จากข่าว สตง.ตรวจพบ OTPC พังกว่า 30%, แท็บเล็ตแสนเครื่องเลื่อนส่งมอบไป 1 เดือน, ผู้ชนะประมูลยื่นอุทธรณ์กรณีระงับประมูลอี-ออกชัน ทางนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาแก้ข่าวแล้ว
นายจาตุรนต์อ้างตัวเลขของกระทรวงไอซีทีว่า เครื่องแท็บเล็ตได้ผ่านการเข้าศูนย์บริการเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมวัสดุที่เสียหายจากการใช้งานอยู่ในสัดส่วนเพียง 0.6% เท่านั้น และยังตั้งศูนย์บริการแล้ว 114 แห่งทั่วประเทศ มีระยะเวลาการตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์แค่ 5 วัน
ส่วนตัวเลขว่าเสียหาย 30% ตามข่าวก่อนหน้านี้ เกิดจากการสุ่มตรวจของ สตง. จำนวน 80 โรงเรียนแล้วพบว่ามีอัตราเสียเฉลี่ย 30% จากนั้นจึงมีการเทียบบัญญัติไตรยางค์กับจำนวนแท็บเล็ตทั้งหมดเพื่อให้ได้ตัวเลขแท็บเล็ตเสียหายออกมาเป็น 2.58 แสนเครื่อง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สตง. สุ่มตรวจน้อยมาก มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 40,000 โรงเรียน คิดเป็นกลุ่มตัวอย่าง 0.2% เท่านั้น
ที่มา - Inside Thaigov
Comments
เชื่อได้ไหมพวกนักกาเมืองนี่
สินค้ามันมาเป็นลอต ถ้าสุ่ม (หรือเลือกตรวจ) แต่ลอตที่มีปัญหา มันก็ต้องเสียเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว
อยากให้ดูว่าว่า สตง. ปล่อยข้อมูลออกมาโดยไม่มีคนรับผิดชอบ และต่างกับข้อเท็จจริงมาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สงสัยอย่างหนึ่งครับ
เวลาสุ่มสำรวจอะไรสักอย่างนี่ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นจำนวนอย่างน้อยกี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเรียกว่าไม่น้อย เพราะส่วนตัวผมคิดว่า 80 โรงเรียนจาก 40,000 โรงเรียน แม้จะไม่ได้ดูดีมากนักแต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดจนเกินไปหรือเปล่า หากเทียบกับโพลสำรวจก่อนการเลือกตั้งต่าง ๆ ผมว่าเขาสำรวจกันด้วยสัดส่วนที่น้อยกว่านี้อีกนะ ยกตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งผู้ว่ากทม. กรุงเทพฯ มีประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีประมาณ 3.6 ล้านคน หากต้องการสำรวจคิดเป็นสัดส่วน 0.1% จะต้องสุ่มสำรวจความคิดเห็นจาก 3,600 คนโดยประมาณ หากต้องการสำรวจ 0.2% ก็ต้องสุ่ม 7,200 คน ตอนนั้นเขาสำรวจกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ? ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะไม่ถึง 3,000 คนด้วยซ้ำหรือเปล่า ?
ไม่ได้อะไรนะครับ แค่สงสัยเฉย ๆ ว่าที่ออกมาบอกว่า 0.2% เชื่อถือไม่ได้นี่วัดจากหลักเกณฑ์อะไรเป็นที่ตั้ง (จริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยเชื่อตัวเลขที่ทางกระทรวงเปิดเผยเท่าไรนะครับ เพราะไม่เห็นท่านบอกเลยว่าสุ่มตรวจมาหรือนับจริงกันแน่)
That is the way things are.
