Tags:
Node Thumbnail

หลังจากที่พัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับและผ่านการทดสอบมามากมาย ตอนนี้มีกระแสข่าวว่า Google กำลังเตรียมที่จะออกแบบและสร้างรถยนต์ไร้คนขับขึ้นเองแล้ว จากเดิมที่เป็นการนำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไปมาดัดแปลง

รถยนต์ไร้คนขับรุ่นต้นแบบของ Google ที่เห็นกันผ่านสื่อต่างๆ นั้น เป็นการนำรถยนต์นั่งมาดัดแปลงโดยเพิ่มอุปกรณ์ตรวจจับต่างๆ พร้อมระบบสื่อสาร และซอฟต์แวร์การประมวลผล แต่นั่นยังไม่ใช่ร่างสุดท้ายของรถยนต์อัตโนมัติที่ Google ใฝ่ฝันถึง และนั่นทำให้ Google ต้องทำงานหนักเพื่อหาผู้ร่วมโครงการที่จะร่วมกันออกแบบและสร้างรถยนต์ไร้คนขับที่ฝังฮาร์ดแวร์เซ็นเซอร์ต่างๆ ตลอดจนระบบประมวลผลและอุปกรณ์สื่อสารไว้ภายในตัวรถอย่างกลมกลืน

แต่จนแล้วจนรอดดูเหมือนจะไม่มีใครเอาด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของข่าวลือว่าขณะนี้ Google จึงเตรียมการที่จะออกแบบรถยนต์อัจฉริยะนี้เอง และแน่นอนว่าสร้างภายใต้ชื่อของตนเองด้วย ซึ่งว่ากันว่า Google กำลังอยู่ในช่วงหาบริษัทผู้รับจ้างผลิตรถยนต์ตามการออกแบบของตนเองอยู่

แนวคิดเรื่องการใช้รถยนต์ไร้คนขับที่ Google จะนำเสนอในระยะแรกนี้คือเพื่อใช้งานเป็นรถแท็กซี่อัตโนมัติ ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับการลงทุนโดย Google Venture ที่ยอมจ่ายเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์แก่ Uber บริษัทผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้รับหน้าที่ดำเนินการบริหารจัดการแท็กซี่ไร้คนขับของ Google ต่อไปหากข่าวนี้เป็นจริง

ที่มา - The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: Charin Tapang
ContributorAndroidRed HatUbuntu
on 24 August 2013 - 16:08 #615103
Charin Tapang's picture

อยากเห็นแล้ว

By: Witna
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 16:10 #615104

ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนี้

ผู้รับผิดชอบจะเป็นทางกูเกิ้ล หรือทางบริษัทแท๊กซี่ ที่เป็นเจ้าของรถคนนั้นๆ นิ ?

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 16:55 #615119 Reply to:615104
nessuchan's picture

ซ้ำครับ

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 16:56 #615120 Reply to:615104
nessuchan's picture

ถ้าเรานั่ง Taxi ยี่ห้อ Toyota แล้วเกิดอุบัติเหตุ ผู้รับผิดชอบควรจะเป็นใคร? สหกรณ์ Taxi? คนขับแท๊กซี่? บริษัท Toyota?

คำตอบคือ บริษัทประกันครับ :P

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 August 2013 - 17:56 #615137 Reply to:615104
hisoft's picture

ลูกค้าที่โบกแท็กซี่ครับ :p

By: PathSNW
iPhoneAndroidSymbianWindows
on 24 August 2013 - 18:11 #615142 Reply to:615104
PathSNW's picture

ถ้าอุบัติเหตุเกิดจากคนประมาทเอง ก็ต้องรับผิดชอบเอง

แต่ถ้าเกิดจากระบบผิดพลาด แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็ต้องรับผิดชอบเองอีกแหละ :X แต่คาดว่าน่าจะส่งฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ในภายหลัง

แต่ส่วนมากผมเห็นเกิดอุบัติเหตุที่ไร

ประกันรับผิดชอบ ฮา :)

By: chayasorn
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 August 2013 - 21:31 #615192 Reply to:615104

เป็นเรื่องที่บริษัทรถยนต์กังวลมาก และหลีกเลี่ยงการใช้คำว่ารถยนต์ไร้คนขับเพราะคนขับคือผู้รับผิดชอบทางกฏหมายของรถคันนั้น (โดยทั่วไป) อย่างล่าสุด Infiniti Q50 ก็สามารถควบคุมรถให้วิ่งบนเลนของทางหลวง(ใน US) ได้เอง ป้องกันการชนคันหน้าได้เอง เพราะนักรีวิวหลายๆ คนก็ได้ทดลองปล่อยมือขับมาแล้ว เหยียบเข้าหาคันหน้าแล้ว แต่ทาง Infiniti ก็เลือกที่จะใช้คำว่าระบบช่วยขับขี่หรือป้องกันมากกว่า ซึ่งผมคิดว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะกังวลว่าจะทำให้เข้าใจผิดและอาจจะเป็นปัญหาทางกฏหมายต่อไปได้

By: Xenip
Windows PhoneSymbianWindows
on 24 August 2013 - 16:13 #615105
Xenip's picture

ขับใน กทม. ไปๆหยุดๆ น่าจะพอไหวนะครับ

By: zalapao
Android
on 24 August 2013 - 16:26 #615109 Reply to:615105
zalapao's picture

มอเตอร์ไซค์ รถเมล์ มินิบัส Taxi ??

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 August 2013 - 17:56 #615136 Reply to:615105
hisoft's picture

ถ้าปาดเลนไม่เป็นนี่มีสิทธิ์ได้จอดอยู่เฉย ๆ เลยนะครับ :p

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 25 August 2013 - 01:14 #615231 Reply to:615105
BLiNDiNG's picture

ขับใน กทม นอกจาก detect รถคันอื่น ต้อง detect "หลุม" ได้ด้วย​นะ​ครับ​

ถนนยุบเป็น​ว่าเล่น น่ากลัว​ไม่​ใช่น้อย​

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 24 August 2013 - 16:18 #615106
panurat2000's picture

ตอนนี้มีกระแสข่าวว่า Google กำลังเตรียที่จะออกแบบ

เตรียที่ => เตรียมที่

By: Amethyst on 24 August 2013 - 16:33 #615112

ปัญหาคนขับรถ Street view ต้องไปสาบานกับพระประธานก็จะหมดไป

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 16:50 #615118 Reply to:615112
put4558350's picture

โดยรถหายไปทั้งคันแทน -*-


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: vongola1995
AndroidWindows
on 24 August 2013 - 17:03 #615124 Reply to:615112
vongola1995's picture

ชาวบ้านจะแห่มาถูรถ เพราะไม่เคยเห็นรถไร้คนขับ

By: nottoscale
Windows Phone
on 24 August 2013 - 16:40 #615114

วิ่งบ้านเราหายแน่นอนอิอิ

By: wichate
Android
on 24 August 2013 - 16:47 #615116

^ ผมละฮา 2 ment บนจริงเชียว..

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 16:59 #615123
nessuchan's picture

หวังว่าพอเข้ามาบ้านเราคงไม่เจอแบบว่า อ่อ ไม่ไปครับ ต้องส่งรถ

By: neomancer
Android
on 24 August 2013 - 17:04 #615125 Reply to:615123
neomancer's picture

ฮาๆ กำลังนึกถึงเลย คงไม่มี "ส่งรถครับ" "เติมแก๊ซครับ" เบื่อเต็มทนแล้วววว

By: mnobita
iPhoneWindows
on 24 August 2013 - 17:08 #615126
mnobita's picture

ทำไมผมรู้สึกว่า รถไร้คนขับ มันเป็นไปได้ยากมากนะ

แต่คิดไปคิดมา เครื่องบินยังมีระบบออโต้เลย (แต่ไม่รู้ว่าออโต้ตั้งแต่ ขึ้นจนลงได้หรือเปล่า)

By: koalaz
ContributorAndroid
on 24 August 2013 - 17:54 #615135 Reply to:615126
koalaz's picture

เครื่องบินพานิชย์ แค่ระดับการบินของแต่ละไฟลท์ก็ต่างกันแล้วครับ แต่ละเครื่องจะถูก Assign ระดับความสูงแยกกันเลย แล้วอีกอย่างก็มีสถานการณ์ให้นักบินต้องบินเองอยู่เรื่อยแหละ โดยเฉพาะพวก เอาเครื่องขึ้น เอาเครื่องลงนี่่แหละ


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: quake_the_rock
iPhoneRed HatUbuntuWindows
on 26 August 2013 - 00:43 #615492 Reply to:615126
quake_the_rock's picture

ฟังจากน้อง (เป็นนักบิน) เครื่องบิน model ใหม่ๆ นี่ จะมี profile ของแต่ล่ะสนามบินเอาไว้ให้ระบบบังคับเครื่องบินขึ้น-ลง ได้เองเลยครับ
เราแค่จิ้มบนหน้าจอ touch screen ที่มีอยู่สองจอให้ถูกต้องว่าจะทำอะไรก็พอ

By: koalaz
ContributorAndroid
on 24 August 2013 - 17:49 #615132
koalaz's picture

ปัญหาของรถยนต์ไร้คนขับ ในฐานวะวิศวกรจราจร ผมมองงี้นะ

  1. ปัญหาของเรื่อง Reliability อันนี้ตรงตัว ทั้งเรื่องสเถียรภาพของ OS เอง ทั้งเรื่องสภาพของอุปกรณ์ อย่าลืมว่า ยิ่งระบบ Electronic เข้ามาเกี่ยวเยอะความซับซ้อนก็สูงขึ้น

