าไม่กลัวครับ
โลก Computer น่ะ Closed Source กันมา 20-30 ปีแล้ว ก็ยังอยู่มาได้ ผมเลยไม่กลัวครับ
โลกมันมีทางไปของมันเสมอ ถ้ามันมีแค่ทางสายเดียวให้รอด เราก็ไม่ได้ evolution มาเป็นมนุษย์จนทุกวันนี้หรอกครับ
เห็นด้วยกับ bow_der_kleine แต่ส่วนตัวไม่ได้เป็นสาวกค่ายใด จะว่าไปของแบบนี้มันแล้วแต่งานและเป้าหมายของงานที่จะทำ มันมีดีในงานที่แตกต่างกัน
ก็ยังอยู่ดีครับ ผมก็ไม่ได้เป็นสาวกอะไรนะ (แต่ก็ไปสัมมนาบ่อยๆ)
มีหลายอย่างที่ไม่ชอบในผลิตภัณฑ์ของ Microsoft (ขอด่า Visual Studio หน่อยที่ เมื่อไรมันจะ view code เต็มหน้าแบบ Eclipse ได้ มันอึดอัดกับหน้าจอแคบๆ หรือไอ้แถบผลุบๆ โผล่ๆ ที่คุณทำนั่นแหละ) เพราะเหตุผลบางประการคือ "พวกไม่สร้างสรรค์บางจำพวก" ใช้กันเยอะ พวกไม่สร้างสรรค์บางจำพวก เช่น พวกชอบอวดชอบลองทำลายเครื่องชาวบ้านด้วยสารพัดโปรแกรมไวรัส สปายแวร์ โทรจัน ฯลฯ (ทำไงได้ล่ะ เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนดีได้ แต่เราก็ไม่ควรให้พวกนี้มันเหิมเกริมจริงไหม?)
นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผลใช้เครื่อง Apple ในการเก็บข้อมูลส่วนตัวหลายๆ อย่าง เพราะอย่างน้อยในตอนนี้มันก็ยังปลอดภัย (ต่อไปไม่แน่ ฮา) และมันก็ตอบสนองงานของผมได้ (ใช้งาน Windows ผ่านระบบจำลอง/เสมือนนั่นแหละ)
ออ แล้วคิดยังไงกับ Linux จริงๆ มันเป็นสังคมที่ดีครับ แต่คิดว่าคงไม่เหมาะที่จะต้องมาเสียเวลาหา package และไล่ update เสมอๆ (ตามกระแสนิยม) เพราะคงไม่คุ้มถ้าการ update ที่เกิดขึ้นทำให้ระบบที่คุณสร้างขึ้นมาล่มสลายไปแบบกู้คืนไม่ได้
Ctrl + Alt + Enter
Shift + Alt + Enter (บน Vista นะไม่แน่ใจว่า 2003 เป็นแบบข้างบนหรือเปล่า) ก็ขอบคุณครับ แต่มันก็ไม่ได้แบบที่คิดเท่าไรนะ (อันนี้ล่อทั้งจอเลย) ผมแค่อยากให้เวลาดับเบิ้ลคลิ้กบน Tab ชื่อไฟล์แล้วมันขยายพื้นที่เป็นยึดทั้งหน้าต่างของ IDE ครับ
กำลังรอ ReactOS ให้เสถียรครับ
http://www.reactos.org/en/index.html
ถ้าเสถียรเมื่อไรก็ไม่ต้องง้อ Microsoft ละครับ เพราะมีตัว Microsoft Clone ให้ใช้กัน Vista ที่ยัง driver ไม่ครบก็คงอีกสักปีหน้าแหละครับ คนถึงจะใช้กันเยอะ
ใจรัก Open Source เคยตัดสินใจใช้ Linux + OpenSource มา 1 ปี แต่ยังไม่สามารถหาเงินกับมันได้เลยครับ
เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นอาจารย์สอน Microsoft .NET ปรากฏว่ามีคนต้องการเรียนเยอะมาก เพราะมันสอนง่าย เรียนง่าย และใช้งานได้จริง ตอนนี้ยังคงต้องเดินสาย Microsoft .NET ต่อไป แต่ยังคงสนับสนุน Open Source เหมือนเดิมนะครับ
ผมเป็นแค่ผู้ใช้งานนะครับ ไม่ได้เป็นแฟนค่ายไหนเลย ตามที่คุณ mk บอกว่าต้อง advocate ด้วย
ที่ออฟฟิศใช้ ms หมดครับ ประมาณ 120 เครื่อง ผมเป็นผู้ดูระบบเองครับ ค่า License ประมาณ 8 แสนบาท (Windows Server,Windows CAL, Office ...) ก็ของมันต้องใช้นี่ครับ บริษัทก็จ่าย เพราะว่าลงทุนเท่านี้ แต่ทำให้บริษัทได้กำไรมากกว่านี้มากมาย
ผู้ใช้หลายคนคิดเอาเองว่าถ้าเคยใช้งานคอมพิวเตอร์แบบไหนได้ที่บริษัท ที่บ้านก็ควรจะมีเหมือน ๆ กัน เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?
