รวมมิตรข่าวแท็บเล็ต ป.1 ในช่วงนี้นะครับ
- สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบแท็บเล็ตในช่วงปีแรกจำนวนประมาณ 8.6 แสนเครื่องพบว่าชำรุดเสียหายจนต้องส่งซ่อมแล้วประมาณ 2.58 แสนเครื่อง หรือคิดเป็น 30%
- บริษัทรับซ่อมแซมและดูแลเครื่องที่ทำสัญญากับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ (ผู้จัดหาแท็บเล็ต) ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังการขายที่ทำสัญญาไว้ 2 ปีได้ เช่น ไม่สามารถซ่อมให้เสร็จทันตามกำหนด ปิดศูนย์บริการบางจังหวัดลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แถมยังหอบแท็บเล็ตไปด้วย ทำให้โรงเรียนทวงแท็บเล็ตคืนไม่ได้
- บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) ยื่นอุทธรณ์กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกผลการประมูลอี-ออกชันของแท็บเล็ตโซน 3 (บริษัทเป็นผู้ชนะประมูล) เนื่องจากสตง.ชี้ว่ามีผู้เข้าร่วมแข่งขันน้อย และชนะประมูลในราคาที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่อเจตนาฮั้วประมูล
- บริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจน คอนโทรล ผู้ชนะการประมูลแท็บเล็ต ป.1 โซน 1 และ 2 ของทั่วประเทศ ประมาณ 8 แสนเครื่อง ขอเลื่อนการจัดส่งแท็บเล็ตงวดแรก 1 แสนเครื่อง ไปอีก 1 เดือนจากที่ต้องส่งมอบในวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนในประเทศเกาหลีเมื่อวันที่ 9 ก.ย.
- แนวคิดคูปอง 3,000 บาท เกิดจากปัญหาการจัดซื้อแท็บเล็ตในโซน 3 โดยส่วนกลาง แต่อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังมีช่องโหว่อีกมาก อาจใช้กับเพียงบางกลุ่มเท่านั้น
ที่มา: โพสต์ทูเดย์, สยามรัฐ, ผู้จัดการออนไลน์
Comments
ส่วนใครอยากได้อรรถรสมากขึ้นอีกหน่อย แนะนำอ่าน ตามติด "แท็บเล็ตนักเรียน" ที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯ ออกมายอมรับว่าแป้ก! อีกอันนะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แก้แล้วครับ จริง ๆ อยากขยายความเรื่องโซนด้วยเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าโซนนี่หมายถึงเขตการศึกษาหรือเปล่าเลยไม่ได้อธิบายไว้ในเนื้อข่าวนะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน => สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ส่งซ้อม => ส่งซ่อม
ฃี้ว่า => ชี้ว่า
ซ่อมไม่เสร็จทันตามกำหนด > ซ่อมให้เสร็จได้ทันตามกำหนด,
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
ถูกแล้วนะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ผมแก้ให้เข้าใจง่ายขึ้นอักหน่อยแล้ว
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ตึ่ง!!!!
เป็นตอนจบที่น่าจะเดากันได้แต่แรก เอะ หรือว่ามันยังไม่จบ
PC เน่าๆตั้งตระหง่านอยู่อย่างนั้นไม่รู้จักจำ แล้วถ้าบริษัทหนีหายต๋อมแล้วใครจะรับผิดชอบ?
เงินภาษีทั้งนั้น ใช้ไม่เคยคิด ถ้าเป็นพวกมันมันจะคิดมากกว่านี้อีก
เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้
ช่วงก่อนโครงการนี้จะเริ่มมีผู้สนับสนุนหลายคนบอกว่าควรให้โอกาสรัฐบาลลงมือทำไปก่อน ไม่ต้องรอความพร้อมด้านอื่น โดยให้เหตุผลว่าหากมัวแต่รอทุกอย่างพร้อมคงไม่ได้เริ่มทำอะไรกันพอดี และตอนนั้นคนกลุ่มเดียวกันนี้เคยบอกว่าหากทำออกมาแล้วไม่ดีจริงค่อยออกมาตำหนิก็ยังไม่สาย
ไม่ทราบว่าตอนนี้ถึงเวลาตำหนิโครงการนี้ได้แล้วหรือยังครับ ?