  2. Interaction ระหว่าง รถ ปกติมองกันง่ายๆ ในบรรดา Simulation รถทั้งหลายจะใช้ 3 อย่างเป็นหลักในการโมเดลรถคือ Car-Following Model (พฤติกรรมการเร่ง การชะลอรถ เมื่อเทียบกับระยะห่าง) Lane Changing (อันนี้ตรงตัว) สุดท้ายคือ Gap Acceptance ก็คือว่าระยะต่ำสุดที่ยอมรับได้ในการเลี้ยวการเปลี่ยนเล่น ซึ่งพวกโมเดลต่างๆ พวกนี้ พูดกันตามตรงก็คือไม่มีโมเดลไหนถูกร้อยเปอร์เซนต์ เพราะในความเป็นจริง พฤติกรรมของคนเราหลากหลายมาก ผมมองว่าด้วยหลักการณ์ 3 ตัวนี้ + กับเทคโนโลยีเรื่องระบบนำร่อง มันเพียงพอที่จะทำให้รถวิ่งได้อย่างปลอดภัย อาจจะดีกว่าด้วยเรื่องระเบียบวินัย ถ้าทั้งถนนเป็นรถสมองกลเหล่านี้หมด เพียงแต่ความเป็นจริง เราต้องแชร์ถนนกับคนทั่วไป รถที่ขับกับคนทั่วไป ซึ่งยากที่จะคาดเดาเหลือเกินว่าพฤติกรรมการขับรถจะเป็นไง แค่ต่างเมือง พฤติกรรมก็ห่างกันไกลแล้วครับ เท็กซัสมีปัญหาคนขับเร็ว ในขณะที่ฟลอริด้า(โดยเฉพาะโซนหาดๆ อย่างซาราโซต้า เซ็นท์พีท มีปัญหาพวกลุงๆ ป้าๆ ขับช้าเกินไป) อันนี้จะปวดหัวปวดตับกันเลยทีเดียว แล้วไหนจะการขับรถข้ามโซนอีก ปรับ AI กันมึนไปหมดแน่ๆ


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 18:41 #615151 Reply to:615132
put4558350's picture

กตหมายที่ยอมให้ Self-Driving Car วิ่งบนถนน (Nevada, Florida, California) มีข้อกำหนดว่า "ต้องมี" คนนั้งควบคุมอยู่ และสามารถเหยียบเบรคใด้ตลอดเวลาครับ

ความจริงเคยมีอุบัติเหตุเพียง 2 ครั้งที่เกิดเคยขึ้นกับโปรเจ็คนี้ ครั้งแรกคือมีคนขับเข้ามาชนท้าย อีกครั้งเป็นการขับแบบ manual

และเมื่อกลางปีที่แล้ว Google แจ้งว่าใด้ทดสอบ Self-Driving Car ครบ 500,000 กิโลเมตร โดยไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ครับ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: koalaz
ContributorAndroid
on 24 August 2013 - 18:48 #615154 Reply to:615151
koalaz's picture

ตลกร้ายที่สุดคือ ผมอยู่ฟลอริด้า แต่ไม่รู้ว่ามีการทดลองที่นี่ด้วย *ตึ่ง


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 18:59 #615160 Reply to:615154
put4558350's picture

ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ เค้าบอกว่า อุบัติเหตุทางรถยนต์ 93% เกิดจาก human error (ปี 2010 เฉพาะ us ข้อมูลโดย nhtsa)


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: koalaz
ContributorAndroid
on 24 August 2013 - 19:33 #615169 Reply to:615160
koalaz's picture

อันนี้อยู่แล้วครับ สาเหตุส่วนใหญ่ คนอยู่แล้ว

แต่ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของ combine factor ซะมากกว่า แต่เรื่อง Human Factor ยังไงก็หนีไม่พ้นครับ

ของ FHWA ถึงมี Lab Human Factor แยกตะหากไงครับ :)


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: adamy
iPhoneAndroidBlackberryUbuntu
on 24 August 2013 - 18:06 #615141

น่าสนใจครับ แต่ใช้จริงยากเพราะ % ความผิดพลาดต้องต่ำมากๆในการเผชิญปัจจัยภายนอกที่เยอะมากๆครับ

ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

By: leonoinoi
AndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 18:33 #615146

ยังไงก็ต้องทำเอง ตอนนี้ทุกคนกลัว google กันหมดแล้ว ไม่มีใครทำให้แน่ ดีไม่ดี นี่อาจเปลี่ยนธุรกิจรถ เหมือนตอน iphone เปลี่ยนมือถือ

By: crazygooyu
AndroidWindows
on 24 August 2013 - 18:50 #615156
crazygooyu's picture

ทำได้ แต่ถ้าวิ่งจะมีกฏหมายมารองรับรึเปล่า

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 18:52 #615157
mr_tawan's picture

ถ้ามารันในเมืองไทยต้องมีประท้วงกันแน่ ๆ ... ม็อประบุ ผู้โดยสารไม่ยินยอมให้คนขับบังคับรถเองไม่ว่ากรณีใดก็ตาม


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 24 August 2013 - 19:17 #615163

คงต้องใช้กับประเทศหรือเมืองที่มีระเบียบ มีวินัยในการขับเยอะๆ หน่อยแหละครับ บางประเทศอย่างบ้านเรา เวียดนาม อินเดียไรงี้ สงสัยจะได้จอดเฉยๆ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 August 2013 - 19:26 #615165
hisoft's picture

ผมชอบนะครับ อยากให้มันเกิดขึ้นจริงมาก

แต่ Google จะแทรกโฆษณาตรงไหนอีกดี เวลาบอกจะไปที่ไหนจะอ้อมไปเส้นทางที่ผ่านป้ายโฆษณาข้างทางรึเปล่า

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 19:58 #615176 Reply to:615165
put4558350's picture

ไม่มั้ง จะไปที่ใหนผ่านร้านอะไรบ้างก็มีข้อมูลอยู่แล้ว เอาสินค้า/บริการที่เราผ่านทางขึ้นหน้าจอ เราสนใจก็สามารถสั้งให้แวะง่ายๆใด้เลย


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: LEVY
AndroidSymbianWindowsIn Love
on 24 August 2013 - 19:31 #615167
LEVY's picture

เป็นแนวทางที่ดีเลยละครับ ถ้าทุกคนใช้รถขับเองหมด อุบัติเหตุคงลดลงมากๆ เพราะจะอยู่ในระเบียบวินัย ตั้งความเร็วสูงสุดใว้ ตั้งให้รับไฟจราจรกับทางม้าลายใว้ด้วย ตั้งให้รับตำแหน่งรถคันที่ใช้ระบบนี้ไปด้วย ช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริง อาจจะไม่ทันใจคนขับรถเร็วแน่ๆ

By: venus00tar
iPhoneAndroidUbuntu
on 24 August 2013 - 20:41 #615180
venus00tar's picture

คิดเล่นๆ เมื่อมันใช้งานได้จริงและสมบูรณ์ รถยนต์ยี่ห้อต้างๆ ก็หันมาติดตั้งระบบนำล่องของ Google ?

จะเหมือนแอนดรอยด์มั๊ยเนี่ย

By: Razor on 24 August 2013 - 21:09 #615189

ไร้สาระมาก ซื้อรถมาไม่ได้ขับเองแล้วจะซื้อมาทำไม

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 24 August 2013 - 21:43 #615193 Reply to:615189

อ่า งี้คนรวยๆที่มีคนขับรถนี่เค้าซื้อรถมาทำอะไรอ่ะครับ

By: wichate
Android
on 24 August 2013 - 21:51 #615194 Reply to:615189

คิดต่างจากผมนะ คือรถก็เสียตังซื้อมาตั้งแพง ยังต้องมาขับเองให้เหนื่อยอีก ซื้อมาขับทำไม เสียทั้งเงิน เสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 22:28 #615201 Reply to:615194
nessuchan's picture

แทกซี่ก็มีนี่ครับ?

By: ryudia
AndroidWindows
on 24 August 2013 - 23:14 #615211 Reply to:615201
ryudia's picture

มีแต่ไม่รับก็เหมือนไม่มีครับ

By: gondolaz
AndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 23:53 #615217 Reply to:615201
gondolaz's picture

Taxi นี่ยิ่งทำให้เสียสุขภาพจิตเลยครับ... ^ ^

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 24 August 2013 - 23:24 #615214 Reply to:615189
ตะโร่งโต้ง's picture

มองกว้างๆ หน่อยครับ

ถ้าวันหนึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์ มันจะช่วยให้คนพิการ หรือผู้สูงอายุ หรือแม้แต่เด็กที่ไม่อาจขับรถได้เอง เดินทางได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องรอคนอื่นรับ-ส่ง

มันไม่ไร้สาระครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Razor on 25 August 2013 - 00:23 #615218 Reply to:615214

ไร้สาระมากครับ
ตัวคุณตอนแก่จะขึ้นรถที่คุมโดยคอมพิวเตอร์ แล้วก็ตายโดดเดี่ยวในนั้น
หรือจะเลือกขึ้นรถเมล์ ที่มีมนุษย์อยู่รอบๆครับ

รถไม่มีคนขับไปเติมแก๊สเองได้ยังไง
แทกซี่ไม่มีคนขับ สามารถไปส่งผู้โดยสารในสถานที่นอกเหนือฐาณข้อมูลได้อย่างไร
แทกซี่ไม่มีคนขับ ไปส่งผู้โดยสารที่ "ไม่รู้ทาง" "ไม่ทราบชื่อปลายทางที่เป็น formal" ได้อย่างไร
รถไม่มีคนขับ จะไปส่งผู้โดยสารที่ "ตาบอด" ได้อย่างไร (ตาบอดทั้งรถทั้งคน) (ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของปลายทางได้ทั้งคู่)

เทคโนโลยีบางอย่างไม่มีประโยชน์จริง แต่มีประโยชน์ในการเป็น เครื่องชดเชยคุณค่าที่บกพร่องของมนุษย์ เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงพยายามคลั่งเทคโนโลยี (ซึ่งบางครั้งนำไปสู่หายนะ) หรือนำเทคโนโลยีมาประดับคุณค่าของตนเอง กระแส "เทคโนโลยีเพื่อประดับ" มันจึงเป็นสินค้าที่ขายได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้รังสรรค์อะไรให้กับมนุษย์อย่างแท้จริง

มองกว้างแบบ omnipotent ใช้ได้ใน sample space เท่านั้น ไม่เหมือน กับมองกว้างโดยมี enviroment คอยควบคุม

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 01:02 #615226 Reply to:615218
ตะโร่งโต้ง's picture

ผมเชื่อว่ามันจะมีโอกาสและวาระที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้ เชื่อว่ามันไม่ไร้สาระครับ

ส่วนเรื่องความเห็นของคุณนั้น ผมขอตอบดังนี้....

