ในงาน Gartner Symposium/ITxpo นั้น David Willis นักวิเคราะห์ของ Gartner ได้ถาม Eric Schmidt ประธานบอร์ดกูเกิลว่า "ถ้าคุณทำโพลสำรวจผู้เข้าชมในงานนี้ เขาจะบอกว่า Android นั้นไม่ปลอดภัย" Eric Schmidt ตอบกลับสั้น ๆ ว่า "ไม่ปลอดภัยเหรอ? ปลอดภัยกว่า iPhone แล้วกัน"
Schmidt เลี่ยงการตอบคำถามโดยตรง เขาบอกว่า Android นั้นมีผู้ใช้นับพันล้านคน และผ่านการตรวจทดสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยแล้ว เขายังตอบคำถามเรื่อง fragment ว่า "เราทำสัญญากับผู้ค้ารายอื่นแล้วว่าจะทำให้ Android ทำงานร่วมกันได้ และนั่นคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ Android"
ในตอนท้ายการประชุม Schmidt ยังย้ำอีกว่า "Android นั้นปลอดภัยมาก" และยังกล่าวถึงบริการอื่น ๆ ของกูเกิลอีกว่า "คุณจะมีความสุขกับ Gmail, Chrome และ Android มากกว่าที่คุณคิดไว้เสียอีก"
ที่มา - ZDNet ผ่าน The Vergre
Comments
รอดูสงคราม #Popcorn
น่าจะเป็นสงครามข้าวโพดคั่ว เอาข้าวโพดมาขว้างใส่กันใช่มั้ยครับ
The audience again gave a hearty chuckle.
The audience chuckled again, and Willis, chuckling himself, responded, "...that makes it a wrap."
อืมมม
มาม่า มาม่า มาม่า มาม่า มาม่า มาม่า มาม่า มาม่า
ศาสดาชงให้แล้ว สาวกตบได้เลย
เขาเอาตัวเลขสำนักไหนมาอ้างเหรอครับ ถึงได้พูดแบบนั้น 555
เปิดกว่า ก็ต้องอันตรายมากกว่า รึไม่ใช่
ไม่เสมอไป
อันนี้ไม่เสมอไปนะครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ระบบ CMS ที่คุณเขียนเองกับ Drupal ที่เว็บนี้ใช้อยู่ คุณว่าระบบไหนปลอดภัยมากกว่ากัน
ผมว่ามันขึ้นกับทีมที่สร้างนะ
ถ้าเทียบกับการให้ คนๆ เดียวเขียน ผมว่ามันจะดูทารุณเกินไป
ลองเทียบ Drupal กับ .net อันไหนปลอดภัยกว่ากัน ... น่าจะเข้ากว่า
ปล. อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ นะ
เห็นด้วยครับ ไม่เสมอไป แต่ด้วยความที่มันเปิด วันดีคืนดี จากที่ปลอดภัยอาจจะไม่แล้วก็ได้วันไหนไม่รู้
แต่ที่มัน close อยู่มันอาจมีช่องโหว่ตั้งแต่วันแรกเลยก็ใด้
อย่าง Microsoft's COFEE forensics tool ที่หลุดออกมา
หรือ Carrier IQ ถ้ายังจำกันใด้
หรือ อย่างที่ Anonymous บอกว่า การใช้ Touch ID ก็คือให้ลายนิ้วมือแก่ NSA (http://www.blognone.com/node/49324)
... ซึ่งเราไม่มีทางรู้ใด้เลยว่าจริงหรือไม่ เพราะมันปิด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Redhat vs Windows ??
Windows เถื่อน + crack ?
จำนวนผู้ใช้งาน?
ความสามารถที่ทำได้?
จำนวนแพทฟอร์มที่ซัพพอร์ต?
งงครับ? อันนี้ประเด็นไหนเอ่ย?