ปัญหาคือตัวเลขทั้งหมดไม่สอดคล้องกับการ "พยากรณ์" จากการสุ่มตัวอย่าง ถ้าตัวเลขไม่บิดเบี้ยว แสดงว่ามีปัญหาในการสุ่มเองครับ (สุ่มจริงหรือไม่ ไปตรวจตามโรงเรียนที่มีปัญหามากๆ ได้รับเรื่องร้องเรียนมารึเปล่า หรือมีตัวอย่างบางตัวอย่างมีปัญหาหลุดกรอบอย่างบางล็อตใช้ไม่ได้ทั้งโรงเรียน? ฯลฯ)
ปัญหาสำคัญของข่าวที่แล้วคือไม่บอกให้ชัดว่าตัวเลขที่ได้ เป็นการสุ่มมาแล้วเอาพยากรณ์ตัวเลขทั้งประเทศเอาครับ
ตัวเลขพยากรณ์เชื่อถือไม่ได้ วัดจากอะไร ก็วัดจากคความสามารถในการพยากรณ์นี่ล่ะครับ โพลทำออกมาแล้วไม่ตรงกับผลเลือกตั้ง คนทำโพลก็ต้องออกไปปรับปรุงกระบวนการ
lewcpe.com, @wasonliw
อ่านแล้วไม่เข้าใจ
ตัวเลขที่สอดคล้องกับการ "พยากรณ์" น่าจะเป็นเท่าไร
ถ้ามีบางล็อตใช้ไม่ได้ทั้งโรงเรียน? ก็เป็นการจัดการที่แย่มาก
ก็ตัวเลข ที่รมว. แถลงออกมานี่ล่ะครับ ยกเว้นว่าจะไม่เชื่อตัวเลขนี้ (เหมือนที่เราอาจจะไม่เชื่อผลเลือกตั้ง) อันนั้นก็ไม่มีอะไรเทียบแล้ว ต้องไปหาตัวเลขจริงใหม่ จะตั้งกรรมการสอบมานั่งตรวจนับอะไรว่าไป
เรื่องโรงเรียนผมยกตัวอย่างให้สุดโต่ง ในโลกความเป็นจริงสินค้าบางล็อคเสียมากกว่าบางล็อตเป็นเรื่องปกติ คนเลือกตั้งบางเขตชอบคนบางพรรคเป็นพิเศษ ถ้าสุ่มไม่ดีพอ ตัวเลขที่สุ่มมาแม้ไม่ได้น้อยเกินไป แต่มันก็ผิดเพี๊ยนได้มาก
lewcpe.com, @wasonliw
เข้าใจละ
แต่เชื่อว่าวิธีแจงนับอย่างที่รัฐมนตรีใช้มีโอกาสผิดมากกว่าสุ่มนับ
ต่างคนต่างbias (สตง.กับรัฐมนตรี)
คิดว่าการนับของรัฐมนตรีก็ไม่เหมือนกับวิธีนับในการเลือกตั้ง
+1 ตัวเลขต่างกันเกินไปมาก ๆ งานนี้ไม่ใครก็ใครมั่วล่ะ ๕๕๕
ขอบคุณคุณ mk ที่เขียนข่าวนี้นะฮะ เพิ่งเห็นข่าวแล้วว่าจะเขียนเหมือนกัน
ว่าแต่ทำไมบอกว่า 80 โรงเรียนจาก 40000 โรงเรียนคิดเป็น 0.02% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดฟระ น่าจะคิดจากจำนวนเครื่องสิ ไม่ใช่จำนวนโรงเรียน -*-
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1 80 รร.ไม่ได้น้อยเกินไปผมว่ามันเอามาเทียบเคียงได้ ถามว่ามี 40,000 รร. แต่ไม่เตรียมเนื้อหาที่จะเอามาใช้ให้ดี ไม่เตรียมเรื่องการช๊าตแบต ไม่เตรียมเรื่อง ระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ให้สอดคล้องกับหลักสูตร แล้วจะมาหวังผลแค่ว่ามีเครื่องให้ใช้ มันจะได้ประโยชน์อะไร!