ไร้สาระมากครับ
ตัวคุณตอนแก่จะขึ้นรถที่คุมโดยคอมพิวเตอร์ แล้วก็ตายโดดเดี่ยวในนั้น
หรือจะเลือกขึ้นรถเมล์ ที่มีมนุษย์อยู่รอบๆครับ

ทำไมผมต้องตายโดดเดี่ยวในรถครับ?? ผมบอกว่า "ถ้าวันหนึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์" ก็แปลว่ามันเป็นที่ยอมรับว่าใช้ได้จริงแล้ว มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัว????

คุณอยากไปผจญภัยบนรถเมล์ก็เรื่องของคุณที่คิดว่าดีแล้ว ปลอดภัยแล้ว สะดวกแล้ว ก็แล้วแต่คุณเหอะครับ คนอื่นเขาไมจำเป็นต้องมองว่ามัน useless เหมือนคุณนี่

ถามจริง ตอนแก่คุณจะอยากนั่งรถเมล์จริงเหรอ? ปีนบันไดไหวรึเปล่าครับ?

รถไม่มีคนขับไปเติมแก๊สเองได้ยังไง

ทำไมรถจะไปปั๊มแก๊สหรือปั๊มน้ำมันโดยอัตโนมัติไม่ได้หากมันรู้ว่าเชื้อเพลิงใกล้หมด ก็ตั้งปลายทางเป็นสถานีเชื้อเพลิงของศูนย์กลางเดินรถไร้คนขับที่จัดเจ้าหน้าที่เติมเชื้อเพลิงไว้ต่างหากก็ยังได้ หรือคุณเข้าใจว่ารถตรวจปริมาณเชื้อเพลิงตัวเองไม่ได้? หรือคิดว่ารถตั้งเป้าหมายการเดินทางเองไม่ได้(ทั้งที่มีระบบนำทางและระบบสื่อสารในตัว)

แทกซี่ไม่มีคนขับ สามารถไปส่งผู้โดยสารในสถานที่นอกเหนือฐาณข้อมูลได้อย่างไร

ก็เพิ่มฐานข้อมูลสิครับ ว่าแต่ตอนนี้คุณยกตัวอย่างปลายทางที่ไหนได้บ้างที่อยู่นอกเหนือฐานข้อมูล Google Maps

แทกซี่ไม่มีคนขับ ไปส่งผู้โดยสารที่ "ไม่รู้ทาง" "ไม่ทราบชื่อปลายทางที่เป็น formal" ได้อย่างไร

ก็หาข้อมูลเพิ่มสิครับ search เอาก็ได้ แล้วเรื่องไม่รู้ทางนี่ ทุกวันนี้ที่ใช้แอพแผนที่กัน นั่นก็เป็นการถามทางจากคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระด้วยมั้ย?

รถไม่มีคนขับ จะไปส่งผู้โดยสารที่ "ตาบอด" ได้อย่างไร (ตาบอดทั้งรถทั้งคน) (ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของปลายทางได้ทั้งคู่)

ท่าทางคุณจะไม่รู้ว่าคนแรกที่ได้ทดสอบรถ google car น่ะเป็นผู้มีปัญหาทางการมองเห็นครับ (ป.ล.การที่คุณบอกว่ารถตาบอด แปลว่าคุณไม่ได้รู้จักรถยนต์ไร้คนขับของ Google เลย)

เทคโนโลยีบางอย่างไม่มีประโยชน์จริง แต่มีประโยชน์ในการเป็น เครื่องชดเชยคุณค่าที่บกพร่องของมนุษย์ เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงพยายามคลั่งเทคโนโลยี (ซึ่งบางครั้งนำไปสู่หายนะ) หรือนำเทคโนโลยีมาประดับคุณค่าของตนเอง กระแส "เทคโนโลยีเพื่อประดับ" มันจึงเป็นสินค้าที่ขายได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้รังสรรค์อะไรให้กับมนุษย์อย่างแท้จริง
มองกว้างแบบ omnipotent ใช้ได้ใน sample space เท่านั้น ไม่เหมือน กับมองกว้างโดยมี enviroment คอยควบคุม

ย่อหน้านี้อยากจะบอกว่ารถยนต์ไร้คนขับเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเพราะไม่มีวันทำได้จริงงั้นหรือ????
ถามจริงคุณเคยอ่านข่าวเรื่องรถยนต์อันนี้ของ Google มาก่อนไหม? เคยเห็นคลิปการทดสอบของมันไหม?
เคยอ่านข่าวหรือบทความข้อมูลเชิงเทคนิคไหมว่ามันทำงานอย่างไร? มีข้อจำกัดอย่างไร? มีเงื่อนไขการใช้งานอย่างไร? แล้วรู้ไหมว่าอุปสรรคจริงที่ทำให้รถคนนี้ยังค้างอยู่แค่รุ่นต้นแบบน่ะเป็นเพราะอะไร??????

ปัญหาใหญ่ๆ ตอนนี้คือเรื่องกฎหมาย และความเชื่อใจจากผู้คนในตัวเทคโนโลยีนี้ รวมทั้งประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ความเป็นไปได้ในทางวิศวกรรมนั้นมีให้เห็นชัดๆ แล้ว

เอาเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริงมาคุยกันดีกว่ามั้งครับ ก่อนที่จะมาด่วนสรุปว่าเป็นเพียงแค่ "เครื่องชดเชยคุณค่าที่บกพร่องของมนุษย์ เท่านั้น" หรือจะสรุปว่าเป็นเรื่อง "ไร้สาระ"

ป.ล. ผมไม่คิดว่าการใช้ศัพท์แสงภาษาอังกฤษจะช่วยให้การถกเถียงดูมีน้ำหนักหรือความน่าเชื่อถือมากขึ้นนะ ทางที่ดี หากคุณกล้าดูถูกผลงานทางวิศวกรรมว่าไร้สาระ ก็ควรหันมาเน้นเรื่องที่เป็นหลักการเชิงวิศวกรรมจริงจังดีกว่า


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Razor on 25 August 2013 - 01:45 #615238 Reply to:615226

ผมคิดว่า "น้ำหนัก" ไม่จำเป็นสำหรับผมหรอกครับ
มันจำเป็นสำหรับ "การชดเชยคุณค่า" เท่านั้น

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 23:30 #615467 Reply to:615238
ตะโร่งโต้ง's picture

สรุปคือ ศัพท์ประหลาดๆ ที่สรรหามาคุยนี่เพื่อ "การชดเชยคุณค่า" ของคุณหรือ?


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: tstcnr1u
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 02:37 #615250 Reply to:615218

ผมว่า comment พวกนี้แหละไร้สาระ

ตั้งแต่ซื้อรถมาไม่ได้ขับเองแล้ว สรุปรถมันมีไว้เดินทางหรือไว้ขับเล่นครับ ในเมื่อพาหนะ มันมีไว้เดินทาง ไว้ขนของ ได้ขับไม่ได้ขับมันเกี่ยวกับวัตุประสงค์หลักตรงไหน ที่เหลือมันแล้วแต่คนอยากจะเอาไปใช้ แต่คนส่วนมากเขามีรถไว้ทำไม

"ตัวคุณตอนแก่จะขึ้นรถที่คุมโดยคอมพิวเตอร์ แล้วก็ตายโดดเดี่ยวในนั้น หรือจะเลือกขึ้นรถเมล์ ที่มีมนุษย์อยู่รอบๆครับ"
แล้วทำไมต้องขึ้นคนเดียวครับ ลูกหลานไม่มีดูแลหรอ แล้วเวลาเจ็บป่วยลูกหลานจะได้มาดูแลไม่ใช่ลากขึ้นนอนแล้วต้องไปขับรถ ไปถึงโรงพยาบาลก็ตายอยู่เบาะหลังแล้ว

"รถไม่มีคนขับไปเติมแก๊สเองได้ยังไง"
ทำไมมันจะเติมไม่ได้ครับ อันนี้คงไม่ต้องพิมพ์ต่อนะ วิธีมีเป็นล้าน

"แทกซี่ไม่มีคนขับ สามารถไปส่งผู้โดยสารในสถานที่นอกเหนือฐาณข้อมูลได้อย่างไร"
"แทกซี่ไม่มีคนขับ ไปส่งผู้โดยสารที่ "ไม่รู้ทาง" "ไม่ทราบชื่อปลายทางที่เป็น formal" ได้อย่างไร"
แผนที่มี ก็จิ้มไปสิ

