Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

CBS2Chicago ได้รายงานถึงว่า ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ได้ยืนยันความคิดเรื่องการใส่ยาสีฟันมากกว่าปกติ ไม่เป็นผลดีต่อฟัน โดยทันตแพทย์เรีิ่มเห็นคนไข้ที่มี สารเคลือบฟัน และ เนื้อเยื่ออ่อน ที่ถูกทำลาย และหลักฐานบ่งชี้ว่ามาจากยาสีฟัน

Dr. Neal Nealis, D.D.S. ได้ทำการศึกษาเก็บข้อมูลมา 25 ปีพบว่าคนไข้กว่า 20 % มีฟันที่เสียหาย เค้าเลยแนะนำให้คนไข้แปรงฟันโดยไม่มียาสีฟัน ซึ่ง แรกๆคนไข้ก็ตกใจแต่ก็ยอมทำตามเพราะมีข้ออ้างอิงจากการประชุม American Dental Assocation ว่าสารในยาสีฟันจะไปทำลายตัวเคลือบฟันและยิ่งมีพวกเม็ด crystal จะทำให้ฟันเสียหายมากยิ่งขึ้น และยิ่งคนไข้ที่มีความกังวลเรื่องสีของฟันจะยิ่งใช้ยาสีฟัน นั้นจะทำให้ตัวเคลือบฟันบางลงไปยิ่งขึ้น แล้วหลังจากไม่ใช่ยาสีฟันเทียบกับใช้ยาสีฟันพบว่า ฟันเสียหายน้อยกว่าใช้ยาสีฟันอย่างเห้นได้ชัด

ที่มา - MedGeadget.com

ปล. ใช้กิ่งข่อยดีกว่า (ฮา)

Get latest news from Blognone

Comments

By: Nice
ContributorAndroidWindows
on 19 July 2007 - 16:15 #27297

หัวข้อข่าวมันก็เรียกร้องความสนใจเกินไปนิด (หมายถึงต้นฉบับ) เค้าหมายถึงคนที่ชอบแปรงแรงๆ (โดยอาจเป็นเพราะอยากให้ฟันขาว) เพราะยังไงก็น่าจะใช้ยาสีฟันอยู่ดี ไม่ใช้แล้วรู้สึกเหม็นๆยังไงไม่รู้

แต่น่าสนใจค่ะ เรื่อง study ที่มีแนวคิดขัดแย้งกับทั่วๆไปนี่ เคยได้ยินแนวคิดเรื่องการใช้ไหมขัดฟันว่าไม่ค่อยช่วยอะไรในการกำจัดคราบแบคทีเรีย มาคิดดูก็จริงนะ เพราะ plaque เกาะแน่นจะตาย แค่เอาเหมือนเศษด้ายไปถูๆคงไม่ค่อยออก แต่มันก็ดีกว่าใช้ไม้จิ้มฟันล่ะ มันทำให้ฟันห่าง แล้วไหมขัดก็เอาเศษอาหารในที่ๆไม้จิ้มฟันเข้าไม่ถึงได้ด้วย ยังไงใช้ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช้ล่ะนะ

DDS คือ Doctor of Dental Surgery เห็นที่อเมริกากับไทยใช้แบบนี้ ถ้าของอังกฤษรู้สึกจะใช้อีกอย่างหนึ่ง

การสึกของฟันแบบ Abrasion (ขออภัยไม่รู้มีศัพท์บัญญัติเฉพาะรึเปล่า) เพราะถ้าแปลไทยมันก็แปลว่าสึกหมด การสึกมี 4 แบบ เกิดจากสาเหตุต่างๆกัน Attrition ฟันเสียดสีกันเอง สึกแบนราบ เกิดนอนกัดฟัน เป็นต้น Abrasion เกิดจากสิ่งภายนอกเช่น ไม้จิ้มฟัน เม็ดก๋วยจี๊ Abfraction อืม อันนี้อธิบายยาก ต้องเห็นภาพ http://www.thejcdp.com/issue001/gandara/introgan.htm เกิดจากฟันเหมือนกัน แต่ตรงคอฟันจะแตกแบบแยกออกจากกัน ไม่ได้เป็นที่ด้านสบฟันแบบ Attrition Erosion อันนี้ตรงปุ่มฟันจะเป็นหลุมเลย เกิดจากพวกกรด

-บรรทัดที่4 แปรงฟัน ไม่ใช่ แปลง -meeting น่าจะแปลว่าการประชุมไปเลย?

------- SE7ENize


@NiceThai

By: molek
WriteriPhoneWindows Phone
on 19 July 2007 - 19:23 #27299 Reply to:27297
molek's picture

ข้อมูลแน่นมากครับ ขอบคุณสำหรับ คำแนะนำครับ

ถึงผมอ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเชื่ออยู่ดี รอมันตีพิมพ์ใน วารสารวิจัยก่อนดีกว่าครับ


http://www.digimolek.com

By: pit
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 19 July 2007 - 18:53 #27318 Reply to:27297

ข้อมูลแน่นปึ๊กมากเลยครับ!

By: ABZee on 19 July 2007 - 21:13 #27335 Reply to:27297

สุดยอด! -- My blog: poomk.blogspot.com

By: IceDagger on 20 July 2007 - 00:45 #27356 Reply to:27297

รับจัดฟันเปล่าครับคุณ SE7ENize กำลังจะไปทำพอดี :)

By: Tux-Linux on 19 July 2007 - 20:43 #27331

คงใช้ยาสีฟันต่อไป แต่จะแปรงฟันให้เบาลง เพิ่งไปอุดคอฟันมา สงสัยแปรงไม่ถูกวิธีกับแปรงแรงเกินไป

By: pt on 19 July 2007 - 22:03 #27344

ผมชอบแปรงหลังอาหารทุกมื้อ จะลดปริมาณยาลงละกัน

By: binla
Windows PhoneAndroidBlackberry
on 20 July 2007 - 12:09 #27369

หลังอาหารผมแค่หมากฝรั่งครับ นอกนั้นแปรงแค่วันละ 3 ครั้งพอดิบพอดี ... รอคอยสักวัน ที่หัวใจเราจะตรงกัน ...

By: fujitarc on 20 July 2007 - 17:32 #27397

ผมใช้ยี่ห้อ Glister อ่ะครับไม่เคยมีปัญหา :P