ส่วนตัวไม่ชอบให้เด็กจ้องหน้าจอเลยไม่สนับสนุนแนวคิดนี้แต่แรก รวมไปถึงมองเห็นช่องโหว่ในกระบวนการหลายๆ อย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าขนาดตัวเครื่อง tablet เองยังไม่ได้คุณภาพขนาดนี้ (เอ๊ะ หรือว่าเด็กเล่นแล้วพัง) ส่งซ่อม 30% นี่ถือว่าเยอะมาก บริษัทซ่อมกับบริษัทจัดจำหน่ายยังเป็นคนละบริษัทกันอีก ไม่แปลกใจที่จะปิดศูนย์รับซ่อมหนีเพราะรับ ... มาล้วนๆ
คนขายฟ้องเพราะอยากขาย (เพราะอาจจะได้ฮั้วตามข่าว) ส่วนคนซ่อมก็อยากปิดบริษัทหนี เด็กก็อยากใช้แต่ก็ไม่มีให้ใช้
ลิเกโรงนี้คงมีฉากสนุกๆ ให้เห็นกันอีกเยอะ
That is the way things are.
ยังไม่ถึงเวลาครับ ต้องรออีกหลายๆปีให้คนลืมๆ กันไปก่อน ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน (ถ้าลืมกันหมดแล้วก็ไม่ต้องต่อว่ากันแล้ว)
อย่าไปตำหนิเลยครับ เดี่ยวโดนข้อหา "ซ้ำเติม" เปล่าๆครับ
ปล.ประชด
ระบบ ทดลองทำก่อน ไม่ต้องวางแผนไม่ต้องศึกษารายละเอียด ถ้ามีปัญหาค่อยมาหาทางแก้ทีหลัง มีใช้กันมานานมากจนน่าอนาถใจจริง ๆ ครับ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนมาก คือเรื่องระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย
เปลี่ยนระบบใหม่ทุกปีสองปี
ซึ่งปัญหาก็เหมือนเดิมทั้งสองกรณีคือ
ผู้เดือดร้อนเป็นเด็ก ทำได้แค่โวยวาย
ส่วนคนทำก็ตั้งหน้าตั้งตาทำเหมือนเดิมซ้ำ ๆ ต่อไป
เด็ก ๆ ก็ทนรับกรรมไป
โอ.. ใช่เลยผมนี่หนูทดลองรุ่นแรกๆ ปฏิรูปการศึกษานี่คือคำที่น่ากลัวสุดๆ
ปัญหาสาหัสครับ แต่ผมยังสนับสนุน otpc อยู่ คิดว่าเสียเยอะขนาดนี้เกินคาด ประเมินคุณภาพสินค้าจีนต่ำไป ควรเพิ่มงบ และซื้อยี่ห้อใหญ่เลยครับ เช่น samsung ซึ่งก็ถูกลงมามากแล้ว เอาแบบที่ว่าไม่ปิดหนี เด็กเอาไปซ่อมเองได้
ไม่อยากให้รัฐลงทุนทางเทคโนโลยีกับใครก็ตามที่ไม่รู้จักลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
งงครับ เกี่ยวกันไงกับบริษัทข้างบนป่าว
ไม่เกี่ยวหรอกครับ เพียงแค่รู้สึกว่ากลุ่มคนข้างต้นมักจะใช้เทคโนโลยีอย่างไม่รู้คุณค่าเท่านั้นเอง
