ข่าวความคืบหน้าแท็บเล็ต OTPC ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยบริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจน คอนโทรล ซึ่งชนะการประมูลแท็บเล็ตโซน 1 (ป.1 ภาคกลางและภาคใต้) และโซน 2 (ป.1 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้นำสถานทูตจีนมาร่วมเจรจาต่อรองกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่ที่ประชุมไม่เห็นชอบข้อเสนอ ที่จะไม่เสียค่าปรับวันละ 2.2 ล้านบาท และเลื่อนเวลาส่งมอบแท็บเล็ตออกไปอีก
ภายหลังการเจรจาไม่เป็นผล บริษัท เสิ่นเจิ้นฯ จึงได้ทำการปิดบริษัทและขายทรัพย์สินออกทั้งหมด รวมถึงแจ้งกระทรวงศึกษาธิการขอยกเลิกสัญญาซื้อขายแท็บเล็ตทั้งหมด โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ยึดเงินค้ำประกันรวม 120 ล้านบาทไว้
สำหรับแท็บเล็ตโซน 3 ของบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) ที่มีการยื่นอุทธรณ์เนื่องจากส่อเค้าฮั้วประมูลจะมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนโซน 4 ของบริษัท จัสมิน เทเล คอมซิสเต็มส์ กำลังเร่งดำเนินการจัดส่งของให้ทันตามกำหนด
ที่มา: ไทยรัฐ
Comments
เอิ่ม
เหอะ ๆ ๆ ๆ .....
เอาเข้าแล้วไง
เอิ่ม
-_-" คนไทยได้บทเรียนอะไรจากโครงการนี้บ้างนะ
Happiness only real when shared.
ควรไปซื้อ samsung ครับ 555+
นี่คือสิ่งที่เราต้องตอบให้ได้เป็นการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
ขอให้ได้เรียนรู้จริงๆ สาธุ
ควรหาเจ้าอื่นที่น่าเชื่อถือกว่านี้นะ
รักนะคะคนดีของฉัน
ไม่ควรใช้ Tablet กับการสอนเลยน่าจะดีกว่าครับ..
+1
Ton-Or
ผมว่าควรมีใช้เสริมการเรียนการสอนครับ แต่ว่านโยบายฉาบฉวย ดีแต่จะถลุงตัง content ยังไม่วางแผนให้พร้อม ครึ่งๆกลางๆ ก็เอามาหาเสียงแล้ว นี่ยังถือว่าดีที่ไม่เสียค่าโง่นะครับ
ไม่อยากให้คนขยาดกับนโยบาย tablet เพียงเพราะผลงานของพรรคนี้
ผมว่ามันเป็นนโยบายที่ดีมากเลยนะครับ
เพื่อที่จะให้เด็กคุ้นชินกับเทคโนโลยีเพื่อให้ก้าวทันโลก
แต่การดำเนินการมันก็เป็นตามแบบฉบับของพรรคนี้
มันไม่มีความโปร่งใสพอที่จะทำให้นโยบายนี้ขับเคลื่อนได้เต็ฒประสิทธิภาพ = =''''
ผมอยากให้ดันการเขียนโปรแกรมเป็นหลักมากกว่านะ แต่ถ้าโครงการแท็ปเล็ตมันออกมาดีในหลายด้านก็ดี แต่ตอนนี้เหมือนปัญหาจะเยอะแฮะ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
การเขียนโปรแกมสำหรับ tablet จะต้องไช้ทั้ง pc และ Tablet พร้อมกัน ซึ่งไช้เงินเยอะครับ
แต่ปัญหาครูไม่พร้อม ไม่มีวันพร้อม และ ถึงพร้อมก็ไม่ยอมไช้เพราะเดี๋ยวจะมาแทนที่งานตัวเอง (เพราะไม่มีครูคนใหน มีความรู้สู้ Wikipedia & Wolfram alpha ใด้แน่) เป็นปัญญาที่ใหญ่กว่ามาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สมัยป.4 ผมได้เรียน pascal อยู่นะครับ เรียนอยู่ปีเดียว จำได้ว่าได้เอามาใข้วาดรูป สามเหรี่ยม สี่เหรี่ยม วงกลม
เรียนช่วงแรกๆ ทำแค่ Hello World กับทำตัวหนังสือวิ่งบนหน้าจอ/กระพริบ ก็ดีใจจนน้ำตาอาบแก้มแล้วครัช
ฮาลายเซ็นต์ ฮ่าๆ
คอมเมนต์ผิดที่ครับ
ยังไงของพวกนี้ก็เอาแทนคนไม่ได้หรอกครับ ความรู้มันมากมายก็จริง
แต่ถ้าขาดคนที่จะนำเสนอ ยกตัวอย่าง และสอนให้รู้จักขั้นตอนในการใช้ความรู้ที่ได้รับมา
ไอ้ของพวกนี้ก็ไร้ประโยชน์ครับ คนจะเป็นคนได้ยังไงถ้าไม่ได้สอนด้วยคนเหมือนกัน
ทำไมต้องเขียนโปรแกรมในเมื่อโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำ
ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนต้องไปเป็น programmer นี่ครับ เรื่องเขียนโปรแกรมควรจะเป็นแค่วิชาเลือกพอแล้ว แต่การใช้คอมขั้นพื้นฐานควรจะเป็นวิชาบังคับ
คือ เทคโนโลยีมันเป็นเรื่องใกล้ตัวครับ เรียนที่ไหนก็ได้ หรือเล่นคอมที่หรือเล่นบ้านมันก็ทำได้ วิชา IT มันไม่จำเป็นต้องเรียนทุกวัน
การเรียนโดยวิธีปกติ มันมีมากกว่าความรู้จากตำราครับ อาทิ ประสบการณ์จากครูผู้สอนที่ถ่ายทอดมายังศิษย์ วิชาความรู้หรือเทคนิคที่ไม่มีในตำรา การทำกิจกรรมร่วมกัน และสิ่งสำคัญที่สุด คือมนุษย์สัมพันธ์ระหว่างครู ศิษย์ และเพื่อนๆ ด้วยกันครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้มันหาได้ยากขึ้นในยุคที่ผู้ใหญ่แต่ละคนเอาแต่ก้มหน้าก้มสไลด์มือถืออย่างเมามันส์ (โดยเฉพาะสาวๆ) จนลืมทุกอย่างที่อยู่รอบตัว แม้กระทั่งคนแก่บนรถเมล์ที่อยู่ข้างๆ คุณตอนรถเมล์แน่นเอี๊ยด
เด็ก ควรคู่กับการสอนโดยใช้มนุษย์ มากกว่าเทคโนโลยีครับ ผมขอยืนยันคำนี้
เด็ก จำเป็นต้องปลูกฝังวิชาการใช้ชีวิต ปลูกฝังมนุษย์สัมพันธ์ มากกว่าเทคโนโลยี
เพื่อที่โตมาจะได้ไม่เป็นผู้ใหญ่แบบที่เราๆ เป็นกันในวันนี้..
คือจะบอกว่าถ้าอเมริกามันก็ Work แต่สำหรับไทยคงไม่ Work แน่ครับ มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนกัน และอีกอย่าง ของพวกนี้มันทำให้เสียสุขภาพและบุคลิก เด็กๆ สมัยนี้สายตาสั้นเพียบ ใกล้ตัวสุดก็น้องชายวัยประถมผมเอง นั่งเล่นคอมทุกวัน (เด็กมันแยกแยะอะไรไม่ออกหรอก เตือนแล้วแต่ก็ยังแอบเล่น ผมเองสมัยเด็กขนาดพ่อห้ามก็ยังแอบไปเล่น NES ที่ร้านเกมส์ ถ้าถึงห้ามกันไม่ได้ ก็ลดการใช้งานมันบ้างก็ยังดี ใช้แต่พอเหมาะ ไม่ใช่ใช้ทุกงาน)
ผมมีความเชื่อนะครับ
คือตอนเด็กๆ ผมโดนห้ามเล่นเกมส์ทุกชนิดเหมือนกัน
แม้แต่ตอนสมัยเลี้ยงสัตว์ดิจิมอน หรือ ทามาก๊อต ผมก็ไม่เคยได้เล่นเหมือนเพื่อนๆ
หรือแม้แต่กระทั่ง สมัยแข่งรถทามิย่า ผมก็ไม่เคยได้เล่น พ่อกับแม่เข้าใจว่าเด็กมั่วสุมทำเรื่องไม่ดี
สุดๆ ก็เรื่อง Internet ที่ห้ามต่อเด็ดขาด
จนทำให้ผมเข้าใจคำว่า ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
แอบเก็บตังเป็นเดือน เพื่อไปซื้อ Card lan มาแอบต่อเอง
ผมเชื่อว่า ถ้าเกิดพ่อกับแม่ไม่ห้ามให้เล่น
แต่สอนว่าเล่นได้แต่ต้องแบ่งเวลาให้เป็น
เด็กจะสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้เอง
แล้วจะเข้ากับ เทคโนโลยีได้ โดยไม่กระทบกับเรื่องการใช้ชีวิต
ประเทศเรา ค่อนข้าง จะกลัวโน่นกลัวนี่ห้ามโน่นห้ามนี่ คิดแทนเด็กไปหมดทุกอย่าง
ทำให้เด็กมันเป็นแบบที่เห็นนี่แหละ
ต่างจากฝั่งอเมริกา ที่เลี้ยงแบบปล่อยๆ ลุยๆ
ให้เด็กได้สัมผัส และตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตเอง
ก็ไม่ใด้ยกเลิกการสอนด้วยครูนิครับ แค่เพิ่มวิชาหาความรู้ด้วยตนเอง ตระกูลเดียวกับห้องสมุด แต่เป็นการไช้ Internet เท่านั้น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เห็นด้วยกับเรื่องกิจกรรมกลุ่ม และความเป็นมนุษย์ครับ
กิจกรรมกลุ่ม และความเป็นมนุษย์ ... ก็ยังไป ร.ร. นะ
ที่เค้าสอนก็แค่วิธีหาข้อมูลจากเน็ต สัปดาห์ละไม่กี่ชั้วโมงเท่านั้นเอง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จริง ๆ ผมสนใจกับคำว่า "จุดประกาย" ให้กับเด็ก ๆ เพราะเด็ก ๆ ยังไม่มีภาวะบีบบังคับในหลาย ๆ เรื่องแบบผู้ใหญ่ (แต่วัยเด็กมีก็เรื่องบีบบังคับในแบบของเขา) การทำให้เด็กคนนึงรู้สึกทึง สนใจ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ในด้านใด ๆ ไม่ใช่แค่การเขียนโปรแกรม หรือ IT ก็ตาม ผมมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะพอเป็นผู้ใหญ่แล้วบางทีเรามีเรื่องหลายเรื่องให้เลือก หรือโดนบีบจากหลายเรื่องมากเกินไป (จะมองว่าเป็นข้ออ้างก็ได้ หรือจะมองว่าเป็นเรื่องจริงที่บีบเราจริง ๆ ก็ได้)
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ในฐานะที่ผมกำลังเรียนอยู่ในสายนี้(ครู) ผมพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เสมอครับ แต่ก็ใช่ว่าครูทุกคนต้องทำเป็นนะครับในเรื่องโปรมแกรมต่างๆ มันควรเป็นของผู้ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น โปรแกรมเมอร์ ครูก็คือผู้ที่นำมาใช้ แต่อาจจะต้องรู้เรื่องพื้นฐานบ้าง ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องเลย...