ผมเสนอความคิดในประเด็น "เปิดกว่า ก็ต้องอันตรายมากกว่า รึไม่ใช่"
ถ้าเป็นประเด็นเดียวกันก็ลองเทียบเฉพาะ server ก็พอครับ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น
ไม่ใช่
เปิดกว่ามีคนตรวจสอบมากกว่า หากทีมพัฒนาสนใจและแก้ตาม มันจะปลอดภัยกว่า ในอีกมุมหนึ่งหากทีมไม่สนใจ ก็จะอันตรายกว่า
อีกทั้งการเปิดโค้ดคือการเปิดกระบวนการทำงาน ซึ่งกระบวนการทำงานหลาย ๆ อย่างไม่ต้องเปิดโค้ดก็เดาได้ และการเจาะเข้าระบบโดยใช้ black box หรือ gray box model จะเปิดโค้ดหรือไม่เปิด แทบไม่ต่างกัน แต่ Open Source Software มันได้เปรียบเรื่อง loop การพัฒนา การอุดช่องมันสั้นกว่ามาก เจอช่องว่างปุ้บ สามารถ release อุดช่องว่างได้ทันที หากเป็นซอฟท์แวร์พาณิชย์ ต้องรอ release ถัดไปซึ่งตามกระบวนการแล้วรอนานกว่าแน่นอน
เข้าครัว แล้วหยิบมาม่าบิ๊กแพค 2 ซอง มาต้มรอได้เลย 555
เหรอ...
ถ้าเอาคำพูดสุดท้ายนี่ตามประสบการณ์คือ Nexus เท่านั้น
ห๊ะ ... อะไรนะ
ทุกระบบ ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน ;P
my blog
+1 ตามนั้น
+100
เชื่อไม่ลง
Joke of the Day :D
NASA บอก"เจ้าปลอดภัย แต่พวกเอง2ตัวโดนช่องโหว่ไปตั้งแต่เริ่มสร้างละ"
NSA หรือป่าวครับ หรือว่าเล่นมุข
อันนั้นมันมาตรฐานอุตสาหกรรมครับ #ปืนจ่อหัว T^T
ตรงหัวข่าว แก้ แอนดรอยด์ -> Android หรือไม่ก็ iPhone -> ไอโฟน ดีไม๊ครับ
ส่วน Window Phone ปลอดภัยกว่า Android ฮา
ตามนั้นเลยครับ
Windows Phone ถ้าเข้าถึง Kernel ได้นี่ก็ไม่ปลอดภัยครับ เอา Windows NT มาใส่ทั้งดุ้น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
วันก่อนเพิ่งดู Keynote เปิดตัว iPhone ที่ลุงแกขึ้นมาพูดในงาน นี่ถ้าศาสดาได้ยินข่าวนี้คงอกแตกตายตั้งกะวันนั้นละ
อยากรู้ว่าไอโฟนมีเครื่องที่เจลเบรกเยอะแค่ไหน แล้วเครื่องที่เจลแล้วมีความปลอดภัยแค่ไหน ส่วนตัวไม่เจลไม่รูทเพราะต้องการความปลอดภัยพอสมควร
สำหรับ Power user มากๆ หน่อยเป็นไปได้ว่าอาจจะปลอดภัย เพราะจัดการอะไร ทำอะไรเองได้หมด เจอบั๊กอาจจะแก้ได้ก่อนผู้ผลิตด้วยซ้ำไป แต่สำหรับ user ทั่วไปที่ไม่รู้อะไรนัก permission ไม่เคยอ่าน ผมว่า iPhone ก็น่าจะปลอดภัยกว่า แอพมีคนกรองให้ มีบั๊กก็อัพเดตจาก Apple ไม่ได้ช้าอะไร เทียบกับ Android ที่บางรุ่นอาจจะไม่ได้อัพเดตเลย หรือไม่ก็ช้า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อันนี้แล้วแต่คนนะ สาวกผลไม้ ศาสดาบอกมาแล้วว่าปลอดภัยก็จะเชื่อฝังหัวไปแล้ว
ส่วนหุ่นกระป๋องขนมหวาน ก็ยืนยันว่าปลอดภัยกว่า งานนี้ผลไม้จะตอบโต้ยังไงเนี่ย
แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่า ทั้งผลไม้ และขนมหวาน มันจะปลอดภัย ถ้าไม่เจล ไม่รูท เผลอๆ เจลอาจจะอันตรายกว่ารูทก็เป็นได้
(android ต้อง Nexus)
แต่ถ้าเราใช้ app ที่เกี่ยวกับการเงินหรืออะไรที่สำคัญๆ มันก็ต้องระวังเรื่องการใช้งานเองด้วยมั้ย ส่วนนึงก็อยู่ที่ผู้ใช้งานนี่แหละ
..: เรื่อยไป
ปูเสื่อรอ ...
