คนที่ติดตามข่าวของโนเกียในยุครุ่งเรืองคงจำชื่อของ Anssi Vanjoki กันได้บ้าง เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของสายงานสมาร์ทโฟนโนเกียในตอนนั้น เป็นเจ้าพ่อแห่ง Symbian และเป็น "ว่าที่" ซีอีโอคนต่อไปของโนเกีย (แต่เมื่อบอร์ดบริหารตัดสินใจดึง Stephen Elop เข้ามาเป็นซีอีโอ ทำให้ Vanjoki ตัดสินใจลาออกจากบริษัทไป)
เขาให้สัมภาษณ์กับ The Verge ในประเด็นเรื่องการขายธุรกิจโทรศัพท์ของโนเกียไว้สั้นๆ ว่าเป็นการขายกิจการที่น่าเศร้า (shameful) แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว การขายกิจการครั้งนี้เป็นผลลัพธ์ของการเลือกยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด (หมายถึง Windows Phone) โนเกียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ และเขาหวังว่าไมโครซอฟท์จะทำได้สำเร็จ ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อประเทศฟินแลนด์ด้วย
ข้อความของ Anssi Vanjoki จบลงว่า Sent from my Vertu
ที่มา - The Verge
Comments
shameful "น่าขายขี้หน้า"
น่าอับอาย / น่าอดสู จะดูซอฟต์กว่านะครับ
ก็มีต้นฉบับภาษาอังกฤษให้แล้วไงครับ สำหรับคนที่อยากได้มากกว่าสุภาพ
+1 แปลไม่ตรงความหมาย = แปลผิด สื่อความหมายไปคนละเรื่องเดียวกันเลย
ถ้าคนจะต้องเข้าไปอ่านต้นตอเพื่อให้ได้ความหมายแท้จริงแล้วจะมาอ่านข่าวแปลทำไม ?? งง ไม๊
Blognone ไม่ใช่เว็บแปลข่าวนะครับ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ?
ผมก็นึกว่าเว็บแปลข่าวนะครับ อาจจะไม่ได้แปลทั้งหมด แต่ก็คือสรุปใจความสำคัญของข่าวมาเป็นภาษาไทยอยู่ดี เห็นซีเรียสในเรื่องรูปแบบการเขียนกันขนาดนั้น แต่เรื่องที่สำคัญกว่าอย่างเรื่องความหมายกลับไม่ซีเรียส ? มันแปลกๆ นะ
ความหมายของผมคือ Blognone ไม่ใช่เว็บที่แปลข่าวให้อ่านแล้วจบกันไปครับ แต่เป็นเว็บที่ให้ชุมชนมาเรียนรู้ร่วมกัน ขยายผลความรู้จากกันโดยมีข้อมูลหรือหลักเหตุผลสนับสนุน ไม่มั่ว ไม่คิดไปเอง ไม่สาวก
สมาชิกของ Blognone ควรเข้ามา contribute ให้กับชุมชนผ่านการแชร์เนื้อหาที่น่าสนใจ ไม่ใช่การสื่อสารทางเดียวแบบสื่อทั่วไป และประโยคแบบนี้
ไม่ใช่ภารกิจของเราครับ เราต้องการผลักดันให้คนไปอ่านข่าวต้นตอกันเยอะๆ โดยมี Blognone เป็นแค่ทางผ่านไปถึงต้นตอเท่านั้น
ดังนั้น Blognone จะให้ความสำคัญกับ contributor มากกว่าผู้อ่านทั่วไปมากๆ ครับ (แต่ก็ไม่ปิดกั้นอะไรถ้าอยากจะอ่านเงียบๆ เฉยๆ)
เข้าใจล่ะครับ
อ่านเงียบๆ เฉยๆ ^_^
แสดงว่ายอมรับว่า ณ.เวลานี้โนเกียไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้
การที่ต้องขายบริษัท จะให้เรียกว่าบรรลุเป้าหมาย คงจะไม่ได้แล้วหละครับ
แค่เปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่นะ
คนนี้เป็นอดีตผู้บริหาร ความเห็นของแกไม่น่าจะนับเป็นความเห็นของ nokia นะ
ขายบริษัทไม่น่าจะเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์มั้งครับ :-p
ใครจะไปรู้ ยุทธศาสตร์ที่เขาตั้งไว้ คือการขายบริษัทก็ได้ เริ่มจากกลยุทธ์ใช้ WP จนเป็นเบอร์หนึ่งใน WP และใช้กลยุทธ์จะทดสอบ Android บนลูเมีย ทำให้ MS ตะหนักและเข้าฮุบเราไม่รู้หรอก เขาไม่มีเอกสารเปิดเผยมานิ ยุทธศาสตร์เกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้นำนะ อิล็อปเขาอาจจะคิดให้ Nokia อยู่รอดให้ได้แล้วมันก็ success พอดีที่ขายให้ MS ก็อยู่รอดแน่นอนไม่ตาย(หรือเปล่า)