สำหรับนโยบายนี้ผมชอบนะครับ สนับสนุน หากอนาคตผมต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการนี้ ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะน่าสนใจกว่าครู แต่การมาเรียนกับครูมันคือการมาพบกับผู้ที่รู้ในเรื่องนั้นๆ สามารถอธิบายตรงนั้นได้ ได้มีการพูดคุยสัมพันธ์กัน ดังนั้นหากครูรวมกับเทคโนโลยีแล้ว ก็คิดว่าจะต้องพัฒนาไปได้แน่ครับและสำหรับอุปกรณ์ในปัจจุบันผมคิดว่ามันน่าจะสำคัญที่ซอฟ์ตแวร์มากกว่า
มาเลเซียเค้าดีลกะกูเกิ้ลโดยตรงเลย ทำไมไทยไม่เอาแบบนั้นหละ กูเกิ้ลเค้าไม่ปิดหนีหรอกมั้ง
ไม่มีคนกลาง ก็ไม่มีช่องให้กินซิครับ
จุดประสงค์หลักของโครงการคือ "กิน"
จุดประสงค์รอง คือ ใช้หาเสียง
เรื่องเอามาพัฒนาความรู้เด็ก ไม่ได้อยู่ในจุดประสงค์ของโครงการครับ
ดีลกับกูเกิ้ลตรงไม่ได้ครับ
ต้องศึกษาระบบจัดซื้อจัดจ้างของรัฐก่อนนะครับ
มันต้องร่าง TOR และประมูลหาคนมาดำเนินการ โดยจะต้อง "ประหยัดเงินต่อรัฐ" ได้มากที่สุด
ถ้าไปดีลกับกูเกิ้ลโดยตรง ถึงจะได้ของดี แต่รัฐโดนฟ้องแน่นอนครับ
ปล.อันนี้ในกรณีตัดเงื่อนไขเรื่องโกงหรือไม่โกงออกไปเลยนะครับ
นี่เลยครับ คนส่วนมากด่าแบบไม่รู้เตี่ยไร ขอให้ได้ด่าไว้ก่อน
TOR ก็ออกมาจากคนที่ฮัวะประมูล แบบก็เขียนมาจากคนฮัวะ... ตั้งเงื่อนไขให้ตัดชาวบ้านได้มากสุดต้องมีพอร์ทดีลกับรัฐมูลค่า xxx นู่นนี่ พอถึงเวลาก็จัดบ.ที่เข้าเงื่อนไขไปซื้อซองประมูล บ.ที่หลุดเข้ามาได้ก็เคลียร์จะเอาเท่าไหร่ไม่ต้องมาเสียเวลาแข่ง ตอนยื่นประมูลก็นัดกันว่า จะกดกี่คลิ้กพอ... จบการประมูลใครชนะจ่ายเองก่อน 20-30... แล้วไปรอเงินค่าทำที่ตามงวดเบิกนะจ้ะ
ปล. ทั้งหมดเดาเอา...ตัดเรื่องเป็นไปได้หรือไม่ ออกได้เลยครับ
เห็นด้วยว่าไอ้เรื่องพอร์ตดีลกับภาครัฐต้องไม่ต่ำกว่า xx ล้านบาทนี่ ถ้าเป็นบริษัทใหม่ก็แทบไม่มีสิทธิ์แจ้งเกิดเลย เรื่องการประมูลมันก็เป็นดาบสองคมครับ ตอนนี้การจัดซื้อเค้าบังคับว่ายังไงก็ต้องเปิดประมูลมีคู่เทียบ ที่ต้องหาสเปกได้ ราคาถูกสุด ถ้ามองตามนี้ตามหลักการมันก็ถูก
มีบางมุมที่ผมเคยได้ยินมา ปัญหาในชีวิตจริงก็คือบางครั้งหน่วยงาน A ต้องการสินค้า Z เนื่องจากต้องการใช้ฟีเจอร์บางอย่าง หรือเชื่อมั่นในระบบ ฯลฯ แต่ว่าถ้าประกาศประกวดราคาไปเมื่อไหร่ก็รู้กันอยู่ว่าแบรนด์ X จะเข้ามาทำราคาแข่งและชนะแน่ หรือถ้าไม่เลือกแบรนด์ X ไปเลือกแบรนด์ Z ก็จะมีคำถามตามมามากมายว่าทำไมถึงไม่ชนะทั้งที่ราคาถูกกว่า เพราะถ้ามองตามตัวอักษรใน TOR (ถ้าเขียนไม่รัดกุม) X กับ Z ก็มีคุณสมบัติตามนั้นเหมือนกัน ทำให้หน่วยงาน A อยากได้แบรนด์ Z อาจต้องไปหันซื้อแบรนด์ X แทน เพราะปลอดภัยกับตำแหน่งหน้าที่การงานเค้ามากกว่าจะเอามาเสี่ยงกับเรื่องฮั้วประมูล เลยเป็นที่มาว่า TOR ส่วนมากก็คือล็อคสเปกให้ได้ของอย่างที่ต้องการนั่นแหล่ะ เพียงแต่บางครั้งมันเป็นปัญหาทางเทคนิค ไม่ใช่เรื่องเงินใต้โต๊ะอย่างเดียวเหมือนที่หลายคนมองกันครับ
แล้วทำไม Tablet สส ยึดสเปคเป็น iPad ได้ละครับ ทั้งที่มาตรฐานราคาแพงหูฉี่เลยละนั่น
แถมไม่ยักโดนฟ้องด้วยนะ
ถ้าจะอ้างความน่าเชื่อถือ แล้วทำไม Tablet เด็ก ไม่เลือกที่น่าเชื่อถือได้มากกว่านี้ล่ะ
ของพวกนี้มันกำหนดสเปคใน TOR ตามใจคนจะซื้อได้อยู่แล้ว
แถมบริหารจัดการห่วยๆ จนเค้าด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง
เด็กได้ใช้ของถูก...เพราะใช้แค่เรื่องการศึกษา
แต่ สส. ผู้ทรงเกียรติได้ใช้ ipad ... เพราะต้องใช้ทำงานเพื่อบริหารประเทศ...นำพาประเทศไปสู่ความ...เจริญ
+256
เอิ่มมมม ด้วยคน
เฮ้อ...เหนื่อยใจกับโครงการนี้จริงๆ
หลานผมไม่ได้เห็นแท็บเล็ตตัวเองมาเป็นปีแปีแล้ว ถามทางโรงเรียนก็บอกแต่ว่าเอาไปอัพเดตซอฟท์แวร์
ถามคุณป้าที่เป็นครูก็บอกโรงเรียนในกรุงเทพฯ ทางนู้นก็เป็นเหมือนกัน
ของที่ได้มาก็ใช่มีคุณภาพระครับแหม่ หลานได้มาเครื่องนึงแค่แกะกล่องเสียบสายชาร์จก็ไม่ค่อยจะได้แล้วครับ ต้องจับขยับดีๆหาอะไรมาหนุนตลอด
ผมคิดว่าแจก Nexus 7 ก็ดีนะ
ผมรู้ตั้งนานแหละว่าบริษัทนี้มันห่วยแตก :)
Kindle เหอะ
เอาน่า อย่างน้อยก็ยังปรับล่ะฟระ - -"
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เราต้องสนับสนุน วัตถุประสงค์ โดยไม่สนใจ องค์ประกอบแวดล้อมครับ :-)
ไอ้หย่ะ .... น้ำแทบพุ่ง
แววมันมาตั้งแต่ต้นแระ
แทปเล็ต ไม่ควรใช้ในการเรียนการสอน แต่ควรจะใช้ทดแทนหนังสือ น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีกว่านะ
ทุกวันนี้เห็นเด็กแบกหนังสือไปโรงเรียนแล้ว เหนื่อยแทน
เด็กไม่ยอมจัดตรางสอนอะซิ
ที่เห็นเด็กแบกเป้หนักๆ นั่นคือจัดแล้วนะครับ
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่เปลี่ยนไปแบบว่า orz
จัดแล้วแน่นอน แบกกันแอ๊กเลยทีเดียว ถ้าใส่ครบทุกวันต้องมี 2 เป้
ก็ฉีกใส่กระเป๋าไปเฉพาะหน้าที่จะเรียนก็ได้นี่ครับ มันหนักเพราะเอาไปทั้งเล่มสอนจริงแต่ไม่กี่หน้า
โหดขริงๆ
แต่เสี่ยงอยู่ 2 เครื่องครับ
- โดนเพื่อนล้อ
- โดนครูบางคนดุ
ถ้าเป็นตอนประถม เป็นแบบนั้นจริงๆ