รวย+ไม่มีความรู้ = iphone
จน+มีความรู้ = android
รวย+มีความรู้ = windows phone
จน+ไม่มีความรู้ = nokia แป้นกดเลข 0-9
สำนักไหนเนี่ย @.@
เหยียดคนไปไหมครับ
เล่นเอาผมเลือกไม่ถูกเลยทีเดียวว่าจะ "จน" หรือ "ไม่มีความรู้" หรือ "รวย+ฉลาด แต่เป็นส่วนน้อย" ดี ดันมีครบทุกอย่าง = ='
การความเห็นเหยียดคนอื่นแบบนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในเว็บนี้
ถ้าผมเห็นอีกครั้งจะแบนโดยไม่พูดซ้ำนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
แล้วถือ Nokia x3-02 ผมอยู่ประเภทใหนเนี่ย T T
มันก็จรงนะ ฮาฯ ปล.ข้างบนอย่าเครียดนะ คิดเชิง+คิดเชิง+
ขำตรงไหน?
+1 เรื่องพวกนี้มันไม่น่าเอามาล้อเล่นเพราะค่อนข้างอ่อนไหว มือถือไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดฐานะหรือความรู้
+1 ครับ แหม เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลยังใช้มือถือฝาพับเลย
ผมขำตรง space (ASCII=32) ที่ต่อจากเครื่องหมาย = อ่ะครับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ถึงไม่เห็นด้วยกับการเหยียดแบบนี้ แต่ก็จะขอแย้งว่า
โดยปรกติแล้ว คนรวย มีโอกาส เข้าถึงแหล่งความรู้หลายช่องทาง
ทำให้มีความรู้มากกว่าคนจนนะครับ
คนจนก็ด้อยโอกาสกว่า ในความเป็นจริง
แต่คนไทยยึดมั่นในหลักคุณธรรมนำความรู้
ถ้าพูดกันในแง่ ความรู้ + ความรวย ไม่นับคุณธรรม จริยธรรม
งั้นผมจะเทียบให้เห็นภาพบ้าง ในเชิงการเมือง
รวย มีความรู้ = ทักกี้
จน ไม่มีความรู้ = นายหัวชวน
ปล. การเอาฐานะทางสังคม มาเหยียดหยาม มันเป็นประเด็นอ่อนไหว ผมจึงทำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ปิดประเด็น รวย จน ไปเลยครับ / จบ
ขอเถอะครับ อย่าเอาผู้หลักผู้ใหญ่มาทำแบบนี้เลย
ผู้ใหญ่ที่คุณพูดถึงบางคนเค้าก็เคารพให้เกียตินะครับ
คนที่โดนหาว่าขายชาติกับคนที่ทำประเทศล่มจมจนฟองสบู่แตก น่าเคารพมากเลยนะครับ
ฟองสบู่แตกยุคจิ๋วนะครับ ชวนเข้ามาตอนกู้ไอเอ็มเอฟไม่ใช่เหรอ
เบาๆ ครับอย่าเสียงดังไป
ผมจำสลับผิดเองแหละครับ ขอโทษด้วยครับ
ทำซ้ำทั้งที่ผมเตือนแล้วข้างบน ผมก็แบนเป็นตัวอย่างแล้วกันนะครับ
แจงเพิ่มเติมว่าผมไม่มีปัญหากับ "การเมือง" นะครับ แต่การเที่ยวไปดูถูกใครว่าไม่มีความรู้โดยไม่มีบริบทใดๆ เขาไม่รู้เรื่องไหน เขาทำผิดอะไร แค่ชี้ไปเฉยๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ครับ ไม่อย่างนั้นเว็บจะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ชอบใครไม่ชอบใครกันไปตามใจชอบเสียหมด
lewcpe.com, @wasonliw
ผมคิดว่าสิ่งที่คุณ niyata โพสแสดงความคิดเห็น ไม่ได้เป็นการเหยียด หรือดูถูกคนอื่นนะครับ
แต่เป็นการกล่าวถึงเรื่องหลักการหรือความเป็นจริงที่ว่า คนรวยมักจะมีโอกาสในการเข้าถึงความรู้มากกว่าคนจน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงในสังคมนี่ครับ และเค้าก็ไม่ได้พูดดูถูกเหยียดหยามคนจนเลยว่าโง่ หรือไม่ฉลาด
คิดว่าในกรณีนี้ การแบนน่าจะรุนแรงไปนะครับ
