ทิศทางของโลกซอฟต์แวร์องค์กรในรอบ 2-3 ปีหลังนี้ชัดเจนมากว่า ซอฟต์แวร์องค์กรชื่อดังๆ เริ่มออกเวอร์ชันใช้งานบนกลุ่มเมฆ เพื่อเป็นทางเลือกนอกเหนือจากการใช้งานแบบติดตั้งในองค์กร (on premise) ลักษณะเดิม
ค่าย Oracle เริ่มผลักดันยุทธศาสตร์กลุ่มเมฆของตัวเองในชื่อแบรนด์ Oracle Cloud ตั้งแต่ปีที่แล้ว (เจาะยุทธศาสตร์ Oracle Cloud) และปีนี้ก็ประกาศบริการเพิ่มอีก 10 ตัว
บริการทั้ง 10 ตัวแบ่งกลุ่มได้เป็นบริการประมวลผลลักษณะเดียวกับ Amazon Web Services, ฐานข้อมูลบนกลุ่มเมฆ, WebLogic บนกลุ่มเมฆ และบริการแอพพลิเคชัน ERP ต่างๆ ที่รันบนกลุ่มเมฆ
1. Compute Cloud: บริการลักษณะเดียวกับ Amazon EC2
2. Object Storage Cloud: บริการลักษณะเดียวกับ Amazon S3
3. Database Cloud: ยกฐานข้อมูล Oracle Database ไว้บนกลุ่มเมฆ ถือเป็นครั้งแรกที่ Oracle Database ให้บริการแบบ SaaS
4. Java Cloud: บริการเซิร์ฟเวอร์ Oracle WebLogic สำหรับรันแอพพลิเคชัน Java
5. Business Intelligence Cloud: ยกซอฟต์แวร์ด้าน BI ของบริษัทขึ้นมาบนกลุ่มเมฆ
6. Documents Cloud: งานด้านการแชร์ไฟล์ ซิงก์ข้อมูลระหว่างเดสก์ท็อปกับมือถือ
7. Mobile Cloud: บริการสนับสนุนการทำงานของแอพพลิเคชันองค์กรผ่านอุปกรณ์พกพา
8. Database Backup Cloud: ถือเป็นบริการที่น่าสนใจมากของบริษัทในปีนี้ ลูกค้าสามารถแบ็คอัพฐานข้อมูลของ Oracle ขึ้นมาเก็บไว้บนกลุ่มเมฆของ Oracle ได้โดยตรง
9. Billing and Revenue Management Cloud: ยกซอฟต์แวร์ด้านการออกบิลไว้บนกลุ่มเมฆ
10. Cloud Marketplace: ตลาดกลางสำหรับพาร์ทเนอร์ด้านซอฟต์แวร์ที่พัฒนาแอพบน Oracle Cloud
ที่มา - Oracle Press
นอกจากนี้ Oracle ยังประกาศว่าฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ด้านประมวลผล Oracle Exalogic จะทำงานร่วมกับ OpenStack API ได้แล้ว ช่วยให้ลูกค้าที่สร้างกลุ่มเมฆบน OpenStack (ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมไปแล้ว) สามารถย้ายระบบข้ามไปมาระหว่างกลุ่มเมฆกับเซิร์ฟเวอร์ Exalogic ได้ง่ายขึ้น
ที่มา - Oracle Press
Comments
น่าจะมี ซักเจ้า มีโหนดในไทย
ถ้าเปิดตัว Jarvis คงสนุกไม่น้อย