ตอนมัธยม ขอให้เอาหนังสือมาก็พอ
ตอนสมัยผมอยู่ประถมก็หนักอึ้งแบบนี้หละครับ ถึงจะจัดก็ตาม
เพราะ ครูไม่อนุญาตให้ฝากหนังสือไว้ที่ห้องเรียน อีกอย่างมีหนังสือเรียนที่ทางรร.จัดทำให้อีก
บ ผมทำแอพลงเครื่องครับ ไม่เห้นเครื่องนานแล้วเหมือนกัน
ใครเป็นคนเลือกบริษัทนี้ รับผิดชอบด้วยครับ ลูกพี่
เค้าประมูลได้ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ก่อนการประมูลน่าจะมีการประเมินผู้เข้าร่วมประมูลก่อน และหลังจากการประมูลถ้ าราคาประมูลถูกหรือแพงกว่าราคากลางมากๆ ก็ควรจะมีการทบทวนอีกภายหลังครับ
ระเบียบการประมูลมันเป็นแบบนั้นนะครับ
ถึง deal จะล่ม แต่ก็ใด้เงินชดเชยมาคิดว่า ใด้ของช้าหน่อยแต่ไม่เสียหายหรอก
หลังจากนี้ ก็จะมีการส่งหนังสือไปยังผู้ประมูลอันดับ 2,3 ว่ายังสนใจหรือไม่ ถ้าไม่ก็จัดการประมูลใหม่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แต่ความเห็นของผมเรื่องการศึกษานี่มันเป็นเรื่องที่รอไม่ได้นะครับ ผมมาจากโรงเรียนบ้านนอกก็เลยพอทำให้เห็นว่าความไม่พร้อม ความไม่เท่าเทียมในเรื่องของสื่อการเรียนการสอนหรือบุคคลากรนั้นมันมีความจำเป็นและสำคัญขนาดไหน
ไม่เชิงหรอกปัญหาจริงๆก็คือเด็กรวยๆ บางคนมีของดีกว่าที่ รร แจกให้เล่นอยู่ที่บ้านทำให้เค้าเป็น แต่ครูในประเทศไทยที่ผมรู้จักหลายคน ไช้ tablet ไม่ค่อยเป็น เลยไม่ให้เด็กไช้เพราะกลัวเสียหน้า
ยิ่งกว่านี้ครูบางคนโง่จนกระทั้งมีข้อสอบระดับประเทศที่แสดงให้เห็นถึงความโง่ออกมาบ่อยๆ .. และปัญหาครูโง่อัดเงินลงไปยังไง ก็เหมือนตำน้าพริกละลายแม่น้ำ เพราะเค้าแกล้งโง่เพื่อจะเอาเงิน และกลัว tablet เพราะความรู้ของครูไม่มีวันที่จะมากเท่า wikipedia (eng) + Wolfram alpha
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ครูใช้แทปเลทไม่เป็น กับ ครูที่ความรู้ไม่เข้าเกณฑ์ น่าจะคนละประเด็นกันเลยนะครับ
พูดแบบนี้เซ็งห่านเลยนะครับ ในฐานะที่กำลังเรียนสายนี้...ก็ยอมรับครับมีบ้างคนที่ไม่สนใจอะไรใหม่ๆ เพราะกลัวโน่นกลัวนี่สารพัด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะครับ ผมเล่นเป็นนะครับในฐานะผู้ใช้ไม่ใช่นักพัฒนา จะพยายามใช้ทุกฟังก์ชันที่เครื่องมันมีและเอื้ออำนวยต่อการใช้งานครับ ผมก็พยายามติดตามเสมอครับข่าวเทคโนโลยีต่างๆ แล้วครูจะไปสู่ Wikipedia(eng) ได้อย่างไร คนเขียนมันหลายคนนะครับ ถ้าครูมีหน่วยความจำแบบถาวรความรู้คงอยู่ในสมองตลอดเวลาจะไม่ว่าเลยนะครับ ><
บริษัท เสิ่นเจิ้นชนะการประมูลด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาตั้งต้นมาก ต่ำกว่าเจ้าอื่นมากๆ และถ้ามีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุแบบนี้ ผมจึงมองว่าน่าจะมีอะไรที่ควรพิจารณามากกว่าแค่เรื่องราคา เป็นตัวหลักในการตัดสินใจ ครับ
เรื่องกระประมูลจัดซื้อจัดจ้างของรัฐมันทำให้เกิดผลเสียแบบนี้แหละครับ
ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปก็รู้อยู่แล้วว่าบริษัทมันห่วย
แต่ถ้ามองในแง่ของรัฐ ในเมื่อได้ผู้ประมูลได้ราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ก็ต้องเอาล่ะครับ
ถ้าไม่เอาแล้วไปคุยกับบริษัทใหญ่ๆอย่าง GOOGLE ก็จะโดนฮั้ว โดนฟ้องอีก
ผมว่ากฏหมายบ้านเรามันลำบากตรงนี้แหละครับ
เคยบ่นเปรยๆว่าถ้ารับบริษัทจีนเข้ามาทำมีสิทธิ์บินหนีได้ แล้วก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ
รัฐบาลนี้ตอนนี้ดวงตกสุดๆเลย อะไรก็เจ๊งหมด
ใช่เพราะ ดวง เหรอครับ ???
เพราะดวงหรือการบริหารกันแน่ครับ
ดิฉันมาจากการเลือกตั้งค่ะ
\แซวเล่น
I come from erection! 3 times
I come from erection! 3 times
I come from erection! 3 times
:-D
Misspelling can make misunderstand krub.
May be eLection not eRection
or do you intent to use an “erection” instead of “election”?
It's much deeper than your level can handle krub.
LOL
ลืมครับ
intent (n) > intend (v)
แหม๋ แต่ละคนกร๊ากกกก ..
เขาคงประชด
อ่าาาาาาา
โครงการนี้มันส่อแววล้มมาตั้งแต่แรกแล้วครับ การสั่งซื้อแทปเลตจำนวนมากจากบริษัทจีนเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกนั้นบ่งบอกอยู่แล้วครับว่าสินค้ามันคุณภาพต่ำ แล้วยังมีปัญหากระจายของไปสู่นักเรียนไม่ได้อีกด้วย นี่แหละครับ ผลของประชานิยม
ก็รู้ๆอยู่ของจีนแดงเป็นยังไง
ส่วนตัวผมเห็นว่าในโรงเรียนควรมี Tablet อยู่แต่ต้องเป็นห้องเรียนเฉพราะเหมือนกับห้องคอมพิวเตอร์ แบบนี้นักเรียนก็จะได้ใช้เทคโนดลยีโดยผู้ใหญ่ไม่ต้องปวดหัวว่าจะเอา Tablet ไปพังที่บ้าง ไม่เปลืองงบมากเท่าที่ผ่านมา
อ่านข่าวแล้วปลง
จำได้ว่าเคยมีเรื่องกับฝ่ายพัสดุอยู่ครั้งหนึ่งเรื่องจัดซื้อครุภํณฑ์คอมพิวเตอร์
คำตอบที่ได้จากหัวหน้าฝ่ายพัสดุตอนนั้นคือ
"ของแพงคุณภาพดีให้ซื้อไว้ใช้เองที่บ้าน แต่นี่หน่วยงานราชการเค้ากำหนดให้ซื้อของถูกที่สุด"
เขียน spec HP ส่งไป...แต่ได้ของเป็นคอมฯประกอบ...เหตุผลคือมันถูกที่สุด...
ตบบ่า น้ำตาไหลพราก
Dream high, work hard.
