By: modeQ 
on 14 September 2013 - 23:51
Tags:
หากใครที่ติดตามข่าวการรับจำนำข้าว จะพบว่าโครงการนี้มีปัญหาอยู่มากทีเดียว จนกระทั้งต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกันเลย คนล่าสุดคือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เตรียมนำระบบออนไลน์มาใช้กับโครงการนี้แล้ว
จากมติของการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอให้นำระบบออนไลน์มาใช้กับโครงการรับจำนำข้าวในปีการผลิต 2556/2557 โดยวางงบประมาณไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (กองทุนส่งออก) เพื่อนำมาจัดซื้อคอมพิวเตอร์จำนวน 2,000 เครื่อง แล้วนำไปติดตั้งตามหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ยังเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะช่วยป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเพราะระบบนี้จะช่วยให้ขั้นตอนการดำเนินงานโปร่งใสมีประสิทธิภาพและทันสถานการณ์ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลข้าวฤดูกาลใหม่และข้าวในฤดูกาลเก่าได้
ข่าวนี้ได้แรงบันดาลใจจากข่าวดีๆ แบบนี้ครับ
ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ชุดละ 1 แสน ไม่รู้รวมระบบอะไรบ้าง รอดูรายละเอียดอีกที
นั่นซี...
มันน่าจะมีค่าระบบส่วนกลางรวมอยู่ด้วยนะครับ
เทียบกับนาฬิกาแล้วไม่แพงเลย
อ่าว เพิ่งเอามาใช้กันเหรอเนี่ย ผมนึกว่าเอามาใช้กันนานแล้วเสียอีก แต่ก็ดีแล้ว
แสดงว่าที่ผ่านมา...
กลัวแต่ว่าเดี๋ยวจะได้สั่งแก้ฐานข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น อุปโลกตัวเลข แล้วโทษการคีย์ผิด #เหมือนพิมพ์ราคาไอแพดผิดไป แบบจดเอาอย่างน้อยยังมีลายเซนต์ หรือลายมือคนรับผิดชอบ ;p
my blog
มันก็ไม่ได้แก้เรื่องการสวมสิทธิ์ หมุนเวียนข้าว และการเผาข้าวทิ้งเพื่อไม่ให้ตรวจสอบได้อยู่ดีนิ ซึ่งพวกนี้น่าจะเป็นรูปแบบการโกงที่มากที่สุด
รูปแบบที่เอื้อให้เกิดการโกงตัวที่ใหญ่ที่สุดคือวิธีการขายข้าวครับ รองลงมาคือการแอบเอาข้าวในคลังไปขาย สวมสิทธิ์และหมุนเวียนข้าวนับเป็นมูลค่าแล้วน้อยกว่ามาก
ขอให้สำเร็จๆ และถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ปัญหาอยู่ที่เครื่องมือไม่พร้อม?
ไม่มีคอมแล้วส่งรายงานอะไรไม่ได้เลยหรอครับ
ผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ อยู่ที่คนล้วนๆ เลย
ผมว่าโกงตั้งแต่ ซื้อ คอม 2000 เครื่องนี้แหละ
2000 เครื่อง PC DELL i3 เครื่องละ 18000 ระบบเครือข่ายเครื่องละ 2000 =40 ล้าน พัฒนาซอฟแว์ Server และ Client 20 ล้านบาท Server Dell 5แสนบาท ค่าแบนวิท 24ล้านบาท/ปี(ขอทุกปี) เป็น 89ล้านบาท ค่าดำเนินการ 90 ล้านบาท + ค่าคลาดเคลื่อน 10% ประมาณ 10 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท
อยากให้แจงงบประมาณนี้จัง ทุกภาคส่วนจะได้ตรวจสอบได้ แบบ ipad ไง ยิ่งชอบพิมพ์ผิดกันอยู่ด้วยจะได้ ช่วยดูกัน
หลายความคิดเห็นเขียนถึงเรื่องราคา กำลังจะตอบพอดี ว่าราคา 200 ล้านหากคิดทั้งระบบ ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ถูกเกินไป และไม่แพงเกินไป (ราคาถูกเกินไป อาจมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือ และอาจไม่เสร็จตามเวลา หรือ ไม่เสร็จเลย) ยกตัวเลขนี้มา เป็นตัวเลขที่เป็นรูปธรรมดีครับ