ผมก็แค่แสดงความคิดเห็นบนสื่อสารธารณะแห่งหนึ่ง ถ้าการแสดงความคิดเห็นของผมไม่เป็นที่ยอมรับของบอร์ดนี้ ผมก็ยอมรับมาตรการลงโทษตามกฏของเว็บบอร์ดครับ
ผมไม่มีปัญหากับข้อความอื่นนะครับ ผมมีปัญหากับการยกว่าคุณชวน "จน ไม่มีความรู้" เป็นการดูถูกโดยไม่มีเหตุอะไร เช่นเดียวกับความเห็นต้นทางที่ถูกเตือน
เมื่อทำซ้ำในรูปแบบเดียวกับข้อความที่ถูกเตือนจึงถูกแบนครับ
lewcpe.com, @wasonliw
งั้นผมคงไม่ขอแย้งอะไรอีกแล้วครับ เพราะประโยคนั้นก็เข้าข่ายคำเตือนจริงๆ
ขอบคุณครับที่ใส่ใจกับความคิดเห็นของผม
ผมเสนอว่า ต่อไปควรอธิบายมุมมองถึงสาเหตุในการเตือนของ @lew ด้วยครับ
คือหลายๆ ครั้งผมพบว่าประเด็นที่ @lew มองมันก็ลึกจนผมมองไม่เห็น แต่ถ้าชี้ก็ชัดครับ
แบบคราวนี้ หลายๆ คนก็นึกว่าประเด็นของการเตือนอยู่ที่การเหยียดคนจน ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าประเด็นไปตกอยู่ที่การดูถูกคุณชวนซะอย่างนั้น
หรือผมอาจเห็นประเด็นไม่ชัดอยู่คนเดียว =_=
เอ่อ ประเด็นแรก นายหัวชวนเรียนจบนิติธรรมศาสตร์ คือเข้าใจว่าใช้คำว่าไม่มีความรู้คงไม่เหมาะ และอีกประเด็น ได้ข่าวสมัยที่ฟองสบู่แตกบิ๊กจิ๋วเป็นคนจัดนี่ครับ เกี่ยวไรกับนายหัวชวนครับ
คนจะโยงซะอย่างหละครับ
ข้อมูลจริงเท็จก็สามารถทำได้
จะรวยได้ ก็ต้องมีความรู้ก่อนไม่ใช่หรือ???
แล้วคนที่ใช้ Nokia แป้นกดเลข 0-9 คือคนที่ใช้แค่พอดีตัวไหมครับ ก็น่าจะเรียกว่าคนฉลาดที่จะใช้นะ
แล้ว Android ราคาแพงกว่า iPhoneบางรุ่นก็มี แปลว่าเค้าจนกว่าคนใช้ iPhone ที่ราคาถูกกว่าหรือ?
ผมว่าคนขยันอย่างถูกทางมากกว่าครับ
มีความรู้แต่หาลู่ทางไม่ได้ก็จบ
ขยันแบบไม่มีความรู้แต่ก็เก็บเงินจนเป็นเจ้าของกิจการได้หละครับ
คนรู้จักคนหนึ่ง มีทรัพย์สิน 20 ล้าน แต่ไช้มือถือแป้นกดเลข 0-9 (ไม่ไช่ nokia) พอผมถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนเค้าบอกว่า "คนรวยทำตัวจนยิ่งรวย คนจนทำตัวรวยยิ่งจน" เพราะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มีแต่คนรอกินมาม่า ไม่มีใครชงสักคน
สงสัยวันนี้คงอดกิน ^_^
เค้าก็พูดทุกอย่างให้ขายของได้หละครับ ทั้งๆที่มันไม่จริงเลย ระบบเปิดจะเอาอะไรไปสู้ Apple ได้
ผมว่าที่ท่านพูดก็ไม่จริงทั้งหมดเหมือนกันนะครับ
Android มันกว้างมาก ตั้งแต่ค่ายยักษ์ใหญ่ SS, Sony, HTC, ตระกูล Nexus
หรือบรรดาน้องใหม่ ค่ยจีน ค่าย Local เสียวหมี, i-Mobile, Oppo, Huawei
Rom, Kernel ก็โมกันมาเป็นร้อยๆ ค่ายไหนเก็บรายละเอียดดีมันก็ปลอดภัย ไม่รั่ว
ไม่จำเป็นต้องค่ายใหญ่มากประสบการณ์ แต่ค่ายเล็กไฟแรงมันก็ทำได้
ไหนจะ User เองอีก ที่ปรับแต่งระบบได้อีกโข หากมีความรู้มันก็เพิ่มความปลอดภัยได้อีก
ดังนั้นผมว่ามันมีหลายปัจจัย มีทั้ง "ปลอดภัยกว่า" และ "รั่วกว่า" ถ้าหากจะนำไปเทียบกับ iPhone
Apple เองก็มีข่าวออกจะบ่อยเรื่องความปลอดภัย ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน
ถ้าพูดแบบนี้ อยากให้ลองมองอีกด้านนึงครับ