เวลาสุ่มสำรวจอะไรจะต้อง "สุ่ม" อย่างแท้จริง ไม่ไช่การตรวจทีละกลุ่ม (ทีละโรงเรียน) การสุ่มตรวจ 0.2% อาจจะเพียงพออยู่แล้วครับ
หากเลือกตรวจเฉพาะ โรงเรียนที่ใด้รับเครื่อง lot ที่มีปัญหา จะสามารถบิดเบือนตัวเลข เพื่อให้โครงการดูไม่ดี หรือไม่ก็ ตัด scope ออกจากการประมูลใด้ เคยคิดบ้างหรือปล่าว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แล้วเครื่องล๊อตทีมีปัญหานี่มันมาพร้อมกันหมดเลยรึเปล่า (80 รร.) อีนนั้ไม้ได้กวนนะ แค่อยากทราบข้อมูลเพิ่มน่ะครับ
แต่ถ้า รร.นึงมีปัญหาซัก 10% ผมว่าไม่ต้องมาอ้างแล้วล่ะ
อ้างเทียบกับสินค้าทั้วไปนะครับ ถ้าสินค้ามีปัญหา ก็มักจะมีปัญหาเป็นลอตไป ถ้าแจกเรียงตามลำดับการผลิต ก็อาจมีบาง ร.ร. เสียทั้งหมดเลย และบาง ร.ร. ไม่เสียเลย
แต่ ตัวเลขที่ รมว. กระทรวงศึกษาบอกมาคือ 0.6% และ "ไม่เอ่ยนาม" จากสตง. 30% มันแตกต่างกันมากเกินไป อีกอย่างเพราะ scope เองก็ต้องซ่อมตามที่รับประกันไว้นาน 2 ปี ก็น่าจะมี qc พอสมควร
อาจเป็นเรื่องของโชคก็ใด้ แต่ผมคิดว่าอาจเป็นการทำตัวเลข โดยตรวจสอบกับ ร.ร. เป็นการภายในก่อน แล้วค่อยเลือกตรวจเฉพาะ ร.ร. ที่ใด้รับแจ้งว่ามีปัญหาเยอะ เพราะถ้าสุ่มจริงก็ไม่ควรจะต่างกันขนาดนั้น
ยิ่งแหล่งข่าว ไม่เอ่ยนาม + สำนักข่าวเหลืองจัดอย่าง ผู้จัดการออนไลน์, โพสต์ทูเดย์ ... พอเถอะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แถไฟไหม้เลย
จิ้มตรงไหนของ 80 โรงเรียนก็เจอแต่ของเสียแบบนี้มันไม่ใช่โชคแล้ว :-p
ลองเปลี่้ยนจาก "โรงเรียน" เป็น "iStudio" ขายสินค้า Tablet ซึ่งก็คือ iPad ลองคิดว่าขายกันล็อตนึง 100 ตัวที่ส่งเข้ามา จะไม่มีของเสียต้องส่งกลับเลยใช่ไหมครับ
เปลี่ยนวิธีคิดนิดนึง "จิ้มตรงไหนของ 80 สาขาของ iStudio ก็เจอแต่ของเสียแบบนี้มันไม่ใช่โชคแล้ว"
ของเสียมันเสียกันได้ ก็ซ่อมไป มันเสียเพราะใช้งานแล้วเสีย หรือเสียเพราะมัน QC หรือผลิตไม่ดี ก็ว่ากันตามกระบวนการครับ การจัดซื้อเน้นของถูก ใช้กับคนจำนวนมาก ก็คงต้องแก้ไขกันไป
จะให้เปลี่ยนโรงเรียนเป็นiStudioได้ไง เปลี่ยนผู้ซื้อผู้ใช้เป็นตัวแทนขาย
ของมันเสียกันได้ กับของมันไม่ควรเสียมากขนาดนี้ ความหมายมันต่างกันนะ
ผมกำลังเทียบเรื่อง "การรับสิ่งของ" และ "โอกาสในการเสีย" การบอกว่า "ของมันไม่ควรเสียมากขนาดนี้" มันควรอยู่ที่เท่าไหร่ดีครับ ถ้าตามหลักแล้ว ซึ่งมุมผม ผมมองที่ "ของมันเสียกันได้" เป็นหลัก และการเสียมันเสียได้ทุกที่ ผมจึงเอาการรับของจาก iStudio มาเทียบว่า มันก็เสียได้ทุกสาขาตามหลักอยู่แล้วต่างหาก
