Oculus VR ผู้สร้าง Oculus Rift แว่นตาสำหรับเล่นเกมเสมือนจริงเผยโฉม Crystal Cove อุปกรณ์ตัวต้นแบบของ Oculus Rift รุ่นใหม่ที่รองรับความละเอียดสูง หลังจากมีข่าวมาแสนนาน
Crystal Cove อัพเกรดสเปคจาก Oculus Rift มาหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนไปใช้หน้าจอ OLED (เดิมใช้ LED) เพิ่มความละเอียดขึ้นเป็น 1080p หารครึ่งระหว่างสองจอ เพิ่มกล้องภายนอกมาอีกหนึ่งตัวเพื่อให้จับตำแหน่งได้ลึกขึ้น และแก้ภาพเบลอระหว่างเคลื่อนไหวอันเป็นปัญหาหลักของ Oculus Rift รุ่นแรก
ในแง่ของการใช้งานจริงทีมงาน Engadget ที่ได้ลองใช้งาน Crystal Cove บอกว่าสามารถอ่านตัวหนังสือในเกมได้ง่ายแล้ว และด้วยหน้าจอ OLED ทำให้ระยะเวลาล่าช้าลดลงครึ่งนึงเหลือ 30ms กล้องแยกที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ช่วยจับตำแหน่งได้แม่นยำ แต่ซีอีโอของ Oculus VR บอกว่ากล้องตัวนี้อาจไม่ได้รวมไปกับผลิตภัณฑ์จริง เพราะเป็นเพียงการโชว์ฟีเจอร์นี้อย่างง่ายเท่านั้น
ทาง Oculus VR บอกว่าชุดพัฒนาตัวใหม่ถูกส่งไปให้กับนักพัฒนามากกว่า 46,000 รายแล้ว และจะเปิดขายเร็วๆ นี้ครับ
ที่มา - Engadget
Comments
ใกล้ถึงยุค SAO แล้ววววว
ผมว่า SAO มันระดับเดียวกับเมทริกซ์นะครับนะ
ปัญหาที่กังวลคือ มันจะหนักไหมนั่นน่ะ
กล้ามคอขึ้น
SPOIL
SAO ไม่ใช่ระดับเดียวกับ The Matrix ครับ ถ้าจะให้ใกล้เคียงหน่อยต้องเป็นเครื่อง Soul Translator ที่จะออกมาน่าจะประมาณเล่มแปดครับ แต่จริงๆ หลักการมันคนละด้านกันเลยสงสัยจะเทียบกันยาก
SAO นี่แค่หมวกครอบเองนะครับ แต่ The Matrix นี่ต้องโดนทิ่มคอ
Dream high, work hard.
ที่ผมจะพูดคือ ไม่ใช่เรื่องของรูปลักษณ์ แต่เป็นผลลัพท์
ทั้งเมทริกซ์ และ SAO เหมือนกัน คือ ดึงยูสเซอร์นั้นๆ เข้าไปในโลกเสมือน โดยที่จิตกับตัวนั้นแยกกันขาด
ส่วนจะครอบหัว หรือแทงคอ ก็อีกเรื่อง
ทั้งหมด ไม่ว่าเมทริกซ์ SAO หรือ Soul Translator จิตไม่ได้หลุดจากตัวครับ (เอ้อ แต่เหมือนพระเอกเมทริกซ์จะหลุดได้นะครับ ถอดปลั๊กแล้วยังอยู่ในเมทริกซ์ซะงั้น สงสัยจะใช้รุ่นไวร์เลส)
เพียงแต่เมทริกซ์ใช้การเชื่อมต่อข้อมูลกับสมองโดยตรง ขณะที่ SAO ทำ "เพียงแค่" รับกระแสประสาทว่าเราขยับร่างกายส่วนไหน ตัดกระแสไฟฟ้าในเส้นประสาทไม่ให้วิ่งไปถึงอวัยวะปลายทาง และส่งการตอบสนองปลอมๆ ย้อนกลับเข้าไปในระบบกระแสประสาท ทั้งภาพ เสียง และการสัมผัสครับ ส่วน Soul Translator นั้นใช้การอ่านและเขียนค่าลงไปบนพื้นที่สมองตรงๆ (ถ้าผมจำไม่ผิด) เช่น เขียนข้อมูลไปว่าในมือเราถือโทรศัพท์อยู่ ส่วนรายละเอียดที่เหลือที่ไม่ได้เขียนสมองของเราจะเติมไปเอง ทำให้เมทริกซ์และ SAO นั้นต้องมีอุปกรณ์ที่คำนวณจำลองภาพและตำแหน่งทุกอย่างที่ผู้ใช้เกี่ยวพันด้วย ขณะที่ Soul Translator นั้นใส่แค่ข้อมูลที่ต้องการจริงๆ ส่วนรายละเอียดที่เหลือก็ให้สมองไปเติมแต่งเอาเองแทนครับ
ได้ละลึกขึ้น ?
บระ...นี่มัน
sologate นี่หว่า
Railgun Sister
ขายซะทีเซ่ จะเอาไปหลอกสาวๆ ที่ทำงาน
ทำให้เปลี่ยนหน้ากากด้านหน้าแบบมือถือ Nokia สมัยก่อนได้ด้วย รับรองขายกระฉูด