"ระบบที่มีคนปรับปรุงแค่พันคน จะเอาอะไรไปสู้กับระบบที่มีคนทั้งโลกช่วยกันปรับปรุงได้"
ระบบเปิดทำให้คนหวังร้ายแฮคง่ายขึ้น ก็ทำให้คนหวังดีช่วยกันหาช่องโหว่ได้ง่ายขึ้น ช่วยกันปรับปรุงได้เร็วขึ้นเช่นกัน
แต่ประเด็นคือมันไม่มีอัพเดตถึง user สิ เพราะผู้ผลิตไม่อัพให้ คนซักกี่ส่วนที่รูท ที่อัพเอง หรือลงรอมเอง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถูกต้อง แต่มันเป็นแค่ทฤษฎี ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ใช่ ต้องดูเป็นกรณีไป
ใช่ครับ มันเป็นแค่ทฤษฎี แต่มันก็เป็นไปได้ใช่มั้ยครับ(ซึ่งเป็นได้มั้ย ต้องดูเป็นกรณีไปตามที่คุณว่านั่นละ)
ดังนั้นผมถึงบอกว่า"ถ้ามองอีกมุมนึง" ไม่ใช่"ในความเป็นจริง"ไงครับ
พูดถูกแค่ประโยคแรกประโยคเดียวครับ
@TonsTweetings
ผมว่าทุกๆคน กำลังหลงประเด็นแล้ว
Eric Schmidt เค้าจะพูดถึง รอมโม ทำไมครับ
เค้าก็หมายถึง Pure Android เนี่ยแหละ
ในความหมายของนักข่าวก็หมายถึง Pure Android
อารมณ์ว่า iPhone 5 ปลอดภัยกว่า Nexus 4 คุณว่าไง Schmidt
ตอนนี้ผมทำงานพัฒนา App ของธนาคาร ธนาคารหนึ่ง ในทีมงานบอกว่าเราเลิกพัฒนา Android ไปแล้ว เหตุผลเพราะเรื่องความปลอดภัยครับ ส่วนฝั่ง iOS พัฒนาต่อ
โดยความปลอดภัยที่ว่าคือ มีคนทำ App หลอก ไม่อัพขึ้น Play Store แต่ตั้งชื่อเหมือนกัน และหลอกให้ผู้ใช้ลง (โดยมีขั้นตอนเปิดอนุญาติลงนอก Play Store เสร็จสรรพ) ทำให้คนที่ไม่ถนัดเรื่อง IT แบบเราๆ ท่านๆ ในที่นี้ โดนหลอกให้ลงโดยง่าย
ก็เลยกลายเป็นว่ามันเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่ปลอดภัยไปโดยปริยาย? ถ้า ios มี app โทรจัน แล้วเจ้าของเครื่องไม่มีความรู้เอาเข้าร้านให้ทำให้ เด็กในร้านลงแอพตู้โดยแถมโทรจันเข้าไปด้วย เป็นความผิดของระบบปฏิบัติการหรือเปล่าครับ?
อันนี้ผมว่ามันจะถือเป็นความผิดพลาดของ user มากกว่าระบบปฏิบัติการนะครับ การที่คิดว่าลงแอพภายนอก store นี่ผมว่าผ่านกระบวนการชั่งใจตัดสินใจเองแล้วนะครับว่ามันควรจะปลอดภัยมากกว่าใน app store เหมือนที่หลายๆ คนคิดว่าการลงแอพตู้ปลอดภัย
เห็นด้วยทุกประการครับ แต่ประเด็นมันก็ยังมีผลตอความปลอดภัยของความเป็น Android โดยรวมอยู่ดี user error นี่เรียกไปคือช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของทุกระบบปฏิบัติการ และวิธีใดหรือแพลตฟอร์มไหนก็ตามที่ลด user error ได้ ยิ่งดีครับ
@TonsTweetings
เห็นด้วยนะ แต่ถ้ามองในมุม user ว่า "ฉันจะเอา" ซะอย่าง ผู้บริหารหน้าไหนก็ไม่กล้าอนุมัติให้หรอกครับ
เจอมาเยอะครับ พวกผู้บริหารขี้เกลือ คุมไอที แต่ไม่มีความเข้าใจไอทีเลยซักนิด
"คุณจะมีความสุขกับโฆษณาที่เรา
แอบอ่านเมลของคุณแล้วเอามานำเสนอให้คุณได้มากกว่าที่คุณคิดไว้เสียอีก" ♥️ขอมาม่าเจครับ #กินเจ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+2 ซอง รสต้มยำ ใส่เต้าหู้เพิ่มโปรตีนด้วยครับ
A smooth sea never made a skillful sailor.