การสุ่มตรวจใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่างกระจายแค่ไหน ได้ผลมาอย่างไร และที่เสียนั้น เสียเพราะเหตุผลอะไร แยกประเภทหรือไม่ ผมยังหาไม่เจอเลย มันเหมือยยกตัวเลขมาลอยๆ เทียบแบบขอไปที จนทำให้ข้อมูลเก่านั้นน่าเชื่อถือได้แค่ไหน คือคงต้องมีการเปิดเผยกลุ่มตัวอย่างออกมาเพื่อนำไปเทียบกับข้อมูลฝั่งรัฐบาลต่อไป
คงต้องเทียบจากiStudioส่งของไปที่ลูกค้ามากกว่าจะเทียบว่าส่งของมาที่iStudio เป็นมุมมองลูกค้า
ส่วนอีกประโยคหนึ่งเปรียบเทียบให้ดูเฉยๆ เพราะมันขึ้นอยู่กับความคาดหวัง ซึ่งมีไม่เท่ากันในแต่ละคนหรือในคนเดียวกันแต่ต่างสถานการณ์
เอาเข้าจริง ๆ เครื่องเสียกี่เครื่อง สตง. ไปถาม ศูนย์ ซ่อม scope ทีเดียวก็ได้ข้อมูลจริง ไม่จำเป็นต้องสุ่มตรวจตามโรงเรียน แล้วสร้างเป็นสถิติ ออกมาหลอกลวงชาวบ้านแบบนี้
ถ้าสุ่มระดับนี้ ตัวเลขของจริงก็ไม่ต่างกันเยอะเท่าไรหรอก นึกว่าสุ่มรร.เดียว
บัญญัติไตรยางค์ -> บัญญัติไตรยางศ์ (ศ ศาลา การันต์)
คร้าบท่านจาตุรนต์ แต่เสียมันมีหลายอย่างนะสำหรับเด็กและคุณครูที่ไม่รู้เรื่องอุปกรณ์ เช่นเปิดติดยาก ชอบค้าง บลาๆ
แต่ถ้าคนมีความรู้ด้านนี้ มาเจออาการคล้ายๆกันนี้จะสรุปว่าไม่เสีย แต่แค่ใช้ไม่เป็น มันต้องดริฟนิดหน่อย
มรดกบาป
เกิดคำถามในใจว่าทำไมเอาตัวเลขมาแสดงเป็นจำนวนโรงเรียน
ทำไมไม่เอาจำนวน นักเรียนมาเลย จะได้แถไม่ได้
เพิ่งรู้ว่ามีโรงเรียนถึง 4 หมื่น !!!!! โรงเรียน
จากที่อ่าน อ้างว่า 0.2% น้อยเกินไปก็เป็นจริงนะครับ ในเรื่องนี้ เพราะ การส่งมอบไม่น่าจะพร้อมกัน
ดังนั้นเครื่องที่เสียหายน่าจะไม่สามารถเทียบบัญญัติไตรยางศ์ได้
แต่ที่สตง. ตรวจทำให้ได้ข้อมูลที่ว่า เมื่อใช้ไปสักพัก โอกาสที่แต่ละโรงเรียนที่ได้รับมอบ จะมีเครื่องเสียหาย 30% ก็เป็นไปได้
เพียงแต่มันเสียหายไม่พร้อมกัน
และที่ข่าวนี้อ้าง ผมก็ไม่แน่ใจว่า 0.6% ที่กล่าวอ้างนั้น หมายถึง เครื่องเสีย เทียบกับเครื่องทั้งหมดที่ต้องส่งมอบ (แต่ส่งมอบหมดแล้วหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง) หรือเปล่า
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงเป็นไวท์ไลน์เพื่อหาเสียง
ข่าวต่อไป รมว. ศึกษาธิการ ยอมรับว่าโกหก
แต่เป็น White lie เพื่อสร้างความเชื่อถือ เป็นสิ่งที่ไม่ผิด
เฮือกกก !!