ใช่ เรื่องซื้อของถูกที่สุดเนี่ยเป็นอะไรที่เอี้ยมากๆ
เคยไปประมูลงานราชการครั้งนึง คนชนะคือคนที่ให้ราคาถูกที่สุด
แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า จริงๆผมอยากได้ของคุณนะ เพราะชื่อเสียงของสินค้า และ บริการที่มีมาแต่เดิม
รวมทั้ง Option ต่างๆที่ให้มา น่าสนใจมาก
เพียงแต่เลือกสินค้าของคุณไม่ได้เพราะ ของของคุณไม่ได้ "ถูกที่สุด"
ผมก็บอกว่า อ้าว แต่ของผมมีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริการหลังการขายที่ดีในระดับโลกเป็นที่ยอมรับนะครับ
เค้ารีบตอบเลยว่า ไม่ได้หรอก เลือกของคุณไป กรรมการทั้งหมดเจอสอบแน่ๆว่าทำไมไม่เลือกของที่ถูกที่สุด กว่าจะผ่านไม่มีความผิด ไม่ติดฮั๊ว เนี่ย พวกผมก็แป๊กไปหลายปีเลยล่ะครับ
ผม แดกจุด ครับ
Case นี้ผมว่าควรจะแก้กันที่ตัว TOR ของการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนั้นๆ หรือเปล่าครับ? การประมูลควรจะเป็นจ้าวที่ถูกที่สุดอยู่แล้ว ส่วนเงื่อนไขและคุณภาพสินค้านั้น หรือบริการหลังการขายต่างๆ ควรระบุให้ชัดไปใน TOR ไปเลย
ปล. แต่ระบบราชการไทยไม่สนับสนุนให้คนทำอะไรที่ละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่า อาจจะเพราะเกรงว่ารายละเอียดที่ระบุลงไปจะกลับมาเข้าตัวในภายหลัง
เคยคุยกับข้าราชการ คือมันมีระเบียบอยู่ว่าซื้อของที่แพงกว่าราคาประมูลถูกสุดได้ครับ
แต่คณะกรรมการที่อนุมัติต้องโดนสอบแน่ๆ (เพราะคนให้ราคาถูกสุดจะต้องร้องเรียน)
ทีนี้การที่คณะกรรมการโดนสอบมันใช้เวลาหลายปีครับ กว่าจะสรุป
ระหว่างนั้นข้าราชการที่โดนสอบก็แป๊กครับ ตำแหน่งไม่ขึ้น เงินเดือนไม่ขึ้น ย้ายไม่ได้
กรรมการเลยเลือกใช้เฉพาะถูกสุดแทนเพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง
(การฮั๊วประมูล, Lock Spec เกิดขึ้นเพราะสาเหตุแบบนี้แหล่ะ)
ต้องร่างระเบียบใน TOR ให้ชัดเจนครับ ถ้าอยากประมูลให้ได้ iPad ให้ร่ายรายละเอียดที่สำคัญลงไปเช่น
สามารถใช้งาน Apple App store ได้
ถ้าอยากได้ระบุคุณสมบัติพิเศษครับ เช่น
น้ำหนักน้อยกว่า xxx กรัม
จอความละเอียด xxx dpi ขึ้นไป
การรับประกันสามารถนำส่งเข้า Apple care ได้ทุกสาขาตลอดระยะเวลา xxx ปี
กรรมการร่าง TOR ต้องเถียงกันให้จบว่าที่ร่างมามันมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน จำเป็นหรือไม่อย่างไรที่ต้องใช้ iPad
สุดท้ายจะได้ iPad ตาม TOR ที่มีราคาถูกที่สุด
ถ้าเขียนว่า Apple App store จะเป็นการ Lock Spec ทันทีครับ
ใช้ไม่ได้แน่นอน
อ่านแล้วเศร้าใจมาก นี่หรือคือประเทศที่กำลังพัฒนา
ไม่ต้องพูดถึงรัฐบาลหรอกครับ บริษัทเอกชนบางทีก็เป็น ทางแก้คือต้องเขียน spec และปัจจัยพิจารณาให้เหมาะสมที่สุด เพราะถ้ามาพูดถึงคุณภาพ แต่ละคนก็มองไม่เหมือนกัน (แม้บางกรณีจะชัดเจนนะ) แล้วถ้าเปิดช่องให้วัดกันที่คุณภาพได้ การโกงจะเกิดขึ้นได้อีกมากมายเลยครับ
ปล. แต่สงสัยว่าทำไม tablet แจก สส ถึงเป็น iPad ได้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันคือความจริงครับ นอนยันอีกเสียง การจัดซื้อคอมเหมือนกันเดี๊ยะยังกับแกะ ผลเป็นไงน่ะเหรอ? เสียเป็นเบือครับ
กระนั้นยังบอกว่าถ้ามันเสียก็ต้องส่งโน่นนี่นั่น ถามจริงๆเหอะ พังง่ายแล้วซ่อมแต่ละทีรอเป็นชาติแล้วเด็กที่ไหนจะได้ใช้กันทั่วถึง?
เอาขยะมาขายของราคาถูกมันก็แค่เส้นแบ่งกั้นบางๆแค่นั้น กับระบบราชการเฮงซวย
เพิ่งจะเป็นแบบนี้หรือเป็นมานานแล้วครับ
เห็นสมัยก่อนก็มีเครื่องก็น่าจะดีเพราะดูจากยี่ห้อที่เอามาใช้งานกัน
ยี่ห้อเหล่านั้นยังไม่แพงมากสมัยนั้น บวกกับสมัยนี้มีของจีนแดงเข้ามาอีก
เมื่อก่อนไม่ทราบครับ
แต่เดี๋ยวนี้เป็นแบบที่ว่า
อยากให้คนเกี่ยวข้องออกมาแฉจังว่าโดนอะไรไปบ้าง
ในฐานะที่ผมเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุน
ขอพูดสั้นๆ "เงิบแดกครับ" :(
ฟังดูก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการล้มเหลวของโครงการนะครับ แต่เป็นเรื่องของการจัดประมูล โดยบ.ที่เข้าร่วมชิ่งเองมากกว่า อีกสองโซนก็จัดส่งได้ไม่มีปัญหานี่นา
เนื่องจากมัน Set ราคาถูกไปไงครับ
พอราคาถูกมันก็ทำให้คุณภาพลด
พอคุณภาพลด ก็เสียซ่อมบาน
เสียในระหว่างประกันเนี่ย ต้องซ่อมฟรี
ทีนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็บาน
มันเข้าทำนอง ยิ่งทำขายยิ่งเจ๊ง ไงครับ
สรุป ปิดบริษัทหนีดีกว่า ง่ายดี
เห็นด้วยครับ ผมว่ากำหนด ยี่ห้อที่ร่วมประมูลเลยดีกว่า ตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว ยี่ห้อ top 5 ก็น่าจะราคาถูกแล้ว samsung lg huwei lernovo แค่นี้ก็น่าจะจบแล้วนะ
กำหนดยี่ห้อไม่ได้ครับ กำหนดเมื่อไหร่ โดนฟ้องว่าล็อกเสป็คทันทีครับ
โครงการมันก็รวมทั้งหมดนั่นแหละครับ การประมูลเลือกบริษัทก็ส่วนหนึ่ง
อยากรู้ว่าเงินประกันที่ยึดไว้นั้นคุ้มมั๊ย หรือว่าเสียหายขาดทุนเท่าไหร่
ส่วนตัวแล้วคิดว่าควรจะเปลี่ยนจาก tablet เป็น e-ink reader แบบ kindle แทนนะ ลดปัญหาสายตาของเด็กที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย แถมโหลดหนังสือเรียนทั้งหมดลงไป แก้ปัญหาเด็กปวดหลังได้อีก
e-ink สร้างปัญหาต่อสายตาน้อยกว่าจอ LCD, OLED จริงหรือครับ?