ผมได้ยินผู้ใช้หลายคนบอกผมว่า "ซื้อเครื่องมาใหม่ ทำไมไม่มี windows ก็ไม่รู้ ช่วยลงให้หน่อยสิ" หรือ "ที่ร้านทำไมไม่ลงออฟฟิศเวอร์ชั่นใหม่มาก็ไม่รู้ ช่วยติดตั้งให้หน่อยนะ" รวมไปถึง "ออฟฟิศก็ออกจะใหญ่ ทำไมไม่เห็นมี Photoshop เครื่องที่บ้านยังมีเลย" ฮ่วย !! เจ้านายก็เลยบอกว่าให้ซื้อมาซะ 1 Lic. ก็ยังดี ได้ครับ จ่ายไปประมาณ 5หมื่นกว่าบาท
ผมว่าคนใช้ทั่ว ๆ ไปหลายคนเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องมี Windows ถ้าพิมพ์งานต้องใช้ MS Word หรือ นักศึกษาเวลาที่จะเรียนวิชาเขียนโปรแกรมต้องลง VB ที่เครื่องนะ ไม่งั้นเรียนไม่ได้(อันนี้เคยเจอสมัยเรียน) สมมตินะครับ ว่าถ้าบ้านเราไม่มีพันธ์ทิพย์ให้เราได้ซื้อแผ่นราคา 100 กว่าบาทเนี่ย พวกเราจะยังเข้าใจกันแบบนี้อีกไหม ทุกวันนี้ผมยังหวังว่าจะไดัเจอกับผู้ใช้บางคนที่เข้าใจอย่างถูกต้องว่าจริงๆแล้ว MS Office ไม่ใช่ราคาแผ่นละร้อยกว่าบาทนะ
อยู่ที่บ้านผมก็ทำงานบน Ubuntu พิมพ์งานเล็กๆน้อยๆ ด้วย OO.o ท่องอินเทอร์เน็ตด้วยEpiphany (ยกเว้นธุรกรรมกับธนาคาร ต้องใช้ที่ออฟฟิศด้วย IE ???) ดูหนังด้วย VLC, ฟังเพลงด้วย Rythmbox,จัดการภาพถ่ายที่ไปเที่ยวมาด้วย Gimp,F-Spot... ก็น่าจะพอนะสำหรับผู้ใช้งานทั่วๆไป ใช้เวลาเรียนรู้นิดหน่อยก็พอใช้งานได้แล้วหล่ะ อยู่ที่ว่าจะเลือกที่จะเรียนรู้หรือไม่ ก็เท่านั้นเอง
ผมเอา Opensource มาประยุกต์ใช้กับงานที่ออฟฟิศได้ระยะหนึ่งแล้วหล่ะ ทำให้งานคล่องตัวขึ้นมากเลย เช่น Inventory Software อย่าง OCS-NG ที่ผมรันไว้บนเดเบียน หรือ โปรแกรมวิเคราะห์แพ็กเกตที่ดีมากอย่าง Wireshark ที่ติดตั้งไว้บน Windows XP บางครั้งผมก็ต้องใช้ Sysresccd บูตเข้าไปสแกนไวรัสในบางเครื่องรวมถึงแบ็คอัพข้อมูลของผู้ใช้
ผมว่าดีครับที่มีทางเลือกอย่าง Opensource อย่างที่คุณlew บอกว่า "เพื่อให้คนรับรู้ว่ามีมันอยู่ ให้คนตระหนักว่ามาตรฐานกลางคืออะไร และพวกเขามีทางเลือกที่จะไม่อิงกับผู้ขายรายใดรายหนึ่งได้"
เลือกที่จะใช้สิ่งที่ถูกต้องให้เหมาะกับงาน น่าจะเป็นสิ่งที่ดี และผมว่ามันน่าจะอยู่ร่วมกันได้นะครับ
ปล. ผมไม่เคยใช้แมคเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเอามาใช้กับงานอะไร - -! เคยแต่ไปลูบๆ ตาม iStudio มันดูเท่ไม่หยอกเชียวหล่ะ แต่ผมมี iPod นะ ก็ใช้กับ ubuntu นั่นหล่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย :-P
^ แบบนี้ล่ะครับเรียก advocate :D
เมื่อก่อน แฟนพันธ์แท้ Microsoft/MSN มีบริการอะไรใหม่มาลองหมด แต่ช่วงหลังที่ Open Source/Google มาแรงก็เริ่มไขว่เขว่ จนตอนนี้ชอบไปทั่ว
