หากใครที่ติดตามข่าวการรับจำนำข้าว จะพบว่าโครงการนี้มีปัญหาอยู่มากทีเดียว จนกระทั้งต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกันเลย คนล่าสุดคือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เตรียมนำระบบออนไลน์มาใช้กับโครงการนี้แล้ว

จากมติของการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอให้นำระบบออนไลน์มาใช้กับโครงการรับจำนำข้าวในปีการผลิต 2556/2557 โดยวางงบประมาณไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (กองทุนส่งออก) เพื่อนำมาจัดซื้อคอมพิวเตอร์จำนวน 2,000 เครื่อง แล้วนำไปติดตั้งตามหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ

บริการค้นหาของกูเกิลนั้นนับว่าทรงพลังมากสำหรับคนที่ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ทว่ากูเกิลเองก็รู้เช่นกันว่าคนที่ใช้งานการค้นหาของกูเกิลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพยังมีอีกมากมาย จึงได้เปิดคอร์สออนไลน์สำหรับพัฒนาการค้นหากับกูเกิลที่ชื่อว่า "Power Searching with Google"

Power Searching with Google เป็นคอร์สออนไลน์หกตอน แต่ละตอนมีความยาว 50 นาที โดยจะไล่สอนตั้งแต่เทคนิค/วิธีการค้นหาที่มีประสิทธิภาพ การเชื่อมการใช้งานเข้ากับบริการอื่นๆ ของกูเกิล เป็นต้น ซึ่งผู้ที่จบหลักสูตรนี้จะได้รับใบประกาศส่งมาให้ทางอีเมลอีกด้วย

จากที่รัฐบาลชุดนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 หนึ่งในนั้นมีนโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งมีแผนจะยกระดับสมรรถนะของส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมปรับปรุงบริการระบบบริการประชาชน เพื่อปูทางสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (อ่านรายละเอียดได้จากข้อที่ 8.1.4 จากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือดาวน์โหลดได้ที่นี่)

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ได้ออกมาประกาศในสัปดาห์แรกที่ได้รับตำแหน่งว่า เขามีแผนที่จะเปิดเว็บไซท์ ให้ทุก ๆ คนสามารถรู้ว่าเรานำภาษีที่ได้จากประชาชนไปใช้จ่ายอย่างไร

โดยตัวเว็บไซท์​ที่จะใช้คือ Recovery.gov ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ. ใหม่ American Recovery and Reinvestment Act of 2009 โดยตัวเว็บนี้จะต้องนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการเงินของรัฐ รวมไปถึงยอดเงินที่ถูกอนุมัติเพื่อนำไปใช้ และสัญญาที่รัฐบาลได้ทำไว้ และต้องทำให้การนำเสนอเหมาะสมและสะดวกสำหรับผู้เข้าชม เพื่อที่จะเพิ่มความตื่นตัวในภาคประชาชนเกี่ยวกับการนำภาษีของประชาชนไปใช้ของรัฐ

กระทรวงศึกษาธิการเกาหลีกำหนดให้บรรดาโรงเรียน ต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ต่อสาธารณะผ่านระบบออนไลน์ เช่น มีนักเรียนกี่คน หรือ มีครูเป็นสมาชิกสหภาพกี่คน เพื่อแสดงความโปร่งใสในการบริหารจัดการสถานศึกษาตามกฎหมายใหม่

นักเรียนและผู้ปกครองสามารถเข้าดูสถานภาพทางการเงิน เช่น บัญชีงบดุลทางการเงินของโรงเรียน หรือประเภทของชมรม สโมสร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ทางเว็บไซต์ www.schoolinfo.go.kr หรือ www.academyinfo.go.kr

กระทรวงกำหนดให้ทุกๆปี โรงเรียนต้องจัดทำรายการข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการจัดเลี้ยงอาหารนักเรียน การควบคุมสุขภาพอนามัย และหลักสูตรต่างๆที่จัดขึ้นหลังเลิกเรียน