พูดงี้ท้าทายแฮกเกอร์นะเนี่ย
เหตุผลสนับสนุนฟังดูไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไร บอกว่าปลอดภัยกว่าแต่ไม่มีข้อมูลเชิงเปรียบเทียบสนับสนุนเลย
น่าจะออกแนวพูดลอยๆ แก้เกมมากกว่า
That is the way things are.
แต่สำหรับ user ธรรมดาๆ ที่ไม่สนใจอะไรเลย เอาแต่โหลดแอปแล้วเล่นอย่างเดียว IOS น่าจะปลอดภัยกว่านะครับ 555 แต่ถ้าเป็น user ที่มีความสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีพอสมควร ผมว่าแอนดรอยด์มันน่าจะโอเคกว่านะฮะ เพราะสามารถปรับได้ตรงกับระดับความปลอดภัยที่เราต้องการได้มากกว่าฮะ ( แอบเห็นด้วยกับพี่ Be1Con นะฮะ Windows กับ WP มัน Kernel เดียวกัน เป็นไปได้ว่าแก้ไฟล์ที่จะใช้เจาะนิดหน่อยก็น่าจะเจาะได้แล้วนะครับ 55 *แอบหวั่นๆกับเครื่องในมืออยู่ 555)
หน่วยงานด้านความปลอดภัยที่ว่า คือ National Security Agency แน่ๆเลย
มันคงจะรู้สึกปลอดภัยกว่านี้ถ้า play store ไม่มีแอพหลอก....
และคงรู้สึกปลอดภัยมากกว่านี้ถ้าทุกเครื่องสามารถเข้าถึง patch อุดช่องโหว่ล่าสุดได้
อย่าลืมว่าความปลอดภัยของ opensource คือการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้
และช่วยกันอุดช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่ง patch ไปที่ AOSP ครับและไม่ใช่ทุกเครื่องที่เข้าถึงได้
และแน่นอน android ไม่ได้บังคับให้ทุกเจ้าเปิดโค้ดทุกส่วนดังนั้นยังมีช่องโหว่ที่แต่ล่ะเจ้ามีอยู่เองอีก
คำพูดที่ฉุกคิดขึ้นมาได้จากการบ่นข้างบน
"Nexus เถอะครับจะได้ไม่เป็นภาระกับลูกหลาน"
"ทำให้ทุกเครื่องรับ patch ความปลอดภัยผ่าน Google Play Service ได้เถอะครับ"
ผมนึกถึง Windows Update อะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็อัพให้หน่อยเถอะครับ เอาแบบดึงตรงๆ เอาแค่เครื่องที่จ่ายค่า Google Play Service ก็ได้ พวกเครื่อง Android โมเองก็ปล่อยไป
Android 4.3 ปลอดภัยกว่า iOS7 นะครัช // แบบนี้หรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ
iOS ปลอดภัยตรงมีระบบปิด แล้วถ้าเจลเบรคล่ะ (?)
Android ปลอดภัยตรง Google Service ที่ห้อยมากับ Google Play ทำงานคล้าย Antivirus ถึง Root เจ้า Google Service ก็ไม่ได้หายไปไหน ปลอดภัยเหมือนเดิม (?)
พวกมัลแวร์จะไม่สามารถทำอะไรเราได้ ถ้าเราไม่กด Accept มัน??