- แต่สุดท้ายระบบปฎิบัติการยังคงเลือก Microsoft Windows (ไม่คิดเปลี่ยนใจ) 1 เพราะ Driver มัน Support เยอะดี 2 เกมหลายเกม โดยเฉพาะ The Sims ซื้อมาตั้งแพงเล่นไม่ได้ก็กระไรอยู่ ส่วนเรื่องแฮงค์ตั้งแต่แรม 1.5G เครื่องไม่เคยแฮงค์เลยนะ(Windows XP) 3 มีประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับ Red Hat เลยขยาด Linux(Ubuntu ก็โอนะ พอไหว) 4 ใช้เว็บการเงินเยอะ ต้องใช้ IE 5 ถ้าเล่น Vista แล้ว น่าจะชอบมากกว่า Mac OS X(แต่ตอนนี้ยังชอบ XP มากกว่าอยู่ดี) 6 Gtalk ที่ใช้ประจำ ไม่มี Linux Version รวมไปถึงอีกหลายๆ โปรแกรม
- มือถือชอบ Nokia ธรรมดาๆ แต่ใช้ Windows Mobile ไม่ชอบเพราะมันไม่เป็นโทรศัพท์ที่ดี แต่เปลี่ยนไม่ได้แล้วเพราะไม่มีตังค์ไปซื้อมือถือใหม่แล้ว แต่รวมๆก็ work นะ จัดการ Task/Calendar สะดวกดี จริงๆ ใช้บ่อยกว่าเครื่องที่บ้านอีก ทั้งดูเมล์ อ่านFeed เล่นเกม ยกเว้นทำงาน
- ฟังเพลง จริงๆเฉยๆกับ Apple แต่ใช้ iPod เพราะชอบทีมันเสียงดีและรูปทรงไม่ตกสมัย
- บริการอินเตอร์เน็ต เมื่อก่อนชอบ MSN มาก แต่พอ Windows Live มาปั๊บ ทั้งใจให้ Google ไปปุ๊บ
- OpenSource ชอบ Firefox เข้าขั้นขาดไม่ได้ VLC ชอบพักนึง แต่ใช้ WMP+Codec แล้วเร็วกว่ากับ Sub ไม่เอ๋อ OO.o เคยย้ายมาใช้พักใหญ่(แปลงทุกไฟล์เป็น Open Document)ก็โอเคเลยนะ ไม่มีปัญหาอะไรนอกจากความช้า ฟังก์ชั่นใช้ง่ายไม่ปวดหัว ถูกใจสุดๆ แต่ดันมีปัญหาปวดหัวสุดๆเวลาโอนไฟล์ให้ชาวบ้าน เลยซาโยนาระ
สรุปอันไหนใช้แล้วปวดหัวน้อยที่สุดก็อันนั้นแหละ! ไม่อยากเป็นผู้นำ ขอให้ใช้สบายๆ ปวดหัวน้อยๆ ก็พอ
ไม่มีตังซื้อ
รอมันเหลือแค่ 1000-2000 ก่อนคงจะใช้ของแท้ แต่พวกโปรแกรมอื่น ๆ ก็แพงเหลือหลาย
ใช้โปรแกรมพวก opensource คนที่มาใช้เครื่องเราก็บ่นว่าทำไมไม่ลง ทำงานไม่ได้
แล้วอยู่ที่สถาบันการศึกษาด้ว สอนแต่พวกนี้แหละ
น้องผมเรียนโยธา มีวิชา เขียนแบบด้วย autocad ซะงั้น ค่าลิขสิทธิ์ ต่อเครื่องเท่าไหร่
สรุป ถ้าอาจารย์ไทยยังมักง่ายก็ไม่มีทางที่จะทิ้ง software แผ่นละร้อยลงได้หรอก
ผมว่าต้องดูที่ตลาดแรงงานด้วยนะครับ ถ้าเรามีอุดมการณ์ ศึกษาและเรียนรู้แต่การใช้ซอฟต์แวร์ OpenSource อย่างเดียว แต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน มันก็แย่เหมือนกันนะครับ
ผมว่าของพวกนี้มันต้องเป็นไปทั้งระบบครับ จะไปว่าอาจารย์มักง่ายไม่ได้หรอก เพราะตลาดแรงงานต้องการคนใช้ซอฟต์แวร์ตัวนั้น ก็ต้องสอนตัวนั้น
ลำพังพวกเรากลุ่มเดียวมันช่วยไม่ได้หรอก ต้องหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา และที่ขาดไม่ได้ก็คืออุดมการณ์อันแรงกล้าของพวกเรา ผมว่าวันนั้นเราคงไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องนี้อีกนะครับ
