ไมโครซอฟท์เผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Match และระบบชื่อเสียงของผู้เล่นที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยชุมชน (community-powered reputation system) บน Xbox One ดังนี้
ระบบค้นหาและจับคู่ผู้เล่นเกมได้รับการยกเครื่องใหม่ โดยอัลกอริทึมจะจับคู่กับผู้เล่นอื่นตามทักษะการเล่นเกม ภาษา อายุ สไตล์การเล่นเกม (gameplay style) และชื่อเสียง (รายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป) การหาผู้เล่นนี้จะไม่จำกัดเฉพาะคนที่ผู้เล่นรู้จักอยู่แล้วแบบใน Xbox 360 นอกจากนั้นเกมสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงสถิติของผู้เล่นได้ และข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการจับคู่กับผู้เล่นอื่นเช่นกัน
ในระหว่างที่ระบบจับคู่ผู้เล่นอื่น ผู้เล่นสามารถทำอย่างอื่นกับคอนโซลได้ อย่างการดูโทรทัศน์ เข้าเว็บไซต์ เป็นต้น เนื่องจากสถาปัตยกรรมของ Xbox One รองรับการทำงานพร้อมกันระหว่าง 2 แอพพลิเคชัน (Snap)
เมื่อ Xbox One สามารถจับคู่กับผู้เล่นอื่นได้แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนในลักษณะป็อบอัพขึ้นมา (toast) ผู้เล่นสามารถหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่แล้วเข้าไปเล่นเกมกับผู้เล่นอื่นได้ทันที
ระบบนี้จะช่วยคัดกรองผู้เล่นอื่นที่ไม่อยากเล่นเกมด้วยได้ ไมโครซอฟท์อธิบายว่า การเล่นเกมก็เหมือนกับการใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงที่มีผู้คนหลากหลายประเภท อย่างคนขี้อาย คนสุภาพอ่อนน้อม คนก้าวร้าว คนขี้โกง เป็นต้น ซึ่งผู้เล่นอาจไม่ต้องการคบค้าสมาคมกับคนบางกลุ่มด้วย
ระบบนี้จะนำข้อมูลป้อนกลับ (feedback) จากผู้เล่นเกมออนไลน์มาผ่านอัลกอริทึมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า "ยุติธรรม" ต่อทุกคน ผู้เล่นแต่ละคนจะถูกจัดกลุ่มตามคะแนนเป็น สีเขียว หรือ "Good Player", สีเหลือง หรือ "Needs Improvement" และ สีแดง หรือ "Avoid Me" ก่อนที่ผู้เล่นจะถูกจัดโยกจากกลุ่ม "Needs Improvement" เป็น "Avoid Me" ระบบจะแจ้งเตือนผู้เล่นอย่างต่อเนื่องว่าผู้เล่นสร้างผลกระทบต่อผู้เล่นเกมรายอื่นอย่างไร
ไมโครซอฟท์ยังกล่าวว่า ระบบจะไม่ลงโทษผู้เล่นที่ดีแต่ถูกรายงานในเชิงลบเพียงไม่กี่ครั้งต่อเดือน นอกจากนั้นระบบจะตรวจสอบว่าผู้แจ้งข้อมูลนั้นเล่นเกมกับผู้เล่นที่เขารายงานว่าเล่นไม่ดีหรือไม่ หากไม่ใช่การรายงานนี้จะไม่ได้รับการพิจารณา และระบบจะตรวจสอบชื่อเสียงของผู้แจ้งข้อมูล จำนวนการแจ้ง และปัจจัยอื่นประกอบการพิจารณาด้วย