"รถไม่มีคนขับ จะไปส่งผู้โดยสารที่ "ตาบอด" ได้อย่างไร (ตาบอดทั้งรถทั้งคน) (ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของปลายทางได้ทั้งคู่)"
ถ้าผมมีคนในครอบครัวตาบอด ไม่เห็นยากเลย เมมใส่โทรศัพท์ไว้หรือไม่ก็ตั้ง auto ไว้ที่รถ หรือจะส่งข้อมูลจากที่ทำงานให้พาคนในครอบครัวมาหา (ไม่ได้อิงกับที่มันมีตอนนี้นะ กว่ามันจะขายคงมีอะไรให้เล่นอีกเยอะ) ยากตรงไหนกับเทคโนโลยีปัจจุบันถ้าเพิ่มความสามารถเรื่องขับได้เข้ามาก็จบเลย

"เทคโนโลยีบางอย่างไม่มีประโยชน์จริง แต่มีประโยชน์ในการเป็น เครื่องชดเชยคุณค่าที่บกพร่องของมนุษย์ เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงพยายามคลั่งเทคโนโลยี (ซึ่งบางครั้งนำไปสู่หายนะ) หรือนำเทคโนโลยีมาประดับคุณค่าของตนเอง กระแส "เทคโนโลยีเพื่อประดับ" มันจึงเป็นสินค้าที่ขายได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้รังสรรค์อะไรให้กับมนุษย์อย่างแท้จริง"
อาวุธมันอยู่ที่คนจะใช้ ไม่มีมีดคุณจะหั่นเนื้อกินได้ยังไง หรือคุณจะกลับไปกินแบบยุคหิน ทุกอย่างเป็นเทคโนโลยีของแต่ละยุคทั้งนั้นขอแนะนำให้คุณทิ้งไปให้หมด เสื้อผ้าก็ด้วย กลับป่าไปซะ

"มองกว้างแบบ omnipotent ใช้ได้ใน sample space เท่านั้น ไม่เหมือน กับมองกว้างโดยมี enviroment คอยควบคุม"
งงความหมายที่จะสื่อ แต่ผมเดาว่าไอ้ของที่ควบคุมคำตอบคุณคงเป็นความไม่รู้เท่านั้น

By: Razor on 25 August 2013 - 03:36 #615251 Reply to:615250

แล้วทำไมต้องขึ้นคนเดียวครับ ลูกหลานไม่มีดูแลหรอ แล้วเวลาเจ็บป่วยลูกหลานจะได้มาดูแลไม่ใช่ลากขึ้นนอนแล้วต้องไปขับรถ ไปถึงโรงพยาบาลก็ตายอยู่เบาะหลังแล้ว

[ ตอนเที่ยง วันศุกร์ที่ผ่านมาคุณอยู่กับอาม่าคุณรึปล่าวครับ ] ?
[ ตอนเที่ยง วันพุธที่ผ่านมาคุณอยู่กับอาม่าคุณรึปล่าวครับ ] ?

แผนที่มี ก็จิ้มไปสิ
[ คุณไม่รู้ทาง ไม่ทราบปลายทาง คุณจะจิ้มตรงใหนของแผนที่ ] ?

ถ้าผมมีคนในครอบครัวตาบอด ไม่เห็นยากเลย เมมใส่โทรศัพท์ไว้หรือไม่ก็ตั้ง auto ไว้ที่รถ หรือจะส่งข้อมูลจากที่ทำงานให้พาคนในครอบครัวมาหา (ไม่ได้อิงกับที่มันมีตอนนี้นะ กว่ามันจะขายคงมีอะไรให้เล่นอีกเยอะ) ยากตรงไหนกับเทคโนโลยีปัจจุบันถ้าเพิ่มความสามารถเรื่องขับได้เข้ามาก็จบเลย

[ คุณเป็นผู้ระบุปลายทาง คนตาบอดเป็นเพียงพัสดุ ไม่ใช่ผู้โดยสารที่ระบุปลายทางยืนยันปลายทางด้วยตัวเอง ]
[ คนตาบอดที่ไม่มีครอบครัวทำอย่างไร ] ?
[ คนตาบอดแต่กำเนิด แต่งงานมีลูกกันทุกคนรึปล่าวครับ ] ? ( เลี้ยงลูกทั้งๆที่ตาบอดได้อย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนกว่า)
[ แม่คุณตาบอด คุณกตัญญูด้วยการจับยัดใส่กล่องวิ่งได้รึปล่าวครับ ? ]

อาวุธมันอยู่ที่คนจะใช้ ไม่มีมีดคุณจะหั่นเนื้อกินได้ยังไง หรือคุณจะกลับไปกินแบบยุคหิน ทุกอย่างเป็นเทคโนโลยีของแต่ละยุคทั้งนั้นขอแนะนำให้คุณทิ้งไปให้หมด เสื้อผ้าก็ด้วย กลับป่าไปซะ

[ คุณรู้รึไม่ โรมันมีระบบชลประทานที่ดีมาก เป็นศูนย์กลางการค้า อารยธรรม
แต่ท่อปะปาทำด้วย "ตะกั่ว" ก่อพิษให้กับประชาชนโดยไม่มีใครรู้เอาจนกระทั่งนักโบราณคดีไปพบ]
[ไม่มีการฟันธงว่า ที่อาณาจักรโรม ล่มสลายหรือเกิดมีจักรพรรดิที่สติไม่ดี เป็นผลมาจาก พิษตะกั่ว หรือไม่]

[ เทคโนโลยีที่ประเสริฐในวันนี้ อาจทำให้เรากลายเป็นแค่ไอ้โง่ในสายตาของคนในอนาคต ]

SIMPLE

By: tstcnr1u
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 04:56 #615274 Reply to:615251

แล้วคุณต้องการอะไรครับ เทคโนโลยีพระเจ้าแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แค่มันช่วยบางคนได้บ้างก็มีประโยชน์แล้ว

[ ตอนเที่ยง วันศุกร์ที่ผ่านมาคุณอยู่กับอาม่าคุณรึปล่าวครับ ] ?
[ ตอนเที่ยง วันพุธที่ผ่านมาคุณอยู่กับอาม่าคุณรึปล่าวครับ ] ?
อาม่าที่ป่วยเดินไปขึ้นรถเมล์ที่ห่างจากบ้านยังไงหว่า ตรงนี้มีทางเลือกรึ อยู่ไม่อยู่เกี่ยวอะไรกับเทคโนโลยี หรือถ้าอาม่าคุณเกิดอยู่ดีๆมีอาการไม่มีแรงเดินไปขึ้นรถหน้าปากซอยคุณจะปล่อยตาย ยายผมสมัยมีชีวิตอยู่ก็เดินไม่ได้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดเวลาลูกหลานออกไปทำงานกลางวันคือคลานในสถานที่ใกล้ๆ คงไม่ใช่ไปคลานกลางถนนแน่ๆ ถ้ารถมันจอดอยู่หน้าประตูอันนี้พอเป็นไปได้ หรือจะให้ลูกหลานลาออกจากงานมานั่งเฝ้า 24 ชั่วโมงดีหว่า

[ คุณไม่รู้ทาง ไม่ทราบปลายทาง คุณจะจิ้มตรงใหนของแผนที่ ] ?
ถ้ามันจะไม่รู้จะไปไหนขนาดนั้นจะคนขับ จะรถไร้คนขับ ก็ไม่ต้องไปมันแล้ว ของแบบนี้ต้องใช้หลายๆทางออกช่วย คุณขึ้นแท็กซี่แล้วเขาก็ไม่รู้ทางคุณจะทำไงให้เขาพาไปให้ได้หรอ ถ้ารู้แค่ชื่อสถานที่ก็โทรไปถามทำแบบ toyota gbook ก็ได้อันนี้เคยใช้ไหม

[ คุณเป็นผู้ระบุปลายทาง คนตาบอดเป็นเพียงพัสดุ ไม่ใช่ผู้โดยสารที่ระบุปลายทางยืนยันปลายทางด้วยตัวเอง ]
ทางออกมีมากกว่า 1 อันนั้นแค่ทางเลือกนึง และแน่นอนจะมองแบบนั้นมันก็แบบนั้น แต่ถ้าเป็นผมทำไงก็ได้ไปหาครอบครัวที่รักได้ก็เพียงพอ ไม่เห็นจะสนว่าจะไปยังไงดีกว่าไปไม่ได้ทั้งนั้น

[ คนตาบอดที่ไม่มีครอบครัวทำอย่างไร ] ?
ถ้าจะแก้ปัญหาแค่วิธีนี้ก็ตอบว่าซวย แต่อย่างที่บอกวิธีแก้ไม่ได้มีเพียง 1 แต่ถ้าไม่มีคนขับและไม่มีปัญญาไปขึ้นรถห่างจากบ้านก็ไม่เห็นต่าง บางคนอาจจะใช้ไม่ได้แต่มีคนที่ใช้ได้ก็มีประโยชน์แล้ว

[ คนตาบอดแต่กำเนิด แต่งงานมีลูกกันทุกคนรึปล่าวครับ ] ? ( เลี้ยงลูกทั้งๆที่ตาบอดได้อย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนกว่า)
มันเกี่ยวกับประเด็นนี้ตรงไหนหว่า ไปอ่านธรรมะหรือฟังอะไรเพี้ยนๆมาแหง

