เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมทางการเมืองในช่วงนี้ เดินทางไปตรวจสอบการเปิดทำการของหน่วยงานราชการที่เคยบุกไปปิดล้อมก่อนหน้านี้
ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คำอธิบายสำหรับคนไม่รู้จักว่าคืออะไร) ผู้ชุมนุมพบว่ายังมีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานด้านคอมพิวเตอร์อยู่ ผู้ชุมนุมจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และเก็บของออกจากสถานที่ทำการทันที โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
ช่วงเวลาที่เขียนข่าวนี้ (ประมาณ 13.38 น. ของวันที่ 21 ม.ค.) ผมลองเข้าเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พบว่าไม่สามารถใช้งานได้ครับ
ที่มา - กรุงเทพธุรกิจ
Comments
หวังว่าเป้าหมายต่อไปคงไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ของเว็บกรมสรรพากรนะ
จุ๊ๆ อย่าชี้ครับ
เย้
ข้อมูลหายหมด ส่งภาษีกันใหม่นะครับ
รอด!
เงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษี
ดะ เด๋วนะ...
เงินเดือนไม่ถึง T____T
^
^
that's just my two cents.
ไม่ต้องวิตก ผม backup เรียบร้อย และยังมีศูนย์ข้อมูลสำรองอีกที่ด้วย
เราเจอเป้าหมายแล้ว
อยู่ในตึกเดียวกัน T__T
คิดแล้วขนลุก ทุกวันนี้ทำงานยากมาก เข้าถึงข้อมูลไหนก็แทบไม่ได้
เมื่อใหร่จะไปปิด กองทัพ ครับ ข้างราชการเหมือนกัน เห็นไปทำงานทุกวัน ไม่เห็นหยุดตาม กปปส คปท สั่งเลย
ปิดโรงบาลด้วย
ปิดกองทัพแล้วใครจะป้องกันประเทศหละครับ
แล้วปิดตำรวจใครจับผู้ร้ายละครับ
ทุกวันนี้ตำรวจก็ไม่จับผู้ร้ายอยู่แล้วครับ มีแต่จับคนดีๆ นี่แหล่ะแล้วยัดข้อหาเอา
ราชการที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อไม่ให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ครับ ไม่ใช่ราชการอะไรก็ได้
แสดงว่าปกติทหารไม่ใช่หน่วยงานภายไต้การสั่งการของรัฐบาลใช่ใหม่ฮะ อ่อๆ เป็นองค์การอิสระ แต่เดี๋ยวนะกระทรวงกลาโหมเอาใว้ทำอะไร
เพราะทหารแสดงออกมาเรื่อยๆ
ว่ายืนข้างเดียวกับประชาชน
เหลือแค่ออกมาเต็มตัวเท่านั้นเอง
แล้วอีกฝ่ายไม่ใช่ ประชาชน คนไทย เหรอครับ
ทหารเข้าข้างแต่ฝ่ายประชาชนส่วนน้อยเหรอครับ
แล้วคนส่วนใหญ่ที่เหลือไม่ใช่ประชาชนหรือไง ถึงไม่สนใจ
ถ้าใครเกิดทัน คงจำความข่มขื่นตอนปิดสนามบินได้ดี รบ.สั่งทหารเข้าป้องกัน ทหารไม่ยอมทำงานบอกกลัวผู้ชุมนุมตกใจ เลยเสียหาย2.9แสนล้าน คนตกงานเป็นแสน เหอๆ
พวกเครือข่ายยาเสพติดคงจะดีใจกันท้วนหน้า
สงสัยมานานแล้วว่า คปท. กับ กปปส. เนี่ย เป็นกลุ่มเดียวกันหรือเปล่าครับเนี่ย งง
Get ready to work from now on.