โครงการจำนำข้าว ผมให้ข้อมูลเพิ่มนิดนึงครับ ว่ามีเงินไหลเวียนในโครงการนับแสนล้าน ตัวเลขล่าสุดคือ 6 แสนล้าน ยังไม่นับรวมฤดูกาลเก็บเกี่ยวล่าสุด หากเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้ว ตอนนี้อาจมีเงินไหลเวียนในโครงการ 7.5 แสนล้าน หากมองว่าไอทีสามารถลดทอนขั้นตอน เพิ่มขีดความสามารถในหารควบคุม ลดคอรัปชั่นได้ 2 ร้อยล้าน ถือว่าสิวมาก ( 2 ร้อยล้านคิดเป็น 0.03% ของเงินในโครงการทั้งหมด)
โครงการลักษณะนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ client 2000 เครื่องถือเป็นเรื่องเล็กครับ หากมาคำนวนว่ามี client 2000 เครื่อง ทำงานตลอดเวลา transaction ต้องชัวร์ ค่าเซิฟเวอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ผมคงตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านครับ เผลอ ๆ ยังไม่ได้ด้วย หากต้องมี redundancy และ/หรือ replication
ส่วนซอฟท์แวร์ งป. 200 ล้านนี่ ไม่ได้ฐานข้อมูล oracle และ virtual machine แน่นอน เพราะแค่ซื้อสองอย่างนั่น เงินก็หมดแล้ว อาจได้ MS SQL Server สำหรับเซิฟเวอร์ 2-4 เครื่อง กับ Application ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และซอฟท์แวร์รายล้อมอื่น ๆ รวมบริการหลังการขาย 1 ปี
แล้วคิดว่ามีค่าอะไรบ้างเท่าใหล่ครับ แล้วที่หลายๆคนว่าราคาแพงไปเพราะไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง หรือมีการกำหนดสเปกอะไรยังไง ผมแค่ตีราคาไปตามเนื้อผ้าเพราะสินค้ามีแค่อย่างเดียว แล้วเท่าที่รู้ราคาแพงก็ใช่จะดีเสมอไปดูอย่างทางด่วนสิ
อีกอย่างแล้วมันช่วยให้ไม่โกงยังไงครับ เท่าที่จำได้คือที่มันโกงกันคือสวมสิทธิ์ และ เวียนเทียนข้าว อยากรู้พอดี
ที่คุณยกตัวอย่างราคามาเป็นตุ๊กตาก็สมเหตุสมผล และเป็นรูปธรรมดีแล้วครับ ผมไม่ได้แย้งอะไร
ส่วนการกำหนดสเปค หรือว่ามีอะไรบ้าง กระบวนการมันยาว รายละเอียดเยอะ และขึ้นกับว่าเป้าหมายของโครงการคืออะไร (และไม่ค่อยมีใครอยากทำ เพราะหากมีปัญหา คนออกสเปคมักโดนไปก่อน) ซึ่งบอกตรงนี้ไม่ได้หรอกครับ ว่าหน้าตาจะออกมายังไง
และก็ถูกต้องครับ ว่าของแพงไม่ได้ดีเสมอไป แต่องค์กรทุกองค์กรต้องการจ่ายเงินเพื่อได้การันตีอะไรบ้างอย่าง หรือเพื่อหาคนรับผิดชอบในกรณีมีปัญหา ซึ่งราคาในส่วนนี้มักจะไม่ถูก
การป้องกันการคอรัปชั่นนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเขาออกแบบไว้ยังไง แต่การติดตาม (track) อะไรที่มันอยู่ในฐานข้อมูล มีการลงทะเบียนการซื้อขาย เห็นการวิ่งของตัวเลข มีการรวมศูนย์ข้อมูล คลิกปุ้บเห็นปั้บว่าข้าววิ่งจากไหนไปไหน ข้าวคงคลังในยุ้งฉางนี้เหลือเท่าไร มันโกงยากขึ้นอยู่แล้วครับ เทียบกับการตรวจสอบผ่านเอกสารที่เป็นกระดาษ
ปัญหาคือ 2 เดือน ทำระบบแบบนี้ไม่ได้แน่นอน ผมเลยงงเหมือนกัน ว่าระบบจะออกมายังไง
โครงการไอทีภาครัฐหลายโครงการไม่เกิดก็เพราะอย่างนี้แหละครับ มีแล้วโกงยาก ยกตัวอย่างง่าย ๆ การใช้ลายนิ้วมือในการลงชื่อเข้าออกที่ทำงาน ต่อให้ถูกยังไงก็ไม่เกิด
ปกติภาครัฐจะจัดซื้อโครงการที่เกี่ยวข้องกับ IT ยังไงก็ต้องชี้แจงละเอียดอยู่แล้วครับ และต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบไล่มาตั้งแต่กระทรวงการคลังจนกระทั่ง ฝ่ายพัศดุของแต่ละหน่วยงานอีก
แล้วเค้ามีเกณกำหนดงบประมาณยังไงครับว่าโครงการนี้ควรจะมีราคาเท่าใหล่ มีชี้แจงใหม พอดีไม่มีความรู้ด้านนี้เลย แต่อยากรู้
รู้สึกจะแพงขนาด ถ้าแค่เครื่องนี่คงไม่ดีแน่
ผมได้ฟังข่าวเหมือนกัน ที่ตกใจคือบอกว่าระบบนี้จะเสร็จภายใน 2 เดือน!