[ แม่คุณตาบอด คุณกตัญญูด้วยการจับยัดใส่กล่องวิ่งได้รึปล่าวครับ ? ]
แม่ผมขอแค่ให้มาหาลูกๆได้ มันเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกๆจะทำงานมีเวลาไม่มากและได้เจอกันน้อย ทางแก้คือไปหาได้ไม่ใช่บอกว่าลูกต้องมีเวลาถ้ามันทำไม่ได้ (ไม่ใช่ว่าไม่สนใจแม่ แต่ชีวิตจริงไม่ใช่หนังสือนิทานจะได้ไปนั่งเฝ้าไม่ทำมาหากินอะไร มีเวลาก็ไปหา ลดเงินถ้ายังอยู่ได้ก็ยอมลด ของแบบนี้มันขึ้นกับบุคคลไม่ใช่อันไหนดีไม่ดีความลงตัวไม่ได้เท่ากันทุกกลุ่มคน)

[ คุณรู้รึไม่ โรมันมีระบบชลประทานที่ดีมาก เป็นศูนย์กลางการค้า อารยธรรม
แต่ท่อปะปาทำด้วย "ตะกั่ว" ก่อพิษให้กับประชาชนโดยไม่มีใครรู้เอาจนกระทั่งนักโบราณคดีไปพบ]
[ไม่มีการฟันธงว่า ที่อาณาจักรโรม ล่มสลายหรือเกิดมีจักรพรรดิที่สติไม่ดี เป็นผลมาจาก พิษตะกั่ว หรือไม่ ]
[ เทคโนโลยีที่ประเสริฐในวันนี้ อาจทำให้เรากลายเป็นแค่ไอ้โง่ในสายตาของคนในอนาคต ]
งั้นอย่างที่คอมเมนต์แหละ เลิกใช้ไปให้หมดเพราะไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดอะไรขึ้นที่ยังคิดไม่ออก คอมก็เลิกเล่นซะทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเสียสุขภาพ

สุดท้าย ทำไมคุณถึงเอาสาระในมุมมองคุณมายัดใส่คนอื่นนัก แค่จะถามว่าใครชอบอะไรมันก็ไม่เหมือนกันแล้ว ผมไม่เห็นจะสนว่ารถมันจะวิ่งยังไงขอแค่ไปถึง และหลายคนคงไม่ต่าง ซึ่งบางคนอาจจะต่างผมไม่ได้ว่าก็แล้วแต่จะชอบ

By: Razor on 25 August 2013 - 10:20 #615282 Reply to:615274

คุณ ต อ บ reply ผม ก่อน นะ ครับ แถมตอบโดย อ่านไม่ได้ศัพท์ด้วย
ตกลงคนยัดมุมมองคุณหรือผม หมุน scroll wheel ขึ่นไปดูเองเลยครับ

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 14:38 #615346 Reply to:615218

ตอนแก่จะขึ้นรถแบบไหนนี่คงแล้วแต่ความชอบ ไม่น่าเป็นสาระสำคัญ

รถไม่มีคนขับไปเติมแก๊สเองยังไง...... google map ก็มี ตัวตรวจวัดระดับเชื้อเพลิงก็มี อีกหน่อยถ้าระบบตรวจสอบสภาพจราจรพร้อมก็ครบแล้ว
ให้ AI คำนวนเอาว่าเหลือเชื้อเพลิงประมาณเท่าไหร่ เมื่อคำนวนจากสภาพการจราจรแล้วมีเชื้อเพลิงพอมั้ย ถ้าไม่พอก็แวะไปที่ปั๊มที่ใกล้ที่สุดหรือเจ้าของตั้งระบบว่าจะไปปั๊มไหนยังได้เลย อันนี้ก็ไม่น่าเป็นสาระสำคัญ

ส่วนกรณีสถานที่ที่ไม่มีในฐานข้อมูล อันนี้เห็นด้วยในกรณีที่ถือว่าคนขับแท๊กซี่รู้ทาง แต่ก็ขึ้นกับเวลาเท่านั้นว่าระบบฐานข้อมูลจะแซงความทรงจำส่วนบุคคลเมื่อไหร่ แม้แต่ชื่อที่ไม่เป็นทางการก็น่าจะหาจาก google ได้สบายๆ อันนี้ก็ไม่น่าเป็นสาระสำคัญ

คนตาบอดทั้งรถ ขึ้นแท๊กซี่มีคนขับก็ยืนยันสถานที่ไม่ได้อยู่ดีว่าแท๊กซี่จะพาไปถูกทางรึเปล่า หรือจะเจอพาไปประทุษร้ายมั้ย +- แล้วก็ไม่เห็นต่างกัน อันนี้ก็ไม่เป็นสาระสำคัญ ว่าแต่ปกติคนตาบอดเดินทางกันเป็นกลุ่มไม่มีคตาดีไปด้วยเลยจริงเหรอ

ที่น่ากังวลคือระบบมันจะใช้งานได้ถูกต้องจริงรึเปล่า และมีข้อผืดพลาดมากหรือน้อยกว่าเมื่อทียบกับมนุษย์เท่านั้นเอง ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆอยู่แล้ว ถ้าวันนึงมันพิสูจน์ได้ว่าความผิดพลาดน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญก็หมายถึงการเดินทางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อุบัติเหตุที่ลดลง การใช้พลังงานที่ลดลง ถ้าเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มีประโยชน์ก็คงต้องขอให้ยกสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์มาให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อยละ

ประเด็นของส้มคือไม่ใช่แอปเปิลทำมากกว่ามั้ง ไม่งั้นคงเป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งมวลมนุษยชาติไปแล้ว

By: nrml
ContributorIn Love
on 25 August 2013 - 03:31 #615259 Reply to:615189
nrml's picture

ผมเข้าใจดีครับ ช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีก็มักจะมีคนออกมาต่อต้านแบบนี้แหละ

By: Razor on 25 August 2013 - 03:50 #615262 Reply to:615259

ขนาดระบบโบราณอย่าง iDrive ใน BMW ยังระบุเลยครับว่า dont use camera system solely .

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 23:43 #615472 Reply to:615262
ตะโร่งโต้ง's picture

รถของ Google ก็ไม่มีใครสักคนออกมาบอกว่าให้เชื่อมั่นกับมันเต็มที่นะครับ
กฏหมายที่ US ก็ระบุเรื่องคนนั่งหลังพวงมาลัยไว้ด้วยดังที่ทราบ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: I3assy on 25 August 2013 - 09:47 #615289 Reply to:615189
I3assy's picture

ผมว่าเทคโนโลยีตัวนี้ดีมากนะ สมควรสนันสนุนด้วยซ้ำ ถ้าใช้กันทั้งประเทศ ไม่มีแน่ๆ ที่จะเจอรถขับซิ่งจนชนนู่นชนนี่ (ถ้าระบบนี้มันสมบูรณ์แบบแล้วอ่ะนะ)

ปล. ถ้าเป็นผม ผมจะได้เอาเวลาที่อารมเสียในการขับรถตอนนั้น มาใช้เวลากับครอบครัว ด้วยเทคโนโลยีนี้แหละ หวังว่าจะออกมาให้ผมใช้ก่อนผมตาย

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 August 2013 - 13:49 #615336 Reply to:615189
mr_tawan's picture

ก็ไปซื้อรุ่นที่ไม่มีระบบนี้สิครับ แต่จริง ๆ มันก็น่าจะปิดระบบได้นะผมว่า

ยังมีอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่จำเป็นต้องพึ่งระบบนี้ครับ (เช่น รถเมล์ รถแท็กซี่ ขนส่งมวลชนทั้งหลายนี่ควรเอามนุษย์ออกไปจากปัจจัยหลักให้หมด)


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Remma
AndroidWindows
on 24 August 2013 - 22:14 #615198
Remma's picture

การจราจรจะบนถนนหรือน้ำหรืออากาศ ผมว่ามันมีสิ่งสำคัญอย่างนึงคือ การรับผิดชอบร่วมกัน เพราะยานพาหนะที่เคลื่อนที่มันเป็นปัจจัยให้มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ยังไงก็ต้องมีคนรับผิดชอบต่อยานพาหนะนัันๆ(ลองนึกถึงสายการบินที่ไม่มีคนขับ คุณจะกล้าใช้บริการมั้ย ทั้งๆที่ทำได้จริงมาตั้งนานแล้ว) ถ้าอยู่ๆกูเกิลเอาความรับผิดชอบที่อยู่หลังพวงมาลัยตรงนี้ออก จะเกิดอะไรขึ้น ความรับผิดชอบทั้งหมดไปอยู่ที่กูเกิล? ไปอยู่ที่บริษัทประกัน? ยังอยู่ที่เจ้าของรถ? แล้วสมมุติว่าเกิดอุบัติเหตุมีคนตายและสาเหตุมาจากระบบ(ไม่มีระบบไหนในโลกที่เพอร์เฟ็ก) กูเกิลจะรับผิดชอบยังไง? ปิดระบบชั่วคราวแล้วไปปรับแก้?(ถ้าเป็นเครื่องบินยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่วิ่งอยู่วันละหลายล้านคันคงวุ่ยวายดีพิลึก)

แต่ถ้าเป็นเหตุผลด้านอื่น เช่น ใช้สำหรับผู้พิการ ใช้เป็นระบบสำรองเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในเวลาฉุกเฉินเช่นตอนคนขับหลับในหรือทัศนะวิสัยแย่ อันนี้ผมยอมรับว่ามีประโยชน์และสนับสนุน แต่เหมือนกูเกิลจะไม่ได้ผลักดันให้มาในแนวทางนี้ซักเท่าไหร่

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 August 2013 - 23:11 #615205 Reply to:615198
put4558350's picture