อย่างน้อยเวลาอ่านนานไม่ล้า/ปวดตาเท่าครับ
เพราะเราไม่ได้จ้องแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง
ตรงนั้นก็ใช่อยู่ครับ แต่ผมแค่สงสัยว่ามันทำให้เสื่อมต่างกันจริงๆ หรือครับ? ผมยังหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมมันถึงควรจะเสื่อมต่างกัน ถ้าเป็นจอสมัยก่อนอาจจะใช่ครับเพราะว่า refresh rate ของแสงมันต่ำ (ไม่ใช่ของภาพ) แต่จอ LCD สมัยนี้แทบไม่มี refresh rate ของแสงแล้วนะครับ
ถ้านับจริงๆ มีแค่พวกจอแบบ OLED ล่ะมั้งครับที่จ้องแหล่งกำเนิดแสงตรงๆ LCD นี่จ้องตัวนำแสง ส่วน E-ink นี่จ้องตัวสะท้อนแสง :p (บรรทัดนี้แซวนะครับไม่ต้องซีเรียส)
ไม่แน่ใจในรายละเอียดชัดเจนนะครับ แต่ปัจจุบันผมใช้ kindle อยู่ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนอ่านจากกระดาษ ไม่ปวดตาเลย คิดว่าเป็นเพราะมันไม่มีแสงพุ่งออกมาจากจอเหมือนจอทั่วไป เวลาผมมีเอกสารจำนวนมากที่ต้องอ่าน ก็จะโหลดใส่ kindle อ่านแล้วสบายตาดีครับ
http://www.the-digital-reader.com/2012/10/02/new-study-suggests-e-ink-is-not-better-for-your-eyes-than-lcds/#.Uu_TsX8aySM
เท่าที่อ่านคือใกล้เคียงกันครับ
ขอบคุณครับ
ลิงก์กดไม่ได้ ผมทำให้ใหม่แล้วกันครับ
http://www.the-digital-reader.com/2012/10/02/new-study-suggests-e-ink-is-not-better-for-your-eyes-than-lcds/#.Uu_TsX8aySM
บทความนี้น่าสนใจดีครับ
ตามไปอ่าน Abstract ของงานวิจัยที่อ้างถึงแล้วอยากรู้กลุ่มตัวอย่างว่าเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก
(แต่กลุ่มตัวอย่าง 10 คนนี่น้อยไปหน่อยนะเนี่ย variance น่าจะสูงอยู่)
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ผมเห็นด้วยว่าไม่มีนัยสำคัญ นอกจากประเด็นเรื่องปวดตา/ตาล้าเร็วที่ค่อนข้างชัดเจน แต่มันเป็นอาการชั่วคราว พอสายตาได้พัก หรือเปลี่ยนระยะโฟกัสบ้างก็หาย
ถ้าเป็นเด็กผมคิดว่ามีโอกาสที่จะเกิดปัญหาสายตาได้มากกว่าผู้ใหญ่
ใครหางานวิจัยตัวเต็มได้รบกวนแบ่งปันหน่อยนะครับ
เอ มันแปลกๆนะครับ ว่าผมตัวเองก็ไม่ได้อุปทานไปเองนะ
อ่านจากจอ LCD นานๆ พอเลิกมองจอตามันจะมืดๆเบลอๆแสบตา
แต่กับ E-ink นี่ผมอ่านได้ทั้งวันเลยนะครับ
คือเป็นภาระสายตาก็เรื่องนึงนะครับ อันนั้นผมเห็นด้วยว่าจอ LCD น่าจะภาระมากกว่า แต่เรื่องการเสื่อมของลูกตานี่ผมไม่แน่ใจจริงๆ
อาจจะเหมือนหัวใจก็ได้นะครับ ให้มันใช้งานในระดับที่พอเหมาะบ่อยๆ ก็แข็งแรงขึ้น :p
ผมว่าน่าจะคล้ายกับเคสเด็กดูทีวีน่ะครับ
มีคนให้สาเหตุไว้ว่ากล้ามเนื้อกระบอกตาของเด็กยังไม่แข็งแรง
ถ้าเด็กใช้สายตาหนักจะเสี่ยงกับการมีปัญหาสายตาสั้น/ยาว/เอียงได้สูงกว่าผู้ใหญ่
แต่อันนี้ผมไม่ได้ศึกษาละเอียดเลยไม่รู้ว่าเป็นแค่ความเชื่อรึเปล่า หรือมีงานวิจัยที่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกันออกมารึยัง
เป็นไปได้ครับ เคยได้ยินมาเหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กทารกที่ไม่ให้โดนแฟลชยิงใส่ แต่ไม่เคยเห็นคนยืนยัน
อ่อ ประเด็นคือเรื่องสายตาเสื่อม
ผมว่าจ้อง LCD บ่อยๆนานๆ สายตาน่าจะมีแต่แย่ลงเรื่อยๆนะ
ที่แน่ๆก็เรื่องสายตาสั้นนี่แน่ๆหละครับ แต่อันนี้อ่านหนังสือก็เหมือนกัน
แต่ถ้าเรื่องแสงยิงเข้าตา เรื่อง refresh rate
อันนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ ว่ามันส่งผลเสียอะไรกับตาเราบ้าง
เรื่องจ้องนานนี่น่าจะเท่าๆ กันทั้ง LCD ทั้งกระดาษมั้งครับ ผมว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อควบคุมโฟกัสมันทำที่ระยะใกล้บ่อยๆ สายตาเลยชินมาแบบนั้น
แต่ผมเป็นหนอนหนังสือ (ประเภทกึ่งไร้สาระ) มาตั้งแต่เด็ก อ่านหนังสือเยอะมากตอนเด็กๆ โตมาก็จ้องหน้าจอแบบแทบไม่มีพักเลยเกือบสิบปีแล้ว สายตายังค่อนข้างปกติอยู่นะครับ (- -)d
refresh rate นี่ทำให้เสื่อมรึเปล่ายังไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ทำให้มึนครับ 555 แต่ขอย้ำอีกนิดนึงว่า refresh rate ของแสง เพราะพวกจอ LCD จะแยก refresh rate ของแสงกับของภาพได้
ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้จริงๆ
..: เรื่อยไป
ถ้าไปคุยกับอากู๋ป่านนี้คงได้ Chromebook ทั่วประเทศแล้วมั้ง
อากู๋ไม่ยอมจ่าย 20% เป็นค่า...
ฮ่าๆ ความจริงที่ไม่กล้าพูด
คุยไม่ได้ครับ มันต้องประมูล เอาผู้ที่เสนอราคาถูกที่สุด
อ่านความเห็นบนๆสิครับท่าน
เสนอราคาถูกที่สุด ถูกต้องครับ
แต่มันจะพ่วงด้วย มีค่า.... (ที่คุณก็รู้)30-50% เสมอ
ถ้าไม่จ่าย จะไม่ได้เขียน SPEC ครับ
ต่อให้อากู๋เสนอ Chromebook ให้ฟรีๆ รบ.ก็ไม่เอาหรอกครับ
กรณีศึกษา
- รถเข็นสนามบินสุวรรณภูมิ มีบริษัทจะยกให้ฟรี(แลกกับการขอแปะโฆษณาบนรถเข็น) แน่นอนว่าโดนปฏิเสธครับ (ไม่มีการจ่ายเงิน แล้วจะหาเรื่องกินได้ไง)
- Fedex เสนอส่งตัวแพนด้ากลับเมืองจีนให้ฟรี แถมมีประสบการณ์มากกว่า โดนปฏิเสธอีกแล้วครับ
โห...ประเทศนี้นี่อยู่ยากจริง ๆ
มองในแง่ดี "มันก็เจ๊งน้อยกว่าจำนำข้าวเยอะนะครับ โครงการนี้"...
แต่ก็อดคิดไม่ได้... สองโครงการรวมกัน... --"
แล้วยังจะเชื่อมั่นให้บริหารโครงการ 2 ล้าน ล้าน กันอีกไหมเนี่ย ผมหนาว...
โครงการหลายๆ โครงการเป็นโครงการที่ควรจะดีครับ ถ้าวางแผนได้ดี และทำได้ค่อนข้างตามแผน
ประเด็นคือ... /me โดนอุ้ม
เห็นด้วยว่าหลายๆ โครงการ (ทำท่าจะ) ดี
ปัญหาเลยไม่ได้อยู่ที่นโยบาย แต่อยู่ที่คนบริหาร.. มั้งนะ
อย่าลืมโครงการน้ำอีกสามแสนล้านด้วยนะคับ -..-
อย่าลืม GT200, balloon รั่วๆของ ทบ. , เช็คสองพัน, ไทยเข้มแข็ง 8 แสนล้านด้วยนะครับ
ไปพัฒนาครู พัฒนาโรงเรียนเล็ก ดีกว่ามั้ง แทปเล็ตของลูก ได้มา ป.1 เอาไปเรียนไม่ถึง 10 ครั้ง ป.2 นี่ยังไม่เคยเอาไป ให้เิปิดเล่นยังเมินเลย
รึ จะเป็นนโยบายฆ่าตัดตอนปัญญา ประชากรไทย
เรียกว่าบทเรียนไม่ได้หรอกครับ เพราะคนไทยไม่เคยเรียนรู้จากอดีต
เด็กอายุ 5-7 ปี ควรฝึกความรับผิดชอบและการบวกลบ ด้วยการแจก ลูกคิด แบบ 4-5 หลัก
เด็กอายุ 8-10 ปี ควรฝึกการอ่าน ด้วยการแจกอุปกรณ์ tablet ที่มีหน้าจอแบบ E-Ink ที่ไม่สามารถเล่นวีดีโอได้
เด็กอายุ 11-13 ปี จึงฝึกความคิดสร้างสรรค์ และการเข้าหาค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยการแจก tablet หน้าจอสีแบบที่ใช้ในปัจจุบัน
เด็กอายุ 14-16 ปี ปลดข้อจำกัดต่างๆ แจกคูปองให้เด็กไปเลือกซื้อรุ่นที่ต้องการเสียเอง สายวิทย์ควรเลือก windows สายศิลป์ควรเลือก Apple ที่ยังเลือกสายไม่ได้ให้ใช้ Android ไปพลางก่อน
สำหรับครูผ์้สอน ให้แจก Android แบบ hdmi-stick พร้อม TouchpadKeyboad และ หูฟัง แบบ Bluetool
ผมว่าไม่ควร "แจก" ครับ แต่ต้องเปลี่ยนเป็น "มีของที่ใช้ได้จริง" ให้ใช้มากกว่า
ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยอะไรกับการแจกหรอกครับ แต่เราไม่ได้มีงบเหลือมาแจกทิ้งแจกขว้างขนาดนั้น
ความจริงอุปกรณ์พวกนี้ควรเลือกรุ่นที่มีความคงทนสูง และของที่แจกให้ไป เมื่ออายุถึงและถึงเวลาอัพเกรด ต้องเอาของเก่ามาแลกของใหม่ จะได้ส่งต่อของเก่าให้เด็กอีกรุ่นได้
โดยเฉพาะอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนสูญเสียจะมีเพียง แบต บอร์ดี้ หน้าจอ แต่ส่วนแผงวงจรน่าจะมีอายุการใช้งานเป็สิบปี
ใช่ครับ และนั่นคือความหมายเดียวกับที่ผมบอกว่ามีของที่ใช้ได้จริงให้ใช้
โครงการนี้ เปลี่ยนไปใช้แท็บเลตของ XO Tablet ดีไหม #olpc น่าจะเวิร์คกว่าของเสิ่นเจิ้น เกรดและคุณภาพน่าจะต่างกันเยอะนะผมว่า
เพราะสิ่งที่ ปชป ประท้วงเป็นอย่างแรกคือ มันจะแพง ทำให้ต้องหาทางลดค่าไช้จ่าย โดยการซื้อของถูกครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เวลาฝ่ายค้านออกมาค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็เอาเหตุผลที่พอฟังได้มาขัดก็พอครับ ยังไงไม่ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายค้านฝ่ายไหนเป็นรัฐบาลก็สักแต่ว่าค้านดะกันอยู่แล้ว แล้วฝั่งรัฐบาลเสียงข้างมากโหวตยังไงก็คะแนนเยอะกว่า ไม่แตกแถวกันเท่าไหร่อยู่ดี
ถูก ยังไงรัฐบาลก็เสียงเยอะกว่า โคงการถ้าจะทำให้มันดีก็น่าจะทำได้นะ แต่นี่มัน...