ผมเข้าใจว่าเป็น subset นะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คปท. -> กลุ่มสุริยะใส
กปปส. -> กลุ่มสุเทพ
คปท. กับ กปปส. เป็นคนละกลุ่มที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกันครับ
(แต่จะบอกว่าคนละกลุ่มแบบเต็มปากก็คงลำบาก เพราะผู้ชุมนุมย้ายไปย้ายมา 2 กลุ่มนี้แหละ )
แต่เท่าที่เค้าบอกมา
คือ คปท. จะเป็นกลุ่มของเสื้อเหลือง
ส่วน กปปส. จะเป็นกลุ่มของประชาชน ที่ไม่มีสีเสื้อ ที่ออกมาชุมนุมประท้วงกัน
ถ้าผิดพลาด ช่วยแก้ด้วยนะครับ
อันนี้ถามผู้ชุมนุมมาอีกที
PS. ตอบผิดที่ >_<
หลังจากสนธิ ยุบ พธม ก็มี คปท. แหละครับมาแทน
คุณดูแกนนำก็รู้ครับ
คปท = นิติธร ล้ำเหลือ คนนี้เป็นทนายของพันธมิตรเดิม ดูเหมือนจะไม่โดนคดีเพราะทำงานเบื้องหลังคอยต่อสู้เรื่องคดีความให้แกนนำ ตอนนี้แกนนำพันธมิตรแผลเต็มตัว แกเลยต้องออกมานำเอง ส่วน สุริยะใส กะตะศิลา เป็นโฆศกพันธมิตรเดิม ก็มีแผลเต็มตัวเหมือนกันออกมานำตรงๆ ไม่ได้ ตอนหลังไปตั้งกลุ่มของตัวเองชื่อกลุ่ม Green แต่การเคลื่อนไหวของ นิติธร ล้ำเหลือ กับสุริยะใส ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เรียกได้ว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มพันธมิตรแปลงร่างนั่นเอง
กปปส. = สุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกพ้องกลุ่มสส.ประชาธิปัตย์ รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นในสังกัด กลุ่มนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มฐานเสียงประชาธิปัตย์ ผนวกกับคนที่ไม่เอาพรรคเพื่อไทย (แต่อาจจะไม่ได้ศรัทธาประชาธิปัตย์)
สังเกตุดูดีๆ จะเห็นว่า คปท. จะเคลื่อนไหวเชิงรุกมากกว่า กปปส. ชัดเจน
ถ้าตามที่วิเคราะห์ ผมว่าสุริยะใส มีบางส่วนที่ทับซ้อนกับพันธมิตรครับ แต่จะมีส่วนที่แตกต่างกับพันธมิตรอยู่บ้าง จึงต้องแยกออกมาเป็นกลุ่ม Green
แต่โดยเนื้อหลักแล้วก็เหมือนกันนะ
กลุ่มกรีน คือกลุ่มการเมืองตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเป็นพรรคการเมืองทางเลือก แต่สนธิไม่เอาด้วยจึงหยุดที่แค่กลุ่มการเมือง
คนละกลุ่มครับ แต่มวลชนก็ทับซ้อนกันบ้าง วัตถุประสงค์จุดย นบางส่วนก็เหมือนบางส่วนก็จ่างครับ แต่ที่แน่ ๆ คือทั้งสองกลุ่มไม่เอารัฐบาลเพื่อไทย
ก่อให้เกิดยุทธศาสตร์ที่เค้าเรียกว่า "แยกกันเดินร่วมกันตี" ครับ
A smooth sea never made a skillful sailor.