ระบบอัตโนมัติที่มีคนควบคุม ไม่ไช่เรื่องใหม่ครับ เครื่องบิน รถไฟ รถราง ... อัตโนมัติทั้งนั้น self driving car ก็กำหนดให้มีคนอยู่และสามารถเหยียบเบรกและกลับมาเป็น manual ใด้ตลอดเวลา เวลาเกิดอะไรขึ้นก็ต้องโทศคนแหละครับ

แต่ระบบที่ ไม่ลืม ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง ไม่เมา ไม่ sms ไม่ตกใจ ไม่ขับผิดกตจราจร เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็สามารถแก้ไขระบบ update software ให้เกิดอุบัติเหตุใด้ยากขึ้น ... ซึ่งอาจจะดีกว่าให้คนขับ เพราะต้องเริ่มจาก noob ที่ขับคร่อมเลนและจอดรถยื่นออกมาในถนน พอคล่องแล้วบ้างก็ขับเร็วกว่าที่กตหมายกำหนด บ้างก็เมา บ้างคนก็ขับรถตามอารม(จำหมูแฮมเมื่อ 6 ปีที่แล้วใด้หรือปล่าว)


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Razor on 25 August 2013 - 00:28 #615215 Reply to:615205

คนตาย 1000 คนแรกจะเป็นแค่ "หนูทดลองของโปรเจค" "ตัวเก็บข้อมูล" (ในฐาณะลูกค้า)
โดยอ้าง สัญญาความรับผิดชอบจากการ "เหยียบเบรค" เท่านั้นครับ

อย่าลืมว่า "มารยาท หรือวัฒนธรรมในการขับขี่"
ไม่ใช่แค่แตกต่างกันในแต่ละชาติ ยังแตกต่าง "ในระดับปัจเจคบุคคล "
ซึ่งเครื่องจักรไม่มีทางคาดเดาหรือทราบ " ภาษาในการขับขี่ " ได้เลย
ใครจะให้ทางใคร ใครขอไป เครื่องจักรรู้ได้อย่างไร

สมมุติรถที่วิ่งมาข้างหลังเ ป็นรถพ่วง ห่าง 20 เมตร
คนขับที่เป็นคนจะทราบ ทันทีที่สังเกตกระจกหลัง และคาดเดาได้ว่า dimension ของรถเป็นอย่างไร
เอาแค่จะหาเซนเซอร์ที่ทราบว่าวัตถุข้างหลัง 20 เมตรในเลนซ้ายไป 2 block เป็น"รถพ่วง" คำถามคือจะทำอย่างไร
ยังไม่รวมปัจจัยสุดวิสัยเช่น ฝน น้ำขัง หมอก น้ำที่กระเซ็นออกมาจากล้อ รถที่ข้ามเลนมาสองเลน (และมีรถในเลนลำดับแรกบัง)

ระบบในอุดมคติหรือระบบเชิงจินตภาพ ไม่เหมือนระบบที่ปรากฎจริง
กุกเกิล "เนิร์ด" และ "แฟนตาซี" เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
อย่างที่เห็นล้อกันในหนังเรื่อง me2 สร้างแต่ของที่ใช้จริงไม่ได้ เป็นเหมือน" โครงงาน" เท่านั้น

ระบบในอุดมคติจะสมบูรณ์ต่อเมื่อ "รถทุกคันบนโลก" มีการติดตั้งระบบดังกล่าวทั้งหมด (แบบเดียวกับ RollsRoyce Ghost ที่มีเซนเซอร์ลดความเร็วเมื่อทราบว่ามี Ghost อีกคันอยู่ข้างหน้าในระยะ n เมตร ออกแบบมาสำหรับพาเหรดรถ ) มีการทำบัญชีข้อมูลรถ Dimension ส่งสัญญาณบอกความเร็วและทิศทางออกมาให้รถรอบๆทราบ

การติดระบบพวกนั้นลงบน "รถทุกคันบนโลก" ไร้สาระมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนไปเรียนขับรถให้เป็นเรื่องเป็นราว ... หรือรอแทกซี่สิบนาที

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 01:18 #615230 Reply to:615215
ตะโร่งโต้ง's picture

นี่คือ 1 ในรูปแบบที่ Google car มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบ

No Description

No Description

คุณคิดว่ามันจะรู้ได้หรือไม่เวลา "รถพ่วง" วิ่งตามมาด้านหลัง

คนเดินข้ามถนนก็รับรู้ได้ครับ รถตัดหน้าก็รู้ครับ เลนซ้าย เลนขวามีรถเท่าไหร่ก็รู้ได้ครับ ทั้งหมดไม่ได้ทำแบบ static นะครับ เทียบเคียงกับเวลาด้วย ทำให้รับรู้ได้ถึง "motion" ครับ

สัญญาณไฟจราจรก็รู้ได้ครับ แต่ไม่ใช่ด้วยเซ็นเซอร์คลื่นเสียงสะท้อนนี้ก็เท่านั้นเอง


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Razor on 25 August 2013 - 01:33 #615233 Reply to:615230

เห็นภาพที่ "ไม่มีรถไร้คนขับอื่นอยู่แม้แต่คันเดียว" และ "เงา" ที่เกิดจากคลื่นเสียง "ถูกกีดขวาง" "trackpoints เกิดแค่ทิศเดียว"

ก็พอจะสรุปความ ”ไร้สาระ" ได้แล้วล่ะครับ

ยังไม่รวมความไร้สาระจาก "คลื่นเสียงของรถ 20 คัน" 

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 01:56 #615239 Reply to:615233
ตะโร่งโต้ง's picture
  • แล้วใช้คนขับนี่ไม่ได้บังวิสัยทัศน์เหรอครับ????? sonar ห่วยกว่างั้นหรือครับ???
    (ผมเข้าใจเอาว่า sonar น่ะไม่ได้ไล่ตรวจหา "รถยนต์ไร้คนขับคันอื่น" แต่เป็นวัตถุอะไรก็ได้ที่สะท้อนเสียงได้นะครับ ถ้าผมเข้าใจผิดก็ช่วยชี้แนะด้วย)

  • แล้ว "trackpoints เกิดแค่ทิศเดียว" มันแปลว่าอะไรครับ? ช่วยแปลให้ที พูดลอยๆ ขึ้นมาอย่างนี้คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ

  • ส่วนคลื่นเสียงรถ 20 คัน คงจะหมายถึง "เสียงสะท้อนจากรถหลายๆ คัน" สิะนครับ ...คุณเข้าใจว่าระบบแยกแยะไม่ได้หรือ?

เอาสาระมาคุยกันดีกว่าครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Razor on 25 August 2013 - 02:16 #615243 Reply to:615239

เก่งมาก รู้เรื่องวิศวกรรมดี ก็ไปหาเองสิครับ
เสียเวลาผมครับ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 23:20 #615460 Reply to:615243
ตะโร่งโต้ง's picture

เอาแบบจริงจัง ที่ผมนั่งพิมพ์ตั้งเยอะตั้งแยะ เพราะหวังว่าคุณจะลองปรับมุมมอง และได้พิจารณาข้อมูลด้านอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นนะครับ

เข้าใจบ้างไหมครับเนี่ย???


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: lancaster
Contributor
on 25 August 2013 - 03:52 #615263 Reply to:615233

แล้วมันต่างกับตาคนตรงไหน?

By: koalaz
ContributorAndroid
on 25 August 2013 - 09:31 #615284 Reply to:615263
koalaz's picture

ถ้ามองแค่เรื่องตาอย่างเดียว อันนี้น่าจะดีกว่าตาคนนะครับ ผมบอกแล้วว่าเรื่องพวกนี้มันซับซ้อนกว่าที่คิด

ที่ผมกลัวไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือเรื่องคนที่ตอบสนองกับเทคโนโลยีมากกว่า เรื่อง Interaction ต่างๆ

ปล. เทคโนโลยีคล้ายๆ แบบนี้ เคยเกือบจะนำมาใช้ในเมืองไทยเพื่อช่วยการ survey รวมถึง mapping สภาพถนนอยู๋


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: lancaster
Contributor
on 25 August 2013 - 23:24 #615462 Reply to:615284

พอดีข้างบนเหมือนจะเข้าใจว่าตาคนมองได้ชัดกว่าน่ะครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 August 2013 - 01:44 #615236 Reply to:615215
put4558350's picture

คนตาย 1000 คนแรกจะเป็นแค่ "หนูทดลองของโปรเจค" "ตัวเก็บข้อมูล" (ในฐาณะลูกค้า)
โดยอ้าง สัญญาความรับผิดชอบจากการ "เหยียบเบรค" เท่านั้นครับ

  • ตาย 1000 คนแรกกลายเป็นข้อมูลทำให้คนตายน้อยลง ดีกว่าตายบนระบบเดิม (ซึ่งอาจจะมากกว่า 1000 ก็ใด้) แล้วก็แค่นั้นจำนวนคนตายก็ไม่ลดลงในอนาคต แต่มากขึ้นตามจำนวนผู้ไช้งาน

อย่าลืมว่า "มารยาท หรือวัฒนธรรมในการขับขี่"
ไม่ใช่แค่แตกต่างกันในแต่ละชาติ ยังแตกต่าง "ในระดับปัจเจคบุคคล "
ซึ่งเครื่องจักรไม่มีทางคาดเดาหรือทราบ " ภาษาในการขับขี่ " ได้เลย
ใครจะให้ทางใคร ใครขอไป เครื่องจักรรู้ได้อย่างไร

  • ในตอนนี้ระบบจึงเป็นอัตโนมัติกึ่งๆ ที่สามารถปิดใด้ไงครับ มันคือพื้นที่ตรงกลาง สำหรับการเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงเวลาระบบจะใด้รับการปรับปรุง ในวันที่ไม่มีรถที่ไช้คนขับอยู่บนถนน ระบบอาจจะสามารถคุยกันเอง และตกลงกันล่วงหน้าใด้ และน่าจะดีกว่าวัฒนธรรมในการขับขี่ ที่มีคนละเมิด"กต"จราจรอยู่ตอนนี้