ศาลรัฐธรรมนูญที่ค่อนข้างเลือกข้าง มอบเหลืองที่อยากจะกลับมา ...
มันไม่ใด้ทำง่ายอย่างนั้นนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันเกี่ยวอะไรกับศาลหนิ?
เริ่มเหวี่ยงแหมั่วแระ
เอ่อ ผมว่าศาลไม่ได้เลือกข้างหรอกครับ
แต่รัฐบาล มันไม่ยอมรับผิดอะไรเลยต่างหาก
ทำผิดมาตลอดเวลา
พอโดนจับได้ โยนให้คนโน้นคนนี้
ไม่เคยโทษตัวเองเลยซักครั้งเดียว !!!
ไม่เคยเลยซักครั้ง !!!!
นอกจากจะโดนบี้ติดมุมแถต่อไม่ได
ถึงจะออกมายอมรับ เหมือนตอนที่ตำรวจไล่ทุบรถ
มีหลักฐานหรืออะไรที่สามารถโต้แย้งได้มั๊ยครับ หรือมโนเอาเอง XD
ทำยังกับรัฐบาลนี้กลัวฝ่ายค้านยังงั้นแน่ะ
พรรคมีเส้น ยังไงก็ต้องระวัง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โฆษกรัฐบาลมาเองเลยนะเนี่ย ตอบได้ทุกข้อสงสัย
555+
บังเอิญไม่ชอบ ปชป. และเทคนิกการเสียบตัวเองเข้าไปในตำแหน่งนายกอย่างที่เคยเห็นกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โครงการอย่างจำนำข้าว รถไฟความเร็วสูง มีแผนเงินเป็นเบี้ยแถมตอบคำถามไม่ค่อยได้ยังกล้าออกเลยครับ ประสาอะไรกับแทปเลทไม่กี่ล้านบาท
ถ้าทำให้ดีไม่ได้แล้วมาอ้างปชป. ก็อย่าออกนโยบายแบบนี้แต่แรกดีมั้ยครับ? (แต่ช่วยลงสมัครนะ ให้ปชป.เป็นรัฐบาลนี่น่าเศร้ากว่าอีก)
อย่างอื่นผมไม่แย้งนะ แต่เรื่องรถไฟความเร็วสูง กับ 2 ล้านล้านเนี่ย ผมเห็น รมต คมนาคม เค้าตอบทุกอย่างนะครับ ละเอียดด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แล้วเช็คช่วยชาติกับไทยเข้มแข็งนี้อธิบายได้ไหมครับว่าได้อะไรบ้าง
แต่ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เชียร์โครงการนี้ตอนแรก
แล้วก็ด่าเมื่อเห็นบริษัทที่ประมูลได้เช่นกันครับ
ตอนนี้ก็ได้แต่พูดว่ากูว่าแล้ว
เรียนกระดาษไปเหอะ 120 ล้านบาทซื้อหนังสือ, ดินสอ, สมุด ได้กี่ชุดแล้ว
อนาตค ก็เลิกแจก หนังสือ, ดินสอ, สมุด
หันมาแจก e-book, stylus, โปรแกรมเขียนเอกสารแทน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่รู้ล่ะ จะเอายังไงก็ให้มันจริงจังละกัน ถ้าจะแจก e-book ก็ต้องมี e-book ดีๆก่อน ว่ามั้ย ทั้ง HW กับ SW
ขอเอิ่มด้วยนะครับ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี รู้สึกสลดใจ
สงสารเด็กจัง ที่น่าจะได้สิ่งที่ดีๆกว่านี้ T^T
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เลยมีคนบอกว่าจะทำเป็นคูปอง 3000 บ. แทนไงครับ
แต่แผนนี้ก็น่าจะล่มไป เพราะเดี่ยว รร. บังคับแล้วจะเป็นเหมือนแคตตาลอกเครื่องกดน้ำไทยเข้มแข็ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมสงสัยหลาย ๆ ความเห็นมากว่า โครงการนี้รัฐบาลกินหัวคิว 20% บ้าง อันนี้มโนไปเองใช่ไหมครับ
ที่สงสัยเพราะว่า Tablet นี้จัดซื้อในราคาถูกอยู่แล้ว ถูกกว่าท้องตลาด ยังกิน % ได้อีก มันไม่ขัดแย้งกันหรือ?
มันต้องมีช่องว่างของกำไรอยู่แล้ว ไม่งั้น บ.นี้ไม่เสนอราคานี้มาหรอกครับ ซึ่งตรงนี้ก็มีสิทธิ์เอามากินหัวคิว เครื่องละไม่กี่บาทแต่หลายๆ เครื่องก็หลายตังอยู่นะครับ
เพื่อให้มีช่องว่างของกำไรก็เลยเอาของห่วยมาทำ
จนเกิดปัญหาส่งเคลมบานตะไท แล้วเลยจุดคุ้มทุนจน บ.เห็นว่าปิดตัวหนีดีกว่า
ตอนนี้ก็ต้องดูท่าทีทางแก้ไขของผู้รับผิดชอบละครับ ว่าจะแก้ยังไง
ถ้าเคยพยายามขายอะไรให้หน่วยงานราชการ คุณจะรู้เลยว่า "ไม่กิน ไม่มี" แม้ว่าคุณจะไปขายในระดับเล็กแค่ไหนก็โดนครับ แล้วโครงการใหญ่ขนาดนี้จะเหลือ?
ดีไม่ดีที่เครื่องมันเจ๊งเยอะ อาจเพราะต้องเจียดเงินส่วนที่จะทำของให้ดีไปจ่ายค่าพวกนี้ก็เป็นได้
โครงการนี้ไม่ทราบครับ แต่โครงการอื่นที่เห็นมีโดนมากกว่า 20 - - ไม่นับลูกกระจ้อกรายทาง เลยไม่แปลกใจว่าทำไมโครงการอะไรๆ ก็มีปัญหาไม่ได้คุณภาพ ขนาดมีราคากลางยังเลี่ยงบาลี เลี่ยงตรวจได้
ผลงานที่ผ่านๆ มาเป็นตัวบอกปัจจุบัน และอนาคตครับ
จะรัฐบาลคนดี รัฐบาลคนร้าย ข้าราชการ ก็หนีไม่พ้น % เหมือนกันหมดล่ะครับ
บอกให้เอาข้าวไปแลกก็ไม่เชื่อ hahaha
+555
เอเลี่ยนหอบข้าวหนีหายไปอย่างลึกลับก่อนครับ เลยไม่เหลือเอามาแลก
ถ้าเอเลี่ยนใช้ข้าวเป็นอาหารหรือใช้ทำอะไรสักอย่าง นี่เป็นโอกาสของประเทศเราแล้วครับ ที่จะได้ส่งออกสินค้าไปยังนอกโลก
ไม่รู้จะเอาหน่วยเงินของฝั่งนั้นมาแลกเป็นบาทไทยยังไงนี่สิครับ orz
Dream high, work hard.