ถ้าจำไม่ผิด ยังแจกไปไม่ทั่วโครงการเลยนิ 40000โรงเรียนนี่นน่าจะรวมโรงเรียนที่ยังไม่ได้แจกเข้าไปด้วยรึปล่าว
คุ้นๆ ว่าเหลือมากกว่าครึ่งที่ยังไม่ได้
สมมุติว่าส่งมาเพียง 20% (1 ใน 5 ของทั้งหมด) เลย และ รมว. กระทรวงศึกษา ปั้นเลขให้ต่ำโดยเอาเครื่องที่เสียเป็นตัวตั้ง จำณวนทั้งหมดเป็นตัวหาร 0.6% คำณวนกลับมาก็ยังแค่ 3% ห่างไกลกับ 30% มากมายยิ่งนัก ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สงสัยต้องไปเรียนวิชาหลักการสุ่มตัวอย่าง(sampling technique)กัน ถึงได้สุ่มมาได้แบบbiasขนาดนั้น
และอันที่จริง ที่อ้างว่าแหล่งข่าวสตง.แต่แรก ก็เป็นแหล่งข่าวที่อ้างอิงไม่ได้ ไม่กล้าเปิดเผยชื่อ และตัวรายงานจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ อาจจะแค่รายงานภายในที่ยังทำไม่เสร็จ แต่คนเห็นด่วนเอาตัวเลข มาเทียบสัดส่วนย้อนกลับ ไปตีข่าวให้ดูน่ากลัวว่าเสียตั้งสองแสนเครื่อง
แล้วที่ว่าเสียน่ะนับยังไง พวกเสียแบบแค่ส่งลงโปรแกรมนับด้วยไหม หรือนับแค่ที่เสียแบบต้องส่งเคลมเครื่องใหม่เท่านั้น?
สองอย่างนี้ก็มีผลเยอะแล้วกับการนับ
น่าเสียดาย ที่เราไม่เห็นรายงานสตง.ฉบับจริง นอกจากคำพูดลอยๆจากแหล่งข่าวที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง จนน่าสงสัย
รัฐบาลชุดนี้ อย่าสงสัยมากครับ ความลับเขาเยอะ XD
ผมมองกลับกัน
ช่วงฝั่งโจมตี เต้าข่าวนั่งเทียนกันซะเยอะ
อ้างแหล่งข่าวสตง. แต่ไม่มีใครออกหน้าออกชื่อ รายงานเป็นอย่างไร เนื้อหาอย่างไร วิธีการสุ่มแบบไหน ไม่มีรายละเอียด มีแต่ตัวเลข30% มาตีกิน แปลงกลับมั่วๆเป็น2.58แสนเครื่อง แล้วก็ด่ากันเต็มเนทไปหมด?
ผมอ่านแล้วเข้าว่าอย่างงี้นะ
30% : อัตราส่วนเครื่องที่มีปัญหาที่โรงเรียน จาก 80 โรงเรียนที่สุ่มตรวจ
0.6% : อัตราส่วนเครื่องที่ผ่านศูนย์บริการเพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซม
ตีความได้ว่า 29.4% คือเครื่องที่มีปัญหาที่โรงเรียนแต่ไม่ได้ส่งซ่อม อาจจะเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่างเช่น
- มีปัญหาเพียงเล็กน้อยพอใช้งานได้
- ในโรงเรียนนั้นอาจมีปัญหาเพียงไม่กี่เครื่องเลยไม่ได้ส่งซ่อมเพราะมีเครื่องสำรอง
- ไม่มีศูนย์ซ่อมใกล้ๆ
- ไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเอาเครื่องไปซ่อม
- เครื่องไม่ได้เป็นอะไรแต่คนใช้คิดว่ามีปัญหาซะเอง
ผมตีความผิดรึป่าวครับเนี่ย?????