สมมุติรถที่วิ่งมาข้างหลังเ ป็นรถพ่วง ห่าง 20 เมตร
คนขับที่เป็นคนจะทราบ ทันทีที่สังเกตกระจกหลัง และคาดเดาได้ว่า dimension ของรถเป็นอย่างไร
เอาแค่จะหาเซนเซอร์ที่ทราบว่าวัตถุข้างหลัง 20 เมตรในเลนซ้ายไป 2 block เป็น"รถพ่วง" คำถามคือจะทำอย่างไร
ยังไม่รวมปัจจัยสุดวิสัยเช่น ฝน น้ำขัง หมอก น้ำที่กระเซ็นออกมาจากล้อ รถที่ข้ามเลนมาสองเลน (และมีรถในเลนลำดับแรกบัง)

  • เท่าที่ติดตามข่าว Google car มีกล้องตรวจสอบสัญญานไฟและเครื่องหมายจราจรบนพื้นใด้เหมือนรถที่ไช้คนขับทั้วไป มี sona ซึ่งทำให้รู้ใด้ว่ามีรถอยู่หน้าคันข้างหน้าและหลังคันข้างหลัง 4-5 คัน โดยไม่ไช้แสง และไม่กลัววันที่ฝุ่น/หมอก/ฝนเยอะ มีเซนเซอร์วัดระยะ ที่หมุนอยู่บนหลังรถ scan วัตถุโดยรอบอย่างละเอียด (ออกมาเป็น polygon) สามารถรู้ dimension ที่ชัดเจน สามารถแยกมอเตอร์ไช รถยนต์ คนเดินถนน และ object อื่นๆ ใด้ สามารถหยุดให้คนเดินถนนแม้จะเป็นไฟเขียวใด้

ระบบในอุดมคติหรือระบบเชิงจินตภาพ ไม่เหมือนระบบที่ปรากฎจริง
กุกเกิล "เนิร์ด" และ "แฟนตาซี" เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
อย่างที่เห็นล้อกันในหนังเรื่อง me2 สร้างแต่ของที่ใช้จริงไม่ได้ เป็นเหมือน" โครงงาน" เท่านั้น

  • มีการทดสอบวิ่งจริงใน Nevada, Florida, California ระยะทางรวม 500,000 km โดยไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ

ระบบในอุดมคติจะสมบูรณ์ต่อเมื่อ "รถทุกคันบนโลก" มีการติดตั้งระบบดังกล่าวทั้งหมด (แบบเดียวกับ RollsRoyce Ghost ที่มีเซนเซอร์ลดความเร็วเมื่อทราบว่ามี Ghost อีกคันอยู่ข้างหน้าในระยะ n เมตร ออกแบบมาสำหรับพาเหรดรถ ) มีการทำบัญชีข้อมูลรถ Dimension ส่งสัญญาณบอกความเร็วและทิศทางออกมาให้รถรอบๆทราบ

  • เซนเซอร์วัดระยะ ที่หมุนอยู่บนหลังรถ scan วัตถุออกมาเป็น polygon ระบบสามารถรู้ใด้ว่ารถกำลังเบลคหรือกำลังเร่ง และเว้นระยะให้ ที่สำคัญ ไม่ลืม ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง ไม่เมา ไม่ sms ไม่ตกใจ ไม่ขับผิดกตจราจร

การติดระบบพวกนั้นลงบน "รถทุกคันบนโลก" ไร้สาระมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนไปเรียนขับรถให้เป็นเรื่องเป็นราว ... หรือรอแทกซี่สิบนาที

  • ไม่จำเป็นต้องติดทุกคันครับ แต่ถ้าสามารถ "ซื้อ" คนขับรถส่วนตัวใด้ในราคาไม่แพง อณาคต "รถทุกคันบนโลก" ก็จะมีคนขับรถส่วนตัวติดมากับรถ

samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 August 2013 - 03:12 #615254 Reply to:615241
put4558350's picture

1 SONAR (SOund Navigation And Ranging) คือเครื่องวัดระยะทางด้วยเสียง ใครเคยดูหนังสงครามเรือดำน้ำน่าจะเคยใด้ยินเสียง "ปิ้ง" แล้วมีจุดขึ้นมาบนจอ นั้นแหละครับ

SONA เดี่ยวนี้สามารถวิ่งทะลุวัตถุ (เช่นรถคันข้างหน้าใด้) สามารถรับรู้ความตันหรือความโปร่ง และตำแหน่งโดยคร่าวๆ ใด้ จึงไช้แก้โจทย์ รถ A บังรถ B หรือรถพ่วง ใด้ครับ

2 จริงๆ triangle คือ polygon นะครับ แต่จุดที่ใด้จาก เครื่องวัดระยะที่หมุนอยู่เหนือรถ (เป็นเลเซอร์นะครับ) มีมากกว่า 3 จุดเมื่อต่อกันและให้พื้นผิว จะกลายเป็น polygons mesh ขึ้นมา

เตือนนิดหน่อยว่า polygon นั้นหลายคนเข้าใจผิดว่าต้องเป็นวัตถุ 3d ปิด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ 2D ก็ใด้และ triangle ก็คือ polygon อย่างหนึ่ง

ปล. พยายามไช้ fallacy แบบนี้ไม่ดีนะครับ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Razor on 25 August 2013 - 03:38 #615258 Reply to:615254

1 ในรูปมันไม่ทะลุนี่ครับ points มีแค่ด้านหน้า เต็มสองตา
2 ตกลงคุณเพิ่งไปเปิดวิกิเพเดีย เรียนรู้ว่าอะไรคือ polygon ?

และในรูปมันไม่ได้เอามา generate เป็น mesh นี่ครับ (ทำไปทำไม) ผมไม่เห็น POLYGON from TRIs เลย
เอาไป estimate เป็น RAW BOX ซึ่งมี True points แค่ด้านหน้าเท่านั้น

มันไม่ได้แก้โจทก์รถพ่วงที่พุ่งมาด้วยความเร็วและมีสถานะเป็นรถบังรถ (ท่อน A บังท่อน B) เลยซักนิดเดียว
แถมยังมี Full Blind Spot รอบรถอีกต่างหาก

คุณ fallacy เอง ระบบ self defensive ของคุณ throw target เป็นผมรึปล่าวครับ
หรือว่าคุณแค่เขียนถึงตัวเอง มาตั้งแต่แรก

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 August 2013 - 05:30 #615267 Reply to:615258
put4558350's picture
  1. คุณตะโร่งโต้งแจ้งให้ทราพแล้วนิครับ ว่านั้นเป็นแค่ 1 ในรูปแบบที่ Google car มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้ง 2 รูปคือผลจากเลเชอร์วัดระยะทาง เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมันหมุนรอบตัวเลยเป็นวงกลมๆ

  2. ผมรู้ว่าสามเหลี่ยมเป็น polygon ตัวหนึ่งตั้งแต่ประถมแล้วครับ เพียงแค่ไม่ลืมเท่านั้น

  3. ไช่ในรูปมันไม่ได้เอามา generate เป็น mesh แต่เรารู้แล้วว่าสามารถทำใด้นิครับ

  4. sonar ไม่ใด้รับการพูดถึงมากนัก เข้าใจว่าอธิบายเป็นภาพใด้ยาก แต่มีการไช้งาน ดูกล่องสีม้วงด้านล่าง ใน video นะครับ http://youtu.be/YXylqtEQ0tk?t=7m เคยฟังว่ามันทะลุรถ(รถบังรถ) ใด้ 4-5 คัน ... แต่ Google ใช้ตัวใหนผมไม่รู้

ปล. เห็นต้อนผมมานานแล้ว ถามบ้างดีกว่า

  1. สาเหตุของอุบัติเหตุทางรถในบ้านเรา ส่วนใหญ่เกิดจากการเมา ไช่หรือไม่
  2. คุณเคยละสายตาจากถนน เพื่อเปลี่ยนเพลง ปรับแอร์ หยิบขวดน้ำ หรือเหตุผลอื่นๆ ไช่หรือไม่
  3. คุณเคยขับรถเร็วกว่าที่กตหมายกำหนดไว้หรือปล่าว (เขตเทศบาล 80 km/h นอกเขต 90 km/h) ไช่หรือไม่

samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Razor on 25 August 2013 - 16:14 #615302 Reply to:615267

rep removal เลยนี่ครับ
wow Reply หายไป !

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 23:39 #615471 Reply to:615302
ตะโร่งโต้ง's picture

ของใครหายครับ?

เอ่ยลอยๆ จนผมตามไม่ทันแล้ว

แล้วตกลงไม่คุยเรื่องรถแล้วเหรอ?


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 26 August 2013 - 11:46 #615624 Reply to:615471

คุณตะโร่งโต้งไม่ต้องจริงจังหรอกครับ หมอนี่มันจูนิเบียว เอาตรรกะคนธรรมดาไปคุยไม่รู้เรื่องหรอก

ถ้าอยากฝึกสกิลถามตอบต่อคำถามก็โอเคครับ แต่ตามไปตอบหมดไม่ไหวแน่ๆ เพราะพอเริ่มไปไม่เป็นหมอจะมั่วนิ่มเปลี่ยนเรื่องเฉยๆเลยแบบนี้แหละ

By: ZeaBiscuit
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 28 August 2013 - 13:21 #616645 Reply to:615624
ZeaBiscuit's picture

Like !!