รับเป็นความรู้ เทคโนโลยี และวัสดุที่ทำบนพื้นโลกไม่ได้แล้วกันครับ (--)d
ตอนแรกสงสัยที่มีคนในพันทิปพูดเรื่องถึงเรื่องกองกำลังอินเตอร์เน็ตที่จ้างมาเฉพาะตอบทุกอย่างถ้ามีการพูดถึง รัฐบาล ผมเริ่มเชื่อแล้ว ว่ามีกองกำลังนักรบ cyber อยู่จริง 555
แล้วก็คืบคลานมาใน Blognone นี่ด้วยแล้วใช่ไหมครับ ;-)
ก็ไม่รู้สิน่ะ
+1024 ขนาดเห็นกันอยู่ชัดๆยังแถไปได้เรื่อยๆเลยนะครัช แถมมโนนู่น มโนนี่เองอีกต่างหาก อ่านแล้วตลกดี :)
ไม่แปลกใจเลยครับ
ดีแล้วละครับ รัฐบาลต่อไปก็เช่นกันนะครับผมว่า tablet ยั่งไม่เหมาะสมกับประเทศเราหรอคัรบในหลายๆๆด้านก่อนที่จะ เอา tablet มาให้เด็กใช้ให้ทุกโรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งานได้ เพีงพอต่อความต้องการของเด็กในแต่ละโรงเรียนก่อนมีประโยชน์กว่าไหมครับ
อ่านแล้วคุ้นๆจังครับ เหมือนเพิ่งเคยได้ยินอะไรทำนองนี้เลย
ประมาณว่า รถไฟความเร็วสูง ยังไม่เหมาะกับบ้านเราหรอก ทำรางคู่ หรือให้ทางลูกรังหมดไปก่อนใหม ^ ^'
อย่างรถไฟ เถียงกันแทบเป็นแทบตาย เอาไม่เอา ดีไม่ดี คงไม่มีคนตอบได้. คงต้องให้กู้มาทำก่อน แล้วถึงจะรู้ว่ามันจำเป็นจริงรึเปล่า
คอนเท้นไม่มี บุคลากรไม่พร้อม เอาเครื่องดีๆ แพงกว่านี้มา จะได้ใช้กันจริงรึเปล่า ค่าบำรุงรักษาจะแพงตามไปด้วยใหม แล้วแพงก็ยิ่งสเปคดี เล่นเกม เล่นเวปปรู้ดปราด...
จริงๆ ของพวกนี้น่าจะมีกันแทบทุกครัวเรือนแล้วมั้ง ไม่ สมาทร์โฟนก็แทบเล็ต ไม่มีก็น่าจะเคยได้เล่น ได้ลอง ของเพื่อน ของญาติบ้างแหละมั้ง
555+ คุณเล่นมุขหรือ คิดจริง ๆ เนี่ย คิดจริงนี่ผมเคลียดเลยนะ
จริงๆ น่าจะทุ่มงบไปในเรื่องการออกแบบหลักสูตร และพัฒนา content ก่อนดีกว่า โรงเรียนทั่วไปก็พอมีคอมใช้กันอยู่แล้ว นักเรียนคนไหนสนใจก็เข้ามาดูผ่านเว็บได้ ถ้ามัน work ค่อยขยับขยายไปใช้ tablet กันต่อไป
คงเป็นข้อจำกัดอย่างนึงของระบบประเทศเราน่ะครับ ต้องทำผลงานออกมาให้ทันภายในหนึ่งสมัยรัฐบาล โครงการระยะยาวเลยเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะพวกที่ต้องศึกษาผลว่ามัน work รึเปล่า
ผมตลกตรงที่ข่าวนี้พูดถึงบริษัทเซินเจิ้นปิดตัวหนี แต่ดันมีคอมเมนท์ไปพาดพิงฝ่ายค้าน ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งแทบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อข่าวเลย เพียงเพื่อให้รัฐบาลดูดีขึ้น
รัฐบาลจะโกงหรือไม่โกงถ้าไม่ตรวจสอบเราก็ไม่รู้หรอก แต่ที่(ฝ่ายกองเชียร์รัฐบาล)ต้องยอมรับข้อหนึ่งคือรัฐบาลดำเนินนโยบายนี้ผิดพลาด เป็นความจริงที่หลีกหนีไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเนื้อข่าวของข่าวนี้โดยตรงก็ตาม
+1024 เค้าเป็น bot ครับ bot pr จากพรรคเลย 555
ผมขออนุญาตนำคำถามบางท่านให้มิตรสหายข้าราชการท่านหนึ่งที่มีประสบการณ์ในด้านจัดซื้อ ออก TOR และตรวจรับ ไปถามและให้คำตอบมาเป็นข้อๆ ครับ ซึ่งทั้งหมดที่ตอบในด้านล่างนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจบางส่วนที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงครับ เนื่องจากยังมีหลายท่านที่เข้าใจในระบบราชการที่คลาดเคลื่อนไปเสียส่วนมาก อนึ่งในการเขียนถามตอบครั้งนี้ มิได้หวังให้มุ่งเน้นในเรื่องของการเมือง แต่เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และระเบียบราชการ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่น่าอยู่ แก่ลูกหลานเราในอนาคต
เริ่มแรก ขอให้ท่านรู้จัก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549
ระเบียบ 2 ตัวนี้ เป็นเหมือนกฎหลักที่ทุกหน่วยงานในประเทศไทยจะต้องใช้เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง จัดหา ให้ได้มาเพื่อ วัสดุสิ่งของ
ถาม tanit9999 : มาเลเซียเค้าดีลกะกูเกิ้ลโดยตรงเลย ทำไมไทยไม่เอาแบบนั้นหละ กูเกิ้ลเค้าไม่ปิดหนีหรอกมั้ง
ตอบ การที่ไทยไม่ดีลกะ google โดยตรง ต้องพิจารณาว่า เมื่อมีปัญหาในการส่งซ่อม ส่งเคลม ทาง google สามารถจะสนับสนุนในส่วนนี้ได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องที่จะพิจารณากันอีกครั้ง
ถาม pd2002: ดีลกับกูเกิ้ลตรงไม่ได้ครับ
ต้องศึกษาระบบจัดซื้อจัดจ้างของรัฐก่อนนะครับ
มันต้องร่าง TOR และประมูลหาคนมาดำเนินการ โดยจะต้อง "ประหยัดเงินต่อรัฐ" ได้มากที่สุด
ถ้าไปดีลกับกูเกิ้ลโดยตรง ถึงจะได้ของดี แต่รัฐโดนฟ้องแน่นอนครับ
ปล.อันนี้ในกรณีตัดเงื่อนไขเรื่องโกงหรือไม่โกงออกไปเลยนะครับ
ตอบ ถูกต้องครับ เพิ่มเติม สิ่งที่จะตามมาคือ การกีดกันทางการค้า ยกตัวอย่างในวงการคอมพิวเตอร์แบนด์ไทย ATECH หรือ POWELL พยายามต่อสู้ในส่วนนี้อยู่ หากเรายึดถือแบนด์ต่างชาติมากไป โอกาสที่จะไม่เกิดการแข่งขันย่อมมีสูง แบนด์ไทย เราจะตายเลยครับ
ถาม dq-pb : TOR ก็ออกมาจากคนที่ฮัวะประมูล แบบก็เขียนมาจากคนฮัวะ... ตั้งเงื่อนไขให้ตัดชาวบ้านได้มากสุดต้องมีพอร์ทดีลกับรัฐมูลค่า xxx นู่นนี่ พอถึงเวลาก็จัดบ.ที่เข้าเงื่อนไขไปซื้อซองประมูล บ.ที่หลุดเข้ามาได้ก็เคลียร์จะเอาเท่าไหร่ไม่ต้องมาเสียเวลาแข่ง ตอนยื่นประมูลก็นัดกันว่า จะกดกี่คลิ้กพอ... จบการประมูลใครชนะจ่ายเองก่อน 20-30... แล้วไปรอเงินค่าทำที่ตามงวดเบิกนะจ้ะ
ปล. ทั้งหมดเดาเอา...ตัดเรื่องเป็นไปได้หรือไม่ ออกได้เลยครับ
ตอบ :ในวงการอย่างนี้มีไหม บางครั้งคำตอบก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เราสามารถแก้ไขได้ครับ ในการเขียน TORที่วงเงินเกินกว่า 2 ล้านบาทและต้องจัดหาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องมีคณะกรรมการร่าง TOR เมื่อคณะกรรมการร่างเสร็จ ก็จะประกาศให้ประชาชนมาพิจารณ์ ร่างว่า ร่างดังกล่าวมีความถูกต้องเหมาะสม หรือมีการฮั้วประมูลหรือไม่ ส่วนนี้ ประชาคม Blognone ก็สามารถมีส่วนร่วมในทุกโครงการเกี่ยวกับงานไอทีได้ทั้งหมดครับแต่การจะมีส่วนร่วมในร่างดังกล่าว จะต้องทำอย่างเปิดเผย คือเปิดเผยว่าเราเป็นใคร มีความเห็นกับร่างดังกล่าวอย่างไร และความเพิ่มหรือลดข้อความไหน โดยปราศจากอคติ และมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน
ถาม raifa :แล้วทำไม Tablet สส ยึดสเปคเป็น iPad ได้ละครับ ทั้งที่มาตรฐานราคาแพงหูฉี่เลยละนั่น แถมไม่ยักโดนฟ้องด้วยนะ ถ้าจะอ้างความน่าเชื่อถือ แล้วทำไม Tablet เด็ก ไม่เลือกที่น่าเชื่อถือได้มากกว่านี้ล่ะ ของพวกนี้มันกำหนดสเปคใน TOR ตามใจคนจะซื้อได้อยู่แล้ว แถมบริหารจัดการห่วยๆ จนเค้าด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง
ตอบ: เรื่องของ tablet ของสส.ที่เป็น iPad อย่างแรกออกตัวไว้ก่อนว่า ตัวผมเองไม่เห็น TOR จริงแต่สามารถให้ข้อคิดเห็นได้ว่า การเขียนสเปคของ iPad สามารถทำได้เนื่องจากถึงแม้เราจะกำหนดระบบปฏิบัติการ แต่เราไม่ได้กำหนดเครือข่ายที่ใช้ นั่นก็ทำให้เกิดการแข่งขันในเบื้องต้น ก็ทำให้ tablet ของ สส. จึงสามารถเป็น iPad ได้