แยกกันก่อคดีมากกว่านะ จากที่เห็นมานี่
เขาเรียกแผน แยกกันเดิน แต่ร่วมกันตีครับ ปากว่าคนละกลุ่ม แต่จริงๆแน่นแฟ้น ท่อน้ำเลี้ยงเดียวกัน
ให้งานสกปรกคปท.ไปทำ ส่วนรวมคนเยอะๆสร้างภาพดูดี ก็กปปส.ไป
เม้นนี้ ผมว่ารัดกุมเข้าใจง่ายสุด
(DELETE)
ตัวอย่างของ "คนดี" นะครัชชช
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
สงสัยกลัวเปลืองไฟ
ตอนนี้เลย
สรรพากรตึกพญาไทพลาซ่า
โดนไล่กลับบ้านหมด
ผมพูดเลยว่าสรรพากรน่ากลัวว่าทหาร เจอย้อนหลัง ขอบัญชีตรวจสอบนี่แทบจะล้มทั้งยืน เหมือนตายทั้งเป็น ดอกคิดเป็นรายเดือน ส่งช้าโดนค่าปรับ เค้าไม่สนใจว่าอะไรและไม่มีข้อยกเว้น
ตามกฎหมาย สรรพากรสามารถสอบย้อนหลังได้หลายปี แถมถ้าเจอว่าหลักฐานภาษีไม่เรียบร้อย (โดยเฉพาะส่งขาด) ถ้าไม่มีหลักฐานมากพอให้ชวนให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าส่งไปจริง หรือมีหลักฐานจริง ตายเชียว
ทีตระกูลชินวัตรไม่กล้าตรวจ ทีคนธรรมดาตรวจจังเลย
โดนไปหลายหมื่นล้านชำระครบหมดแล้วครับ ทั้งลูกโอ๊คกับพ่อแม้ว :)
โดนไปสี่หมื่นกว่าล้าน
ไม่พอครัช แบบว่า ต้องโดนมากกว่านี้อีกแสนล้านเท่า เพราะสำหรับบางคน ทักษิณได้ซื้อจักรวาลไปแล้ว แสดงว่ามีเงินเหลืออีกแยะ
ไม่พอครับ คนที่โดนคุณทักษิณซื้อไปยังต้องไปเสียภาษีเงินได้อีกครับ OMG ที่จะปิดเพราะจุดประสงค์เอง:P
ตามจริงน่าจะมีหลายคนมากครับที่โดนเว้นตรวจ
แต่ ทักษิณ เป็นจุดเพ่งเล็ง
อารมณ์เหมือน ถังขยะ ที่โดนเอาความชั่วทั้งหมด
มาลงที่มัน
คนหรือแบล๊กโฮล ฮาๆ
ใช่ฮะ
นี่ถ้าไปปิดเซิร์ฟเวอร์ของเว็บกรมสรรพากรสงสัยต่อคิวสำนักงานเขตกันยาวแน่ๆ ><"
ประสบการณ์ตรงเลยสินะครับ
โดนไปหลายเลยครับ T_T
เห็นด้วยครับ พ่อของเพื่อนเคยโดนย้อนหลัง เปิดบริษัทแล้วไม่รุ่งปิดไปแล้วแต่คงทำบัญชีหรือเสียภาษีไม่เรียบร้อย(รายละเอียดไม่แน่ใจ) มาเจอย้อนหลัง ลมแทบจับครับ
ปกติตามกฎหมายแล้ว กำหนดให้ผู้เสียภาษีต้องเก็บเอกสารทางบัญชีและภาษีไม่น้อยกว่า 5 ปี ภายใต้เงื่อนไขต้องยื่นแบบทุกปี ทั้งนี้ไม่ว่าผู้เสียภาษีจะยื่นแบบภาษีถูกหรือยื่นผิดก็ตาม (หรือแม้แต่ไม่เสียภาษีก็ตาม) โดยปกติเจ้าพนักงานมีสิทธิประเมินย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี (ไม่นับปีปัจจุบัน) เช่น ถ้าปัจจุบันปี 2550 ก็ย้อนหลังได้คือปี 48 - 49 เป็นต้น แต่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษี เจ้าพนักงานสรรพากรมีอำนาจประเมินขยายระยะเวลาได้ถึง 5 ปี ดังนั้นผู้เสียภาษีจึงควรเก็บเอกสารให้เกิน 5 ปี (ทำลายเอกสารในปีที่หก) แต่ถ้าผู้เสียภาษีไม่เคยยื่นแบบเลย สรรพากรสามารถประเมินย้อนหลังได้ไม่เกิน 10 ปี
ดังนั้นเก็บไว้อย่างน้อย 6 ปี
และถ้าโดนจ่ายภาษีเพิ่มเติม จะโดนค่าดอกเบี้ยในอัตรา 1.5% ต่อเดือน เกิดไปฟลุ๊คเจอปีที่ 5 นี่ลั่นล้าเลย
ผมเคยโดนเรียกหาหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ส่งหล่นไปใบหนึ่ง แต่ย้อนหลังไปสองปี ดีที่ไปหาใบสำเนามาได้
ขอบคุณมากครับ (คงต้องเพิ่มความรู้ด้านภาษี ดูเรื่องใกล้ตัวแต่ไม่เคยสนใจเลย)
อย่ามาบุกสรรพากรนะ เพิ่งยื่นขอคืนภาษีไปเอง
เดือดร้อนกะม็อบมานานละ ไม่จบซักที
ก็ต้องทำใจไปอีกนานละครับ เพราะคนมีอำนาจที่จะสามารถหาทางออกได็ก็นิ่งซะเหลือเกิน
ผมยังมองไม่เห็นคนๆนั้นเลยครับ พอจะ Guide ได้หรือเปล่าครับว่าใครพอจะแก้ปัญหานี้ได้?