By: Remma
AndroidWindows
on 25 August 2013 - 01:20 #615232 Reply to:615205
Remma's picture

ประเด็นผมคือ ไม่ใช่ว่าทำได้หรือไม่ได้ (ยกตัวอย่างเครื่องบินไปไม่มีคนขับแล้วไงครับ) แต่เป็นเรื่องความเหมาะสมในการใช้งานจริงกับการยอมรับจากสังคมทั้งหมดน่ะครับ ถนนไม่ใช่ห้องทดลองหรือสนามของเล่นที่เอาเครื่องจักรมารับผิดชอบกับชีวิตของผู้อื่นในทั้งๆที่เครื่องจักรไม่ใช่สิ่งที่จะมารับผิดชอบอะไรได้

ส่วนพวกที่ขับรถไม่ไม่ปลอดภัยเราก็มีกฎหมายเป็นตัวควบคุมอยู่แล้วนี่ครับ แต่การควบคุมให้ปฎิบัติตามกฎหมายก็เป็นปัญหาที่แก้กันไม่จบ สุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็ไปตกอยู่กับความรับผิดชอบต่อส่วนรวมของคนที่อยู่หลังพวงมาลัยอีกอยู่ดีครับ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 01:53 #615240 Reply to:615232
ตะโร่งโต้ง's picture

จริงครับ ตอนนี้จึงอยู่ในสถานะ "ระบบช่วยขับเคลื่อน" ไงครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: nottoscale
Windows Phone
on 25 August 2013 - 11:03 #615309 Reply to:615198

+1 ไร้คนขับได้แต่ต้องไม่ไร้ผู้ควบคุมรับผิดชอบรถ ว่าแล้วแท๊กซี่ที่ว่าก็ต้องมีคนนั่งคอยเหยียบเบรก แก้ปัญหาฉุกเฉินให้ไปตลอดตราบที่ยังวิ่งร่วมทางสาธารณะเพื่อโชว์แอดให้คนเห็น

By: asptuy
Windows PhoneAndroidWindows
on 24 August 2013 - 23:21 #615213
asptuy's picture

เจอด่านไม่จอด ชอบ

By: ZeaBiscuit
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 25 August 2013 - 03:09 #615252
ZeaBiscuit's picture

อ่านบางความเห็นแล้วนึกถึง 3000anv ขึ้นมาทันที คราวนี้เหมือน Power up ในด้านวิสัยทัศ(แคบ)เข้ามาด้วย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 August 2013 - 04:46 #615270 Reply to:615252
hisoft's picture

หมายถึงท่าไม้ตาย "คุณเก่งครับ ไปหาเองแล้วกัน ถามผมทำไม" เหรอครับ :p

ผมรู้สึกเจอท่านี้บ่อยขึ้นทุกที

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 14:40 #615347 Reply to:615252

คนเดิมนั่นละครับ

By: sunback
Contributor
on 25 August 2013 - 16:02 #615369 Reply to:615252
sunback's picture

พวกคุณกำลังหมิ่น 3000anv ของผมอยู่นะครับ!

ลูกแอปเปิลในมือผมสั่นไปหมด

By: bozoonnet
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 03:36 #615260
bozoonnet's picture

ผมว่าเป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่ไร้คนขับตลอดเส้นทางหรอก น่าจะช่วยขับเป็นบางช่วง บนเส้นทางเฉพาะ นอกเสียจากว่า รถบนถนนทุกคันใช้ระบบเดียวกันหมด

By: nrml
ContributorIn Love
on 25 August 2013 - 03:36 #615261
nrml's picture

อ่านความเห็นบนๆ แล้วนึกว่ากำลังดูหนังคนเหล็กอยู่ เราช่วยกันไปถล่ม Skynet กันเถอะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 August 2013 - 04:45 #615269
hisoft's picture

เอาไปใช้ช่วยคนขับรถบรรทุกแล้วกันครับ น่าจะเวิร์ค ไม่ต้องกลัวอาม่าโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่ต้องมีปัญหาไม่รู้เส้นทาง ไม่ต้องมีปัญหาตะกายขึ้นรถเมล์ ไม่ต้องมีปัญหาลูกค้าตาบอดด้วย รถบรรทุกนี่ระบบขับค่อนข้างง่ายแล้ว ส่วนมากเกาะเลนซ้ายสุดเลนเดียว (- -)d ถ้าขนาดข้างหน้าจอดซ่อมรถนี่มันคงฉลาดพอจะเปลี่ยนเลนหลบได้บ้างหล่ะ

By: tstcnr1u
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 August 2013 - 05:06 #615275 Reply to:615269

ต้องแก้ปัญหาเรื่องการคุยกับตำรวจเวลาตำรวจโบกด้วยนะครับ รถบรรทุกโดนทุกคัน

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 August 2013 - 10:03 #615296 Reply to:615275
hisoft's picture

ไม่มีความจำเป็นต้องคุยครับ น้ำหนักเกิน ขับเร็วเกิน (hack โปรแกรม???) ควันดำ หรืออะไรก็ว่าไป ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ หมดเรื่องเลย :p

By: koalaz
ContributorAndroid
on 25 August 2013 - 10:12 #615301 Reply to:615269
koalaz's picture

จริงๆ อันนี้ก็น่าคิดนะ ยิ่งที่อเมริกามีลักษณะของ Truck Lane บน Interstate บางเส้นด้วย เรียกว่าเข้าโซนปุ๊บจริงๆ รถบรรทุกสามารถทำตัวเป็นระบบรางได้เลย ตรงอย่างเดียว


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: koalaz
ContributorAndroid
on 25 August 2013 - 10:11 #615300
koalaz's picture

เอาเป็นว่า ผมสรุปละกันว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ แต่มันต้อง "Proceed With Caution"

มันมีสาเหตที่ว่าทำไม Google ถึงจะเริ่มจากแท็กซี่แน่นอน ซึ่งในความคิดของผมเป็นความคิดที่ถูกต้อง (มีขอบเขตการให้บริการที่ชัดเจน(ประเมินศักยภาพของ AI ได้ดีขึ้น), สามารถควบคุมคนที่จะ Stand By หลังพวงมาลัยได้อย่างชัดเจน, ใบอนุญาตการขับขี่เป็นแบบพิเศษ)

มีอีกหลายอย่างที่ต้องทำครับ ไม่ใช่ว่ามันจบที่ Google ทำระบบออกมาแล้วปลอดภัย (ในกรณีที่มันยังอยู่ดีๆ) มันไม่ได้จบแค่ ปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม มันยังต่อไปที่เรื่อง Financial และ Policy Maker อีกมากมาย


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 25 August 2013 - 23:24 #615463 Reply to:615300
ตะโร่งโต้ง's picture

ชัดเจน ตรงประเด็น เห็นด้วยมากๆ ครับ
(ทำไมผมถึงสรุปไม่ได้ตรงเป้าแบบคุณน้าาาาา)


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: akira on 25 August 2013 - 12:56 #615330

ใกล้ถึงเวลารถยนต์เช่าใช้แบบไร้คนขับแล้วสิ ต่อไปโทรเข้าศูนย์คอมพิวเตอร์รับสายพร้อมส่งรถขับอัตโมัติมาถึงบ้านโดยดูจากพิกัดบนมือถือแล้วก็ไปส่งที่หมาย แล้ววิ่งกลับศูนย์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อรอรับกลับ ไม่ต้องไปจอดตามที่สาธารณะหรือหาที่จอด ธุรกิจที่กระทบก็คงไม่พ้นแท็กซี่ที่ต้องไปซื้อระบบกับ google และที่กระทบสุดก็คงธุรกิจรถยนต์ ก็ไม่แปลกถึงไม่มีใครสนับสนุน google เลยแต่ผมว่าคงอีกนานกว่าจะเป็นที่ยอมรับ ก็ประมาณพลังงานทางเลือกนั่นแหล่ะ มันมีผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย แต่ถึงวันหนึ่งทุกคนยอมรับมันก็กลายเป็นเรื่องปรกติไป ความเห็นส่วนตัวนะ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 August 2013 - 13:58 #615337 Reply to:615330
mr_tawan's picture

อ่านแล้วผมนึกถึง CSI ตอนนึงที่มีคน Hack ระบบ GPS พารถที่มีคนเช่าไปเขต bronx แล้วรถก็โดนปล้น คนขับก็โดนฆ่าอยู่ตรงนั้น 555


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: SlingShot
AndroidIn Love
on 26 August 2013 - 10:47 #615597 Reply to:615337
SlingShot's picture

+1

By: koalaz
ContributorAndroid
on 25 August 2013 - 17:17 #615382 Reply to:615330
koalaz's picture

คงต้องยอมรับว่ามันคำถามมันคือว่า "เมื่อไหร่" ไม่ใช่ "จะเกิดไหม" เพียงแต่ผมยังมองว่าอีกนาน


Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ

By: Elysium
ContributorWindows PhoneSymbianWindows
on 25 August 2013 - 17:35 #615391
Elysium's picture

เกือบพลาด แซ่บเวอร์

จากสงคราม (คีบอร์ด) ข้างบน ทำให้สงสัยว่า

"คนเราจะไปที่ที่หนึ่ง โดยไม่รู้จุดหมายได้อย่างไร" เพราะอย่างน้อยจุดหมายก็คือ "ที่ที่หนึ่ง" หรือถ้าชีวิตมันไร้สาระจริงๆ ก็ยังอาจสั่งงานได้ว่า "ขับไปเรื่อยๆ"


คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ

By: SlingShot
AndroidIn Love
on 26 August 2013 - 10:48 #615599
SlingShot's picture

Google เป็นบริษัทที่จะยึดครองโลก