อืมมมม... implement กันแบบไหนนะ กว่าจะออกแบบ พัฒนา ทดสอบ สอนการใช้งาน แล้ว migrate เอาข้อมูลขึ้นใช้ ยิ่งแต่ละหน่วยงานข้อมูลมันกระจายๆกันแบบนี้ มันไวจริงแท้
กลัวจริงๆว่ามันจะโดนโกงกันตั้งแต่ทำระบบนี่แหละ เง้อ
..: เรื่อยไป
สองเดือน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมว่าจุดนี้แหละจะเป็นปัญหา มันจะกลายเป็น file server ที่ไว้เก็บตาราง Excel หรือเปล่าเนี่ย
2 เดือน - -!
ถ้าจริงนี่เงิบเลยนะเนี่ย แค่เก็บ requirement ประชุม approve ก็น่าจะหมดเวลาแล้วนะครับ
เห็นด้วยครับ แต่หากคิดในแง่ดีคือ requirement พร้อมแล้ว implement อย่างเดียว สองเดือนก็ยังน้อยไปมาก ๆ
เราๆ นี่ละครับ จะได้ช่วยกันติดตามข้อมูล หากมีอะไรจะได้นำมาเสนอให้อ่านกันต่อ
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
สองเดือน - -" นี่กะจะซื้อคอมสองพันเครื่องแล้วจบเลย พอมีรายการเปลี่ยนแปลงก็เอาคอมนั่นพิมพ์เมลส่งอัพเดตกันรึไงครับ
ป่าวครับ ซื้อคอม 2000 เครื่อง แล้วใช้ Google Docs ครับ (ฮ่าๆๆ)
เข้าใจว่าระบบนี้ได้รันไปแล้วระดับนึงครับ
เพราะรายงานการประชุมของคณะอนุฯ เมื่อต้นปี บอกว่าจะนำมาใช้ และมีระบบที่ อคส ทำไปแล้ว
http://www.pwo.co.th/main.php?filename=warehouse_receipt_electronics
ผมยังงงว่าที่จะซื้อนี้ ซื้ออะไร
2 เดือน ผมเชื่อว่าทันครับ
เดาว่ามีคนทำระบบเสร็จหมดแล้ว รอประมูลอย่างเดียว : ) หึหึหึ
จัดการโรงสีที่โกงไม่ดีกว่าเหรอ ที่การจำนำไม่โปร่งใสเพราะโรงสี ข้าวดีแต่อ้างต่างๆนานา กดราคาชาวนา พอมีการจำนำก็เอาข้าวของคนรู้จักจำนำไปก่อน แถมรัฐจำนำมาแล้วไปขายยังไงก็ไม่ได้ราคาจำนำ แถมมีโครงการนี้พ่วงมาอีกเงินภาษีเสียกี่ต่อแล้ว ตัดตัวกลางคือโรงสีออกเท่านั้นเอง ให้กขช.ทำโรงสีของรัฐก็จบแล้ว ระบบต่างๆก็ตามมาเอง
เลิกจำนำไปเลยดีกว่า ไม่มีใครได้โกง
+1
แต่หาเสียงไปแล้วครับ จะยกเลิก ต้องยุบสภาก่อน เพราะถือว่าเป็นโครงการที่ได้ฉันทามติผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว
มันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เจ้านายยยย
คือ มันมีระบบคล้ายๆแบบนี้ตั้งแต่โครงการปีที่แล้ว แต่มันไม่ช่วยอะไร แถมเป็นการเพิ่มงานให้เจ้าหน้าที่อีกต่างหาก
เอาเงินไปทำระบบส่วนกลางให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องมาคีย์ข้อมูลตอนตี2 ตี3 ดีกว่าไหม
ดูจะมีประโยชน์มากกว่า
อย่างพึ่งว่าโรงสี ชาวนา หรือผู้ส่งออกเลย ขอแนะนำให้ใช้เวลาศึกษาดูก่อนครับว่าในสถาพจำนำข้าว
มันมีเงื่อนไขอะไรกระทบกับชีวิตเค้าบ้าง
โรงสีตกงานกับเจ๊งก็มี ผู้ส่งออกข้าวเลิกกิจการก็มีเยอะแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ตลกมากๆ คือโครงการที่ใช้เงินงบประมาณสูงขนาดนี้ ไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ที่กล่าวถึงตั้งแต่ทีแรก เค้าทำงานกันยังไงครับเนี่ย