คือท่าน รมว. ท่านพยายามจะบอกว่า ไอ้ที่สตง. ไปตรวจน่ะมันแค่ 80 โรงเรียนจาก 40,000 โรงเรียน ทำไมไม่คิดกันมั่งว่า 39,920 โรงเรียนไม่มีเครื่องเสียเลยก็ได้ (เป็นไปได้มั้งนะ)
ผมก็ไม่รู้ว่าแต่ละโรงเรียนได้รับแจกไปแห่งละกี่เครื่องแต่คิดว่าไม่น่าจะเท่ากัน มันน่าจะอิงจากจำนวนนักเรียนในแต่ละโรงเรียนนะ แล้วกลุ่มตัวอย่าง 0.2% มันเอา 80มาหารด้วย 40,000 โต้งๆ เลยรึ ไม่ได้เอาจำนวน tablet ที่ได้ไปจริงๆ มาหารหรอกรึไง ยิ่งเขียนก็ยิ่งงง เอง.. เนอะ
อย่าเพิ่งมโนกันไปไกล
รายละเอียดสตง.อะไรก็ไม่มี คนให้ข่าวยังไม่กล้าลงชื่อจริงเลย
เนื้อหารายงาน วิธีการสุ่ม ค่าความเชื่อมั่น หลักการทางสถิติอะไรไม่มี
มีแต่ตัวเลข30% แล้วมีตีกินกันดุ้นๆ ตอนแรกแปลงกลับเป็น2.58แสนเครื่องกันดื้อๆ แล้วก็ชี้นำให้ด่ากันเอามัน?
ตัวรายงานจริงๆอาจจะคนละเรื่องกับข่าวที่เขียน
สตง.เองตะหากที่ต้องรีบออกมาชี้แจง ว่ามีรายงานตามนั้นจริงหรือไม่ รายละเอียดเป็นอย่างไร
ไม่ใช่จับคำพูดรมต. มาเทียบกับข่าวที่หาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ ว่าฝั่งหลังเป็นข้อเท็จจริงกว่า?
+1 ชัดเจนครับ ผมเห็นด้วยกับคุณ อย่าปล่อยให้สำนักข่าวไร้จรรยาบรรณ หลอกอีกต่อไปเลยครับ หลายปีมานี้ มันปล่อยข่าวลวงนับไม่ถ้วน ถ้ายังเชื่อโดยไม่ใช้วิจารณญาน เท่ากับรู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก
ผมว่า รมต. เป็นคนออกมายืนยันเองนะว่าข่าวนั้นมันเป็นข่าวจริง lol
งง คิด 2 ชั้นหรือครับ
เครื่องแท็บเล็ตได้ผ่านการเข้าศูนย์บริการเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมวัสดุที่เสียหายจากการใช้งานอยู่ในสัดส่วนเพียง 0.6% เท่านั้น
ปกปิดข่าวอีกแล้ว ให้เด็กป.1 เล่นเสียหายแค่นี้หรอ
ก็เป็นไปได้นะครับโรงเรียนที่ผมสอนมี 18 เครื่องเสีย 2 เครื่อง
เสียเยอะนะนั่น 2 จาก 18 เครื่องตั้ง 11.11%
เออ.. แต่บางทีโรงเรียนอื่นๆ เค้าอาจจะไม่มีเครื่องเสียเลยก้อได้มั้งนะ
//เผ่น
โม้ไม่เนียน มีเสียงโห่
30% ที่สตง. ว่า เป็นตัวเลขที่รวมเรื่องแบตฯเสื่อมคุณภาพผิดปกติ (ก็แบตน้ำกับ SoC รุ่นแรกๆนี่)
แต่ตัวเลขที่ รมต. ว่านับเฉพาะรายการอื่นๆ ไม่รวมแบตฯ ดังนั้นเขาถูกแล้วแหละ
Android 2.3-4.0 ล้วนมีปัญหาเรื่องแบตฯทั้งหมด
มี 2 ทางเลือก คือ เครื่องหนาขึ้นหรือเปลี่ยนแบตแบบ Hot swap ได้ กับ ใช้หน้าจอ E-ink สำหรับเด็ก ป.1 - ป.6