เอกสารชุดใหม่ของ Edward Snowden ที่ The Guardian นำออกมาเผยแพร่ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับภูมิภาคอาเซียนมากกว่าที่คิด เมื่อเอกสารชุดหนึ่งกลับไม่ใช่ของ NSA แต่เป็นหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียที่ชื่อว่า Defence Signals Directorate (DSD) แสดงความพยายามดักฟังโทรศัพท์ของประธานาธิบดีอินโดนีเซียและคนรอบข้าง เช่น ภรรยา ตลอดเดือนสิงหาคมปี 2009
คำขวัญประจำหน่วยงานของ DSD คือ "เปิดเผยความลับของเขา และรักษาความลับของเรา" (Reveal their secrets - Protect our own)
เอกสารนี้แสดงถึงโครงสร้างการใช้บริการ 3G ในภูมิภาคอาเซียน สำหรับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นว่ามีการใช้งานโทรศัพท์ตลอดเดือนสิงหาคมปี 2009 ไปกี่ครั้ง และโทรหาใครบ้าง นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสามารถดักฟังการโทรครั้งหนึ่งจากโทรศัพท์บ้านในประเทศไทย เข้าไปยังโทรศัพท์มือถือของประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ด้วย
งานนี้ Tony Abbott นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียถูกตั้งกระทู้ถามสดในสภาถึงเรื่องนี้ และเขาตอบว่าทุกรัฐล้วนหาข้อมูลทั้งสิ้น และเขาไม่มีความคิดจะเปลี่ยนแนวทางนี้ โดยระบุว่าออสเตรเลียใช้ข่าวกรองเพื่อช่วยเหลือพันธมิตร ไม่ได้ทำอันตรายใด
แต่ทางอินโดนีเซียแสดงท่าทีแข็งกร้าวตอบโต้ออสเตรเลียทันที รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียประกาศลดความสัมพันธ์กับออสเตรเลีย โดยการเรียกทูตกลับประเทศ และจะพิจารณาความร่วมมือระหว่างสองชาติใหม่ทั้งหมด โดยไม่จำกัดเฉพาะความร่วมมือด้านข่าวกรอง
ออสเตรเลียและอินโดนีเซียกำลังเจรจาการค้าระหว่างกัน ทั้งผ่านระดับภูมิภาคอาเซียน และการเจรจาระหว่างประเทศ Indonesia-Australia Comprehensive Economic Partnership Agreement (IA-CEPA)
ทางอินโดนีเซียระบุว่าจะติดตามเรื่องนี้และพิจารณาใช้มาตรการเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา - The Guardian (อินโดนีเซียลดความสัมพันธ์), The Guardian (เอกสารจาก Snowden), The Guardian (สรุปเหตุการณ์จนปัจจุบัน)
Comments
ยิ่งสาวยิ่งลึก สงสัยบ้านไหนในไทยที่โทรตรงได้ :-)
หลับ => กลับ
ทุกรัฐบางหาข้อมูล???
ออสเตรเสีย => ออสเตรเลีย
หนักเลย งานเข้าไทยด้วย
ถ้าเราเป็น Snowden แล้วถือครองข้อมูลพวกนี้ไว้กับตัวนี่ ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ พลิกโลกเลย สู้ต่อไปนะ Snowden! ;D
my blog
ผมว่าของไทยน่าจะดักได้เกือบหมด แถมหน่วยงานหนักข้อมูลอาจจะตั้งอยู่ในไทยเป็นหน่วยงานใหญ่เลยก็ได้เอาไว้คอยดักข้อมูลประเทศแถวนี้
ดักไปก็ฟังไม่รู้เรื่องครับ แถมเรื่องในการเมืองทุกวันนี้มันไร้สาระเขาไม่เสียเวลาแปล XD
เห็นเหตุการณ์แบบนึ้แล้วนึกถึงโปรเจ็คเข้ารหัสโทรศัพท์ของกองทัพประเทศสารขัณฑ์ อุตส่าห์ดึงตัวคนสมองไหลกลับจากนาซ่ามาได้ พอเริ่มทำโปรเจ็ค โดนเขากระแนะกระแหนว่าเป็นดอกเตอร์นาซ่ากลับมานั่งซ่อมโทรศัพท์ ฮ่วย
น่าสนใจ ขอแหล่งที่มาหน่อยได้มั้ยครับ อยากสืบสาวต่อ :D
ถ้ามายุคนี้จะดักฟังผู้นำไทยนะหรอ
555เข้ารหัสทุกคำพูดครับ คนไทยยังฟังแล้วงงกันเองเลย
ขนาดพูดธรรมดา คนยังงงกันเลย ...