ยุทธศาสตร์ที่ขายธุรกิจให้โดยราคาต่ำเตี่ยติดดินแบบนี้ผมไม่มองเป็นยุทธศาสตร์เลยครับ มูลค่าน้อยกว่าควรจะเป็นมาก
ถ้าไม่มี windows phone ล่ะ nokia คงล้มไปนานแล้วจมดิ่งสุดๆแล้ว มี wp ดีขึ้นนิดนึง ก็โทษนั่นโทษนี่
"ถ้าไม่มี windows phone ล่ะ nokia คงล้มไปนานแล้ว"
นี่แหละเขาถึงอยากให้ลอง android ดู จะได้รู้กันว่ามันเป็นอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า
ประเด็นคือตอนนั้นมันตังหมด
ตอนนั้นใกล้ถังแตกถ้าไปอัดเสปกแข่งกันผมว่าเจ๊งอ่ะ
ตอนนั้นโนเกียไม่มีตังค์เหลือนะครับ โดนเกียได้เงินก้อนจากไมโครซอฟต์
"ดีขึ้นนิดนึง" นี้ไงครับที่ผิดพลาด
ในบางประเทศส่วนแบ่งขึ้นมามากกว่า 10% ซึ่งอาจจะจาก Lumia 520 ที่ราคาถูกก็ตาม แต่ก็เป็นความสำเร็จเล็กๆ ของ Lumia นะ
ผมก็ว่างั้นและถ้าไม่มี nokia อนาคตของ wp ก้อคงไม่ต่างกันครับ
[คิดเอง]ออกจากบริษัทไปแล้ว แต่ยังรักบริษัทอยู่ แล้วก็ไม่อยากใช้ smartphone ที่คนอื่นเข้ามาทำแทนตัวเอง เลยใช้ Vertu แทน น่ายกย่องครับ(ที่กำลังจะเปลี่ยนจาก Symbian ไป Android)
positivity
เปลี่ยนมาตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ http://www.blognone.com/node/40575
จริงๆ น่าจะลงท้ายว่า Sent from my Vertu that runs Android
คนๆนี้เคยบอกไว้ว่า "ใช้แอนดรอยด์เหมือนปัสสาวะรดกางเกงให้ความอบอุ่นในหน้าหนาว"
แต่ตอนนี้ใช้ Vertu รุ่นแอนดรอยด์แล้ว ช่างเป็นคนมีหลักการจริงๆ
ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเป็น Vertu รุ่น Android นะครับ
ชอบบรรทัดสุดท้าย 55 ;D
my blog
ลาออกจากบริษัท เพราะผิดหวังจากที่ตัวเองไม่ได้ตำแหน่งตามที่เก็งกันไว้.... คนแบบนี้เหรอรักบริษัท ไม่ว่าจะไปในแนวทางไหน ก็จะออกมาตำหนิได้ทุกเม็ดแหล่ะ
เมื่อความคิดไม่ตรงกันแล้วลาออกเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ครับ การตัดสินเลือก windows phone OS คือ ความผิดพลาด และผลที่ตามมาคือขายกิจการ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ก็ไม่ใช่เพราะการทำงานของคนโนเกียเดิม หรือคนที่ดูแล Symbian เหรอ ที่ทำให้โนเกียตาม iOS, Android ไม่ทันตั้งแต่แรก
ถ้าตามทัน ตอนนี้เราอาจจะได้เห็น meego รุ่งเรืองอยู่ก็ได้
น่าจะเป็นสไตล์ แค้น ที่คนจาก Microsoft มาแย่งที่ CEO
เลยทำให้พาลไม่ชอบ Windows phone ไปด้วย มากกว่านะครับเนี่ย
เพราะดูจากที่ลาออก เพราะไม่ได้เป็น CEO
ไม่น่าจะรัก Nokia เหมือนที่เขากล่าวไว้
ดูกันไปยาวๆ ละกันครับ ถ้า Nokia และ WP ไปไม่รอดจริงๆ ก็แสดงว่าก็ที่แกพูดมันถูกแล้ว
จบแต่เจ็บ
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
น่าจะถามต่อว่า ถ้าตอนนั้นคุณ Anssi Vanjoki เป็นซีอีโอ โนเกียจะไปต่อที่ ซิมเบียน Meego หรือแอนดรอย ผมเดาว่าแนวทางอาจจะผิดพลาดได้ยิ่งกว่านี้
เขาก็พูดไปงั้นแหละ จริงๆ ในใจ "สมน้ำหน้าไม่เลือกเรา" :P
ผมว่าไม่ผิดนะ การเลือก WP น่ะ โนเกียเลือกถูก แต่เลือกซีโอซี ไม่ถูกคนมากกว่า โนเกียกำลังจะกลับมารุ่งอยู่แล้วเชียว แต่กลับไปขายธุระกิจทิ้งสะงั้น ขายราคาถูกด้วยนะ ไม่สมกับ การเคยเป็น ผู้ผลิค สมาร์ทโฟนระดับโลกเลย ตั้งใจชัดๆแบบนี้
เพราะมานะ ทิฏฐิ ของผู้บริหารที่คิดว่าตัวเองแน่ ก็จบลงแบบนี้แหละครับ