จากที่ตามเรื่องนี้มา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ H/W สักเท่าไหร่ (ผมเคยจับแล้วมันไม่ได้แย่) ปัญหาอยู่ที่กระบวนการบริหารจัดการเป็นหลักเลย ส่วนในด้านการเลือกใช้ S/W และการพัฒนา App สื่อการเรียนการสอนทำออกมาไม่ได้ตรงตามมาตรฐานเปิด (น่าเสียดายว่าเป็น Flash) คือมันย้ายและแปรสภาพไปใช้ระบบอื่นยาก (ทำใหม่อาจง่ายกว่า) รวมไปถึงเนื้อหาไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการ upgrade ตาม OS ในอนาคต คือต่อให้ใช้ของดีอย่าง iPad (ซึ่งบอกไปแล้วว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวกับ H/W) มันก็ล้อเหลวอยู่ดี เพราะเลือกใช้ S/W และ App ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้งานของภาครัฐ
แต่ผมยังสนับสนุนให้โครงการนี้มีต่อไป... เอาสิ่งผิดพลาดมาปรับปรุงใหม่ อันไหนรู้แล้วว่ามันมีปัญหาก็เก็บกลับมาแก้ไข
ปล. ก็เงินภาษีผมเหมือนกันแหละครับ
จากข้อมูลที่ผมได้ยินมา (ซึ่งเล็กน้อยมาก) บวกกับการเดาส่วนตัว ผมเชื่อว่าอนาคตมันจะดีขึ้นครับ
ถ้ามันยังไม่ล่มไปก่อนนะ
หวังว่าจะพัฒนาต่อให้ดีมากขึ้นเช่นกัน และเนื้อหาสามารถนำไปใส่ใน tablet ตัวอื่นๆ ได้ด้วย เผื่อบางคนไม่อยากใช้ของหลวง อยากใช้ของส่วนตัวจะได้นำไปใช้งานได้ อาจจะเสียเงินค่าลิขสิทธิ์เนื้อหาบ้าง แต่ก็เปิดโอกาสให้กับคนที่ไม่มีได้ใช้งานแทนคนที่มีครับ
spec ไม่แย่ครับ แต่ qc น่าจะไม่ดีพอ
เคยลองจับเล่นเหมือนกันแต่ไม่ได้ซื้อ โดยรวมโอเคครับ แต่เห็น user คุยกันใน group ของผู้ใช้งาน เครื่องหลายคนมีปัญหาครับ เจอบ่อยๆ ก็เรื่อง charge ไม่เข้า แถมส่งซ่อมแล้วบางทีกลับมาไม่หายหรือสภาพไม่เหมือนเดิมอีก
ต้องลองผิดลองถูกอีกกี่ครั้งถึงจะดี คาดเดาไม่ได้แบบนี้ผมรู้สึกไม่ดีเลยครับ รอประเทศอื่นทำแล้วค่อยทำตามเถอะครับ ถ้ามันจะแย่แบบนี้
ครูครับอิ่มใหม......
???
ผมดูช่อง 9 เห็นรัฐมนตรี ICT ออกมาแก้ข่าวแล้วนิ ว่าเสียแค่ 6 พันตัว ไม่ได้เยอะอย่างที่เป็นข่าว
ตอนนี้ส่งซ่อมอยู่ กำลังเร่งให้ซ่อมเสร็จส่งมอบได้ทันตามกำหนด
ตกลงข่าวลวงของ posttoday manager อีกหรือครับ ผมลืมอ่านที่มาข่าว ก็คิดอยู่เสีย 30% ต้องเลิกซื้อสถานเดียว
จะเชื่อ ส.ต.ง. (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) หรือจะเชื่อรัฐมนตรีเจ้าของโครงการดีนะ...
Happiness only real when shared.
นั่นสิจะเชื่อใครดีนะ แต่จากประสพการณ์ ผมไม่เชื่อ posttoday manager ครับ หมายความว่า ข่าวอ้าง สตง. เพื่อให้ดูเหมือนข่าวน่าเชื่อถือ แต่จริง ๆ สตง. อาจไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ได้ คำถามแรก สตง. มีหน้าที่ตรวจสอบว่า tablet เสียกี่เครื่องหรือครับ อีกเรื่องคือ tablet เสียปีละ 30% ไม่น่าเป็นความจริงแต่แรก ซึ่งผมก็ไม่ได้เอะใจ ถ้าเป็นจริง ต้องขน tablet ไปปาทิ้งหน้าโรงงานให้หายแค้น 555+
เอาข่าวต้นทางมาให้ดูแล้วกันครับ ตรงสองย่อหน้าสุดท้ายนี้แหละสำคัญ
//
รมว.ไอซีที ยันแท็บเล็ตเสียแค่ 0.62%
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตนักเรียนซึ่งได้แจกให้กับนักเรียน ป.1 ในปี 2555 มีปัญหาเครื่องเสียต้องส่งซ่อมถึงร้อยละ 30 หรือกว่า 258,000 เครื่อง ว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จากข้อมูลที่กระทรวงฯ ได้รับรายงานมานับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 ถึงสิงหาคม 2556 พบว่ามีเครื่องส่งเข้าศูนย์ซ่อมรวม 6,659 เครื่อง ซึ่งเป็นอาการเสียที่อยู่ในการคุ้มครองของการรับประกัน 5,344 เครื่อง หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.62 ของเครื่องแท็บเล็ตทั้งหมด 858,886 เครื่องเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นอาการเสียที่ตัวเครื่องหรือฮาร์ดแวร์ 3,571 เครื่อง และเป็นอาการเสียที่ซอฟต์แวร์ 1,773 เครื่อง อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีที่ระบุว่า การซ่อมเครื่องไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนั้น กระทรวงฯ ได้มีแนวทางให้บริษัทที่รับผิดชอบการซ่อมเครื่องรายงานการส่งซ่อมและวันซ่อมแล้วเสร็จโดยละเอียด หากล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญา จะดำเนินการหักเงินค้ำประกันตามสัญญา ส่วนกรณีที่ว่ามีการปิดศูนย์ซ่อมโดยไม่แจ้งนั้น ตรวจสอบแล้วได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ ว่ามีเพียงการย้ายสถานที่ไปใกล้เคียงเพียง 3 ศูนย์เท่านั้น และไม่มีเครื่องส่งซ่อมค้างอยู่
“พอเห็นข่าวคณะกรรมการแท็บเล็ตทุกคนงงหมด เสนอข่าวแบบนี้แย่ รายงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ได้มีตัวเลขดังกล่าว คนที่เขียนข่าวนำเสนอข่าวแบบไม่รับผิดชอบ ควรจะตรวจสอบก่อน เป็นไปไม่ได้ที่อยู่ดีๆ จะมีเครื่องเสียเป็นแสนเครื่องโดยไม่มีใครรู้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก สตง.เปิดเผยว่า มีการออกสุ่มตรวจการดำเนินโครงการแท็บเล็ตดังกล่าวจริง และได้พบข้อมูลว่ามีเครื่องแท็บเล็ตเสีย ทำให้นักเรียนไม่ได้ใช้งานจำนวนหนึ่ง ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของแท็บเล็ตในโรงเรียนที่สุ่มตรวจ แต่ไม่ใช่ร้อยละ 30 ของเครื่องแท็บเล็ตทั้งโครงการฯ. - สำนักข่าวไทย
Mcot.net
ขอบคุณครับ อ่านแล้วก็ชัดเจนนะครับ ว่าเป็นคนละเนื้อความกับข่าวข้างบน tablet ไม่ได้เสีย 2 แสนเครื่อง เป็นฤาษีแปลงสาร
สินค้ามันมาเป็นลอต ถ้าสุ่ม (หรือเลือกตรวจ) แต่ลอตที่มีปัญหา มันก็ต้องเสียเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แหล่งข่าว
โพสต์ทูเดย์, ผู้จัดการออนไลน์
ที่นี่ถือเป็นแหล่งอ้างอิงไปแล้วหรือ
ที่ไหนก็อ้างได้ครับ ถ้ามันไม่จริงค่อยเขียนข่าวแก้
ข่าวไหนอยากให้มีก็เขียนส่งมากันนะครับ ส่วนข่าวไหนไม่อยากให้มีอาจจะต้องเอาพวงมาลัยไปบวงสรวงเทพบนเขาโอลิมปัส
สรุปคือ มีเครื่อง แต่ที่เหลือไม่พร้อมเลยครับ การใช้งานจะต้องนึกถึงที่บ้านด้วยนะ เพราะเด็กมีเวลากับแท็บเล็ต ที่บ้านมากกว่า
อ่านแล้วอ่อนใจเรื่องครูทำผลงาน แล้วไม่รู้เรื่องเนี้ยแหละครับ
อ้ายยยยย คิดแล้วเขิลลลลลลลลลล >_< O////O
ดูอีกที อ้าว อ่านผิด อ่านเป็น "เนื่องจากเป็นภรรยาครูผู้สอน" ได้ไงเนี๊ย เหอๆ =_=
งบซื้อ tablet สามารถนำไปเดิน fiber optic ความเร็ว 1Gbps ไปถึงทุกๆ โรงเรียนในประเทศไทย
ข้อสังเกตจากข่าวต้นทาง
ข่าวอ้างแหล่งข่าวจากสตง. แต่ไม่ได้อ้างรายงานอย่างเป็นทางการใดๆของสตง.