กูเกิ้ลทรานเลส ยังยกมือไหว้ 5555
ฝรั่งมันมี cloud ถอดรหัสข้อความนะครับ ขนาดประธานาธิบดียักคิ้วกี่ครั้ง พูดตรงไหนเพี้ยนไปจับตีความได้หมดเลย แค่คนไทยพูดย้อนไปย้อนมา ไม่ยากเกินความสามารถมันหรอก อีกอย่างไทยก็เป็นเมืองขึ้นอเมริกาทางเศรษฐกิจและการทหารอยู่แล้ว เราแทบจะถวายข้อมูลความลับให้อเมริกาตามการร้องขอเลย หลังๆเห็นไปคบจีนบ้าง อินเดียบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ยังเริ่มหาทางพึ่งที่ไม่ใช่อเมริกาอยู่ เพราะเรารู้ว่าอเมริกาเริ่มจนแล้ว นี่ที่ทำงานผมเพิ่งรณรงค์ให้ส่งข้อมูลผ่าน service ของกองทัพเท่านั้น เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าเราถูกดักฟังอยู่
อย่างนี้ก็น่าจะดักฟังโทรศัพท์ของไทยได้ด้วยสินะ
เชียร์ Snowden ครับ ยอดเยี่ยมมาก !!
ส่วนพวกโลกสวยที่ชอบพูดว่าการที่ Snowden เอาข้อมูลมาเปิดเผยแบบนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคง เป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อย ..ผมก็ว่ามันเป็นภัยต่อความมั่นคงเฉพาะพวกผู้นำเท่านั้นแหละที่ต้องเดือดร้อนจากการกระทำของตนเอง อะไรที่มันไม่ถูกก็อย่าไปปกป้องเลย สนับสนุนให้เปิดเผยครับ
ที่น่าเกลียดคือคำขวัญ Reveal their secrets - Protect our own อันนี้เลวร้ายครับ เห็นแก่ตัวมาก
ทำอย่างนี้มันไม่ให้เกียรติมิตรประเทศ อินโดลดความสัมพันธ์ลงเป็นเรื่องที่ดีแล้ว และถ้าให้ดีสิบชาติอาเซียนควรจะร่วมมือกันบอยคอตด้วยซ้ำ จะได้มีอิมแพคมาก (เชื่อว่าโดนดักกันหมดแหละ) ไม่ได้เพื่อจะแตกหักกับออสเตรเลีย แต่เพื่อสั่งสอนว่าการกระทำเหล่านี้มันไม่ถูกต้อง ต้องหยุดทำเดี๋ยวนี้ เพราะตามเนื้อข่าวที่ถูกตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็ยังไม่ได้สะทกสะท้านหรือสำนึกใดๆ เลย และบอกว่าจะทำต่อไป ...แบบนี้มันสมควรลดความสัมพันธ์มั้ยล่ะครับ
+1 คำขวัญชั่วร้ายมาก
+1 เห็นด้วยครับ รู้สึกว่าคำขวัญ "เปิดเผยความลับของเขา และรักษาความลับของเรา" เป็นคำขวัญที่เห็นแก่ตัวมากๆ
ผมเชียร์สโนเด็นเหมือนกัน ข้อมูลพวกนี้อาจก่อให้เกิดสงครามโลกได้ก็จริง แต่ที่เปิดเผยออกมาอย่างน้อยได้ตีแผ่พวกหน้าไหว้หลังหลอก ผู้ดีจอมปลอม ให้ออกมาได้
Like
เพื่อนกัน ก็ควรจะขอกันดีๆอยากได้ข้อมูลอะไร ไม่ควรจะสอดแนมกัน
เมืองไทย ไปนั่งดักที่ MSC จบเลย ตอนรปห.พี่แกส่งรพศ.ไปเฝ้า รวมถึง ISP บางค่ายด้วย จะtap อะไรก็ตามสบาย ไม่มีใครห้ามได้
คำตอบของนาย Tony Abbott น่าเกลียดมากครับ "ไม่มีเหตุผลต้องขอโทษ"
ตอบได้น่าหมั่นไส้มาก
เจอนักการเมืองไทยพูดไปคงงง หรือไม่ก็คิดว่าใส่รหัสลับแน่ ที่แท้มันพูดไม่รู้เรื่อง
สงครามโลกคงอยู่ไม่ไกลแล้วสินะ - -
อ่านตอนแรก เฮ้ยย ออสเตรเลีย มันเป็น อาเซียนด้วยรึ -*-
// พูดถึงอินโดนีเซีย นั่นเอง เหอะๆ
ผมคิดว่าเค้าได้ทำหน้าที่ตามที่เค้าได้รับ เค้าเป็นหน่วยงานความมั่นคงของประเทศนั้น ก็ต้องทำให้ประเทศตัวเองก่อน อย่างในไทยก็มีสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (nsc.go.th) ก็ต้องทำเพื่อประเทศไทยเช่นกัน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
โดยส่วนตัว ประเทศไหนก็อยากทำการดักฟังเพื่อโจรกรรมข้อมูล กันหมดทุกประเทศ
ถ้ามีปัญญาทำได้ อะนะ
นั่นก็ใช่ครับ
แต่ถ้าเพื่อนผมมาดักฟังผมทุกอย่าง ผมก็คงไม่ปลื้มนะ
ประเทศที่เป็นมิตรกันก็คงคิดแบบนั้น
ข้อมูลสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะยุคไหน สมัยไหน