*แก้ไขคำผิด
เป็นมุกที่ตลกที่สุดในรอบปี
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ขนาดเมลยังแอบมาอ่านของเรา ยังมาโม้มาปลอดภัยอีก
ก็จริงของเขานะ schmidtเองก็เคยแฝงตัวเป็นสปายแวร์ในบอร์ดแอปเปิลอยู่ตั้งหลายปีนี่
Trust me, I am a Wizard
เรามักใข้ความเชื่อเดิมๆ มาตัดสิน สิ่งใหม่ๆ เสมอ คนไทยใช้ความเชื่อฝังหัวมาตัดสินการเลือกใช้ เทคโนโลยี
เค้าหมายถึงระบบ ไม่ได้หมายถึงความโง่ของคนใช้นะครับ
กด accept ไปเรื่อยนี่ยังไงก็ไม่ปลอดภัย
ก็จริงน่ะมันหมดยุคที่บอกติดปากว่า ios เสถียรกว่า ios ปลอดภัยกว่ามานานแล้ว ปากต่อปาก ข่าว ios ไไม่ปลอดภัยเยอะนะบ่อยด้วย
พูดปลุกกระแส อยากเป็นข่าวรึเปล่าครับ ขำไม่ออกครับ
ที่ๆ อันตรายที่สุด คือ ที่ๆ ปลอดภัยที่สุด /ใครบางคนไม่ได้กล่าวไว้
โทรศัพท์มือถือ smartphone ก็เปรียบเสมือน ตู้เซฟ ที่เก็บของสำคัญต่างๆของเราไว้เช่นหมายเลขโทรศัพ์ท์ Email รหัสต่างๆ
ถ้าผู้ใช้ ใช้ไม่เป็นก็เหมือนปิดตู้เซฟแต่ไม่ได้ล๊อก ใครๆก็สามารถมาเอาข้อมูลของเราได้ หรือแม้กระทั้งการเจล หรือ ปลดล๊อกต่างๆก็เปรียบเสมือนเราใช้ระบบล๊อกของตู้เซฟไม่เป็นจนต้องถ่อ ยกตู้เซฟไปให้ใครที่ไหนไม่รู้เอา แม่กุญแจมาล๊อก แทนที่ใช้ระบบล๊อกของเซฟ ไปซะงั้นแล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่ปลดล๊อกระบบให้เราไม่ได้ถือกุญแจสำรองไว้เพื่อมาขโมยข้อมูลของเรา
เพราะระบบต่างๆที่ผู้ผลิตทำมาให้ล้วนมีความปลอดภัยในตัวของมันอยู่แล้วแต่ผู้ที่จะทำให้มันไม่ปลอดภัยก็คือผู้ใช้อย่างเราๆนี่เอง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่การเลือกอุปกรณ์และศึกษาการใช้งานของอุปกรณ์นั้นๆให้เข้ากับ สไตล์การใช้งานของแต่ละคน
แน่นอน เพราะเราแอบใส่ประตูหลังไว้ในแอพของฝั่ง iOS เรียบร้อยแล้ว ท่านประธานไม่ได้กล่าวไว้
ผมว่าถ้าไม่ลงแอพประหลาดๆ หรือไม่ได้เปิดแชร์ไฟล์รอท่าไว้ ก็ปลอดภัยหมดทุกระบบแหละมั้งฮะ
ผมว่าเรื่องความปลอดภัยนี่นอกจากเครื่องโดนเจาะแล้ว ยังรวมถึงการที่คนทำแอพทำตัวเนียนเก็บข้อมูลด้วย ซึ่งอันนี้ผมว่าต่อให้ผ่านการตรวจก็คงผ่านนะฮะ สรุปขึ้นกับแอพที่ผู้ใช้โหลดนั่นแล
ปล.ใครที่บอกกูเกิลแอบอ่านเมลล์นี่ เค้าไม่ได้แอบนะฮะ คือแบบใน Google Now พี่แกบอกเลยว่าอ้างจากเมลล์นี้นะจ๊ะ สรุปคือไม่ได้แอบ แต่บอกอย่างไม่อายฟ้าดินกันเลยทีเดียว
ปลอดภัยสิครับ ถ้าวางเครื่องไว้ในบ้านเฉยๆ ห่ะ!!!!!
นึกถึงตอนค้นหาแอพ "BBM" ใน Android เมื่อวันทีฺ่ Blackberry บอกว่าปล่อยให้โหลดแล้วยังตกใจไม่หายจนถึงทุกวันนี้
มันมาเต็มแถมแต่ละแอพดูเป็น Official มากๆ แต่สรุปว่าของ"ปลอม"ทุกแอพครับ