คนของสตง.ที่เปิดเผยชื่อ แบ่งรับแบ่งสู้กับรายงานนี้
นั่นคือไม่มีเอกสารใดๆ เป็นแค่คำกล่าวอ้างจากแหล่งข่าวที่อ้างว่าจากสตง.
นั่นคือ ข่าวอาจมีมูลความจริง จากรายงานภายในสตง.ที่ยังไม่ได้อนุญาตให้เปิดเผย หรือยังอยู่ในแค่ชั้นกรรมการ ยังไม่ได้ลงนามอนุมัติใดๆ แต่มีคนลักไก่ออกมาให้ข่าว หรือแม้แต่อาจเป็นแค่ข่าวที่ถูกสร้างขึ้นก็ได้ เพราะอ้างอิงกลับหาใครไม่ได้เลย
ก็ต้องรอดูรายงานตัวจริง(ถ้ามี)เทียบตัวเลขเอา
โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเลข30%มันเยอะเกินไป แต่เป็นไปได้ถ้านับรวมอาการเสียจากsoftware เช่นต้องลงโปรแกรมใหม่ ฯลฯ ซึ่งไม่น่าจะนับรวมเป็นอาการเสียจากhardware
/แก้ไข/ เพิ่งเห็นข่าวข้างบน ว่า30%จากจำนวนที่สุ่มตรวจ ไม่ใช่จากจำนวนที่จัดซื้อทั้งหมด แบบนี้ถือว่าต้นทางเขียนข่าวชี้นำบิดเบือนมากๆครับ และอันที่จริงมันจะสุ่มได้ยังไงในเมื่ออ้างว่าส่งซ่อมอยู่ยังไม่ได้คืน?
ลองของกันเหรอเนี่ยถ้าต้นทางโดนฟ้องขึ้นมาคนเขียนข่าวนี้ก็จะพลอยโดนไปด้วยนะครับ
30%ของทั้งหมดกับ 30%ของที่สุ่มตรวจแค่นี้ก็ครบองค์ประกอบคำว่า ข้อความอันเป็นเท็จแล้ว
ผมไม่ค่อยเชืีอเว็บ ผจก เพราะเคยมีกรณีลงข่าวได้ไม่กี่ชม.รีบลบทิ้งแล้วเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเชื่อว่าคนเขียนข่าวนี้มีความพยาบาทอย่างรุนแรง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หือ ใครหว่า? ใคร?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อย่ามาทำไขสันหลังกระสือ!
อ่านแหล่งข่าวแล้ว เพลียรอ ข่าวต่อไป บ.จะฟ้องไหม
ผมเป็นส่วนหนุึ่งที่พัฒนาตัวแอพเองครับ ยอมรับว่าตัวที่ได้มาทดสอบใช้งาน สักสิบตัว มีปัญหา2-3 เครื่อง
ตัวแอพมีหลายบริษัทที่จัดทำเหมือนกัน แต่ของผมใช้ Corona SDK และจะย้ายไป unity
เพลียกับแหล่งข่าว