รปภ. คอยเฝ้าเปิดปิดประตู
พระพุทธรูปครับ นิ่งสุดๆ
เราโหวตให้ใครก็คนนั้นแหละครับ
Respect my vote คำนี้ก็น่าจะใช้ได้
เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นเว็บไซต์ตั้งอยู่ที่สำนักงานเหรอนี้
มาตการในการดูแลเรื่องพวกนี้มีมาตฐานกลางๆมากำหนดไว้หรือเปล่าครับ ใครพอรู้บ้าง เห็นอยากตั้งตรงไหนก็ตั้งตามเส้นสายกันไป
ผมไม่เห็นด้วยกับวรรคสุดท้ายครับ ปกติแล้วถ้ามีข้อมูลส่วนที่สำคัญมากๆ องค์กรอยู่ที่ไหนเซิฟเวอร์ก็ควรอยู่ที่นั่นครับ เพราะคนในองค์กรสามารถ Maintenance ระบบได้สะดวก เว้นแต่จะฝาก Cloud ของรัฐบาลก็ได้เหมือนกันครับ แต่ถ้าให้ไปฝาก EC2 หรือยกเครื่องไปฝากเลยจะมีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลครับ
แต่ในกรณีนี้คือตัวสำนักงานหรือทรัพยากรบุคคลไม่ได้รับมือกับการรักษาความปลอดภัยในส่วนนี้ด้วย (มาเยอะขนาดนั้นคนจะพอรึ?)
ข้อมูลของรัฐบางหน่วยงาน มีกฏว่า server ต้องอยู่ภายในประเทศครัับ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่าที่ไหนบ้าง
ต่อให้รักษาความปลอดภัยดีแค่ไหน แต่ถ้าคนในองค์กรเปิดประตูให้ม๊อบเข้ามา ไม่ยอมเรียกตร.มาคุ้มครองป้องกัน ก็จบเห่ครับ เหมือนตอนเคสCAT ล่มนั่นแหละ คนใน(?)ช่วยเขามาทำเองแท้ๆ
จะตั้งไว้ CAT ก็ไม่รอดครับ เจ้านั้นไม่ทันได้ Shutdown เลยด้วยซ้ำ เจ๊งระนาว
ห้อง servrer หน่วยงานรัฐก็เหมือนของเอกชนแหละครับ เข้าได้เฉพาะผู้มีอำนาจ แต่แหม่มาเยอะขนาดนั้น เอาชีวิตตัวเองดีกว่าครับ
เฮ้อออ...
น่าทำเหมือนในหนัง เขตุเก็บข้อมูลราชการ ใครบุกรุกโดนสอยได้เลย
..: เรื่อยไป
เห็นว่าจะบุกสถานฑูตสหรัฐ [ข้อความต่อไปนี้คือมโน]แต่คิดว่าน่าจะมีคนมาบอกว่าใครบุกเมื่อไหร่โดนสไนสอยเหมือนใน ตปท. ก็เลยถอยออกมา ไม่บุกซะอย่างงั้น.....
บ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลกครับ ต่อให้มีกฎหมายอะไรสำคัญแค่ไหน เจอม๊อบมีเส้น สนามบินที่สำคัญที่สุด ตร.ยังต้องวิ่งหนี แถมทหารส่งคนมาช่วยรปภ.ให้ม๊อบเสียอีก ร่วมกันปิดมันเสียเลย
ตามนี้ครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200559282783480&l=bf26a8d51c
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200559283063487&l=0595222907
ย้ายทุกอย่างไปต่างจังหวัดเพื่อความมั่นคงของของมูล
ขอประณาม