ผมมองประเด็นนี้สำคัญเหมือนกันครับ คืออย่าไปตึงกับ OpenSource มากเกินไป จนไม่คิดทำงานหาข้าวกิน
ในแง่ของกฏหมาย กฏหมายไทยระบุไว้ค่อนข้างชัดครับว่าการใช้งานเพื่อการศึกษาได้รับการยกเว้น ดังนั้นถ้าคิดตามตัวอักษรแล้วก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
แต่เราต้องตระหนักครับ ว่าการใช้งานอย่างนั้นมันไม่ยั่งยืน วันหนึ่งเราอาจจะถูกสนธิสัญญา XXX บังคับให้เรามีกฏหมายลิขสิทธิที่แข็งกว่าตอนนี้ ถึงตอนนั้นแล้วเราจะลำบาก
ถ้าเราทุกคน "ตระหนัก" ถึงความ สำคัญของการไม่ถูกผูกขาดกับผู้ขายรายใดรายหนึ่ง พวกเขาจะไม่อิงแอบกับเทคโนโลยีของผู้ขายเหล่านั้นมากเกินไปจนทำให้ต้องง้อผู้ขายรายนั้นๆ ตลอดเวลา
แค่นั้นก็น่าจะได้ประโยชน์แล้วครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่ว่าจะตอนไหนเมื่อไหร่ลินุกซ์ก็เป็นตัวเลือกแรกเสมอ ด้วยเหตุผลข้อเดียวเท่านั้น "สิทธิ์โดยสมบูรณ์" ตั้งแต่ไดรเวอร์ เคอร์เนล และโปรแกรม อยากรู้ว่าตรงไหนทำงานยังไงก็ดูโค้ด ไม่ชอบก็แก้ เจอปัญหาไม่ต้องอ้อนวอนใคร อยากได้อะไรเพิ่มก็ทำเอง ไม่ต้องรอจนลืม
วันใดที่ผม ไม่ต้องทำงานกะ vs studio วันนั้นผมอาจมูฟหนี ms เริ่มจะอยากไปเล่นอย่างอื่นบ้าง
ถ้ามีใครติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นให้ใช้นอกจากวินโดว์ ผมก็ไม่ดื้อรั้นครับ มีอะไรให้ใช้ ก็ใช้อันนั้น ----- http://www.peetai.com | เว๊ปบล็อกที่โม้แต่เรื่อง Software as a Service.
ความรู้ความเข้าใจและการใช้งานที่เป็นที่..ดูดีอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะใช้ Linux..แค่ไม่กี่ปี ทำงานกับ windowsมาเป็นหลายๆปี..มากกว่าlinuxตั้ง 3-4 เท่า..ก็เป็นแค่เท่าที่มีปุ่มมาให้กด .......................... ..จินตนาการ..(1)ถึงช่างซ่อม/สร้างเครื่องยนต์...ที่ไม่รู้การทำงาน..ที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆในระบบเครื่องยนต์...จะมีอนาคตกับอาชีพนี้ได้อย่างไร? ..จินตนาการ..(2)ถึงผู้ใช้รถที่ทำธุระกิจอยู่...ใครจะสนว่ารถ..ทำงานได้ไง..ซ่อมอย่างไร..ทำไมถึงคันเร่งและเบรกต้องอยู่ตรงนั้นข้างๆกัน? .... การที่(1)..กับ(2) .....ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Linux หรือ windows..ดีหรือไม่..อย่างไร..ก็ขึ้นอยู่ความเกี่ยวข้องของคนเหล่านั้นกับ..computer และความชอบส่วนตัว(แบบว่าหลงรัก) น้อยคนที่จะมองภาพร่วมว่ามันเป็นอย่าง ......... โชคดีที่..เครื่องแรกๆที่อบรม-หัดใช้เป็น..Unix ..mainframe (เท่มากๆ)..ไม่สามารถมาอ้างบุญคุณ..ข้าวแดงแกงร้อนได้ .............. ...ไม่ชอบสิ่งที่(บริษัท) M$..ทำ ...ชอบสิ่งที่..วงการ open source ทำ..เลยชอบ Linux ด้วย