อย่างที่ สอง ในการประมูล tablet ของสส. ย่อมมีวงเงินเกินกว่า 2 ล้านบาท ก็ย่อมเข้าการจัดหาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีการพิจารณ์ TOR เมื่อไม่มีการแก้ไข TORในส่วนที่สำคัญ ก็สามารถประมูลได้อย่างถูกต้องครับ
ถาม thaitanatana:ส่วนตัวผมคิดว่า ก่อนการประมูลน่าจะมีการประเมินผู้เข้าร่วมประมูลก่อน และหลังจากการประมูลถ้ าราคาประมูลถูกหรือแพงกว่าราคากลางมากๆ ก็ควรจะมีการทบทวนอีกภายหลังครับ
ตอบ: เราสามารถกำหนดใน TOR ได้ครับว่า ผู้รับจ้าง จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร เช่น จะต้องมีประสบการณ์ในการรับจ้างโครงการในลักษณะเดียวกันในวงเงิน กี่ล้าน จำนวนกี่โครงการ
แต่การเขียน TOR ในลักษณะนี้ ก็จะสามารถมองได้ว่าเป็นการกีดกันรายใหม่ๆ ที่จะเข้าประมูลได้เหมือนกันครับ
ถาม thaitanatana:บริษัท เสิ่นเจิ้นชนะการประมูลด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาตั้งต้นมาก ต่ำกว่าเจ้าอื่นมากๆ และถ้ามีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุแบบนี้ ผมจึงมองว่าน่าจะมีอะไรที่ควรพิจารณามากกว่าแค่เรื่องราคา เป็นตัวหลักในการตัดสินใจ ครับ
ตอบ: โดยปกติการประมูลด้วยการเคาะราคาทางอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ บริษัทที่ชนะการประมูล ประมูลได้ในราคาต่ำมาก เช่น วงเงินที่ตั้งไว้เป็นงบประมาณ 2,500,000 บาท แต่ผู้ชนะการประมูล ประมูลได้ที่ 190,000 บาท ซึ่งมาจากการเคาะราคาที่ผิดพลาด คณะกรรมการ สามารถพิจารณายกเลิกการเคาะราคา หรือกำหนดให้มีการเคาะราคาครั้งใหม่ได้
ในส่วนของเสิ่นเจิ้น กรณีนี้ไม่เข้าในส่วนแรกที่กล่าวมา ในเรื่องของการพิจารณาความน่าเชื่อถือของบริษัทที่เข้าประมูล ก็จะพิจารณาจากคุณสมบัติที่กำหนดในคราวแรกครับ ดังนั้นไม่ว่ากรณีใด ก็ไม่สามารถจะห้ามมิให้เสิ่นเจิ้นเข้าทำสัญญาในฐานะผู้ชนะการประมูลได้เลย
ถาม: sunVSmoon:อ่านข่าวแล้วปลง จำได้ว่าเคยมีเรื่องกับฝ่ายพัสดุอยู่ครั้งหนึ่งเรื่องจัดซื้อครุภํณฑ์คอมพิวเตอร์ คำตอบที่ได้จากหัวหน้าฝ่ายพัสดุตอนนั้นคือ "ของแพงคุณภาพดีให้ซื้อไว้ใช้เองที่บ้าน แต่นี่หน่วยงานราชการเค้ากำหนดให้ซื้อของถูกที่สุด" เขียน spec HP ส่งไป...แต่ได้ของเป็นคอมฯประกอบ...เหตุผลคือมันถูกที่สุด.
ตอบ: ข้อแนะนำจากประสบการณ์ การเขียน TOR เพื่อกันไม่ให้เครื่องประกอบชนะการประกวดราคา สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามระเบียบครับ
โดยเพิ่มคำว่า "ตัวเครื่อง, จอภาพ, Keyboard และ Mouse ต้องมีเครื่องหมายการค้าเดียวกัน โดย ประทับตราเครื่องหมายการค้านั้นไว้บนอุปกรณ์อย่างถาวร"
ถ้าอยากได้แบรนด์ดี ก็เพิ่มว่า "ผู้รับจ้างจะต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทที่มีเครื่องหมายการค้าของอุปกรณ์ข้างต้น"
ถาม: silance mobius:เคยคุยกับข้าราชการ คือมันมีระเบียบอยู่ว่าซื้อของที่แพงกว่าราคาประมูลถูกสุดได้ครับ แต่คณะกรรมการที่อนุมัติต้องโดนสอบแน่ๆ (เพราะคนให้ราคาถูกสุดจะต้องร้องเรียน)
ทีนี้การที่คณะกรรมการโดนสอบมันใช้เวลาหลายปีครับ กว่าจะสรุป ระหว่างนั้นข้าราชการที่โดนสอบก็แป๊กครับ ตำแหน่งไม่ขึ้น เงินเดือนไม่ขึ้น ย้ายไม่ได้ กรรมการเลยเลือกใช้เฉพาะถูกสุดแทนเพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง
ตอบ: จริงๆแล้วคณะกรรมการพิจารณาจากเอกสารที่ทำเสนอไปครับ และในวันที่เปิดซองสอบราคานั้น เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ถ้าเคยค้าขายราชการจะทราบว่าซองที่จะเสนอมี 2 ส่วนคือ
1 ซองคุณสมบัติผู้รับจ้าง
2 ซองราคา
ถ้าท่านมั่นใจว่าท่านส่งเอกสารครบถ้วน ท่านสามารถเข้าไปนั่งดูการเปิดซองได้ครับโดยเฉพาะซองคุณสมบัติผู้รับจ้าง บ่อยครั้งส่งไม่ครบ แต่ที่ชนะการประมูลนั้นคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ว่าก็ส่งกันไม่ครบหลายราย จึงไม่เอามาพิจารณาตัดตก ตามหลักการแล้ว จะต้องเปิดซองที่ 1 ซองคุณสมบัติผู้รับจ้างเสียก่อน ถ้าส่งเอกสารไม่ครบแม้แต่ 1 ใบอย่างใบจดทะเบียนบริษัท คณะกรรมการจะต้องไม่เปิดซองราคา ส่วนที่ 2 อย่างเด็ดขาด และปรับให้ ตกทันที
สรุป กรณีศึกษานี้ ในความเห็นส่วนตัวที่โครงการล้ม น่าจะเกิดจาก
1. ปัญหาของ TOR ที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องของ spec ไม่เกิดความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนในอนาคต ซึ่งพบบ่อย ยกตัวอย่างเช่น TOR ระบุ "จะต้องส่งมอบ OS เป็น windows 7 ลิขสิทธิ์ถูกต้อง พร้อมแผ่นติดตั้ง" ซึ่ง ณ เวลาปัจจุบัน MS ไม่มีแผ่นติดตั้ง windows 7 ขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ PC ณ เวลานี้มาพร้อม windows 8 ผู้ขายก็เกิดปัญหา กรรมการก็เกิดปัญหาเพราะไม่สามารถตรวจรับให้ตรงกับ TOR ได้ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่า windows 8 นั้นใหม่กว่า TOR ที่ถูกที่สุด ควรระบุ ไว้ว่า OS เป็น windows 7 หรือสูงกว่า โดยได้รับสิทธิ์การใช้งานอย่างถูกต้องจาก MS
2. เรื่องค่าปรับ โดยปกติในการจัดซื้อจัดจ้างจะมีในส่วนนี้อยู่แล้ว ตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อที่ 134 กำหนดไว้ว่า การซื้อ/จ้าง ให้กำหนดค่าปรับเป็นรายวันอัตราตายตัว ระหว่างร้อยละ 0.01-0.20 ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ แต่ในข้อที่ 136 ของระเบียบเดียวกันก็สามารถแก้ไขได้ครับ โดยกำหนดว่าสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ(รวมทั้งรายละเอียดประกอบที่เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา)ที่ลงนามแล้วจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงมิได้ เว้นแต่
-จะมีความจำเป็นโดยไม่ทำให้ราชการเสียประโยชน์
-หรือ เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์แก่ราชการ
-ให้อยู่ในอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
-ในกรณีมีการเพิ่มวงเงินต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณด้วย
-การจัดหาที่เกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงหรืองานเทคนิคพิเศษเฉพาะอย่างต้องได้รับการรับรองจากวิศวกร/ผู้ชำนาญการก่อน
ในกรณีนี้ ไม่สามารถแก้สัญญาได้เลยแม้ว่าเมื่อยกเลิกจะทำให้ราชการเสียหายเพราะ บ.เสิ่นเจิ้นขอลดค่าปรับ แต่ไม่ได้เพิ่มมูลค่าtablet หรือจะส่งมอบเนื้องานเพิ่มเติม ทำให้ยังไงทาง คณะกรรมการก็ไม่สามารถ ลดค่าปรับหรือละเว้นค่าปรับให้ได้เลย เมื่อไม่มีทางไป ผลก็เลยออกมาตามข่าวที่ปรากฏข้างต้นนี้เอง
+2ล้านล้านครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลย
ลงชื่อว่าอ่านจบครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi